ตอนที่ 16 ฮาคัว ชิราคาวะ และหนัง
ชีวิตประจำวันอันใหม่ของฉันเริ่มเข้าที่เข้าทาง
ในช่วงเช้าก็จะออกกำลังแล้วอ่านหนังสือ ในช่วงบ่ายก็จะพูดคุยกับยัยพวกจัสติสครูเซเดอร์ที่วนเวียนกันมาหา
ช่วงที่ว่างก็จะดูหนังละครต่างประเทศที่เรมะกับพวกนักวิจัยแนะนำ….ทว่าวันนี้มันมีอะไรต่างออกไปนิดหน่อย
「นี่ชิราคาวะ」
「หืม? 」
「ทำไมเธอถึงมาอยู่ตรงนี้ล่ะ」
ไม่รู้เพราะอะไรแต่คุณหมออย่างชิราคาวะมาอยู่ที่ห้องฉันเฉย
ตอนนี้เธอนั่งอยู่บนโซฟาห่างจากฉันหนึ่งช่วง เส้นผมสีขาวของเธอถูกมัดรวบเป็นมวยเอาไว้ เหมือนเธอตั้งใจจะไปเปิดเครื่องเล่นวิดีโอที่ตั้งไว้ในห้องขังของฉัน
「ก็เพราะมีเวลาว่างเลยมาพักสักหน่อยไง」
「หา……」
「หน้าที่ของฉันคือดูแลคนที่อยู่ที่นี่….แล้วพอดีว่าช่วงนี้พวกเขาทำงานกัน ฉันที่นั่งรอในห้องก็เบื่อ เลยตัดสินใจว่ามานั่งเล่นในนี้ดีกว่าน่ะ」
「ออกไป๊ เดี๋ยวเธอก็โดนไล่ออกหรอก」
「เอาเถอะน่า หน้าที่ส่วนหนึ่งฉันก็ต้องดูแลสุขภาพจิตนาย คงแถๆ ไปได้แหละ อ๊ะฉันเอาพวกขนมมาด้วยนะ สักหน่อยไหม」
คิดเหรอว่าจะล่อฉันได้ด้วยขนม?
แต่ไหนๆ ก็พกมาแล้วถือว่าเป็นน้ำใจคงไม่เป็นไรมั้ง
「นายนี่เป็นที่ชื่นชอบของสาวๆ จังนะ」
「หมายความว่าไง? 」
ชิราคาวะดูอะไรบางอย่างในมือถือแล้วพูดออกมาอย่างสนุกสนาน
เป็นที่ชื่นชอบนี่อะไรฟะ?
「 ไอ้นี่มันคือ ทมิสเตอร์น่ะ ส่วนตรงนี้คือสิ่งที่พวกสาวๆ ทมิสเอาไว้」
@เรด
#อัศวินดำคุง
วันนี้ก็เหนื่อยหน่อยนะ อัศวินดำคุง!
@เยลโล่
#อัศวินดำคุง
#ตั้งตี้เรียน
ทั้งที่จะไปสอน กลับถูกสอนแทนซะงั้น ต้องพยายามกว่านี้แล้วสิ
@บลู
#อัศวินดำคุง
#อัศวินมะหมาคุง
อัศวินดำคุงวันนี้ U・ω・U
【รูป】
พอเห็นโพสต์ของเรด เยลโล่ บลู ก็อดถอนหายใจออกมาไม่ได้
「ฟิลเหมือนบันทึกประจำวันสินะ……」
「ก็ประมาณนั้นแหละ มันเป็นสิ่งที่ประชาชนภายนอกต้องการด้วยแหละนะ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและความเข้าถึงง่ายขององค์กร แต่รูปน้องหมานี่….ดูคล้ายๆ ใครสักคนนะ ฮ่าๆๆ 」
เรด เยลโล่ก็ไม่อะไรมากหรอก แต่ทำไมบลูมารูปน้องหมาด้วยล่ะ?
น้องหมาหน้าบูดบึ้ง ขนสีขาวดำนั่นมันอะไรกันฟะ
ยัยนี่เลี้ยงเอาไว้เหรอ?
「……ถ้าพวกเธอเห็นว่าดีก็แล้วไป」
「เอ๋ ไม่โกรธเหรอ? 」
「ก็ฉันติดอยู่ข้างในนี้ในฐานะวายร้ายที่แพ้ให้กับจัสติสครูเซเดอร์ หากเรมะสั่งหรือบอกให้ทำอะไรพวกเธอที่เป็นลูกน้องก็คงทำตามแหละ นอกจากนี้ฉันก็ไม่ใช่ประเภทที่จะโกรธกับอะไรแบบนี้สักหน่อย」
「……น่าเบื่อชะมัด เอาเถอะถ้านายว่างั้นก็ช่วยไม่ได้」
ว่าแต่ทมิสเตอร์มันสนุกขนานนั้นเลยเหรอ
เนื่องจากฉันไม่เคยมีโทรศัพท์อะไรกับเขามาก่อน ทมิสเตอร์ก็เลยเป็นแค่สิ่งที่ฉันเคยได้ยินมาเฉยๆ
「นั่นสินะ อยากดูหนังหรือเปล่า? ไหนๆ มาก็มาแล้วถือว่าได้สำรวจชีวิตประจำวันของนายด้วยตาตัวเองเลยละกัน」
「เธอเนี่ยน้า……」
……ช่วยไม่ได้สินะ
ฉันถอนหายใจแล้วเลือกว่าจะดูเรื่องไหนดี
เมื่อวานเรมะกับพวกนักวิจัยเอาหนังมาให้ฉัน 3 เรื่อง
……มีคำอธิบายสั้นๆ ในแต่ละเรื่องให้ฉันอ่านด้วย
ไหนดูซิ?
>1นักบัญชีสายเทพ!!『อัจฉริยะคนบัญชีเพชฌฆาต』
2 บวกให้ยับๆ 『ดราก้อนบอล ซูเปอร์: โบรลี่』
3 เรื่องราวอบอุ่นหัวจายยยย 『เดดพูล』
แนวอัคชั่นบู้งั้นเหรอ
เรื่องแรกแนะนำโดยเรมะ ส่วนอันอื่นเป็นของพวกนักวิจัย
1นักบัญชีสายเทพ!!『อัจฉริยะคนบัญชีเพชฌฆาต』
>2 บวกให้ยับๆ 『ดราก้อนบอล ซูเปอร์: โบรลี่』
3 เรื่องราวอบอุ่นหัวจายยยย 『เดดพูล』
อนิเมะสินะ
ถ้าเป็นดราก้อนบอลก็พอรู้จักอยู่บ้าง
ไอ้ที่มันดังเพราะพลังคลื่นเต่าหรือเปล่านะ?
「เอ๋? ไอนี่แปลกๆ นะ? 」
พอฉันเอาเรื่องที่ 3 ออกมาดู ฉันว่าคำอธิบายกับเรื่องมันแปลกๆ นะ
อะไรเนี่ย『ไอแลน』……?
ดูจากชื่อเรื่องฉันว่าคงใส่มาผิดแน่ๆ ……。
「งั้นเอาอันนี้แล้วกัน」
ฉันเลือกเรื่องนั้น แล้วกดเล่น
แสงจากหน้าจอฉายออกมา ราวกับเป็นสัญญาณว่าหนังจะเริ่มแล้ว
「เลือกอะไรไปเหรอ? 」
「เรื่องที่เขียนว่าไอแลนน่ะ」
ไม่รู้ว่าเป็นหนังแบบไหนเหมือนกัน
แต่ดูท่าจะเป็นหนังเก่า เอาเถอะถ้าพวกนั้นแนะนำมาก็คงดีระดับหนึ่งแหละ
「ถ้างั้น ฉันขอนั่งอยู่ข้างๆ นายละกัน」
***
「นี่ คัตซึนนายจะรู้สึกยังไงเหรอถ้ารู้ว่าตัวเองมาร่างโคลน? 」
อยู่ดีๆ ชิราคาวะก็ถามกับฉันระหว่างหนังกำลังถึงช่วงไคลแม็กซ์
「อยู่ดีๆ ก็ถาม อะไรของเธอ」
「ก็แบบ พอดูหนังเรื่องนี้แล้วอยากถามขึ้นมาน่ะ」
「……」
ก็จริงว่าหนังมันมีธีมของการสร้างร่างโคลนขึ้นมา
นั่นสินะ เนื้อหาที่มันอยากจะชูก็ชวนให้คิดเล่นๆ เหมือนกันว่าจะเป็นแบบไหนกัน
「เธอนี่ก็ถามอะไรแบบนี้ได้เนอะ คิดง่ายๆ เลยนะ หากร่างโคลนมีความคิดแบบเดียวกับฉัน ฉันว่ามันต้องจ้องจะมาแทนที่ฉันแน่นอน」
「ฮ่าๆ นั่นสิเนอะ」
ดังนั้นฉันจะทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อจัดการมัน
「อย่าบอกนะว่าที่ถามนี่คือการตรวจสอบอาการทางจิตของฉัน? 」
「ไม่หรอก แค่อยากถามเฉยๆ 」
ชิราคาวะกำลังจับจ้องไปยังหนังที่เข้าฉากสะเทือนอารมณ์
สายตาของเธอไม่ได้จ้องมาทางฉัน
「ถ้าฉันอยู่ในตำแหน่งนั้น ฉันคงรู้สึกเสียใจพอสมควรเลยหากรู้ว่าตัวเองจะถูกกำจัดออกไป」
「เธอเป็นร่างโคลนหรืออะไรทำนองนั้นหรือไง?!」
「อรรถรส……」
อะไรของหล่อน
มาพูดให้ชวนเข้าใจผิดซะได้
「……」
「……」
「ที่จริงแล้วฉันมีพี่สาวอยู่น่ะ」
เธอพูดด้วยเสียงแผ่วเบา
ฉันเลยอดไม่ได้ที่ต้องหันไปมองหน้าเธออีกรอบ แววตาของเธอดูจะเปลี่ยนไปแบบแปลกๆ
「ถ้าจะให้พูด ต้องบอกว่าเป็นพี่สาวต่างแม่น่ะ……แต่เธอประสมความสำเร็จในชีวิตแบบเหนือขั้นเลย」
「เธอเองก็อายุพอๆ กับพวกฉันแถมยังเป็นหมอได้ แค่นี้ก็สุดยอดแล้วไหม」
「อันที่จริงฉันโกหกเรื่องอายุ」
「หา!? 」
「เก็บไว้เป็นความลับด้วยล่ะ」
เธอเอานิ้วชี้ไปที่ปากของเธอพร้อมกับรอยยิ้ม
นี่เธอโกหกเรื่องอายุของเธอเหรอ หมายความว่าเธอแก่กว่าฉันสินะ?
แอบตกใจเลยวุ้ย….
「ฉันน่ะแตกต่างจากกับพี่คนละโลกเลย เมื่อเทียบกับเธอแล้วความสามารถของฉันมีแต่จะถดถอยลงทุกวันๆ …พ่อกับแม่ของฉันก็เลยรู้สึกผิดหวังในตัวฉันน่ะ」
「……แล้วนี่พวกเธอไม่ได้อยู่ด้วยกันเหรอ……? 」
「……ไม่เลย ฉันยังไม่เคยเจอเธอตรงๆ มาก่อนเลยสักครั้ง และทั้งชีวิตนี้คงไม่มีทางได้เจอแล้วมั้ง」
ครอบครัวเธอจะซับซ้อนไปไหม……!?
「แย่เลยนะ ต้องมาเจออะไรแบบนี้……」
「ไม่ต้องคิดมากหรอกน่า พวกเขาไม่ได้สนใจถึงการดำรงอยู่ของตัวฉันด้วยว้ำ แบบนี้คงจะดีกว่ามั้ง ยังไงครอบครัวมันก็มีประเภท」
「……อ้า เรื่องนั้นฉันเห็นด้วย」
พอนึกมาถึงตอนนี้ ฉันยังไม่รู้เรื่องราวของยัยนี่เท่าไหร่
ตั้งแต่เจอกันครั้งแรก ก็มาพูดคุยกันอย่างสนิทสนม เรียกชื่อฉันด้วยวิธีแปลกๆ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกแย่อะไร
อย่างน้อยๆ ก็เป็นคนที่ฉันอยากพูดคุยด้วยอ่านะ….
「ต้องบอกว่ายังไงดีล่ะ ใจฉันอยากจะเจอกับพี่ที่ไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อน แต่สุดท้ายคงเป็นไปไม่ได้จริงๆ นั่นแหละ」
「……ถ้าสักวันได้เจอกันคงจะดี」
「คิดงั้นเหรอ? ทว่าถึงได้เจอกันจริงๆ ฉันก็ไม่รู้หรอกว่าต้องทำตัวยังไงดีจะไหวเหรอ? 」
「ไม่เป็นไรหรอก ถึงตอนนั้นเดี๋ยวเธอก็รู้เอง」
ไม่รู้ทำไมชิราคาวะถึงหัวเราะกับคำพูดของฉัน
มันไม่ได้เป็นการเย้ยอะไร ก็แค่เธอหัวเราะเพราะสนุกเฉยๆ
「ฮ่าๆๆ! เฮ้อแปลกจริงๆ ทำไมฉันถึงพูดมากขนาดนี้กันนะ หรือจะเป็นเพราะได้ดูหนังเรื่องนี้…ฺฮ่าๆๆ 」
「ชิราคาวะ……? 」
ชิราคาวะปาดน้ำตาขณะหัวเราะ ก่อนจะเอนตัวพิงโซฟาอย่างหมดแรง
「นายรู้ไหมว่าที่จริงแล้ว ฉันได้มาประจำอยู่ที่นี่ในจังหวะเดียวกับที่นายโดนจับมาเลยนะ」
「อ้าวเหรอ? ฉันก็นึกว่าเธออยู่นี่มานานแล้วซะอีก」
「ฉันน่ะเด็กใหม่แกะกล่องกว่าที่นายคิดไว้อีกนะเออ」
เรดกับคนอื่นๆ ก็แสดงท่าทีเป็นมิตรกับเธอออกมา
มันก็เลยชวนให้ฉันสับสน จริงสิที่เธอเรียกชื่อฉันแบบนั้นตั้งแต่เจอกันครั้งแรกก็อาจจะเป็นความสามารถในการเข้าหาคนละมั้ง
ไม่นานนักหนังก็จบลงและเอ็นเครดิตก็เริ่มเล่น
「ดูเหมือนจะจบซะแล้วสิ….แอบชวนให้รู้สึกขนลุกนิดหน่อยนะ ชวนให้เราได้คิดว่าอะไรคือสิ่งที่ถูกต้อง อะไรคือของจริงของปลอม」
「จะกลับแล้วเหรอ? 」
「อ้า แอบมาพักนานไปหน่อย ถ้าไม่รีบกลับคงโดนโกรธเอาแย่」
ชิราคาวะยืนขึ้นและเดินไปตรงประตู
「พูดตามตรงฉันยังสงสัยตัวเองอยู่เลยว่าทั้งที่ไม่มีเป้าหมายอะไรในชีวิตแท้ๆ แต่ก็ยังเลือกมาที่นี่」
「ชิราคาวะ……」
「อย่าทำหน้าแบบนั้นสิคัตซึน อย่างน้อยฉันก็ชอบที่ได้อยู่กับนายนะ นอกจากนี้ ไว้เจอกันนะคะ…พี่」
「หา!? เดี๋ยวเธอ……」
คำพูดสิ้นท้ายของเธอมันเป็นเพียงการขยับปากโดยไม่ส่งเสียงออกมา
เธอก้มหัวให้ก่อนจะออกจากห้องขังไปด้วยรอยยิ้ม
สิ่งเดียวที่เหลืออยู่ก็คือเสียงเพลงของเอ็นเครดิตในหนัง