ตอนที่ 15 เลขานุการส่วนตัว
หลังจากที่หลินหนานประกาศฐานะของตนเองออกไปเช่นนั้น ทุกคนต่างก็พากันนิ่งเงียบไปหมด..
แต่ก็เพียงแค่ประเดี๋ยวเดียว เพราะหลังจากนั้นผู้คนต่างก็พากันระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังสนั่น
ทุกคนที่ได้ยิน ต่างก็รู้สึกว่าหลินหนานช่างไร้ยางอายสิ้นดี แต่นั่นก็สามารถสร้างความตลกขบขันขึ้นภายใต้บรรยากาศในการทำงานที่ตึงเครียดได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหัวหน้าหลี่ ที่ตอนนี้กำลังหัวเราะตัวงอ จนหมวกที่สวมใส่อยู่เกือบกระเด็นหลุด
ผู้ชายคนนี้คงจะสติไม่ดีแน่!
หลังจากที่พยายามที่จะหยุดหัวเราะอยู่นาน ในที่สุดหัวหน้าหลี่ก็ค่อยๆหยุดหัวเราะได้ เขายกมือขึ้นปาดน้ำตาพร้อมกับตอบไปว่า
“นี่.. ถ้าแกเป็นสามีของผู้อำนวยการเย่ ฉันก็คงเป็นคนรักของหลานชานเสวียแน่! ตื่นๆด้แล้ว!!”
“หลานชานเสวียเป็นใครกัน? สวยเท่าภรรยาของผมมั๊ย?” หลินหนานร้องถามขึ้นด้วยความสงสัย
ไม่สิ! ในเมืองเจียงไฮวมีคนที่สวยกว่าภรรยาของเขาอีกงั้นหรือ? ทำไมเขาถึงได้ไม่เคยรู้มาก่อนเลย?
“หลานชานเสวียเป็นนางเอกหนังที่กำลังโด่งดังมาก เธอได้ขึ้นชื่อว่าเป็นที่ใฝ่ฝันของหนุ่มๆในประเทศนี้เลย นี่แกไปอยู่ไหนมาถึงได้ไม่รู้จัก!”
พนักงานรักษาความปลอดภัยรูปร่างไม่สูงนัก เป็นฝ่ายบอกกับหลินหนานแทน และสีหน้าของเขาก็เคลิบเคลิ้นราวกับว่าดาราสาวกำลังยืนอยู่ตรงหน้า
“ก็แค่ดารา.. ไม่เห็นจะต้องยกยอจนโอเวอร์ขนาดนั้นเลย!” พูดจบหลินหนานก็เบ้ปาก
แม้หลินหนานจะไม่รู้จักดารา แต่ใช่ว่าในชีวิตของเขาจะไม่เคยพบเห็นสาวสวยมาก่อน และในสายตาของเขานั้น เย่จิงเฉิงก็นับว่าติดหนึ่งในสามของสาวสวยที่สุดสำหรับเขา
นอกเหนือจากรูปร่างที่สมบูรณ์แบบไร้ที่ติแล้ว ทั้งชาติตระกูล และการวางตัวของเธอ ก็สามารถทำให้หนุ่มๆมากมายปรารถนาที่จะพิชิต และครอบครองหัวใจของเธอ
เว้นแต่พวกหนุ่มๆสายวายเท่านั้นล่ะ ที่จะไม่รู้สึกรู้สมเมื่อได้เจอผู้หญิงเช่นเย่จิงเฉิง..
“เชอะ.. ดาราดังระดับซุปเปอร์สตาร์ขนาดนี้แกยังไม่รู้จัก ยังจะกล้ามาพล่ามอวดดีอีก!”
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยร่างเล็กร้องตะโกนออกมาด้วยความโมโห เมื่อเห็นอีกฝ่ายพูดจาดูถูกดาราในดวงใจของตน
หัวหน้าหลี่รีบยกมือขึ้นห้ามศึก พร้อมกับหันไปพูดกับหลินหนานว่า “เอาล่ะ.. ฉันมีทางเลือกให้แกแค่สองทาง จะกลับออกไปดีๆ หรือจะให้ฉันเอาตัวแกไปส่งที่สถานีตำรวจแทน! เชิญเลือกเอาเอง!”
บรรดาพนักงานรักษาความปลอดภัยต่างก็จ้องมองหลินหนานด้วยสายตาดุดัน และท่าทีของพวกเขานั้นดูราวกับจะกินเลือดกินเนื้อหลินหนานให้ได้
ไอ้เด็กนี่บังอาจทำเสียงเย้ยหยันดาราสาวในดวงใจของพวกเขาทุกคน มันสมควรที่จะต้องถูกกระทืบ!
“ก็แล้วถ้าฉันไม่เลือกเลยล่ะ?”
หลินหนานนึกสนุกขึ้นมา เขายืนกอดอกพร้อมกับเอ่ยตอบไปด้วยน้ำเสียงยียวน..
เขาไม่รังเกียจที่จะช่วยทดสอบความสามารถของพนักงานรักษาความปลอดภัยในบริษัทจิงเฉิงกรุ๊บให้ และหากเขาพบว่าทั้งหมดไม่ผ่านการทดสอบ ก็จะได้บอกกับเย่จิงเฉิงให้รู้ไว้ แต่หากเธอไม่รับฟัง ก็ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของเขาเช่นกัน
บรรยากาศเปลี่ยนเป็นตึงเครียดขึ้นในทันที ประหนึ่งว่ากำลังจะเกิดสงครามย่อยๆ แต่ในเวลานั้นเอง เสียงของใครคนหนึ่งก็ดังกังวานขึ้น
“คุณหลิน ในที่สุดคุณก็มาถึงที่นี่จนได้!”
ทันทีที่เสียงพูดนั้นจบลง หญิงสาวร่างสูงในชุดกระโปรงสั้นสีดำ สวมแว่นตา ก็ปรากฏตัวขึ้น
หญิงสาวคนนี้มีเรียวขาที่งดงามอย่างมาก ขาทั้งสองที่อยู่ภายใต้ถุงน่องสีดำนั้นเรียวยาว และงดงามไม่ต่างจากขาของเหล่าบรรดานางแบบเลยแม้แต่น้อย
ใบหน้างดงามของหญิงสาวแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางบางเบา ดวงตากลมโตงดงามราวกับลูกแอปริคอท และแว่นตากรอบดำนั้น ยิ่งเสริมให้ใบหน้าของเธอมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น
รูปร่างของเธอบอบบางสะโอดสะองไม่น้อย และบุคลิกเช่นนี้ก็พบเห็นได้มากมายในภาพยนตร์ทั่วๆไป
“สวัสดีครับคุณเหลียงคนสวย ไม่ได้พบกันตั้งนาน คุณยังสวยเหมือนเดิมเลย ไม่สิ.. สวยกว่าเมื่อก่อนมาก!” หลินหนานเอ่ยทักทายพร้อมกับพูดประจบประแจง
หลินหนานรู้จักหญิงสาวคนนี้ดี..
เธอก็คือเลขานุการส่วนตัวของเย่จิงเฉิงชื่อว่าเหลียงซี่อวี๋ นอกเหนือจากความรู้ที่จบมาจากต่างประเทศแล้ว เธอยังมีความสามารถในการทำงานอย่างมาก และเป็นเสมือนมือขวาของเย่จิงเฉิงเลยทีเดียว
หลายครั้งที่เหลียงซี่อวี๋ไปที่คฤหาสน์ตระกูลเย่ในหมู่บ้านหมิงเหมิน และได้พบเห็นหลินหนานหลายครั้งหลายครา ทุกครั้งที่พบกันเธอก็จะเพียงแค่พยักหน้าทักทายหลินหนานเท่านั้น
ยิ่งไปกว่านั้นเหลียงซี่อวี๋ก็เป็นหนึ่งในไม่กี่คน ที่รู้ฐานะที่แท้จริงของหลินหนานว่าเป็นลูกเขยตระกูลเย่!
“สวัสดีค่ะคุณหลิน!”
เหลียงซี่อวี๋เอ่ยทักทายหลินหนานกลับไปทันทีเช่นกัน ท่าทางของเธอนั้นแม้จะไม่ได้แสดงออกว่าไร้ซึ่งความเคารพหลินหนาน แต่น้ำเสียงของเธอนั้น กลับสัมผัสได้ถึงความเย็นชาห่างเหิน
เหลียงซี่อวี๋รู้เรื่องความเกียจคร้านไม่เอาไหนของหลินหนานมาบ้าง ทำให้เธอรู้สึกต่อหลินหนาน และมองเขาไม่สู้ดีนัก
และในฐานะเลขานุการส่วนตัวของเย่จิงเฉิง เธอจึงรู้เรื่องราวชีวิตส่วนตัวของผู้อำนวยการเย่เป็นอย่างดี!
เธอเคยเห็นผู้อำนวยการเย่เหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างห้องทำงานอยู่เสมอๆ และหลายครั้งที่มักจะอยู่ทำงานที่บริษัทจนถึงดึกๆดื่นๆ และบ่อยครั้งที่ผู้อำนวยการเย่เลือกจะนอนที่บริษัทมากกว่าจะกลับบ้าน
ทั้งหมดที่ผู้อำนวยการเย่ทำไปนั้น มีเพียงแค่เหตุผลเดียวเท่านั้นคือ เธอไม่ต้องการกลับไปพบเห็นใบหน้าที่น่าขยะแขยงของหลินหนาน
เหลียงซี่อวี๋เองก็ไม่เข้าใจว่า ท่านประธานใหญ่แห่งเย่กรุ๊บนั้นคิดอะไรอยู่กันแน่ จึงได้ให้คนทั้งคู่แต่งงานกันเช่นนี้?
เพราะหากพูดถึงรูปลักษณ์ภายนอกแล้ว หลินหนานก็เป็นชายหนุ่มที่มีใบหน้าพื้นๆ ไม่ถึงกับหล่อเหลาอะไรมากมายนัก อีกทั้งยังดูชั่วร้ายนิดๆด้วย
หากพูดถึงเรื่องการศึกษา ชายหนุ่มที่ดูเถื่อนๆ และพูดจาเพ้อเจ้อไร้สาระไปวันๆเช่นนี้ น่าจะยังเรียนไม่จบระดับมัธยมปลายด้วยซ้ำไป
หากพูดถึงฐานะทางการเงินแล้วล่ะก็ ชายหนุ่มผู้นี้ก็ยากจนอย่างมาก แม้แต่พนักงานในบริษัทยังมีเงินมีทองมากมายกว่าผู้ชายคนนี้เสียอีก
ผู้ชายแบบนี้.. อย่าว่าแต่ไม่คู่ควรกับผู้อำนวยการเย่เลย แม้แต่หญิงสาวทั่วๆไป เขาก็ยังไม่คู่ควรด้วยซ้ำ!
ระหว่างคางคกที่น่าเกลียดกับหงส์ที่แสนสง่างาม ต่อให้เหลียงซี่อวี๋เป็นคนนอก ก็ย่อมมองออกอยู่ดี!
“เลขาเหลียงครับ นี่คุณรู้จักผู้ชายคนนี้ด้วยเหรอครับ?” หัวหน้าหลี่เอ่ยถามขึ้นอย่างระมัดระวัง และประหลาดใจ
หรือผู้ชายคนนี้จะเป็นสามีของผู้อำนวยการเย่อย่างที่แอบอ้างจริงๆ?
“อืมม.. คุณหลินเป็นเพื่อนของผู้อำนวยการ!”
เหลียงซี่อวี๋ตอบกลับเพียงแค่สั้นๆ พร้อมกับสั่งว่า “หัวหน้าหลี่ ที่นี่ไม่มีอะไรแล้ว เชิญคุณพาลูกน้องกลับไปหน้าที่ต่อได้!”
“ครับผม!”
หัวหน้าหลี่ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกหลังจากที่ได้ยินคำตอบของเลขาเหลียง จากนั้นเขาก็รีบนำลูกน้องกลับออกไปทันที
หลินหนานยกมือขึ้นลูบปลายคางของตนเอง พร้อมกับยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัย..
เพื่อนงั้นเหรอ?
ดูเหมือนเลขาสาวจะไม่ต้องการให้เขาเปิดเผยฐานะที่แท้จริงกับทุกคนในบริษัทสินะ? ต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆ ในฐานะเลขานุการส่วนตัว เธอคงจะต้องช่วยรักษาภาพพจน์ของเจ้านายอย่างเต็มที่..
“คุณหลิน ตามฉันมาค่ะ!”
หลังจากหันไปบอกหลินหนานแล้ว เรียวขายาวสวมรองเท้าส้นสูงของเหลียงซี่อวี๋ ก็ก้าวเดินนำหน้าออกไปทันที
หลินหนานเดินตามเลขานุการสาวไป และในที่สุดก็ไปถึงห้องรับรองห้องหนึ่ง ห้องรับรองนี้แม้จะไม่ได้ใหญ่โตนัก แต่ภายในตกแต่งไว้อย่างพร้อมเพรียง มีทั้งโซฟา โต๊ะ ชา กาแฟให้เลือกดื่มได้ตามสบาย และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆอีกมากมาย
หลังจากส่งสัญญาณให้หลินหนานนั่งลงแล้ว เหลียงซี่อวี๋ก็รีบปิดประตูห้องทันที หลินหนานได้แต่รู้สึกแปลกใจกับท่าทางลุกลี้ลุกลนของเลขาสาว
นี่เธอกำลังคิดที่จะเล่นตลกอะไรกันแน่?
หลังจากรวบรวมความคิดอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดเหลียงซี่อวี๋ก็หันไปพูดกับหลินหนานว่า “คุณหลินคะ ผู้อำนวยการเย่สั่งให้ฉันรับผิดชอบเรื่องหาตำแหน่งงานในบริษัทให้คุณทำค่ะ”
“เหรอครับ? ไม่ทราบว่าคุณเลขาจะให้ผมทำหน้าที่อะไรดีล่ะครับ?” หลินหนานเอ่ยถามพร้อมกับยกขาขึ้นนั่งไขว่ห้าง
“แต่ก่อนที่จะเริ่มงาน.. ฉันต้องการขอความร่วมมือจากคุณด้วยค่ะ!” เหลียงซี่อวี๋เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ
“เชิญคุณบอกมาได้เลยครับ..” หลินหนานเอ่ยตอบพร้อมกับพยักหน้า
“ก่อนอื่น.. ฉันอยากขอให้คุณหลินทำความเข้าใจก่อนว่า ที่นี่คือบริษัทไม่ใช่บ้าน ฉันหวังว่าคุณหลินจะแยกแยะระหว่างเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวได้!” เหลียงซี่อวี๋อธิบาย
“ผมไม่เข้าใจ? คุณต้องการบอกอะไรผมกันแน่?” หลินหนานเอ่ยถามด้วยความงุนงงสงสัย
“ผู้อำนวยการเย่ไม่ต้องการให้คนในบริษัทล่วงรู้ความสัมพันธ์ที่แท้จริงระหว่างเธอกับคุณ ดังนั้น.. คุณหลินจะอยู่ในบริษัทในฐานะพนักงานธรรมดาๆคนหนึ่งเท่านั้น และถ้าคุณทำผิด ก็ต้องรับผลเช่นเดียวกันกับพนักงานคนอื่นๆ คุณจะไม่ได้รับสิทธิพิเศษ หรือจะมีใครช่วยคุณให้พ้นผิดได้!” เหลียงซี่อวี๋พูดตรงเข้าประเด็นในทันที
ในที่สุด!!!
หลินหนานถึงกับส่ายหน้าพร้อมกับยิ้มออกมา ดูเหมือนภรรยาของเขา จะได้เตรียมแผนการที่จะกำจัดเขาไว้ล่วงหน้าตั้งแต่ยังไม่เริ่มงานเลยสินะ!
และการทำเช่นนี้ก็เป็นการประกาศว่า พวกเราสองคนต่างก็ไม่มีเกี่ยวข้องกัน แม้จะอยู่ในบริษัทเดียวกัน ก็ต่างคนต่างอยู่ไม่ยุ่งเกี่ยวกัน และนายก็จะไม่ได้อยู่อย่างสบาย!
“ได้ครับ ผมรับปาก!” หลินหนานตอบกลับไปอย่างไม่รู้สึกเป็นเดือดเป็นร้อน
และเมื่อเห็นหลินหนานยอมรับปากง่ายๆเช่นนี้ เหลียงซี่อวี๋ก็ถึงกับโล่งอก แต่ก็แอบมองเขาด้วยแววตารังเกียจ
ขยะก็คือขยะ คนไม่เอาไหนแบบนี้จะมีปัญญามาต่อรองอะไรได้!
“ผู้อำนวยการเย่ไม่ต้องการให้คุณหลินไปรบกวนเธอ!” เหลียงซี่อวี๋อธิบายต่อทันที
“ผมจะพยายามไม่ไปรบกวนเธอครับ!” หลินหนานตอบกลับไปอย่างไม่เดือดร้อนใจเช่นเคย
“เอาล่ะ.. นับจากวันนี้ไป คุณเริ่มทำงานเป็นพนักงานขายที่ฝ่ายขายได้เลย!” เหลียงซี่อวี๋บอกกับหลินหนาน
“พนักงานขายเหรอ?” หลินหนานขมวดคิ้วเล็กน้อย