หลังจากเพลงจบซาเองุสะซังก็ส่งแทบเล็ตเลือกเพลงให้กับทาคายูกิ 

 

แต่ว่าพอเธอจะกลับมานั่ง เธอดันมานั่งข้างผมแทนที่เดิมของเธอซะงั้น 

 

“เป็นยังไงบ้างอิจิโจคุง?” 

 

เธอถามอย่างเขินๆ 

 

คุณคงหมายถึงเพลงเมื่อกี้สินะครับ? 

 

“มันยอดมาก แล้วก็สนุกสนานดี” 

 

“งั้นเหรอ?” 

 

เมื่อผมตอบไปขำๆเธอก็ยิ้มตอบกลับมาพร้อมหน้าที่แดงแจ๋ ขอบอกเลยว่าเธอโคตรจะน่ารักเลย 

 

“ที่จริงแล้วผมชอบฟังเพลงนี้ตอนเดินไปโรงเรียนมานานแล้วครับ เพราะงั้นผมดีใจมากที่ได้มาฟังสดๆน่ะ” 

 

เมื่อผมกล่าวความรู้สึกจริงๆออกไป เธอเขินยิ่งกว่าเดิมและพึมพำว่า “อุหวาๆๆๆๆ” 

 

“มันน่าจะดีกว่านี้อีกนะครับ ถ้าคุณใส่ชุดเมดด้วยน่ะ” 

 

ผมนี่กำลังสนุกก็กล่าวเพิ่มไปอีก 

 

จากนั้นซาเองุสะซังที่ตื่นเต้นอยู่ก็กล่าวตอบมาว่า

 

“งั้นไว้คราวหน้านะ!” 

 

เธอกระกาศออกมาด้วยเสียงที่แหลมปี๊ด 

 

ผมไม่คิดว่าเธอจะทำจริงๆหรอก แต่ถ้าเธอทำจริงคงจะเป็นเหมือนพรจากสรวงสวรรค์เลยล่ะ 

 

—มันไม่ง่ายเลยที่จะทำตัวปกติได้ถ้าเกิดผมได้เห็นภาพนั้นน่ะ 

 

 

หลังจากที่ทาคายูกิร้องเพลงร็อคของเขาจบแล้วหมอนั่นก็ให้ผมร้องคนต่อไป ผมจึงเลือกร้องเพลงที่ผมชอบมากที่สุด 

 

เพลงนี้เป็นเพลงที่เก่าและไม่ได้โด่งดังอะไร แต่ผมก็ชอบมันมากและฟังมันอยู่เป็นประจำ ผมจึงคิดว่าเพลงนี้คือเพลงที่เหมาะที่สุดท่จะร้องแล้ว 

 

และเพราะว่าซาเองุสะซังไอกอลที่ผมชื่นชมกำลังรอฟังอยู่ เพราะงั้นผมจะทำให้ดีที่สุด 

 

ผมร้องมันออกมาอย่างน่าหลงไหลจนไม่คิดว่าในชีวิตนีัผมจะร้องได้แบบนี้อีกแล้ว 

 

แล้วเดาซินี่อะไร? 

 

ทาคายูกิกับชิมิซุซังดูจะตั้งใจฟังผมร้องมากๆ จนผมอดจะดีใจไม่ได้ 

 

ปัญหาก็คืออีกคนที่เหลือ 

 

ซาเองุสะซังได้ขยับเข้ามาใกล้ๆผมและจ้องผมด้วยแววตาที่เป็นประกาย 

 

เอ่อ ซาเองุสะซัง? 

 

คุณมาจ้องผมแบบนี้รู้มั้ยครับว่ามันร้องยากแค่ไหนน่ะ? 

 

ซาเองุสะซังจ้องมาที่ผมโดยไม่สนใจความรู้สึกของผมเลยสักนิด 

 

นี่มันคือการแกล้งกันแบบใหม่เหรอครับ? 

 

การถูกจ้องโดยหญิงสาวตอนร้องเพลงแบบนี้มันน่ากลัวชะมัด 

 

หลังจากที่ผมสามารถร้องจนจบได้ ซาเองุสะซังก็ปรบมือของเธอให้กับผม ราวกับเป็นการจบการแสดงของนักร้องคนโปรดของเธอ 

 

ไม่ๆๆๆ คงไม่ใช่แบบนั้นหรอกมั้งนะ 

 

“อ่า ฉันคิดเรื่องของพวกนายมาได้สักพักแล้วล่ะ…….” 

 

“หา? ว่าไงนะ?” 

 

“เปล่าๆๆ ไม่มีๆๆ โอเคตอนนี้ถึงตาของชิมิซุซังแล้วล่ะครับ!” 

 

ทาคายูกิที่เห็นการกระทำของผมกับซาเองุสะ ก็มีทำท่าทีที่โคตรจะน่าสงสัย เหมือนเขาจะพูดอะไรสักอย่างแต่ดันไม่พูดออกมาซะงั้น 

 

ผมรู้ดีว่าการที่หมอนี่หยุดพูดเรื่องอะไรไปกลางคันมันหายากโคตรๆ ผมจึงสงสัยไม่น้อยว่าหมอนี่อยากจะพูดอะไรกันแน่

 

ส่วนซาเอซุสนั้นกำลังใช้โทรศัพท์ค้นหาบางอย่างอยู่ ก่อนจะพึมพำออกมา “เจอแล้ว!” 

 

ผมแอบมองหน้าจอของเธอเล็กน้อย ก็พบว่าเธอกำลังโหลดเพลงที่ผมเพิ่งร้องไปลงในเครื่อง โดยมีสีหน้าที่พึงพอใจ การที่เธอชอบเพลงที่ผมเพิ่งร้องไปแบบนี้ทำให้คนที่ร้องอย่างผมดีใจไม่น้อย 

 

 

หลังจากผมร้องจบ คนต่อไปก็คือชิมิซุซัง 

 

ด้วยความช่วยเหลือจากทาคายูกิในที่สุดเธอก็เลือกเพลงได้ถูกต้องแม้ว่าจะกำลังลนลานอยู่ก็ตาม 

 

แล้วเพลงที่แสดงอยู่บนจอก็คือเพลงของ Angel Girls 

 

“ชิออน ช่วยร้องกับฉันหน่อยได้มั้ย?” 

 

ท่าทางเขินอายของชิมิซุซังนี่มันน่ารักจริงๆเลย แถมดูเหมือนซาเองุสะซังก็คิดแบบผมด้วย หลังจากที่ตอบตกลงคำชวน เธอก็ลุกขึ้นยืนยิ้มถือไมโครโฟน 

 

—แล้วพวกเธอก็เริ่มร้องเพลงด้วยกัน 

 

 

ทาคายูกิกับผมนั้นราวกับกำลังชมการแสดงปาฏิหารย์หลวงปู่เค็มอยู่ 

 

คนนึงก็ชิโอรินซึ่งเคยเป็นไอดอลที่ดังที่สุด รอยยิ้มของเธอนั้นยังคงสดใสแม้ว่าจะอยู่ในห้องคาราโอเกะเล็กๆแห่งนี้ 

 

อีกคนก็ชิมิซุซังที่เป็นเพื่อนร่วมห้องอีกคน 

 

เธอชอบอ่านหนังสือและมีนิสัยขี้อาย แค่เมื่อเธอร้องแล้วเสียงเล็กๆน่ารักของเธอมันดูน่าหลงไหลมากๆ แม้ว่าท่าทางการเคลื่อนไหวจะแข็งๆก็ตาม ทำให้เธอมีเสน่ห์ที่แตกต่างไปจากซาเองุสะซัง 

 

ชิมิซุซังนั้นได้ชื่อว่าเป็นคนที่น่ารักที่สุดในชั้นปี ไม่ใช่แค่เสียงของเธอแต่เป็นรูปร่างหน้าตาของเธอด้วย 

 

เมื่อทั้งสองคนได้มาร่วมร้องเพลงต่อหน้าเราสองคนแล้ว ดาเมจทำลายล้างมันเยอะมากซะจนผมรู้สึกผิดกับพวกเพื่อนร่วมห้องเลย 

 

“…..นี่ทาคุยะ”

 

“……ว่าไง?” 

 

“…….ฉันว่าเรากำลังจะได้เห็นสวรรค์ว่ะเพื่อน” 

 

“……..ไม่อะเพื่อน ที่นี่แหละคือสวรรค์” 

 

ช่วงเวลานี้มันล้ำค่าสุดๆไปเลย 

 

ผมกับทาคายูกิกล่าวคราวรู้สึกออกมาระหว่างที่ตั้งใจฟังทั้งสองคนที่ร้องด้วยความน่ารักและสนุกสนานๆ