ลูซีหยูนั่งอยู่ที่บาร์ในโรงแรมในลอนดอน ใส่สูทตัวใหม่ที่เค้าพึ่งสั่งมา มันเป็นเสื้อผ้าของร้านที่เก่าและมีชื่อเสียงและคนรวยชอบใส่กัน เค้าต้องการหลีกเลี่ยงการใส่เสื้อผ้าแบรนด์ที่มีชื่อเสียงอีกครั้งเพราะเค้าถูกเรียกว่า ‘คนที่เพิ่งเคยรวย’ ด้วยชุดสุดหรูของเค้าในรัสเซีย เค้าสวมนาฬิกาที่แพงมากราคาของมันคือหมื่นห้ายูโร ลูซีหยูใช้เงินไปหมื่นและหมื่นห้ายูโร หรือประมาณล้านหยวน แม้ว่าเค้าจะไม่รู้ว่าทำไมนาฬิกาเรือนนี้ถึงมีค่าขนาดนั้น มันแพงมากและลูซีหยูแค่อยากสนุกกับการใช้เงินเหมือนกับน้ำ!

เค้าใช้เวลาเดินทางไปทั่วโลกเกือบเดิน เค้าไปที่ลอนดอนเป็นที่แรก เค้าเรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่ยังเด็ก หนังสือเล่มแรกที่แม่ของเค้าซื้อให้คือแฮรี่ พอตเตอร์และนั้นทำให้เค้าสนใจในประเทศอังกฤษ ด้วยเหตุนี้เค้าจึงเลือกอังกฤษและสกอตแลนด์เป็นที่แรก เค้าไปชมทุกที่ที่เกี่ยวกับแฮรี่พอตเตอร์

หลังจากนั้นเค้าก็ไปที่ซีแอตเทิลและได้สัมผัสประสบการณ์ของวิวตอนกลางคืนและพระอาทิตย์ขึ้นที่น่าหลงใหล จบด้วยการไปหอคอยSpace Needleที่มีชื่อเสียง เค้าใช้เวลาสองสามวันในลาสเวกัส ใช้เวลาส่วนมากไปในคาสิโน ครั้งแรกเค้าเสียเงินไปสิบล้านดอลลาร์และจากนั้นก็ได้มันคืนกลับมาพร้อมกับเงินอีกสิบล้านดอลลาร์ซึ่งทำให้นักพนันคนอื่นๆตกตะลึง

หลังจากลาสเวกัสเค้าก็มุ่งหน้าไปเกียวโตและเยี่ยมชมศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงและชมความมหัศจรรย์ของการแสดงเกอิชา ในมัลดีฟส์เค้าใช้เวลาหนึ่งวันไปบนชายหาด ว่ายน้ำกับโลมา นวดตัว และเต้นรำกับชาวพื้นเมืองบนหาด นอกจากนี้เค้ายังไปแอฟริกาตะวันออกด้วย ดูพระอาทิตย์ตกจากบนบอลลูนในอุทยานแห่งชาติเซเรนเกติ เค้าไปชื่นชมสถาปัตยกรรมโบราณในมาร์ราคิช จากนั้นเค้าไปที่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์กของรัสเซียและได้เห็นพระราชวังที่เก่าแก่ สถาปัตยกรรมรัสเซียและบรรยากาศที่เต็มไปด้วยศิลปะ

ในการเดินทางครั้งนี้เค้าสามารถใช้เงินได้มากเท่าที่เค้าต้องการและใช้เวลาในชีวิตของเค้า เค้าบินชั้นเฟิสต์คลาส พักโรงแรมห้าดาว และสั่งอาหารและไวน์ที่แพงที่สุด เค้าขับรถคันหรูเท่านั้น เค้ามีนางแบบสวยๆติดตามเค้าไปในปาร์ตี้บนเรือยอชท์ในทะเล ในที่สุดเค้าก็รู้ว่าการรวยมันเป็นอย่างไร เค้าทำตามที่คิดได้ทุกอย่าง เค้าทำทุกสิ่งที่เค้าอยากทำเมื่อเค้ายากจน

เนื่องจากผมที่ยางของเค้า ประกอบกับรูปร่างหน้าตาของเค้าจึงเป็นเรื่องยากสำหรับบางคนที่จะบอกว่าเค้าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ลูซีหยูเลยเลือกที่จะตัดผมเกรียนแต่ก็ยังมีคนเข้าใจผิดว่าเค้าเป็นผู้หญิง เช่น ตอนนี้ลูซีหยูนั่งอยู่ในบาร์แต่ยังมีผู้ชายจำนวนมากมองมาที่เค้านั้นทำให้เค้าค่อนข้างไม่มีความสุข

“แอนโทนี่! คุณกลับมาแล้ว” ใครบางคนตบไหล่ลูซีหยูและเรียก ลูซีหยูหันหลังทันทีและเห็นหญิงชาวต่างชาติที่มีผมสีเข้มนั่งอยู่ข้างเค้า เธอโบกมือเรียกบาร์เทนเดอร์ “เอเยอร์ วิสกี้แห้วหนึ่ง!”

ลูซีหยูหันไปมองคนสวย “โซอี้ คุณพบฉันทันทีที่ฉันกลับมา ชื่อของฉันไม่ใช่แอนโทนี่ คุณให้ชื่อนี่กับฉันแต่ฉันยังไม่ได้ยอมรับมันเลย!”

ผู้หญิงคนนี้ชื่อ โซอี้ ชาร์ป เป็นผู้จัดการของโรงแรม แต่เมื่อพิจารณาจากนามสกุลของเธอเธอน่าจะเป็นมากกว่าผู้จัดการโรงแรมเล็กๆ ลูซีหยูไม่อยากจะยุ่งกับผู้หญิงแบบเธอ แต่เธอก็วนเวียนรอบตัวเค้าตลอดเวลาตั้งแต่เค้าย้ายมาที่นี้ เธอยิ้มให้ลูซีหยูและพูดว่า “ทำไมคุณไม่รับมันละ ชื่อจีนของงออกเสียงยาก มันออกเสียงยังไงนะ? อะไรโมๆ..?”

ลูซีหยูยกคิ้วขึ้น “มันออกเสียงว่า มูเทา เอาล่ะคุณสามารถเรียกฉันว่าแอนโทนี่ได้แม้ว่าฉันคิดว่ามันจะทำให้ฉันเหมือนเป็นพ่อมดหรืออะไรซักอย่าง”

โซอี้มองลูซีหยู “คุณจะอยู่ที่นี่นานเท่าไร?”

ลูซีหยูคิดซักพัก “ฉันคิดว่าจะซื้อบ้านในลอนดอน คุณมีคำแนะนำมั้ย? ฉันอยากได้ที่สงบๆและบ้านหลังใหญ่”

โซอี้พูดด้วยความตกใจ “คุณจะอยู่ในลอนดอน? นั่นมันดีมากเลย ฉันบอกคุณแล้วนี่เป็นเมืองที่ดีที่สุดในโลก!”

ลูซีหยุยิ้ม “อืม ฉันว่าที่นี่เป็นสถานที่ดีสำหรับพ่อมดที่จะอาศัยอยู่”

ทั้งสองคุยกันซักพัก จากนั้นลูซีหยูก็กลับไปที่ห้องของเค้า ช่วงนี้เค้ารู้สึกว่าพลังจิตของเค้าไม่ค่อนมั่นคงราวกับว่าเค้ากำลังก้าวเข้าสู่ความก้าวหน้า เค้าเคยมาถึงจุดนี้มาก่อนเมื่อพลังจิตของเค้าถึง7Source Form units (SFU) ความก้าวหน้าครั้งนั้นมันทำให้เค้าเริ่มใช้พลังจิตกับผู้คนและวัตถุนอกตัวเค้าได้

ถ้านับเวลาที่ใช้ในปราสาทมิติ เค้าใช้เวลาหลายปีในการฝึกฝนพลังจิตของเค้า ด้วยเหตุนี้พลังจิตของเค้าจึงแข็งแกร่งขึ้นมากถึง127 SFU ก่อนหน้านี้เค้าใช้พลังจิตเคลื่อนที่ได้แค่กับสิ่งของเล็กๆ เช่น ถ้วยพลาสติก ขณะที่เค้าฝึกฝนมากขึ้นเค้าเริ่มเคลื่อนที่สิ่งของหนักๆ เช่น หนังสือ ตอนนี้มันง่ายสำหรับเค้าที่จะเคลื่อนไหวสิ่งของที่ใหญ่ขึ้น เช่น เก้าอี้และโต๊ะในโรงแรมของเค้า เมื่อเค้าปลดปล่อยพลังจิตของเค้า มันสามารถครอบคลุมพื้นที่ได้มากขึ้นจากเมื่อก่อนที่จำกัดอยู่เพียงไม่กี่ฟุตรอบตัวเค้า

เค้านั่งลงบนเตียงและหลับตาด้วยพลังจิตห่อหุ้มร่างกาย เค้าเห็นตัวเองลอยอยู่เหนือเตียงสองสามนนิ้ว ลูซีหยูลืมตาขึ้นและมองที่ตัวเอง “ฉันคิดวาฉันสามารถบินได้แล้ว!”

เค้าลองวิ่งไปรอบๆห้องและส่ายหัว “แบบนี้ไม่ได้ มันช้าเกินไป ฉันอยากวิ่งเร็วกว่านี้”

ลูซีหยูนอนราบลงบนเตียง ตลอดหลายวันที่ผ่านมาลูซีหยูรู้สึกพลังจิตของเค้ามาถึงสภาวะที่ยากลำบาก เค้ารู้สึกว่าพลังจิตและสมองของเค้าเชื่อมต่อกัน ปรากฏการณ์แปลกประหลาดนี้ดึงดูดความสนใจของลูซีหยู เค้ารู้สึกเหมือนมีบางอย่างพิเศษเกิดขึ้นเมื่อเค้ามาถึงจุดนั้นในที่สุด เค้าพึ่งค้นพบว่าพลังจิตของเค้านั้นมีประโยชน์มากมาย แม้ว่ามันจะยังไม่ถึงระดับเหนือธรรมชาติแบบที่เค้าคาดหวังไว้ เค้ายังตื่นเต้นที่จะได้เห็นการก้าวหน้าในครั้งนี้

เค้าหลับตาลงและเพ่งไปที่พลังจิต ในทันทีก็เปิดประตูมิติไปยังมิติอื่นๆได้โดยใช้นาฬิกาในหัวเค้า เค้ารีบเข้าไปในมิติ0และเริ่มนั่งสมาธิ เค้าได้พัฒนาวิธีการนั่งสมาธิ เค้าสามารถสร้างความมั่นคงให้กับโครงสร้างทางจิตใจของเค้าภายในพื้นที่มิติ0และดึงพลังงานมาเพื่อเสริมสร้างพลังจิตของเค้าให้ถึงระดับที่สูงที่สุด นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้เค้าใช้เวลาไม่กี่ปีในการถึงระดับที่เค้าอยู่ในปัจจุบัน