ตอนที่ 18 ความยุติธรรม
อัลฟ่า โอเมก้า
หากจะให้อธิบายมันก็คือร่างสิ่งมีชีวิตชายหญิงที่ถูกปลุกให้พลังตื่นขึ้นมาด้วยปัจจัยพิเศษบางอย่างบนดาวแต่ละดวง
พลังของอัลฟ่ามีผลในการแทรกแซงครอบงำทุกสิ่ง
กลับกันโอเมก้านั้นจะมีระดับพลังแตกต่างออกไปตามบุคคลที่ถูกเลือก ซึ่งเป้าหมายของพวกเราก็คือการทำให้มันกลืนกินดวงดาวนั้น
ผู้ที่กลายเป็นโอเมก้าจะมีแนวโน้มไปทางดุร้ายและโหดเหี้ยมสูง
ด้วยสัญชาตญาณนั้นจะทำให้โอเมก้าทำลายและกลืนกินโลกที่มันอาศัยอยู่
พวกเราจะใช้ประโยชน์จากตรงนี้พัฒนาพวกมันให้มีพลังสูดสุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้มันกลายเป็นศัตรูที่คู่ควรกับพวกเรา
หากมีแนวโน้มว่าแข็งแกร่งก็จะเก็บไว้ต่อ
ถ้าอ่อนแอก็แค่กำจัด แล้วรีเซ็ตกันเสียใหม่เพื่อให้โอเมก้าและอัลฟ่าถือกำเนิดอีกครั้ง ก่อนเฝ้ารอการเก็บเกี่ยวคราวถัดไป
นั่นคือวิธีการของพวกเรา『ผู้กอบกู้』สังกัดอยู่ทำกับดาวเคราะห์ระดับล่าง
ฉันมองว่าการรุกรานคราวนี้เป็นเรื่องง่าย
ฉันวางแผนว่าจะลองยึดครองดาวที่เรียกว่า โลก ดูโดยไม่สนใจคำสั่งที่ได้รับมาก่อนหน้านี้
ดาวเคราะห์นี้มีแต่สิ่งมีชีวิตอ่อนแอและระดับอารยธรรมที่ต่ำ
ดังนั้นจะให้คาดหวังอัลฟ่ากับโอเมก้าของดาวดวงนี้คงไม่น่าไหว
ทว่าความจริงกลับต่างออกไป เมื่อพวกเราสแกนดาวดวงนี้ดูก็พบว่าโอเมก้าดั้งเดิมได้ถูกกำจัดไปแล้วโดยมนุษย์
―――สิ่งมีชีวิตที่ต่ำต้อยนี้ทำได้อย่างไรกัน
แม้ว่าอัลฟ่าและโอเมก้าดั้งเดิมของดาวแต่ละดวงจะตายไปแล้ว ตัวอัลฟ่าก็จะให้กำเนิดลูกและสร้างอัลฟา่ตัวใหม่มาเสมอ
ทว่าอัลฟ่าเองก็มีความผิดปกติเป็นอย่างมาก
เธอเชี่ยวชาญในการแทรงแซงจิตความนึกคิดจนควบคุมมนุษย์ทั้งโลกได้
แถมมันยังส่งผลถึงพวกเราที่เป็นเผ่าพันธุ์อื่นด้วย
ด้วยพลังระดับนี้หากฉันสามารถจับอัลฟ่ามาใช้งานได้ คงสร้างความสะดวกได้เยอะ
ทั้งที่มันควรจะเป็นแบบนั้น
「เห้ยไอ้บ้านี่ อย่าเอาแต่หนีสิวะ!!!」
「มะ ไม่น้าาาา!」
สิ่งที่กำลังไล่ตามฉันอยู่ก็คือโอเมก้าที่อัลฟ่าเป็นผู้เลือก
ทว่าปัจจัยที่สำคัญในการเป็นโอเมก้าสำหรับเขานั้นไม่มีเลย จะบอกว่ามันเป็นบุคคลพิเศษที่อัลฟ่าเลือกเลยก็ว่าได้
มันเป็นเพียงแค่มนุษย์
แล้วมนุษย์มันควรจะมีพลังมากขนาดนี้เลยเหรอ?
ทันทีที่ฉันล่อมันเข้ามาในยานที่มีกองกำลังของผู้กอบกู้รวมตัวกันอยู่ มันก็ควรจะพรุนกลายเป็นรังผึ้งด้วยปืนเลเซอร์ไปแล้ว ทว่ามันกลับวิ่งไล่ล่าฉันอย่างไม่ลดละอยู่บนยาน
ขาที่ต่อกลับไปใหม่ก็เหมือนจะพังได้ทุกเมื่อแล้ว….!
「ผู้บุกรุก!? 」
「กำจัดมันซะ!!」
「กล้ามาถึงขนาดนี้เลยเหรอ!! อย่าคิดว่าจะผ่านไปได้!! อ้ากกก!!」
ตอนนี้ยานไม่ได้อยู่บนโลกแล้ว
รูหนอนได้ทำการส่งตัวยานที่เสียหลักกลับไปยังฐานของพวกเราในอวกาศซึ่งมีพวกพ้องมากมายของฉันรออยู่
ทว่าเขาก็อาละวาดอยู่ในยานโดยที่การโจมตีของพวกพ้องฉันทำอะไรไม่ได้เลย
「โฮ่ยๆๆ!! หลบไปเว้ย!! ไอ้เอเลี่ยนพวกนี้น่ารำคาญชะมัด!! ไม่สิสำหรับพวกมันฉันก็เป็นเอเลี่ยนนี่หว่า!!」
「「ม่ายยยยย!!」」
ไอ้มนุษย์นี่มันอะไรกัน ใช่มนุษย์จริงเหรอ
ร่างกายที่เหมือนกับเครื่องจักรสังหาร ไร้ซึ่งความกลัว แค่เห็นหน้าร่างฉันก็สั่นไปหมดแล้ว
ปีศาจสีขาว
ุมนุษย์ผู้ถูกห่อหุ้มด้วยแสงสีแสงทองทำการสังหารพวกพ้องฉันเพียงแค่ขยับตัวธรรมดา
「ยานลำนี้ออกจากโลกมาแล้ว!! แกไม่มีทางกลับไปยังบ้านของแกได้อีกนะเว้ย!!」
「หนวกหู!! ถ้าเป็นงั้น ฉันก็แค่ต้องระเบิดยานบ้านี่แล้วลากพวกแกลงหลุมไปด้วยเท่านั้นเอง!!」
「หา」
มันพูดออกมาโดยไม่ได้สนใจอะไรสักนิด
แย่แล้ว
ปลายทางที่รูหนอนนี้จะส่งไปก็คือสำนักงานใหญ่ที่มี ท่านผู้นั้นอยู่
หากยานเกิดระเบิดในสถานที่ดังกล่าว โทษที่ฉันได้รับคงสยองยิ่งกว่าความตาย
「ได้ตัวแล้วเว้ย……!!」
「อ๊ะ」
ร่างกายของฉันแข็งทื่อไปทันทีในจังหวะที่ถูกคว้าตัวไว้ได้
เขายกกำปั้นขึ้นโดยหมายจะฆ่าฉันทิ้ง
ทันใดนั้นความมืดมิดก็ได้ล้อมรอบฉันและพวกพ้องเอาไว้
「หา? อะไรกัน? 」
ร่างกายของฉันตอนนี้เหลือแค่เพียงท่อนบนเหมือนเดิม
สภาพแวดล้อมโดยรอบก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
มันกลายเป็นพื้นราบสีดำ
ตรงใจกลางของพื้นที่มีบัลลังก์ที่ส่องสว่างตั้งอยู่ โดยบนนั้นมีร่างของใครคนหนึ่งกำลังนั่งรอพวกเรา
「กะ อะ……มะ ไม่จริง……」
นี่พวกเราถูกวาร์ปออกมาจากยานงั้นเหรอ?!
คนที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ก็ลุกขึ้นยืน
ก่อนจะเดินเข้ามาหาฉันด้วยฝีเท้าที่ดังลั่น หญิงสาวที่มีผิวสีฟ้าปกคลุมทั้งร่าง
「……หืม? 」
ผมสีฟ้ายาวสลวย ดวงตาสีดำที่งดงามมากเสียจนอยากจะก้มหัวให้โดยไม่คิดต่อต้าน
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเธอคือ ท่านผู้นั้น
แม้จะเป็นการพบกันครั้งแรกของฉันกับท่านก็ตาม
「เอ๋ ผิวฟ้าทั้งตัวเลยเรอะ……? 」
『อืม ดูเหมือนจะได้สิ่งมีชีวิตที่น่าสนใจติดเรือมาด้วยสินะ』
「……? 」
ชาวโลกมันไม่สามารถเข้าใจคำพูดของท่านผู้นั้นได้
ท่านผู้นั้นที่เห็นท่าทางของมันจึงยื่นมือเข้าไปในรูหนอนที่สร้างขึ้นมาเอง ก่อนจะหยิบหนังสือภายในนั้นออกมา
ไม่กี่วินาที
ท่านก็ปิดหนังสือเล่มนั้นลงแล้วโดยทิ้งกลับเข้าไปในรูหนอน ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ ออกมา
「——ภาษาโลกนี่ ง่ายกว่าที่คิด」
「……หา」
「ฟังเข้าใจไหม? 」
「ก็ เข้าใจอยู่หรอก……」
เขาพยักหน้าให้ ก่อนที่ท่านผู้นั้นจะเดินกลับไปนั่งบนบันไดที่ทอดขึ้นไปยังบัลลังก์แล้วยิ้มออกมาอย่างพอใจ
「เอาละ มาสิ ผู้บุกรุก ฉันกำลังเบื่ออยู่พอดี」
「……ให้มองเธอเป็นศัตรูคนต่อไปได้เลยใช่ไหม? 」
「………อื้อ เข้ามาได้เลยถ้ามีความกล้ามาพอนะ แต่แกจะไหวถึงแค่ไหนกันนะ? 」
สิ้นเสียงนั้นร่างกายของฉันก็เหมือนกับถูกกดลงกับพื้นด้วยบางสิ่งที่มองไม่เห็น มันคือการกดดันด้วยออร่าที่รุนแรงมาก ฉันพยายามประคองสติไม่ให้หายไปอย่างสุดชีวิต
「คึ……」
ทั้งที่ยังไม่ได้ขยับอะไรเลยแท้ๆ
เหนือขั้นเกินไปแล้ว
แรงกดดันนี้มันทำให้ฉันไม่สามารถลุกขึ้นได้เลย
「……」
แล้วทำไมไอ้สัตว์ประหลาดนี่มันยังยืนไหวอยู่กัน!
มันเป็นชาวโลกแน่เหรอวะ?!
มันพุ่งเข้าไปหาท่านผู้นั้นโดยไม่พูดอะไรออกมาทันที
『CHANGE!! →TYPE…』
『UNIVERSE!!』
「ย้าก!!」
「!」
เมื่อท่านผู้นั้นเห็นว่ามันกระโดดเข้าไปหาแล้วยกกำปั้นขึ้น ท่านก็ยิ้มออกมา
จากนั้นท่านก็ดีดนิ้วอย่างมีความสุข ราวกับว่าความเบื่อหน่ายที่มีมันกำลังจะได้รับการแก้ไข
พื้นที่ทรงกลมปรากฏขึ้นล้อมรอบท่านไว้ ก่อนที่มันจะดูดท่านกับเจ้านั่นเข้าไปข้างใน
「มะ-มันเกิดบ้าอะไรขึ้น……? 」
ท่านผู้นั้นและมนุษย์โลกได้หายไป
เพียงไม่กี่วินาทีหลังจากนั้น พื้นที่ดังกล่าวก็สลายไปพร้อมกับ―――
「———อั๊ค!」
―――มนุษย์โลกที่สวมสูทแปลงร่างปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งและนอนจมกองเลือดบนพื้น
มันพ่ายแพ้อย่างหมดรูป
สูทที่ใส่ก็มีรอยแตกให้เห็นได้ชัดเจน ใบหน้าที่แท้จริงของมันแสดงให้เห็นผ่านหน้ากากที่ร้าว
ท่านผู้นั้นได้เดินไปยืนอยู่ข้างๆ มันนี่นอนจมกองเลือด โดยมือขวาของท่านชุ่มเลือดอยู่
「หากคิดเป็นเวลาของโลก ก็56ชั่มโมง 34นาที 57 วินาที สินะ」
「คุ อั๊ก……!」
จบแล้วงั้นเหรอ!
ฉันมองดูสถานการณ์นี้อย่างคาดหวัง ท่านผู้นั้นได้ยกแขนทั้งสองข้างขึ้นมาก่อนจะชื่นชมมนุษย์
「เยี่ยมยอด นี่มันเหนือความคาดหมายจริงๆ ….แกเป็นนักสู้ที่ดี」
「หะ!? 」
ท่านทำการโอบกอดมันอย่างไม่ลังเล แม้ว่าสูทสีขาวจะถูกย้อมไปด้วยเลือดอันโสมมแล้วก็ตาม
แค่เห็นมันได้รับการปฏิบัติแบบนั้นจิตใจของฉันก็เริ่มเกิดความอิจฉา
ทว่ามันกลับยังมีใจสู้และพยายามยกกำปั้นขึ้นอีกครั้ง
「พอแล้ว น่าเสียดายออกถ้าต้องให้แกมาทิ้งชีวิตแบบนี้」
เมื่อสิ้นเสียงนั้น มนุษย์ก็ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อีกราวกับถูกแช่แข็ง
ท่านผู้นั้นได้ทำการนั่งแล้วเอาหัวของมนุษย์ไปนอนพิกตังก่อนหัวเราะออกมาอย่างสนุกสนาน
「ฉันสนุกมากจริงๆ จะมีสักกี่คนในห้วงดาราที่สามารถทำให้ฉันขยับตัวได้ขนาดนี้กันนะ……」
ภาพที่ชวนให้งุนงงปรากฏขึ้นตรงหน้าของฉัน
นี่ฉันกำลังฝันร้ายอยู่หรือเปล่านะ
ไม่เข้าใจเลยสักนิด
ทั้งชายที่ทำให้ฉันอยู่ในสภาพนี้และท่านผู้นั้น
「การเปลี่ยนแปลงของน้ำภายในร่างกายนี่น่าทึ่งจริงๆ ทว่าเหมือนแกจะยังไม่เข้าใจเทคนิคในการสร้างความเสถียร…ตรงจุดนี้น่าผิดหวังนิดหน่อย ความเร็วกับความแข็งแกร่งอันนี้ขอชื่นชม แต่ที่น่าประทับใจมากที่สุดก็คงจะเป็นเซนต์การสัมผัสถึงอันตรายและทำนายการโจมตี」
「คุ แค๊ก…………อัก」
「การโจมตีครั้งสุดท้าย ยอดเยี่ยม เป็นพลังที่รุนแรงและสมบูรณ์แบบซึ่งฉันอย่างจะยอมรับการโจมตีนั้นเข้าไปตรงๆ เลย ทว่าหากทำแบบนั้นคงจะเป็นการหยามเกียรติแก ดังนั้นฉันจึงต้องโต้กลับโดยการทำลายมันทิ้งไปตรงๆ เสีย」
ท่านกระชากหน้ากากมันออกมาด้วยมือเปล่าและลูบผมของมันไปมา
「ฉันให้คะแนนเต็ม วิเศษมาก หลายคนอาจจะบ่นว่าฉันให้คะแนนเพี้ยนไป แต่ตรงนี้ฉันยอมไม่ได้หรอกนะ นอกจากนี้จะขอเพิ่มให้อีก 100 คะแนนตรงจุดที่กล้าเข้ามาเผชิญหน้ากับฉันตรงๆ ……」
「……แฮก แฮก อึก」
「คงจะเป็นพรสวรรค์ที่มีแต่กำเนิดสินะ สิ่งที่ขาดไปตอนนี้ก็คงจะเป็น กำลังคน? พวกพ้อง? อุปกรณ์? หืม พอมาคิดๆ ดูแล้วสิ่งรอบตัวค่อนข้างขาดไปซะหมดเลยนี่」
แม้จะเผชิญหน้าต่อพลังที่เกินต้าน มันก็ยังพยายามต่อต้านไม่หยุด
「อย่าจ้องมองฉันด้วยสายตาแบบนั้นสิ คนที่ไม่หมดใจสู้แม้จะต้องเผชิญหน้ากับความตายแบบนั้น มันทำให้ชวนหลงรักนะ….」
ท่านผู้นั้นยิ้มและวางมือลงบนแก้มของเขา
「จากนี้ไปจะเลี้ยงให้กลายเป็นแบบที่ฉันชอบ…ไม่สิ ไม่ดีกว่าแค่เอามาเล่นด้วยเฉยๆ คงไม่น่าพอ ดังนั้น….」
ท่านผู้นั้นสร้างรูหนอนที่มีปลายทางไปตรงไหนสักแห่งขึ้น
เมื่อมั่นใจแล้วว่าปลายทางถูกต้อง ท่านผู้นั้นก็ยกร่างของมนุษย์ขึ้น
「กลับไปยังดาวที่แกจากมาเสีย」
แล้วท่านก็ชี้นิ้วไปยังมันอีกครั้ง
「ในกรณีที่ทนการโจมตีของฉันได้อีกรอบนะ เอ้า」
ทันใดนั้นการโจมตีที่มองไม่เห็นก็กระแทกเข้ากับร่างที่สวมสูทเอาไว้
เลือดของมันได้พ่นออกมาติดอยู่กับผิวสีฟ้าของท่านผู้นั้น ก่อนจะหายเข้าไปในรูหนอน
ท่านหัวเราะอย่างมีความสุข ขณะเอานิ้วปาดเลือดตรงแก้มเข้าปาก
「ขอยกเลิกการรีเซ็ตดาวโลก ฉันรู้สึกสนใจดาวเคราะห์ดวงนั้นแล้ว」
ตรงหน้าของท่านไม่มีมันอยู่แล้ว จากนั้นสายตาของท่านก็มองมายังฉันนี่นอนบนพื้น
มันคือสายตาที่ประหลาดใจราวกับว่ากำลังสังเกตเห็นตัวตนของฉัน ไม่นานท่านก็ถอนหายใจออกมา
「เวก้า อันดับแห่งดวงดารา 335 สังกัด『ผู้กอบกู้』」
「ดะ-ได้โปรดรอก่อนครับ…! ผมยัง―――」
「ความแข็งแกร่งคือกฎ」
ปลายนิ้วของท่านชี้มายังฉัน
「ผู้พ่ายแพ้ไม่จำเป็นต้องได้ระบความเป็นธรรม」
การมองเห็นของฉันเริ่มเปลี่ยนไป
ขณะที่รู้สึกทรมานราวกับว่าร่างกายกำลังจะแตกสลาย ฉันก็ได้ยิงเสียงพูดออกมาอย่างแผ่วเบา
「สถานที่แห่งนี้นั้นไร้ซึ่งนาม ―――ความแข็งแกร่งเท่านั้นคือความยุติธรรมที่สร้างพวกเราขึ้น