ตอนที่ 11 การต่อสู้

สามีข้า คือพรานป่า

“ขอโทษงั้นเหรอ? ทำไมข้าต้องขอโทษด้วย? ถึงท่านจะเป็นพ่อและสามีที่ดี ก็ไม่ควรเอาใจแม่เช่นนี้!”

พวกเขาทะเลาะกันเสียงดังจนชาวบ้านได้ยิน! และรีบเสนอหน้าออกจากหน้าต่างบ้านอย่างต้องการรับชมเหตุการณ์!

เฉินผิงอันตะโกนลั่น “นังลูกสารเลว! เหตุใดจึงกล้าสั่งสอนข้า?! ต่อหน้าข้ายังกล้าโกหก วันนี้ข้าจะลงโทษเจ้าให้ตายคามือ!”

นี่คือสิ่งที่เฉินเถียนเถียนต้องการ นางแสร้งจะตบหน้าหลินชวนฮวาเพื่อยั่วโมโหเฉินผิงอันและเหมือนว่ามันเป็นวิธีที่ได้ผลเสียด้วย!

“ถึงแม้พ่อจะเข้าข้างแม่แต่ก็ไม่ควรใส่ความข้าเช่นนี้ ถึงข้าจะเก่งกล้าแค่ไหนก็ไม่กล้าทำร้ายแม่หรอก! แม่รักและหวังดีต่อข้ายิ่งกว่าใครไม่ใช่หรือ?! โปรดบอกกล่าวให้พ่อเข้าใจที!”

หลินชวนฮวามองเฉินเถียนเถียนด้วยสายตาเคืองแค้น แต่ก็รู้ดีว่าหากตอบโต้ไปจะมีแต่เสียเปรียบ!

ดังนั้นนางจึงพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ลูกรัก เหตุใดจึงโมโหร้ายเช่นนี้? หากเจ้าไม่อยากแต่งก็ไม่ต้องแต่ง เรื่องทั้งหมดเป็นความผิดของแม่เองที่คิดแทนเจ้า ข้าเพียงอยากให้เจ้ามีชีวิตที่ดี!”

เฉินเถียนเถียนไม่มีทางเชื่อคำพูดของหลินชวนฮวา แต่หากตอบโต้อะไรไปนางอาจกลายเป็นคนผิดในสายตาของชาวบ้านได้ ในยุคที่ความกตัญญูยิ่งใหญ่กว่าสิ่งใดเช่นนี้นางจึงทำได้เพียงร้องขอความช่วยเหลือจากคนในหมู่บ้านเท่านั้น

หากหลินชวนฮวายอมรับผิด แต่เฉินเถียนเถียนยังตอบโต้ด้วยการด่าทอ ทุกคนจะมองว่านางอกตัญญูแม้จะทำในสิ่งที่ถูกต้องก็ตาม ภาพลักษณ์ของแม่และภรรยาผู้แสนดีที่หลินชวนฮวาสร้างมามากมายนัก ความผิดในวันนี้อาจยังไม่สามารถเปลี่ยนความคิดของพวกเขาได้

ยิ่งไปกว่านั้น ตั้งแต่กลับมาจากบ้านของนายน้อยหลี่ นิสัยของเฉินเถียนเถียนเปลี่ยนไปมาก หากทำอะไรโดยไม่ยั้งคิดอาจเป็นที่ผิดสังเกตได้ ดังนั้นนางจึงไม่อยากทำให้เป็นเรื่องใหญ่

“ข้ารู้แล้วว่าแม่ทำเพื่อข้า แต่ข้าไม่ได้ชอบนายน้อยหลี่!”

เฉินเถียนเถียนแสร้งทำตัวเป็นลูกที่เชื่อฟังยิ่งทำให้หลินชวนฮวารู้สึกไม่พอใจ เพราะหากเฉินเถียนเถียนเดินเกมเช่นนี้ นางก็ต้องแสร้งเล่นละครต่อไปเช่นกัน

“ไม่ชอบก็ไม่เป็นไร ไว้เราค่อยหาทางอื่นยังไม่สาย”

เฉินผิงอันเห็นถึงความอ่อนโยนของหลินชวนฮวาจึงเงียบไปสักพัก แต่ฉับพลันเขาก็รู้สึกโกรธขึ้นมาทันที “คิดว่าตนเองเป็นคุณหนูหรืออย่างไร? หัดดูสารรูปของเจ้าเสียบ้าง ต่ำต้อยเช่นนี้ยังกล้ารังเกียจนายน้อยหลี่งั้นเหรอ?!”

เฉินเถียนเถียนรู้สึกขอบคุณพ่อผู้โง่เขลาที่พูดแบบนี้ เขากำลังเปิดทางให้เฉินเถียนเถียนเรียกคะแนนสงสารใช่หรือไม่?

เฉินเถียนเถียนบีบน้ำตาพร้อมกล่าวตอบ “พ่อ! พูดแบบนี้ได้อย่างไรกัน? ข้าเป็นลูกสาวของท่านนะ จริงอยู่ที่ข้าไม่คู่ควรกับนายน้อยหลี่แต่ก็มีศักดิ์ศรีมากกว่าการเป็นเพียงนางบำเรอของเขาไม่ใช่หรือ? พ่อจับข้าส่งให้เขาโดยไม่บอกอะไรยังนับว่าเป็นความโชคดีของข้าอยู่อีกหรือ?”

เฉินผิงอันกวาดสายตาและเห็นว่าชาวบ้านกำลังจ้องมองเขาด้วยสายตาที่แปลกประหลาด

ลูกสาวคนนี้กำลังนำพาปัญหามาให้เขา ต้องเป็นแบบนั้นแน่ ๆ

แม้เฉินผิงอันจะเป็นหัวหน้าครอบครัว แต่ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาอะไรได้ เพราะแท้จริงแล้วเขาก็เป็นเพียงชายผู้โง่เขลาเท่านั้น

แต่เป็นหลินชวนฮวาเองที่คิดได้จึงรีบห้ามเฉินผิงอันไว้

“ผิงอัน พูดจากับลูกดี ๆ ไม่เป็นหรืออย่างไร?! เถียนเถียนเป็นหญิงย่อมต้องอับอายเป็นธรรมดา นางยังไม่เข้าใจความหวังดีของเรา”

เมื่อได้ยินภรรยาพูดดังนั้น เฉินผิงอันก็ผ่อนคลายลงทันทีจึงตอบกลับ “เหอะ! ก็มีแต่เจ้าที่ใจดีเกินไป”

เมื่อพูดจบ เฉินผิงอันก็เดินหนีไปทันที!

เฉินเถียนเถียนรู้สึกผิดหวัง ‘ชายผู้นี้ช่างไร้สมองเสียจริง! ทำอะไรโดยไม่ไตร่ตรองจนไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมของหลินชวนฮวา!’

เมื่อเห็นว่าเฉินเถียนเถียนก้มหน้าร้องไห้ หลินชวนฮวาก็รู้สึกสบายใจเป็นอย่างมาก แต่ไม่ว่าอย่างไรชีวิตของเด็กคนนี้ก็อยู่ในกำมือนางไม่มีทางหนีรอดไปได้

หลินชวนฮวาค่อยๆ เดินเข้ามาใกล้ ทันใดนั้นเฉินเถียนเถียนจึงขยับหลบอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว

ดูเหมือนว่าเฉินเถียนเถียนจะถูกหลินชวนฮวารังแกมามากจึงตอบสนองเช่นนี้ รอยแผลมากมายบนร่างกายของนางเป็นหลักฐานได้อย่างชัดเจน

ชาวบ้านนินทากันสนั่นหู “มีเพียงเฉินผิงอันผู้เดียวที่เบาปัญญาจนดูไม่ออก ทุกคนต่างรู้กันดีว่าเฉินเถียนเถียนต้องลำบากเพียงใดในการใช้ชีวิตภายใต้กำมือของหลินชวนฮวา!”

เป็นไปได้ว่าเฉินผิงอันอาจดูไม่ออก หรือหากดูออกก็เลือกที่จะเพิกเฉยเพราะคิดว่าเป็นเรื่องปกติ!

สายตาของหลินชวยฮวาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น แต่เป็นเพราะอยู่ต่อหน้าคนมากมายเช่นนี้ นางจึงห้ามใจตนเองและเดินเข้าไปหาเฉินเถียนเถียน

“พอได้แล้วเถียนเถียน อย่าเคืองใจไปเลย แม้เจ้าจะไม่ชอบในสิ่งที่พ่อทำแต่ทั้งหมดก็เพราะเขาหวังดีต่อเจ้า! และเจ้าก็ไม่ควรดื้อกับพ่อเช่นนี้!”

แม้เฉินเถียนเถียนอยากโต้ตอบมากเพียงใดก็ทำไม่ได้ เพื่อไม่ให้ชาวบ้านสงสัย นางต้องอ่อนโยนและเชื่อฟังเหมือนเฉินเถียนเถียนคนเดิม …กัดฟันยอมแพ้ไปก่อน!

‘ช่างมัน! ครั้งนี้ถือว่ายอมไปก่อน ฝากไว้ก่อนเถอะหลินชวนฮวา!’

จากนั้นหลินชวนฮวาเดินไปหาเฉินเถียนเถียนด้วยร้อยยิ้ม พลางคล้องแขนราวกับกำลังจะจูงมือ แต่กลับหยิกเฉินเถียนเถียนสุดแรงก่อนจะกระซิบว่า “หากเจ้ายังสร้างปัญหาไม่หยุด ข้าจะส่งเจ้าไปอยู่กับคนป่า ดูสิว่าจะมีปัญญาหนีออกมาอย่างไร?!”

หากเป็นเฉินเถียนเถียนคนเดิมอาจเกรงกลัวต่อคำพูดเหล่านั้น แต่หญิงผู้นี้ไม่ใช่เฉินเถียนเถียนผู้อ่อนแออีกต่อไป นางเปลี่ยนไปแล้ว!

แต่ถึงอย่างไรก็ไม่อาจแสดงตัวตนได้ เพราะหากเปลี่ยนไปเป็นอีกคนอย่างกะทันหัน อาจไม่เป็นผลดีต่อตัวเฉินเถียนเถียนเอง

‘รอก่อนเถอะนังปีศาจ! สิ่งที่เจ้าทำกับข้า… ข้าจะเอาคืนเป็นพันเท่า ความเจ็บปวดที่เถียนเถียนเจอ เจ้าจะต้องชดใช้ให้นางอย่างสาสม!’

เฉินเถียนเถียนกัดฟันอดทนแม้จะฝืนใจเพียงใดก็ต้องตามหลินชวนฮวากลับไปอยู่ดี เมื่อชาวบ้านเห็นดังนั้นก็ต่างถอนหายใจอย่างผิดหวังที่เรื่องราวจบลงอย่างง่ายดาย