บทที่2ตอนที่7

ไม่กี่วันหลังจากคืนดีกับมาร์คาบเรียนปฏิบัติของโนโซมุก็เปลี่ยนไปอย่างมาก

มาร์ที่เกลียดโนโซมุมากขนาดนั้นกลับพูดคุยกับเขาอย่างเป็นมิตร

โดยปกติแล้วพวกห้อง 10 จะเป็นพวกดรอปมาไม่ก็คะแนนตกต่ำจนมาอยู่ห้องนี้ซึ่งเป็นผลกระทบอันร้ายแรงต่อสถาบันโซลมินาติที่ใช้ระบบคุณธรรม

ส่วนตัวโนโซมุเองนั้นที่เคยดรอปไปครั้งหนึ่งก็เป็นพวกที่ต่ำสุดในชั้นเรียน

อย่างไรก็ตามถึงงั้นมาร์ที่อยู่ห้อง 10 ก็เป็นตัวตนสูงส่งกว่าโนโซมุเป็นอย่างมาก แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่ามาร์จะสนิทสนมกับโนโซมุเป็นพิเศษ

นอกจากนี้คาบเรียนปฏิบัติพวกเขาก็ร่วมมือกันในการฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอ

โนโซมุที่ดูท่าท่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ต้องใช้เวลาด้วยกันกับมาร์บ่อยขึ้น…………。

◇◆◇

 

「มีความสุขจังเลยน้าาาาา~~! โนโซมุคุงกับมาร์คุงสนิทกันแล้วล่ะ~~~~!!」

 

ตอนกลางวันก็เหมือนเช่นเคยถูกอาจารย์อันริพาตัวมาที่ห้องพยาบาลเพื่อทานอาหารกลางวันด้วยกัน อย่างไรก็ตามมาร์ที่เป็นเพื่อนของโนโซมุเองก็ถูกลากมาด้วยเหมือนกัน

อาจารย์อันริดูดีใจป็นพิเศษบรรยากาศนั่นแพร่ออกมาให้เห็นได้ชัดเลยล่ะ

 

「ฮ่ะฮะขอบคุณ…………」

 

โนโซมุรู้สึกถึงกดดันจากเธอเล็กน้อย แต่ดูท่าทางเธอก็พอใจดีดังนั้นจึงขอบคุณเธอ

 

「…………อืม」

 

มาร์เองที่กำลังทานอาหารกลางวันด้วยท่าทางขี้เกียจ

 

「อืม อันริเองก็มีความสุข ส่วนโนโซมุกับมาร์ก็ได้กลายเป็นเพื่อนกัน อันริน่ะไม่ได้กังวลเกี่ยวกับโนโซมุคนเดียวแต่รวมเธอด้วยนะมาร์」

 

「นั่นหมายความว่ายังไงกัน?」

 

「อันริอธิบายไว้ว่ามาร์น่ะแม้จะเป็นคนงี่เง่าแต่จริงๆแล้วอ่อนโยนมาก」

 

「ก็แบบนั้นล่ะน้า~~~。มาร์เองที่ได้กลับไปทบทวนตัวเองหลังจากผ่านปี 2 มาแล้วถึงมาสนิทกับโนโซมุไม่ใช่เหรอ~~~?」

 

「………………」

 

「เพราะฉะนั้นคนแบบนั้นน่ะไม่มีทางเป็นคนไม่ดีหรอกน้า~~。」

 

อาจารย์อันริพูดเช่นนั้นพร้อมกับคิดว่ามาร์เป็นคนใจดี เขาเองก็ตกใจเช่นกัน

 

บรรยากาศที่ดูผ่อนคลายเข้าปกคลุมรอบๆ อันริที่ดูท่าทางสบายๆอยู่เสมอไม่คิดเลยว่าจะมองคนเก่งขนาดนี้

ก่อนหน้านี้เธอเองก็สังเกตเห็นถึงการต่อสู้ระหว่างข้ากับชิโนะตอนปี 2 และการเปลี่ยนแปลงต่างๆของข้า

นั่นคือเหตุผลสำหรับอาจารย์นอร์นที่ไม่แปลกใจในการเปลี่ยนแปลงของมาร์

 

「………………」

 

มาร์เมินหน้าหนี แต่หน้าของเขาดูแดงๆและกำลังเขินอยู่

 

「ฟุฟุฟุ。……ยังไงซะตอนนี้โนโซมุ เธอกำลังทำอะไรอยู่ล่ะ?」

 

นอร์นที่กินข้าวเสร็จก่อนเวลาก็หันมานั่งคุยกับโนโซมุที่กำลังทำบางอย่าง

โนโซมุที่หยิบเครื่องมือประดิษฐ์บนโต๊ะทำงานของห้องพยาบาลและทำอะไรบางอย่าง

 

「นี่คือ? เป็นของขวัญวันเกิดให้เพื่อนครับ」

 

「เหะ! อย่างงั้นเหรอ?แล้วให้ใครล่ะ?」

 

นอนร์นแปลกใจเล็กน้อยเพราะคิดว่ามาร์เป็นเพื่อนเพียงคนเดียวของโนโซมุและเธอเองก็สนใจที่โนโซมุทำอยู่

 

「เอ่อวันว่ากะจะเอาไปให้เด็กนักเรียนของสถาบันอีคอร์สครับ ช่วงนี้ข้าพบกับเธอบ่อยๆและสนิทกันมากขึ้น ข้าเองก็ไม่รู้ว่าจะให้อะไรเธอ แต่ว่าสิ่งนี้ต้องถูกใจเด็กคนนั้นแน่ๆครับ」

 

โนโซมุไม่คิดจะซ่อนของขวัญที่จะให้โซเมียจัง อันริและนอร์นที่ได้ยินเช่นนั้นก็ตกใจอย่างมาก

 

 

「เอะ!!!! โนโซมุไปสนิทกับจนได้รับการยอมรับจากลูกสาวของตระกูลฟรานซิสเลยงั้นเหรอเนี่ย」

 

「ตกใจอะไรกันเหรอครับ?」

 

มาร์เองก็ดูท่าจะไม่เข้าใจเหมือนกัน แต่ว่าตระกูลฟรานซิสนั้นเป็นตระกูลนักธุรกิจมือฉมัง ซึ่งมีอำนาจมากภายในอาณาจักรฟอร์ซิน่าที่อยู่ทางตะวันตก

นอกจากนี้ อาณาจักรฟอร์ซิน่าได้ส่งกองทัพไปจัดการกับสัตว์อสูรอย่างรวดเร็วในการรุกรานครั้งใหญ่เมื่อ 10 ปีก่อนและกองทัพนั่นก็ได้กลายเป็นแกนกลางของกองทัพพันธมิตรที่ก่อตั้งขึ้นในเวลาต่อมาและคอยป้องกันการรุกรานครั้งใหญ่ถือได้ว่าเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่มาก

นอกจากนี้ยังเป็นประเทศที่เสนอให้จัดตั้งสถาบันโซลมินาติ ซึ่งมันมีอำนาจมากในทวีปแห่งนี้

 

เป็นเรื่องแปลกมากๆที่มนุษย์เดินดินธรรมดาเฉกเช่นโนโซมุสามารถไปสนิทกับลูกสาวของตระกูลฟรานซิสได้

 

「แม้ว่าข้าจะรู้จักเธอ แต่ข้าก็รู้แค่ว่าเธอเป็นคนของตระกูลฟรานซิส เมื่อวันก่อนตอนที่ข้าไปพบกับเธอ ข้าไม่คิดเลยว่าเธอจะเป็นคนที่มีชื่อเสียงโด่งดังขนาดนั้น แต่ว่าข้าไม่สนใจหรอก แต่ดูเหมือนว่าเธอพยายามจะซ่อนอะไรบางอย่างไว้อยู่เท่านั้นเอง」

 

โนโซมุยังคงทำอะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่พูดก็ขยับมือไปด้วย

 

「เอ่อการที่เข้าไปสนิทเธอมันไม่ดีอย่างงั้นเหรอครับ?」

 

ตระกูลที่มีชื่อเสียงก็มักจะมีความกังวลเกี่ยวกับภาพลักษณ์

เมื่อมองไปที่ใบหน้าของโนโซมุที่ดูไร้เดียงสา นอร์นก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย

 

(อืมมม ถ้าเป็นเขาคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง?)

 

 

บางทีอาจจะเป็นเพราะเจอเรื่องสนุกเข้าแล้วและดูเหมือนว่าจะเลี่ยงไม่ได้ลองมาคิดดูแล้วการให้ของขวัญกับอีกฝ่ายเนี่ย เมื่อฉันจ้องมองไปยังโนโซมุก็ดูราวกับสนุกอยู่ นอร์นที่เห็นเช่นนั้นก็ยิ้มออกมา

◇◆◇

หลังเลิกเรียนโนโซมุและมาร์มุ่งหน้าไปยังชานเมือง หลังจากที่ทั้งสองคืนดีกันก็มักนัดกันไปที่นั่นบ่อยๆ

 

 

「ท้ายที่สุดแล้ว ข้าก็ยังเอาชนะมาร์ไม่ได้อยู่ดีแหละน้า…และดูเหมือนว่าข้าเองก็คงไม่แกร่งพอที่จะต่อกรกับนายด้วย……」

 

「……………………」

 

ผลลัพธ์จากการดวลกัน อัตราการชนะของมาร์นั้นมากกว่าโนโซมุเยอะนัก โนโซมุจัดการสัตว์อสูรเยอะกว่ามาร์ไม่กี่ครั้ง และเขาเองก็ไม่ได้ใช้เทคนิค “แฟนท่อม(คมดาบลวงตา)” กับเขา

แต่ถึงอย่างนั้นการโจมตีด้วยคิของโนโซมุเองก็มีประสิทธิภาพค่อนข้างสูง

 พยายามลดหลั่นพลังให้ใช้น้อยลงและได้ประสิทธิภาพสูงสุดในขณะเดียวกันก็ตัดสินใจว่าสามารถฆ่าศัตรูได้อย่างแน่นอน ก็ไล่จัดการสัตว์อสูรภายในป่าแถวชานเมือง(ว่ากันว่าโดนชิโนะสั่งเสียให้ทำอยู่ตลอด)เพื่อจำเป็นต่อการเอาชีวิตรอดละนะ

อย่างไรก็ตามหากพูดถึงการต่อสู้จำลองในโรงเรียนแล้วมันต่างกันอย่างสิ้นเชิงทั้งสองต้องปรับเปลี่ยนเทคนิคต่างๆมากมาย

อย่างไรก็ตามโนโซมุที่มีพลังไม่เยอะจึงลดพลังที่ใช้ลงในการใช้วิชาต่างๆและปรับให้เข้ากับการต่อสู้จำลอง(ประเด็นคือใช้ตอนเท่ากับล่าสัตว์อสูร=เดี้ยงหมดแน่)

ถ้าหากลดความหนาแน่นลงก็ไม่สามารถฆ่าใครได้แล้วล่ะ

นอกจากนี้แม้ว่าตอนนี้ตัวโนโซมุจะดีขึ้นมามากในการเติบโต แต่ผลของ “พันธนาการ”ก็ยังคงแสดงพลังออกมาอย่างดี เทคนิคในการใช้คิเช่นเสริมพลังกายและการใช้”ก้าวพริบตา”มันยังไม่แกร่งพอที่จะล้มคนอย่างมาร์ได้ ก็เลยลงอีหรอบนี้นั่นเอง

 

 

「…………แค่นั้นก็แปลกแล้ว แกเอาชนะข้าได้ถึงสองสามครั้งเลยน่า…………」

 

「จริงอะ?」

 

 

มาร์พูดเช่นนั้น แต่โนโซมุที่ได้ยินเช่นนั้นสีหน้าซีด

ถ้าคิดดูแล้วการเอาชนะกับมาร์ได้เนี่ยมันก็แทบจะเป็นไปไม่ได้

ความแตกต่างระหว่างพลังงานและพละกำลังของโนโซมุกับมาร์นี่มัดชัดเจนแทบโนโซมุที่ใช้เวทย์ไม่ได้อีกต่างหาก

 

ถึงกระนั้นเขาที่เอาชนะมาร์ที่อยู่ในระดับสูงได้ก็แสดงให้เห็นว่าสถาบันนี้มันมีคนมากความสามารถ

ยังไงก็ตามโนโซมุไม่ทันระวัง

เพระามาตราฐานของเขาคือชิโนะ เพราะว่าส่วนมากเขาใช้เวลาอยู่กับชิโนะบ่อยๆ

 

นี่เป็นเพราะมิตรภาพอันน้อยนิดที่เขามีในโรงเรียนทำให้เขาไม่รู้ถึงความแตกต่างเลยแม้แต่น้อย

การที่มีคนมีความสามารถระดับสัตว์ประหลาดอย่างอาจารย์ชิโนะเป็นตัวมาตราฐานในการวัดความแข็งแกร่ง มันเลยทำให้โนโซมุเลยคิดว่าคนเก่งๆมันจะต้องประมาณชิโนะ

 

นอกจากนี้โนโซมุค่อนข้างประเมินตัวเองต่ำ

เนื่องจากผลของ “พันธนาการ”และการต่อสู้จำลองจนถึงตอนนี้และเนื่องจากผลของ “พันธนาการ”ด้วยแล้วความสามารถเขาต่ำกว่าคนทั่วไปทำให้ไม่ค่อยชนะการประลองสักเท่าไร

ด้วยเหตุนี้โนโซมุจึงกลายเป็นคนที่ด้านชาด้านความรู้สึก “เพราะตัวเองคุ้นชินกับสิ่งที่เสียไป”ซะแล้ว

 

 

 

(พูดอะไรของแกกันวะโนโซมุ แกโดนปิดผนึกพลังอยู่ไม่ใช่หรือไงวะ เอาชนะข้าทั้งๆยังงั้นนี่ก็เกินไปละ!!!)

 

เพื่อบอกความจริงนั่น มาร์เองก็เห็นโนโซมุใช้ “แฟนท่อม(คมดาบลวงตา)”เพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น แค่เขาเห็นมันก็สั่นกลัวแล้ววิชดาบนั่นน่ะ

 

การปลดปล่อยคมดาบไว้ในอากาศต่อหน้ามาร์ชั่วพริบตาและตัดผ่านเป้าหมายได้อย่างไม่ยากเย็นนั่น

 

ใบมีดที่ถูกบีบอัดพลังไว้จนเหลือเชื่อนั่น ความเร็วในการฟันก็สูงมากและมาร์เองก็ไม่สามารถมองเห็นได้เลยด้วยซ้ำว่ามีคมมีดผ่านหน้าไปแล้ว และพลังที่ควบคุมได้เพียงเสี้ยววินั่นในการสร้างคมดาบอากาศ

 

 

หากโดนดาบนั่นฟันออกมาเป็นคลื่นตัวขาดแหงๆถ้าไม่ป้องกันดีๆ

 

(เฮะ~~。หลังจากเหตุการณ์นั้นข้าก็แพ้เอ็งโดยสมบูรณ์แล้วเฟ้ย เทียบไม่ติด)

 

มาร์นึกถึงวันวานที่เขาถูกชายตรงหน้าต้อนจนมุมก่อนการสอบปลายภาคของปี 2 ถ้าเป็นตัวเขาในตอนนี้ใช้มันอีกครั้งละก็เขาคงได้ลาโลกแล้วล่ะ

◇◆◇

(เอ่อ ข้าเองก็ไม่คิดว่ามันจะใช้ในคาบเรียนได้หรอกนะ)

 

สามสาวที่เดินผ่านหน้าโนโซมุนั้นไม่อยากจะเชื่อเลยว่าโนโซมุใช้วิชาดาบนั่นได้ เมื่อคนๆหนึ่งเห็นเขาก็โบกมือให้โนโซมุ

โนโซมุเองก็โบกมือให้ทั้งสามที่กำลังมาที่นี่

 

「สวัสดีคะ!คุณโนโซมุ」

 

「สวัสดีน้าโซเมียจัง วันนี้ก็อยู่กับพี่สาวงั้นเหรอเนี่ย」

 

「สวัสดีจ้ะโนโซมุไม่ได้เจอกันนานเลยนะ……หรือไม่ใช่แบบนั้นกันนะ?」

 

「สะสวัสดีค่ะ…………」

 

เป็นไอริส โซเมีย และทิม่าเองที่มาหา

บางทีเพราะทิม่าไม่ใช่คนชอบพูดเท่าไร เธอเลยทำท่าทางกลัวอยู่หน่อยๆ

 

「ดูสิ ทิม่า ดูเหมือนว่าเธอมีอะไรบางอย่างอยากจะพูดกับนายนะ?」

 

「อะ อืม」

 

「???」

 

ทิม่ามายืนต่อหน้าโนโซมุ และเธอก็พูดกับเขา

 

「อะ อืม! ขอโทษด้วยนะคะเรื่องตอนห้องพยาบาล!」

 

「…………เอะ? หมายความว่าไงเหรอครับ?」

 

「ก็ตอนนั้น ฉันทำตัวหยาบคายใส่โนโซมุคุง เพราะว่าได้ยินข่าวลือพวกนั้นก็เลย……」

 

เธอพูดเช่นนั้นพร้อมกับไหล่ตก จากท่าทางแล้วเธอก็ไม่ใช่คนไม่ดีอะไร บางทีเธอคงกังวลมาตลอดเลยสินะ

 

「ขอโทษด้วยนะโนโซมุคุง ทิม่าน่ะไม่ค่อยถูกกับผู้ชายเท่าไร เธอรู้กลัวนายเพราะได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับนายด้านที่ไม่ดีน่ะ」

 

「……งั้นเหรอครับ! ตอนนั้นเองสินะครับ? อย่าใส่ใจเลยครับ ยังไงข้าก็ได้รับคำขอโทษแล้ว ถ้าหากฟังจากข่าวลือแล้วมันก็พอมีมูลอยู่บ้างใช่ไหมละครับ……」

 

 

แน่นอนหากได้ยินข่าวลือของโนโซมุก็ไม่น่าจะแปลกใจเท่าไร ในตอนนั้นที่เขาคบกับลิซ่าที่เป็นนักเรียนที่โด่งดังในโรงเรียนและโดนบอกเลิก แต่ไม่มีใครที่เข้าข้างโนโซมุและคิดว่าโนโซมุเป็นคนหักอกเธอแถมยังชู้สาว

 

 

ข้าเองที่ได้ยินเช่นนั้นจากทิม่าก็รู้สึกเจ็บปวด

 

(…………อย่างที่คิด……แย่มากเลย…………)

 

ตอนนี้เองข้าก็มีเพื่อนแล้วและรู้สึกดีกว่าเมื่อก่อน แต่ถึงยังงั้นเองก็มีบางช่วงที่รู้สึกเจ็บปวดเช่นนี้อยู่

 

 

(………ท้ายที่สุดแล้วยังไงข้าก็หนีความจริง….ทุกครั้งที่นึกถึงลิซ่าแผลเก่าก็จะถูกเปิดออก…………)

 

โนโซมุยังไม่สามารถมูฟออนกับลิซ่าได้และโดนเธอเกลียดขี้หน้าอยู่ ตอนที่ได้พบกับโซเมียและไอริส รวมทั้งได้สนิทกับมาร์และสร้างความสัมพันธ์ใหม่ๆนี่คือเรื่องที่ควรจะจดจำในตอนนี้

 

「เอ่อ คุณโนโซมุแล้วเขาคนนั้นเป็นใครเหรอคะ?」

 

โนโซมุเงียบไป แต่โซเมียที่สังเกตเห็นก็ถามโนโซมุ

 

「อ่าาานั่นสินะ หมอนี่ชื่อมาร์ เป็นเพื่อนร่วมชั้นของข้าเองล่ะ」

 

โนโซมุแนะนำมาร์ให้กับทั้งสามคน ทั้งสามต่างจ้องมาที่มาร์ราวกับสำรวจอะไรบางอย่าง

 

「…………อะไรกันเล่า」

 

「อาา」

 

ทิม่ากรีดร้องกับท่าทางที่ดูข่มขู่ของมาร์ เพราะมาร์เองคงไม่ชอบให้จ้องแบบนั้นเลยทำหน้าบึ้งเลย

 

ทิม่าตัวแข็งไปกับท่าทีของมาร์แต่มาร์เองก็ยังคงทำตัวแข็งกร้าวราวกับสนุกที่เห็นท่าทางของทิม่ากลายเป็นลูปนั่นไป

 

「มาร์ใจเย็น เกิดไรขึ้น」

 

「…………เปล่านี่……」

 

มาร์ตอบคำถามของโนโซมุ ไม่ใช่อะไรอื่นแต่มาร์ไม่ค่อยชอบท่าทีขี้กลัวของทิม่าเท่านั้นเอง

 

เธอเป็นนักเรียนแรงค์ A แต่มาร์เป็นแรงค์ B เธอเป็นคนที่หาตัวจับได้ยาก แต่ว่ากลับโดนมาร์กดดันซะงั้น

 

เธอกลัวตัวตนที่ต่ำกว่าตัวเอง ซึ่งมาร์ยอมรับไม่ได้เลยสักนิด

 

ยังไงก็ตามทิม่าไม่รู้ว่ามาร์คิดอะไรอยู่ เธอที่มีพละกำลังน้อยพอเจอเข้ากับมาร์ที่ร่างใหญ่ก็กลัวเป็นธรรมดา

 

 

「เอ่อ นั่นสินะใกล้งานเลี้ยงวันเกิดโซเมียจังแต่ว่าถ้าโนโซมุมาได้ก็อยากให้มานะ…………」

 

ไอริสเปลี่ยนหัวข้อเพื่อทำลายบรรยากาศตรงหน้า

 

「อืมนั่นสินะครับ เอาแบบนั้นก็ได้ แต่ว่าการให้ข้าไปด้วยเช่นนี้จะดีเหรอครับ?」

 

ฟรานซิสได้ชื่อว่าเป็นตระกูลอันโด่งดังในทวีปอาร์คมีล การไปงานเลี้ยงวันเกิดของลูกสาวตระกูลนี้น่าจะมีแต่คนดังๆที่ได้รับเชิญ

โนโซมุคิดว่าถ้าเขาไปก็คงจะเป็นที่ขายขี้หน้าของตระกูลฟรานซิสเป็นแน่ แถมยังข่าวลือของเขาอีก

แต่ว่าไอริสหาได้แค่ไม่

 

「ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ตอนแรกก็หวังว่าจะจัดงานกันแบบเงียบๆ โนโซมุคุงเองก็เป็นเพื่อนกับโซเมียใช่ไหมล่ะ? ถ้างั้นก็ไม่มีปัญหาหรอก」

 

ไอริสหัวเราะพร้อมกับจ้องมองโนโซมุที่ดูกังวล

โนโซมุตัดสินใจได้ก็ยิ้มตอบ

 

「……เข้าใจแล้วครับ ถ้างั้นขอรบกวนด้วย」

 

「จริงเหรอคะ! ถ้างั้นฉันจะคอยตั้งตารอดูโซเมียให้ดีเลยล่ะค่ะ」

 

「อืม!คุณโนโซมุเองก็บอกว่าจะมีของขวัญให้หนูด้วย!」

 

เธออ้าแขนพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าจนเครื่องประดับแขนส่งเสียงดังกริ๊ง

 

ทั้งไอริสและโซเมียต่างยิ้มด้วยความพอใจจึงยืนยันวันที่และสถานที่จัดงานและบอกลากัน

 

◇◆◇

ระหว่างทางกลับข้ากับมาร์ก็จ้องหน้ากัน

 

「แล้วมาร์ล่ะจะเอายังไง? จะไปด้วยไหม?」

 

「……ข้าเองก็โดนเชิญไปด้วย ยังไก็ต้องไปละนะ」

 

มาร์เองก็โดนชวนจากไอริสเพราะว่าเป็นเพื่อนข้า

 

「แต่ถึงยังงั้นก็ต้องใช้เวลากับทิม่าอีกนานเลยนะ」

 

สำหรับมาร์แล้วทิม่านั้นดูแปลก มาร์ที่ท่าทางจะอารมณ์ดีกลับโดนทิม่าทำท่าทางที่ข้าเคยโดนก่อนหน้านี้

 

「…………เธอคนนั้นน่าหงุดหงิดมากเลย แม้ว่าข้าเองจะเก่งก็เถอะนะ…………」

 

「……เอ่อ มาร์นี่นายไม่รู้งั้นเหรอว่าเจ้าตัวเป็นโรคกลัวผู้ชายอะ……」

 

 

「…………」

 

คนที่รู้ดีที่สุดก็คือตัวเธอเอง จนสุดท้ายพวกเราก็มาถึง “เรือนร่างของโค”

◇◆◇

「……ทิม่า สบายดีไหม?」

 

「…………อื้อ……」

 

ฉันพยายามปลอบเธอ แต่สีหน้าเธอดูไม่สู้ดีนัก

ทิม่าเกิดมาพร้อมกับพลังเวทย์มากมาย จึงถูกคนรอบข้างรังเกียจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเธอโดนผู้ชายวัยเดียวกันทำตัวเลวๆใส่

นอกจากนี้รูปร่างของเธอก็โตไปตามไว ดังนั้นเธอจึงเป็นที่จับจ้องของผู้คนมากมาย

ความอิจฉา ความกลัว ความเกลียดชัง

สำหรับเธอที่ไม่สามารถใช้พลังเวทย์ได้อย่างใจนึกมันสร้างภาระทางใจให้เธอย่างมาก คนรอบข้างก็ต่างมองเธอในทางที่ไม่ดีเพราะมีพลังเยอะแต่กลับใช้ไม่เป็นบ้าง

 

「ดูเหมือนว่าโนโซมุจะไม่ใช่สินะ เป็นเพราะมาร์งั้นเหรอ? ถ้าเป็นเช่นนั้นปล่อยให้ฉันจัดการเองนะ」

 

「อืม! แต่ว่านั่นคือเพื่อนของโนโซมุซังฉันคิดว่าคงไม่เป็นไรหรอก!」

 

「……อืม…ขอโทษนะโซเมียจัง ไอริส……」

 

「ทิม่า ฉันจะดีใจมากเลยนะถ้าเธอพูดว่าขอบคุณ。」

 

「นั่นสินะคะ!ในกรณีนี้ต้องพูดว่า”ขอบคุณคะ”นะคะ!」

 

ฉันที่แสดงท่าทีขี้เล่นและโซเมียเองก็พูดด้วยรอยยิ้ม

 

「……อ่านั่นสินะ ขอบคุณนะ ทั้งสองคน」

 

รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของทิม่า ในท้ายที่สุดแล้วตัวเธอที่ยังอารมณ์แปรปรวนก็กลับบ้านทั้งๆยังงั้น