ตอนที่ 18 องค์กรเร้นลับ

นิยามแห่งราตรี (Night’s Nomenclature )

ตอนที่ 18 – องค์กรเร้นลับ

เทียบกับการทะลุมิติไปเรือนจำหมายเลข 18 ชิ่งเฉินรู้สึกว่าคืนนี้จึงเหมือนวิกฤตการณ์อย่างแท้จริง

เขาไม่มีทางยืนยันว่าอีกฝ่ายเป็นใคร มีเจตนาอะไร

และอีกฝ่ายก็แค่เกิดความระแวงต่อตนเองจึงเริ่มจับจ้องติดตาม ความรู้สึกอย่างนี้แย่เกินไปแล้ว

ตนเองเหมือนจะพุ่งหัวทิ่มเข้าไปในโลกที่สัตว์ร้ายของจริงอาละวาดจากในเรือนกระจกอย่างโรงเรียน

หรือบางที นี่จึงเป็นโฉมหน้าดั้งเดิมของโลก

รัตติกาลลึกล้ำอย่างยิ่งแล้ว ชิ่งเฉินเดินทะลุสวนหย่อม อาศัยต้นอู๋ถงสูงใหญ่สองข้างทางปิดบังร่องรอย

อะดรินาลีนที่ปลุกเร้าขึ้นมา ความรู้สึกตึงเครียดของหัวใจที่เต้นกระหน่ำ จนกระทั่งเขาเดินอ้อมไม่รู้ว่าไกลแค่ไหนจึงได้จางหายไปในที่สุด

ตอนกลับถึงที่พักบนถนนสิงสู่ ชิ่งเฉินถึงขนาดยังคงนั่งอยู่ในเงามืดครึ่งชั่วโมง จนกระทั่งหลังจากมั่นใจแล้วว่าไม่มีคนติดตามจึงได้ตัดสินใจกลับบ้าน

ขณะนี้อากาศฤดูใบไม้ร่วงสะอาดสดชื่น อุณหภูมิค่อย ๆ ลดต่ำ แต่เสื้อผ้าบนแผ่นหลังของเขากลับเปียกชุ่มแล้ว

ชิ่งเฉินเดินพลางเปิดโทรศัพท์มือถือเสิร์ชหาแคสเตอร์เกมเหอเสี่ยวเสี่ยว อยากจะดูว่าอีกฝ่ายได้ทำไกด์อันใหม่อีกหรือไม่

แต่ว่า เหอเสี่ยวเสี่ยวที่เดิมทีบอกว่าคืนนี้จะทำไกด์แนะนำโดยสังเขปของ ‘โลกภายใน’ หนึ่งอันกลับหายตัวไปแล้ว

แฟนคลับถามในช่องคอมเมนต์ว่าเหตุใดเขายังไม่เปิดไลฟ์ แต่เหอเสี่ยวเสี่ยวไม่ได้ตอบเลย

แคสเตอร์คนนี้ก็ถูกองค์กรเร้นลับพาตัวไปแล้วใช่หรือไม่ ทั้งประเทศมีองค์กรเร้นลับอย่างนี้มากน้อยเท่าไหร่

ชิ่งเฉินไม่มีทางยืนยันได้

ทันใดนั้นเสียงหวอตำรวจดังขึ้นนอกเขตพักอาศัย รถตำรวจเปิดหวอตลอดทางเข้ามาในเขตพักอาศัย

ชิ่งเฉินขมวดคิ้วตามไป รถตำรวจนั้นพอดีจอดลงที่ประตูทางเข้าตึกบ้านของเขา ชั้นสองยังมีเสียงร้องไห้ของผู้หญิงทะลุออกมา รวมทั้งเสียงร้องโหยหวนของผู้ชาย

เพื่อนบ้านในชุมชนขณะนี้ออกมากันหมดแล้ว คนของอาคารที่พักอื่น ๆ มาล้อมเป็นวงอยู่ที่ชั้นล่าง ชิ่งเฉินซ่อนตัวในกลุ่มคนมองอย่างเงียบ ๆ

“อะไรเหรอ เกิดเรื่องอะไรขึ้น” มีลุงคนหนึ่งเอ่ยอย่างกังขา

“ในตึกนี่ไม่ใช่ว่ามีผู้ชายคนหนึ่งที่ชอบตีเมียเหรอ” ป้าคนหนึ่งอุ้มเด็กโยกตัวพลางกล่าวพลาง “ผู้หญิงของบ้านนั้นก่อนหน้านี้ถูกตีจนเข้าโรงพยาบาลมาแล้ว ผลคือผู้ชายยังสันดานถึงตายก็ไม่เปลี่ยน ตอนหลังผู้หญิงคิดจะหย่า เลยถูกผู้ชายมันตีเข้าให้อีก ผู้ชายยังบอกด้วยว่าถ้ากล้าหย่าก็จะฆ่าผู้หญิงทั้งบ้านเลย”

“งั้นวันนี้คือไร” มีคนสงสัย “ไม่ใช่ว่าผู้ชายนั่นตีผู้หญิงจนเกิดเรื่องแล้วปะ แต่ทำไมฉันฟังดูคล้ายกับว่าผู้ชายเกิดเรื่องแล้ว”

“คุณพูดถูกแล้วล่ะ” คุณป้ากล่าว “เมื่อกี้ฉันอยากจะขึ้นไปขวางหน่อย ผลคือพบว่าครั้งนี้เป็นผู้หญิงตีผู้ชาย”

“ล้อเล่นอะไรเนี่ย” มีคนตกตะลึง

“ผู้ชายนั่นคืนนี้ดื่มหนักกลับบ้านแล้วคิดจะตีเมียอีก ผลคือพวกคุณเดาซิว่าเป็นยังไง วันนี้เรื่องที่คนหลายคนทะลุมิติได้ยินกันมาหมดแล้วสินะ เมียเขาก็เหมือนจะทะลุไปแล้วกลับมาด้วย” คุณป้าพูดอย่างปริ่มเปรม

“ผู้หญิงตอนแรกยังโดนตี ไม่กล้าสู้กลับ แต่ตอนหลังอาจจะถูกตีจนสติแตก ลงมือมั่ว ๆ ก็ทำขาผู้ชายหักแล้ว น่าสงสารเด็กสาวในบ้านนี้ อายุแค่นี้ก็เจอกับความชั่วร้ายประเภทนี้แล้ว”

ชิ่งเฉินฟังถึงตรงนี้ในที่สุดก็วางใจลงได้ พูดตามตรงเขาไม่รู้สึกเห็นใจผู้ชายคนนี้สักนิด ถึงขนาดอยากจะหัวเราะนิดหน่อยด้วย

บนโลกนี้ยังมีเรื่องอะไรที่บัดซบยิ่งว่าผู้ชายตีเมียล่ะ

ตีไม่ได้

ครอบครัวสามคนนี้อยู่ชั้นบนของเขา ในเวลาสองปีเขามักจะเห็นผู้หญิงกอดลูกสาวนั่งซุกตัวร้องไห้ตรงชั้นล่างตอนที่กลับบ้านจากการติวหนังสือตอนค่ำ

ผู้หญิงท่าทางเกือบสามสิบปีแล้วก็หน้าตาดีมาก สามีเธอคิดเสมอว่าเธอมีคนอยู่ข้างนอก ดังนั้นพอเมาเหล้าก็ตีเธอ

ภายหลังชิ่งเฉินรับรู้มาจากปากของพวกเพื่อนบ้านว่าผู้ชายคนนี้ขอแค่เห็นผู้หญิงพูดจากับชายอื่นก็จะกลับบ้านมาตีเธอ

ตอนนี้ถูกตีจนพิการ ก็สมน้ำหน้าแล้วจริง ๆ

ตอนนี้ตำรวจขึ้นขั้นบนไปสอบความแล้ว ผู้ชายแขนขาบิดเบี้ยวถูกหามขึ้นรถพยาบาล

ชิ่งเฉินมองดู อีกฝ่ายสองแขนล้วนเห็นได้ว่าคดงออย่างไม่เป็นธรรมชาติ เห็นได้ชัดว่ากระดูกหักแล้ว

พร้อมกับการจากไปของรถพยาบาล ตำรวจโบกมือเป็นสัญญาณให้ทุกคนแยกย้าย

ชิ่งเฉินเตรียมที่จะกลับบ้าน ผลคือเพิ่งจะเข้าตึกก็เห็นเด็กสาวนั่งอย่างทุกข์ระทมอยู่ที่หน้าประตูบ้านตนเอง

“พี่ชาย แม่หนูเมื่อกี้ให้ลงมาอยู่บ้านพี่สักพักหนึ่งก่อน แต่หนูเคาะประตูแล้วพี่ไม่อยู่บ้าน” เด็กสาวพูดสะอึกสะอื้น

เด็กสาวชื่อหลี่ถงอวิ๋น มาที่บ้านชิ่งเฉินเพื่อหลบเลี่ยงก็ไม่ใช่หนแรก

ชิ่งเฉินไม่ใช่คนชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน แต่มีครั้งหนึ่งที่ผัวเมียสองคนที่ชั้นบนทะเลาะกัน เด็กสาวมาซุกอยู่ที่ประตูขึ้นตึกร้องไห้คนเดียว

ตอนนั้นชิ่งเฉินเพิ่งจะติวหนังสือตอนค่ำ ตอนที่เขาเตรียมจะเดินเฉียดเด็กสาวผ่านไป ผู้ชายชั้นบนก็ออกมาหาเธอ เธอก็ถามชิ่งเฉินว่าสามารถไปซ่อนในบ้านชิ่งเฉินสักพักได้หรือไม่

สุดท้ายชิ่งเฉินยังคงตอบตกลง

คืนวันนั้น เขาทำข้าวผัดซีอิ๊วให้เด็กสาว แล้วยังใช้โทรศัพท์มือถือเปิดการ์ตูนให้เด็กสาว

จนกระทั่งหลังจากเรื่องราวทุกอย่างสงบลงจึงส่งเด็กสาวกลับบ้าน

ภายหลังผู้หญิงที่ชั้นบนก็รู้เรื่องนี้ พอทะเลาะกันอีกก็ให้เด็กสาวมาที่บ้านชิ่งเฉิน

ผู้หญิงเคยเกรงใจนิดหน่อย บอกว่าเสื้อผ้าสกปรกของชิ่งเฉินสามารถส่งขึ้นชั้นบนให้เธอซัก แต่ชิ่งเฉินกังวลว่าผู้ชายชั้นบนจะหาเรื่องยุ่งยากให้เขา ก็เลยไม่ได้ตอบรับ

ขณะนี้ ชิ่งเฉินลูบหัวของเด็กสาว “กินข้าวรึยัง”

“กินคุ้กกี้ไปนิดหน่อย แต่ยังหิวนิดหน่อย” เด็กสาวหลี่ถงอวิ๋นกล่าวอย่างขลาดกลัว

“ไปเถอะ พี่ก็ยังไม่ได้กินข้าว พี่จะทำข้าวผัดให้เธอ” ตอนที่ชิ่งเฉินเตรียมข้าวของก็ใช้เงินเก็บไปหมดเกลี้ยงแล้ว แต่ถึงเขาจะไม่มีเงิน ตอนนี้เครื่องปรุงกับข้าวในบ้านกลับมีมากมาย “รอเดี๋ยวเธอกินอิ่ม คาดว่าทางคุณแม่เธอก็ไม่มีเรื่องแล้วล่ะ อย่ากลัวเลย ทีหลังพ่อเธอตีแม่เธอไม่ได้แล้ว”

“งั้นหนูยังสามารถไปบ้านพี่ได้ไหมคะ” หลี่ถงอวิ๋นถามอย่างกะทันหัน

“แน่นอน……”

ชิ่งเฉินกำลังจะพูดแต่จู่ ๆ สีหน้าก็แปรเปลี่ยนไป เขารีบควักลูกกุญแจออกมาไขประตูเปิด แล้วก็ดึงตัวหลี่ถงอวิ๋นเข้าไป

หลี่ถงอวิ๋นมองชิ่งเฉินใบหน้าสับสน “พี่ชายคะ พี่เป็นไร”

เห็นแค่ว่าเขารีบร้อนปิดม่านห้องนอน จากนั้นมองไปข้างนอกผ่านรอยแยก

“ไม่เป็นไร อย่าเพิ่งพูด” ชิ่งเฉินกล่าว

ระหว่างที่พูด ข้างนอกทางเข้าตึกมีรถออฟโรดหนึ่งคันแล่นฉิวมา

ถึงกับเป็นหนึ่งคันในพวกที่เขาเคยเห็นที่สวนดอกไม้กลางอิ๋นรุ่นคืนนี้!

อีกฝ่ายคงจะได้ยินว่าที่นี่มีผู้ทะลุมิติปรากฏ ดังนั้นรีบมากันเลย

ชิ่งเฉินใจเต้นระทึก เขาคิดไม่ถึงว่าปฏิกิริยาของอีกฝ่ายจะว่องไวขนาดนี้

ตอนนี้ชายหนุ่มสองคนกระโดดลงจากรถ คนหนึ่งสวมชุดฮู้ดสีดำ คนหนึ่งสวมโค้ทสีเทา

ถึงกับเป็นสองคนนั้นที่ติดตามชิ่งเฉิน

เสียงหัวใจเต้นของชิ่งเฉินเริ่มเร่งความเร็ว เขาคิดในใจว่านี่นับว่าเป็นการพบศัตรูบนทางคับแคบหรือไม่

พริบตาถัดมา ชายหนุ่มที่สวมชุดฮู้ดสีดำมองมาทางหน้าต่างที่เขาอยู่ ชิ่งเฉินลุกขึ้นถอยหลังไปซ่อนตัวทันที

“เป็นไร” สหายของชุดฮู้ดดำถาม

ชุดฮู้ดดำยิ้มบอกว่า “ไม่มีอะไร ก็แต่ดูเล่น ๆ รู้สึกอยู่ตลอดว่ามีคนจับสังเกตผมอยู่ แต่น่าจะกังวลเกินไปแหละ ไปเถอะ ขึ้นชั้นบนไปทำงานกัน”

ชิ่งเฉินห่วงผู้หญิงชั้นบนคนนั้นอยู่บ้าง

พูดให้เป๊ะ ๆ คือเขาห่วงว่าถ้าผู้หญิงชั้นบนถูกพาตัวไป งั้นเด็กสาวหลี่ถงอวิ๋นก็จะอนาถแล้ว

พ่อถูกตีจนเข้าโรงพยาบาล แม่ยังถูกองค์กรเร้นลับพาตัวไป แล้วภายหลังจะทำยังไงล่ะ

สิบนาทีผ่านไป ยังไม่ทันที่ชิ่งเฉินจะคิดให้ดีว่าทำอย่างไรดี ชายหนุ่มสองคนนั้นกลับลงชั้นล่างมาแล้ว

เห็นแค่ว่าอีกฝ่ายขึ้นรถจากไปอย่างไม่พูดพร่ำทำเพลง แต่กลับไม่ได้พาแม่ของหลี่ถงอวิ๋นไปเลย

สถานการณ์ยังไงกันนะ? ขณะนี้ชิ่งเฉินทำความเข้าใจไม่ได้นิดหน่อยแล้ว หรือว่าอีกฝ่ายไม่ได้อยากจับผู้ทะลุมิติทุกคนเหรอ

อย่างช้า ๆ รถตำรวจก็ไปแล้ว นอกบ้านตนเองเกิดเสียงเคาะประตูดังขึ้น

ชิ่งเฉินเดินไปเปิดประตู พอดีเห็นแม่ของหลี่ถงอวิ๋นยืนอยู่นอกประตู ผมเผ้ายุ่งเหยิง มุมปากแตก บนใบหน้ายังมีคราบเลือด

ผู้หญิงก็เหมือนจะตระหนักว่าสภาพของตนเองไม่ดีอยู่บ้าง รีบสางผมยุ่ง ๆ ของตนเองไปทัดหลังหู

เธอพูดกับชิ่งเฉินเสียงเบา ๆ ว่า “ขอโทษนะที่รบกวนคุณอีกแล้ว”

…………………………………..

ตอนที่ 19 – จำกัดการเดินทาง