ยอรึมเจอจองยูนาอยู่ใกล้ ๆ กับบ่อน้ำ
จองยูนามองแซนด์วิชที่อยู่บนพื้นด้วยสีหน้าเศร้าหมอง ใบหน้าของเธอไร้สีราวกับวิญญาณของเธอหลุดออกจากร่างไปแล้ว
“ยูนา”
แม้ว่ายอรึมจะเรียกยูนาจากด้านขวา แต่ก็ไม่มีการตอบสนองเลย
มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่านะ?
ยอรึมค่อย ๆ สัมผัสไหล่ของจองยูนา
“ยูนา?”
“อ๊ะ…!”
จองยูนาตัวสะดุ้งด้วยความตกใจ
และในเวลาเดียวกัน รูม่านตาของเธอก็เริ่มกลับมา ราวกับคนเพิ่งตื่นจากการนอน
“ยูนา ก่อนหน้านี้เธอเห็นคยออุลหรือเปล่า?”
“อ่า ใช่”
เกิดอะไรขึ้นจนทำให้คยออุลเปียกและทำไมยูนาถึงได้ดูไร้ชีวิตชีวาขนาดนี้?
ก่อนที่ยอรึมจะได้ถาม จองยูนาก็เริ่มพูด
“ฉ-ฉันบังเอิญทำให้เด็กตกน้ำ…”
“อะไรนะ…?”
ตกน้ำ?
แม้ว่ายูนาจะเป็นคนที่อารมณ์รุนแรง แต่เธอก็ไม่ใช่คนประเภทที่จะปล่อยให้เด็กตกน้ำ
ในใจของยอรึมเต็มไปด้วยคำถาม แต่เธอก็เงียบไว้ และปล่อยให้ยูนาพูดต่อไป
“พวกเราบังเอิญเจอกันที่บ่อน้ำ…เด็กตกใจเมื่อเห็นฉันและตกลงไปในบ่อน้ำ…”
“อ่า…”
การเผชิญหน้ากันโดยบังเอิญที่นำไปสู่อุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด
ในสถานการณ์นี้ไม่สามารถโทษจองยูนาได้
“ฉันยื่นมือออกไปเพื่อช่วย แต่เด็กก็ไม่จับมือของฉันและปีนขึ้นมาด้วยตัวเอง”
“เธอยังคงกลัวคนอยู่”
“อืม ฉันพยายามขอโทษเธอทันที แต่เมื่อฉันเข้าไปใกล้ เด็กก็หมอบตัวลงกับพื้นและตัวสั่น แถมเธอยังปิดหูของตัวเองราวกับไม่อยากได้ยินเสียงของฉัน…”
จองยูนาเอาปัดฝุ่นออกจากแขน
ความมั่นใจตามปกติของเธอหายไปและถูกแทนที่ด้วยสีหน้าที่น่าสงสาร
‘เด็กกลัวยูนาเป็นพิเศษ’
บางทีคยออุลอาจจะกลัวหน้าตาที่ดุดันของยูนา
เฮ้อ
หลังจากถอนหายใจยาว ยอรึมก็มองไปที่เต็นท์ที่คยออุลอยู่
“ยูนา ทำไมเธอถึงไม่ลองขอโทษดูล่ะ?”
“เธอจะไม่วิ่งหนีฉันอีกเหรอ…?”
“อืม…”
เธอพูดถูก
การบังคับให้ไปขอโทษเด็กที่กำลังหวาดกลัวอยู่มันไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง
‘ฉันควรทำยังไงดี?’
ฉันควรทำยังไงให้พวกเธอทั้งสองคนพบเจอกัน?
ในขณะที่ยอรึมกำลังครุ่นคิด เธอก็สังเกตเห็นปลาซิวที่กำลังว่ายไปว่ายมาในบ่อน้ำ
“อ๊ะ ปลาไง!”
“ปลา?”
“ใช่ คยออุลชอบปลามาก ๆ เลย”
เนื่องจากเราได้ตัดสินใจที่จะนำปลาต่าง ๆ เข้ามาในบ่อน้ำ
การมอบหมายงานนี้ให้กับยูนาอาจนำไปสู่การพบปะกันของทั้งสองคน
หากเข้าหาคยออุลด้วยปลาที่คยออุลชอบ บางทีมันน่าจะช่วยบรรเทาความกลัวของคยออุลลงได้บ้าง
“เธอกำลังเสนอให้ฉันเข้าใกล้เธอด้วยสิ่งที่เธอชอบงั้นเหรอ?”
“ใช่แล้ว”
ด้วยความที่เป็นนักเวทย์ เธอจึงเข้าใจได้อย่างรวดเร็ว
ยอรึมตัดสินใจให้ข้อมูลเรื่องเอาปลาลงบ่อน้ำในวันพรุ่งนี้ให้จองยูนาฟัง
—————————————————————————
ฉันนั่งอยู่หน้ากองไฟเพื่อทำให้ผมที่เปียกอยู่แห้ง และในขณะนั้นฉลามสาวโซเฟียก็ช่วยเอาผ้าขนหนูมาเช็ดหัวฉันด้วยอีกแรง
“หูของคุณโดนน้ำแล้วหนักหรือเปล่า?”
“อืม มันหนักมากจนแทบจะยกหูไม่ขึ้นเลย”
เวลาที่ฉันโดนมนุษย์สัมผัสร่างกาย ฉันมักที่จะรู้สีกไม่เป็นมิตรและหวาดกลัวอยู่ตลอด แต่สัมผัสที่อ่อนโยนราวกับคุณยายจับ ทำให้ความรู้สึกในเชิงลบเหล่านั้นหายไป
ความรู้สึกอันสงบสุขจากการถูกมนุษย์สัมผัสเป็นประสบการณ์ที่หาได้ยากมาก ๆ สำหรับฉัน
หรือเป็นเพราะเธอไม่ใช่มนุษย์หรือเปล่านะ?
“ท่านผู้นำ! ท่านกำลังทำอะไรอยู่เหรอครับ?!”
มนุษย์กิ้งก่าเดินเข้ามาหาฉันในขณะที่ฉันกำลังผิงไฟให้ผมแห้งอยู่
การบุกรุกที่เสียงดังโหวกเหวกของเขา ครั้งหนึ่งมันเคยรบกวนฉัน แต่ตอนนี้ฉันรู้สึกชินแล้ว
“ฉันกำลังทำผมให้แห้งอยู่”
“ผม?!”
“ใช่ เมื่อกี้ฉันตกน้ำน่ะ”
“อ๊ะ!”
ตึบ ตึบ!
มนุษย์กิ้งก่าใช้หางใหญ่ ๆ ของเขาฟาดลงพื้น
การฟาดนั้นของเขาทำให้เกิดร่องลึกในหญ้าสีเขียว เผยให้เห็นดินที่อยู่ด้านล่าง
“ท่านผู้น้ำ! น้ำเข้าหูของท่านงั้นเหรอครับ?!”
“ใช่ มันเข้าไป แต่ว่า…”
ฉันกำลังจะพูดว่าฉันไม่เป็นอะไรแล้ว แต่จู่ ๆ เขาก็ยกฉันขึ้นมาจากบนพื้น
“ถ้างั้นอาร์โก้จะช่วยท่านเอามันออกมาให้เองครับ!”
มนุษย์กิ้งก่าจับฉันห้อยหัว
เขาจับข้อเท้าของฉันและแกว่งฉันไปมาในอากาศ
“เดี๋ยวก่—”
“ไม่ต้องกังวลครับ! วิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเอาน้ำออกมาจากหูของท่านครับ!”
เขย่า เขย่า เขย่า!
เขาเขย่าฉันขึ้นและลงอย่างจริงจัง
เขาเขย่าอย่างรุนแรงมากจนฉันรู้สึกว่าฉันอาจจะอาเจียนทุกสิ่งที่ฉันกินเข้าไปออกมาก็ได้
“อึ๊ย”
ในมุมมองที่ยุ่งเหยิงของฉัน ฉันเห็นโซเฟียดูไม่ทุกข์ร้อนอะไรเลย
ฉันเอื้อมมือไปหาเธอโดยสัญญาณ
“ช-ช่-ช่วยฉัน…”
“เป็นไงบ้างครับท่านผู้นำ? น้ำออกมาแล้วใช่ไหมครับ?”
“อึ๊ย…”
ฉันเวียนหัวจนคิดอะไรไม่ออกเลย
ฉันทำได้แค่จับเสื้อที่กำลังห้อยลงมาตามฉันที่กำลังห้อยหัวอยู่
หลังจากนั้นโซเฟีย ฉลามสาวก็ยกไม้เท้าของเธอขึ้น
“ไอ้เจ้าโง่”
เปรี๊ยะ!
ด้วยการฟาดเบา ๆ การเขย่าก็หยุดลง
ฉลามสาวเข้ามาขัดขวางมนุษย์กิ้งก่าที่บ้าคลั่งเพื่อช่วยฉัน
“ท่านผู้เฒ่า! ตีผมทำไมครับ?”
“ไปเขย่าเด็กแบบนั้นมันสมควรแล้วเหรอ?”
“มันก็สนุกดีไม่ใช่เหรอครับ? เด็ก ๆ ในหมู่บ้านต่างก็ชอบเล่นแบบนี้!”
“ไม่ใช่ทุกคนที่จะชอบการเล่นที่รุนแรงแบบนี้หรอก คนเรามีความชอบที่แตกต่างกันออกไป”
โซเฟียยื่นมือมาหาฉันพร้อมกับถอนหายใจ
ฉันไม่พลาดโอกาศนี้และรีบเกาะติดร่างกายของเธอโดยเร็ว
ส่งผลให้ฉันกลับหัวกลับหางในอ้อมกอดของเธอ
“อ๊ะ”
อ้อมกอดของมนุษย์
ฉันไม่ได้กอดใครมานานหลายปีแล้ว และตอนนี้ฉันกำลังกอดในท่ากลับหัวอยู่
ฉันตัวแข็งทื่อเนื่องจากร่างกายที่แนบชิดกันจนทำให้ร่างกายของโซเฟียเริ่มโยกเยกไปมา
“อึ๋ย!”
ฉันหนักเกินไปหรือว่าโซเฟียมีแรงน้อย?
เธอเริ่มเดินสะดุดแต่ก็ยังพยายามทรงตัวซึ่งดูไม่ปลอดภัยเลย
“ฉันจะลงไปเดี๋ยวนี้แหละ”
“ก-กอดฉันไว้ก่อนสักเดี๋ยวหนึ่ง…”
แขนที่สั่นเทากับท่าทางที่โซเซไปมาทำให้ฉันกลัวว่าพวกเราทั้งคู่จะล้มลง
ในขณะที่ฉันกำลังคิดว่าพวกเราทั้งคู่จะล้มลง
โซเฟียก็เริ่มล้มไปด้านหลัง
“อ๊ะ”
ดูเหมือนว่าจะหลีกเลี่ยงไม่ได้แล้ว
ฉันหลับตาลงเพื่อรอรับแรงกระแทก แต่ยอรึมที่โผล่ออกมาจากไหนก็ไม่รู้ก็มาพยุงร่างของโซเฟียเอาไว้
“พวกคุณทั้งสองทำอะไรกัน…?”
ยอรึมพลิกร่างที่ห้อยหัวอยู่ให้ตั้งตรง
ในตอนที่เท้าของฉันแตะพื้น ฉันก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกโดยไม่ได้ตั้งใจ
ฉลามสาวก็ถอนหายใจเข้าลึก ๆ และวางมือลงบนอกของตัวเอง แสดงว่าเธอเองก็โล่งอกเช่นเดียวกับฉัน
“ข-ขอบใจ ฉันมีแรงไม่เยอะแบบมาก ๆ …”
“จ๊ะ มันไม่เป็นไรหรอกนะที่จะเล่นกัน แต่อย่าเล่นอะไรที่มันอันตรายเกินไปสิ พวกเธอทั้งสองยัง…”
ยอรึมหยุดพูดกลางคันและเอามือปิดปากตัวเองเอาไว้
ประโยคนั้นทำให้ฉลามสาวขมวดคิ้วเล็กน้อย
“อย่ามาทำเหมือนกับว่าฉันเป็นเด็ก”
“ข-ขอโทษค่ะ คุณดูเด็กมากเลย”
“…การติดสินผู้อื่นจากรูปลักษณ์ภายนอกถือเป็นปัญหาเรื้อรังของพวกมนุษย์ จงไตร่ตรองกับมันด้วย”
“ค่ะ ขอโทษค่ะ”
ยอรึมก้มหัวของเธอและเดินมาหาฉัน แก้มของเธอแดงก่ำไปด้วยความเขินอาย
“ขอโทษนะที่พี่แสดงด้านหน้าอายให้เห็น”
“พูดเรื่องอะไรเหรอ?”
“ฉันทำมันอีกแล้ว ตัดสินคนอื่นจากรูปลักษณ์หน้าตา พี่ขอโทษจริง ๆ ”
“……?”
การตัดสินผู้อื่นจากรูปลักษณ์ภายนอกเป็นสัญชาตญาณตามธรรมชาติของมนุษย์อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?
ฉันเอียงหัวด้วยความงุนงง เนื่องจากฉันสับสนว่าเธอขอโทษฉันทำไม
“เฮ้อ…เมื่อไหร่ฉันจะโตขึ้นสักทีนะ?”
ยอรึมเดินย่ำเข้าไปนั่งอยู่หน้ากองไฟ
ส่วนฉันก็เลือกนั่งตรงจุดที่อยู่ห่างออกไปเล็กน้อย เพราะผมของฉันยังไม่แห้งดี
“นี่ คยออุล”
“อืม?”
“ปลาจะมาถึงในวันพรุ่งนี้ตอนเช้า ช่วยไปตรวจสอบมันให้พี่หน่อยได้ไหม?”
“มาแล้วเหรอ…?”
ฉันคิดว่ามันน่าจะใช้เวลามากกว่านี้ในการเอาปลาน้ำจืดและน้ำเค็มเข้ามา แต่นี่มันเร็วกว่าที่ฉันคิดเอาไว้
ห่างของฉันสะบัดไปมาอย่างตื่นเต้นเมื่อนึกถึงจุดตกปลาอันใหม่
“ใช่ พอดีว่าพรุ่งนี้พี่ติดธุระน่ะ คยออุลทำงานกับคนอื่นได้ใช่ไหม?”
“โอ้…”
“ถ้าคยออุลทำไม่ได้ พี่ก็จะได้ทำเองตอนพี่ว่าง”
“ม-ไม่เป็นไร ฉันทำได้…”
บ่อน้ำ มันคือแหล่งอาหารอันล้ำค่าของฉัน
เริ่มให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นได้มันจะเป็นเรื่องที่ดีกว่า
“อืม…คนที่คยออุลจะต้องทำด้วยคือ ผู้หญิงที่หน้าจะดุ ๆ หน่อย เธอเป็นผู้ใช้เวทย์มนตร์ธาตุไฟ”
หรือว่าจะเป็นผู้หญิงที่ฉันพบก่อนหน้านี้?
ผู้หญิงที่หัวเราะฉันอย่างมีความสุขในตอนที่ฉันโดนกระต่ายมีเขาไล่
คำพูดที่น่าตกใจของเธอทำให้เลือดบนใบหน้าของฉันหายไป
“ฉันหวังว่าเธอจะไม่ล้อเลียนฉัน…”
“ไม่หรอก เธอไม่ทำแน่ เธออยากขอโทษคยออุลอยู่”
“น-นั่นมันเป็นไปไม่ได้หรอก…”
ความคิดที่ว่าผู้หญิงที่ท่าทางดุร้ายคนนั้นจะมาขอโทษฉันดูยังไงมันก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
เว้นแต่ว่าโลกใบนี้จะถึงจุดจบแล้ว มันเป็นสถานการณ์ที่ไม่น่าเป็นไปได้เลย
เธอเป็นผู้หญิงอันตรายที่สามารถเผากระต่ายมีเขาให้เหลือแต่กระดูกได้ด้วยลูกบอลไฟอันช่วงโชติของเธอ
“เกินกำลังของคยออุลไหม?”
“เอ่อ…”
ฉันมองยอรึมขึ้น ๆ ลง ๆ
เธอยังคงเป็นผู้หญิงที่ฉันยังเชื่อใจเต็มร้อยไม่ได้ แต่ฉันก็เลือกตัดสินใจที่จะเชื่อเธอเพียงแค่ ‘ครึ่งเดียว’
สุดท้ายฉันก็ต้องเสี่ยงกับโอกาศความน่าจะเป็นห้าสิบต่อห้าสิบนั้น โดยอาศัยความจริงที่ว่าเสบียงอาหารของฉันกำลังตกอยู่ในความเสี่ยง
“โอเค ฉันจะลองทำดู”
“จริงเหรอ?”
“อืม”
ในขณะที่ฉันพยักหน้า ใบหน้าของหญิงสาวก็เริ่มกลับมาแดงขึ้นอีกครั้ง
“พี่จะบอกเธอไม่ให้ยุ่งกับคยออุลมากเกินไปเอง เพราะงั้นไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นมาก แต่ถ้าหากคยออุลกลัว คยออุลก็แค่ตีเธอและวิ่งหนีออกมา”
“โอเค…”
ถ้าฉันทำแบบนั้น
ฉันก็คงจบลงด้วยการถูกเธอเผาเหมือนกับกระต่ายมีเขาแน่
สิ่งที่ฉันทำได้คือการยักไหล่แบบไม่ต้องไปสนใจมัน
‘ฉันคิดว่าฉันต้องเรียนรู้ที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนเอาไว้ถ้าหากฉันอยากมีชีวิตอยู่รอดอยู่ภายในเมืองนี้”
แต่ถึงยังไง การกลัวก็เป็นสิ่งที่ฉันทำอะไรไม่ได้
ดูเหมือนว่าวันนี้จะเป็นอีกวันหนึ่งที่เต็มไปด้วยความกังวล
—————————————————————————
เย็นวันนั้น
ฉันเดินไปใกล้ ๆ บ่อน้ำพร้อมกับแก้วในมือด้วยความรู้สึกคอแห้งเพราะหิวน้ำ
‘ฉันยังไม่ได้ถามเลยว่าฉันจะไปเอาน้ำได้ที่ไหน’
ฉันควรไปเอามันจากที่ไหนล่ะ?
เมื่อไตร่ตรองเรื่องนี้ สายตาของฉันก็มองไปที่น้ำสะอาดที่อยู่ในบ่อน้ำ
ต้องขอบคุณไอเทมเลยที่ทำให้น้ำยังสะอาดอยู่และใสราวกับน้ำในลำธารที่ฉันอาศัยอยู่
‘ฉันดื่มน้ำจากในนี้ได้หรือเปล่า…?”
ฉันตักน้ำขึ้นมาด้วยแก้วอย่างระมัดระวัง
ฉันตรวจสอบน้ำด้วยสายตาที่ดีกว่าคนปกติอยู่หลายเท่า แต่ก็ไม่พบแม้แต่เศษฝุ่นในน้ำเลย
ถ้าฉันต้มมัน ฉันก็น่าจะดื่มมันได้แล้วใช่ไหม?
ดูเหมือนว่าฉันต้องถามผู้หญิงคนนั้นแล้ว
ฉันรีบวิ่งไปที่เต็นท์พร้อมกับแก้วที่อยู่ในมือท่ามกลางสายตาของผู้คนโดยรอบที่จ้องมองฉัน
—————————————————————————