บทที่2ตอนที่9

「สายไปแล้ว!มันสายไปแล้ว!!นายมันงี่เง่า!!!!!」

「ลิซ่า!」

ข้าไม่สามารถพูดอะไรได้

ความเกลียดชังเต็มไปทั่วทั้งใบหน้าของเธอ เธอจ้องมองมาที่ข้าด้วยความโกรธเกรี้ยว

เธอที่ทำลายข้าวของเสร็จก็ออกจากร้านไปทั้งๆยังงั้น เคนพยายามตามไป ขาของข้าไม่ยอมขยับได้แต่นิ่ง

「ลิซ่า…………」

ข้ารู้แล้วล่ะ ตอนนี้เธอคิดยังไงกับข้า หลังจากตอนนั้นน่าจะมีอะไรที่ทำให้ใจเธอหวั่นไหวจนเกิดผลกระทบอย่างหนักต่อจิตใจของเธอ

 …………มันยากนะ ที่จะเข้าใจมัน

เธอที่เป็นรักแรกของข้ามาตลอด ข้าที่คิดว่าในที่สุดคนที่ข้ารักก็ปรากฏตัวขึ้นมาแล้ว แต่สุดท้ายกลับจบลงเช่นนี้…………。

บรรยากาศของร้านที่ดูสนุกสนานจนถึงเมื่อกี้นี้กลับเงียบสงบลงและมีบรรยากาศอึดอัดเข้ามาแทนที่

「เอ่อ คือ คุณโนโซมุคะ…………」

ก่อนที่จะรู้ตัวอิน่าก็เข้ามาข้างๆข้าแล้ว ในมือข้างหนึ่งเธอถือออเดอร์ไว้ในมือ

「……ขอโทษนะ อิน่าจัง ที่ทำความวุ่นวายให้เธอแบบนี้」

「อะ เอ่อ คือ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ…………ไม่ตามเธอไปจะดีเหรอคะ?」

เธอจ้องมองไปทางประตูที่ลิซ่าออกไปสลับกับตัวข้า

「……………………」

ข้าส่ายหัว

ข้าไม่ใช่เคนข้าไม่มีสิทธิที่จะตามเธอไปได้อีกแล้วล่ะ

ข้าไม่สามารถที่จะก้าวก่ายกับเรื่องในชีวิตของเธอได้อีกแล้ว ในฐานะนักดาบ

ตอนนี้ข้ารู้แล้วล่ะเธอเกลียดข้ามากแค่ไหน ข้าโดนมองด้วยสายตาเหยียดหยามตลอดเวลาที่เจอกัน

การอยู่คนเดียวมันก็ดี สำหรับคนๆหนึ่งที่ต้องแบกรับความเจ็บปวดเหล่านี้ไว้

แต่ว่าคราวนี้นั้นมันต่างออกไป

ตอนที่ลิซ่าตะโกนนั่นและหันหลับกลับข้าเห็นน้ำตาหลายหยดออกมาจากดวงตาของเธอ

ข้าที่เห็นเช่นนั้น ก็ทำอะไรไม่ถูกแล้ว

ข้ารู้ดีว่าการที่ไม่ตามเธอไปคือ “การหนีความจริง” แต่ถึงยังงั้นข้าที่เห็นท่าทางเธอเช่นนั้น ขาของข้ามันไม่ยอมขยับเลยแม้แต่น้อย

สุดท้ายแล้วข้าก็ไม่สามารถไล่ตามเธอไปได้

「…………วันนี้ขอตัวกลับก่อนนะครับ ส่วนนี่เงินค่าอาหารครับ」

「เอะ คุณโนโซมุ!?」

 

ข้าจ่ายเงินทิ้งไว้บนโต๊ะและออกจากร้านมา ดูเหมือนว่าอิน่าพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ว่าข้าไม่ได้ยินและไม่ได้สังเกตเห็นเลยว่ามีน้ำตาไหลอยู่บนใบหน้าของเธอ

◇◆◇

「ฮะฮะฮะฮะฮะฮะฮะฮะฮะฮะ……」

 

ตัวฉันไม่ได้มองหลังกลับไป เพียงแค่ผ่านเมืองนี้ไปท่ามกลางค่ำคืน

อารมณ์ต่างๆหมุนวนอยู่ภายในอกคู่นี้ ตัวฉันที่กำลังบ้าคลั่งจนหัวเราะออกมาไม่เหมือนกับคนปกติ ฉันไม่รู้จะทำยังไงได้แต่วิ่งหนีต่อไปอย่างไร้จุดหมาย

 

ไม่รู้แล้วว่าตัวเองวิ่งหนีมานานแค่ไหนและเมื่อมาถึงป่าด้านนอกฉันก็หยุดวิ่ง

ลมหายใจขาดช่วงและไหล่ที่สั่นอย่างรุนแรง

 

「แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก…………ฟู่……」

 

ตัวฉันที่รู้สึกว่าขยับขาไม่ไหวอีกต่อไปพอรู้ตัวว่าออกมานอกเมืองแล้วน้ำตามันก็เริ่มที่จะไหลออกมา ฉันก็แค่อยากจะรู้ว่าทำไมถึงได้ทิ้งกัน เธอกลับไม่ตอบและเอาแต่ร้องไห้ใส่ข้า

 

「ฮึกฮึกฮึก……ฮึก……」

 

ข้าจำได้ว่าตอนนั้นข้าเองที่โดนหักอก

ปีที่แล้วข้ายังคบกับเธออยู่เลยและดันมีข่าวลือแปลกๆบ้าๆนั่น

ตัวฉันไม่เชื่อแบบนั้นอย่างแน่นอน

เขาบอกว่าตัวเขาไม่ได้เป็นคนนอกใจ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะควบคุมตัวเองไม่ได้

เคนบอกฉันว่าเขาคบหาและเดินกับผู้หญิงมากหน้าหลายตา

แม้ว่าฉันพยายามคิดอย่างจริงจังว่าไม่น่าจะใช่เช่นนั้น แต่ฉันที่ออกไปในเมืองยามค่ำคืนก็พบกับเขาอยู่กับหญิงที่ไหนก็ไม่รู้

โนโซมุเดินอยู่กับหญิงแปลกหน้านั่นอย่างมีความสุข

ในที่สุดทั้งสองก็ค่อยๆจูบกัน ฉันที่ไม่สามารถทนดูภาพนั่นได้ก็ได้แต่วิ่งหนีออกมา

 

 

「ฮึก……ฮืออออออ……」

 

「……ลิซ่า」

 

เคนปรากฏขึ้นทางด้านหลัง

เขาตามฉันมาตลอดเวลา

 

「……ลิซ่า」

 

「เอาล่ะ?」

 

เคนพยายามปลอบใจฉันและพูดคุยกับฉันเรื่อยมา ความเมตตานั่นทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่นหัวใจ แต่น้ำตาที่ไหลอาบแก้มนั่นไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงเลย

 

「ฮึกฮึกฮืออ…………ขอโทษนะเคน………ฉันที่งอแงแบบนี้………ขอโทษนะสำหรับวันนี้……แต่ฉันทนไม่ไหวแล้วล่ะ………การที่ได้ยินหมอนั่นพูดแบบนั้น……」

 

「ลิซ่า ไม่เป็นไรนะ ทุกอย่างจะดีขึ้นเอง」

 

เคนกอดฉันที่กำลังร้องไห้

ตัวฉันที่เอาแต่ร้องไห้ก็เอาแต่ขอโทษเคน

มีเพียงแต่แมลงตัวน้อยในฤดูใบไม้ผลิที่จับจ้องเราทั้งสอง

◇◆◇

โนโซมุกำลังเดินไปทั่วทั้งเมือง ด้วยฝีเท้าที่ไม่มั่นคงและท่าทางที่จะล้มซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ท่าทางของลิซ่ายังทำให้โนโซมุสับสน

 

(ท้ายที่สุดแล้ว ข้ามันก็…………)

 

ลิซ่าที่ทนไม่ไหวก็ระเบิดอารมณ์ของเธอออกมา เธอร้องไห้ออกมา ถ้าเป็นตามปกติข้าก็ควรจะตามเธอไป

แต่โนโซมุก็ไม่ได้ตามไป ความจริงที่ว่าเขาต้องทุกข์ทรมานเพราะเธอยังคงอยู่ นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ตัวเขายังคงหนีจากความจริงต่อไปและมันก็กลายเป็นปัญหาคาใจอันแสนหนักหน่วง

 

「……ฮะฮะ ก็เหมาะแล้วสำหรับคนอย่างข้าที่เอาแต่หนี……」

 

เสียงของตัวเองที่กำลังสั่นเทา ใบหน้าของเธอตอนที่เธอวิ่งออกไปนั่น ในท้ายที่สุดแล้วข้าก็ทำให้เธอต้องเจ็บปวด และเธอก็ยังคงทำให้ข้าเจ็บเช่นกัน

หัวของข้ามันสับสนไปหมด โนโซมุไม่รู้จะทำอะไรอีกต่อไป

ยังไงก็ตามไม่มีที่ยืนสำหรับเขาข้างๆเธออีกต่อไปแล้ว โนโซมุยืนยันเช่นนั้น

◇◆◇

「โน~~โซ~~มุ~~คุ~~ง」

 

โนโซมุที่จมอยู่ในห้องแห่งความคิดก็โดนเรียกและโดนกอดจากด้านหลัง

 

「เอะ!อาจารย์อันริ?!ทำอะไรกันครับเนี่ย!」

 

「ทำอะไรงั้นเหรออ~~~。ก็ให้กำลังใจไงล่ะด้วยการใช้หน้าอกคู่นี้ไงล่ะ~~~」

 

「เดี๋ยวเลยนะหล่อน…………」

 

เป็นอาจารย์อันริที่เข้ามากอดข้า

ใบหน้าของเธอนั้นแดงแจ๋รอบตัวก็มีกลิ่นเหล้าเต็มไปหมดเธอคงดื่มมาหนักมาก

 

「นะเน่อาจารย์ดื่มมากเกินไปแล้วนะครับ?อาจารย์……」

 

「แน่~~นอน。ฉ้านโตแล่วน้าาา~~、จาดื่มมากแค่หนายยก็ด้าย~~~」

 

จากที่กล่าวไปตามเมื่อกี้นั่นละอันริดันหน้าอกอันแสนอุดมสมบูรณ์กดทับที่หลังของข้าและเธอก็กอดไม่ปล่อยเลย

 

「เอ่อผู้ใหญ่ที่ไหนกันเข้ามากอดนักเรียนจากด้านหลังแบบนี้……」

 

มันมีแค่ในนิยายไม่ใช่รึไงการที่ผู้ชายแบกผู้หญิงไว้บนหลังและให้หน้าอกกดทับตัวเองน่ะ แต่สำหรับโนโซมุในตอนนี้ไม่มีกำลังใจจะทำอะไรบ้าๆแบบนั้นหรอกนะ

 

 

「เอะ~~~。ทำไมโนโซมุคุงชอบทำเหมือนอาจารย์เป็นเด็กล่ะ?~~~~」

 

เธอทำแก้มป่องประท้วงราวกับเด็ก เป็นคนที่โตแต่ตัวจริงๆ

 

(เฮ้อ ยังไงเธอก็ไม่คิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเลยสินะเนี่ย…………)

 

เมื่อนึกถึงความสัมพันธ์ระหว่างข้ากับลิซ่าที่เปลี่ยนแปลงแล้ว แต่ตอนนี้ “ความแน่นอน”ของอันริยังคงเส้นคงวาเหมือนเดิม เห็นเช่นนั้นโนโซมุก็ยิ้มเล็กน้อย

 

「…………อืม!รู้สึกดีขึ้นบ้างยาง?」

 

「……เอะ?」

 

「ยังไงก็เถอะน้าาาา~~、โนโซมุเดินไปเลยน้าม่ายต้องห่วงเค้าหรอก~~~เค้าสบายดีนะจะบอกห้าย!」

 

「…………นี่เข้าใจบ้างไหมครับเนี่ย?」

 

「อุมุ!」

 

ถึงยังงั้นเองเธอก็ยังรู้ได้อีกว่าโนโซมุท่าทางแปลกๆ อืมมันก็แปลกจริงๆนั่นละที่เห็นนักเรียนมาเดินในเวลาแบบนี้ แต่ว่าตัวเธอเองก็แปลก

 

「……อาจารย์อันริ คือว่าข้า…………」

 

「จ๋าาาา。」

 

「………………เอ่อ ไม่มีอะไรครับ……」

 

ข้าพยายามจะบอกเรื่องราวแต่ว่าเขารู้สึกอึดอัดจนไม่ได้พูด

 

「…………ง้านเหรอ!」

 

แต่ดูเหมือนเธอจะไม่ได้ยินอะไรแล้วนะ

 โนโซมุเองก็สงสัยเล็กน้อยกับท่าทีของเธอ ตัวเธอที่ถามเขานักหนานั้นในตอนที่จบศึกระหว่างชิโนะนั่น…………。

 

「…………ไม่มีอะไรอยากจะถามข้างั้นเหรอ?」

 

「อื~~มมมม เอาจริงก็อยากจะถามแหละน้า~~~。โนโซมุคุงน่ะ กำลังทรมานอยู่สินะ?」

 

「……ครับ」

 

「ฉันคิดว่างี้น้ามันจะดีกว่าถ้าได้คุยกัน…………แต่สำหรับโนโซมุในตอนนี้คงยังไม่พร้อมหรอกเนอะ?」

 

「…………ครับ」

 

อย่างที่เธอพูดเลยโนโซมุไม่รู้จะพูดยังไงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

 

ในความเป็นจริงคนเราจะต้องมีความกล้าอันมากมายในการจะเล่าเรื่องต่างๆให้คนอื่นได้ฟัง โดยเฉพาะเรื่องที่เป็นปัญหากวนใจข้าแบบนี้

นอกจากนี้ตัวข้ายังต้องใช้ความกล้าที่จะเผชิญหน้ากับอดีต เกี่ยวกับความผิดบาปที่ตัวเองได้ก่อเอาไว้สำหรับคนๆนั้น

การตัดสินใจของโนโซมุที่ว่า “เขาเผชิญหน้ากับความจริงที่ว่าเขาหนีความจริงอยู่” เขากำลังเผชิญหน้ากับสิ่งที่เขาไม่รู้นั่นเอง

กล่าวอีกนัยหนึ่งการเผชิญหน้ากับความทุกข์ภายในใจทำให้ตัวเขาเองกลายเป็นคนหนีความจริงโดยไม่รู้ตัวนั่นล่ะ

 

โนโซมุที่ถูกบังคับให้แบกรับภาระทางจิตใจอย่างหนักหน่วงเนื่องจากเหตุการณ์ทั้งสองที่ซ้อนทับกัน

ก็อย่างที่เห็น

 

 

「ดังนั้นสำหรับตอนนี้อะน้าไม่ต้องฝืนก็ได้นะ ครั้งก่อนโนโซมุเองก็เจอมาหนักเหมือนกันใช่ไหมล่ะ ฉันจะรอจนกว่าโนโซมุจะพร้อมนะ!」

 

「…………ครับ」

 

นั่นเป็นเหตุผลที่โนโซมุรู้สึกมีความสุขมากๆเพราะเธอเข้าใจในตัวเขา

◇◆◇

「สวัสดียามดึกนะโนโซมุดูเหมือนว่าอันริจะสร้างปัญหาให้เธออีกแล้วสินะ」

 

「สร้างปัญหาอะไรเล่า~~~~!ฉ้านไม่ได้ทำแบบนั้นสากหน่อย~~~」

 

ซักพักเองนอร์นก็มา ดูเหมือนว่าเธอจะมาดื่มกับเพื่อนสนิทของเธอ

 

「เอ่อเธอไม่ได้รบกวนข้าหรอก เราก็แค่คุยกันนิดหน่อย」

 

โนโซมุพูดเช่นนั้นพร้อมรอยยิ้ม สีหน้าแม้จะอึดอัดเล็กน้อย แต่ก็ดีขึ้นกว่าเดิมมาก

 

「…………ฟุฟุ นั่นสินะ」

 

「อื้อ ก็แบบนั้นล่ะน้า」

 

นอร์นยิ้มให้กับโนโซมุ นี่ใครเป็นผู้ใหญ่กันแน่เนี่ยระหว่างโนโซมุกับอันริ

 

「เน่~~~~~~~~」

 

ใบหน้าที่ดูนุ่มฟูนั่นเหมือนเด็ก ดูน่ารักมาก

โนโซมุและนอร์นต่างหัวเราะคิกคักกับท่าทางของอันริ อันริเองก็เริ่มจะอาละวาดอยู่บนหลังของโนโซมุ ท่าทางที่เหมือนกับเด็กนั่นทำให้โนโซมุหัวเราะออกมา

 

「เน่~~~! ทั้งสองคนหัวเราะฉันอ่าาาาาาาา~~~~!」

 

「ขะ ขอโทษครับ……」

 

「หุหุหุหุขอโทษนะอันริแต่ตอนนี้เธอดูน่ารักมากเลยล่ะ………..ฟุฟุฟุฟุ」

 

「โม่ว โม่ว โม่ว!!ทั้งสองคนแย่มั่ก~~~~~~」

 

ในขณะที่พูดคุยกันเช่นนั้นทั้งสามคนก็เดินไปในเมืองยามค่ำคืน

 

「เอ่อ อันริแล้วทำไมเธอไม่ลงจากหลังโนโซมุแล้วมาเดินเองล่ะ?」

 

「เอ๋~~~~~~」

 

(เอ่อ นั่นสินะข้ายังแบกเธออยู่นี่หว่า)

 

การได้คุยกับอันริทำให้ข้ารู้สึกมีความสุขเล็กน้อยดังนั้นเลยนึกสถานการณ์ปัจจุบันออกแล้วล่ะ

 

(นอกจากนี้ แย่ล่ะ หน้าอกของอาจารย์อันริมัน……)

 

ตอนนี้เองโนโซมุตระหนักได้หน้าอกอันอุดมสมบูรณ์ของอันริกำลังกดทับหลังเขาอยู่ ทำให้ใบหน้าของเขาแดงแจ๋

 

 

การสนทนาระหว่างนอร์นกับอันริยังคงดำเนินต่อไป เมื่อมองไปทางด้านหลังอันริมีท่าทางงอแงไม่ยอมลงจากหลัง นอร์นเองก็ดูท่าทางสนุกกับการที่เห็นอันริโดนแบกอยู่

อันริส่งเสียงด้วยท่าทางไม่พอใจ แต่นอร์นเองก็รีบบอกให้เธอลงจากหลังโนโซมุได้แล้ว

สัมผัสนุ่มๆที่หลังนั่นหายไปและโนโซมุก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย…………。

 

「เอ๋ โนโซมุยังอยากจะอุ้มอันริต่องั้นเหรอ?」

 

「มะ ไม่ใช่แบบนั้นนะครับ」

 

นอร์นที่เห็นท่าทางของโนโซมุก็รีบจี้จุดทันที โนโซมุตอบคำถามของนอร์นด้วยความลังเล นอร์นพยายามหยอกล้อกับเขาขณะมองโนโซมุพร้อมกับรอยยิ้มชั่วร้าย

 

 

「???」

 

อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าอันริไม่รู้ตัวอีกแล้วว่าตัวเองทำอะไรลงไป

 

「ยังไงซะการแกล้งโนโซมุนี่สนุกจริงๆ「เดี๋ยวเถอะครับ!!」แต่ว่าวันนี้มันดึกมากแล้วนะ」

 

「นั่นสิน้า~。พรุ่งนี้ก็มีสอนด้วยนี่น่า~~~。โนโซมุเองก็ต้องไปเรียนด้วยน้า~~~」

 

「ถ้างั้นกลับบ้านดีๆนะครับอย่าลืมพักผ่อนเยอะๆนะครับ」

 

「จ้าาาา~~。ราตรีสวัสดิ์น้า」

 

โนโซมุบอกลากับทั้งสองคนและกลับหอพัก การเดินที่เซและหนักหน่วยก่อนหน้านี้หายไปแล้ว

◇◆◇

วันรุ่งขึ้นโนโซมุเองก็ฝึกดาบอย่ที่สนามของหอพักแต่เช้าตรู่

นี่ไม่ใช่กฏเหล็ก แต่เป็นการตั้งสมาธิเพื่อคุยกับตัวเอง

โนโซมุในตอนนี้อยากจะจมปลักอยู่ในโลกส่วนตัวของตัวเองนึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมา

 

สิ่งที่ได้เรียนรู้ก็คือเมื่อวานข้าได้ทำร้ายลิซ่าอีกแล้ว ในท้ายที่สุดข้าก็ไม่รู้ว่าไปทำอะไรให้เธอมันทำให้เขาเจ็บปวดใจอย่างมาก

การกระทำของข้ามันไปทำร้ายลิซ่า

และตัวข้าที่วิ่งหนีความจริงก็ยังไม่สามารถก้าวเดินต่อไปได้

แม้ว่าจะยอมรับว่าตัวเองกำลังหนี แต่ก็ไม่มีอะไรที่จะเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ปัจจุบัน

 

「นอกจากนี้ยังมีปัญหาอีก………………」

 

โซ่ที่พันธนาการรอบตัวเขา ยามใดที่เขาตั้งสมาธิมั่นจะสามารถมองเห็นมันได้ พลังของมังกรเทียแมทที่ยังคงสถิตย์อยู่ในร่างของข้า หากมันตื่นขึ้นมาอาจจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้

 

บอกตามตรงมันเป็นปัญหาเกินกว่าที่โนโซมุคนเดียวจะแก้ไขได้

แต่ข้าก็ไม่สามารถแม้แต่จะพูดคุยกับใคร เพราะเขามีเพื่อนน้อยมาก

 

นอกจากนี้โนโซมุยังกังวลเรื่องที่จะถูกพวกเขาบอกว่าเป็นเรื่องโกหก “จะทำยังไงถ้าถูกปฏิเสธ” ทำให้โนโซมุไม่ยอมเปิดเผยตัวเอง

 

ท้ายที่สุดแม้ว่าข้าจะเหวี่ยงดาบไปมากมายแค่ไหน ก็ไม่มีคำตอบอะไรเข้ามาในหัวและปล่อยเวลาให้ผ่านไป……。