บทที่ 19 น้าหวังมาแล้ว

บทที่ 19 น้าหวังมาแล้ว

[หนูขนทอง : เลเวล 5 อาศัยอยู่ในเหมือง ชอบร่มเงา ชอบกินแร่เป็นอาหาร มีความว่องไวสูง การป้องกันอ่อนแอ ไม่มีทักษะ]

หนูตัวใหญ่ปรากฏขึ้นในขอบเขตการมองเห็นของอู๋ฝาน ขนของพวกมันเป็นสีทอง ท้องกลม แก้มยาวและตอบ ดวงตาทั้งสองจ้องมองมายังอู๋ฝานเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ

“หรือว่านี่จะเป็นมอนสเตอร์ที่บุกรุกเหมือง? มันกินแร่เป็นอาหาร เมื่อเวลาผ่านไป เหมืองแห่งนี้อาจถูกพวกมันกินแร่จนหมด” อู๋ฝานมองดูข้อมูลของหนูขนทองขณะพึมพำกับตัวเอง

เมื่อเห็นว่าอู๋ฝานกำลังขุดแย่งอาหารของมัน หนูขนทองก็เดือดดาลและพุ่งตัวเข้าหาอู๋ฝานทันที

อู๋ฝานระแวดระวังตัวอยู่ก่อนแล้ว พลั่วขุดแร่ในมือถูกแทนที่ด้วยพลั่วขุดสมุนไพร เมื่อหนูขนทองพุ่งตัวมาข้างหน้า เขาพลันเหวี่ยงพลั่วในมือออกไปเพื่อตีหนูขนทองอย่างชำนาญ

แต่การเคลื่อนไหวของหนูขนทองนั้นว่องไวกว่าจิ้งจอกอสูรที่เคยพบ ด้วยร่างกายที่สั้น มันหลบการโจมตีของพลั่วขุดสมุนไพรอย่างรวดเร็ว ก่อนจะกระแทกตัวเข้าใส่อู๋ฝานจนเขาล้มลงพื้นทันที

หนูขนทองไม่หยุดการโจมตีเพียงเท่านี้ มันกระโดดไปทางอู๋ฝาน ครั้งลอยตัวอยู่กลางอากาศ อุ้งเท้าหน้าทั้งสองก็แบออก เผยกรงเล็บแหลมคมฉายแสงเย็นเยือกที่ทำให้ผู้คนต้องหวาดผวา

อู๋ฝานไม่มีเวลาเพียงพอที่จะหลบ เขาจึงต้องยกพลั่วขึ้นขวางด้านหน้าเพื่อปิดกั้นการโจมตี จากนั้นเขายกเท้าขึ้นถีบท้องของหนูขนทอง กระทั่งมันกระเด็นลอยออกไป

คนล้มต้องรีบซ้ำ!

อู๋ฝานลุกขึ้นและพุ่งตรงเข้าหาหนูขนทอง แม้ว่าหนูขนทองจะถูกอู๋ฝานถีบลำตัวโดยตรง แต่มันก็ไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังกลิ้งไปกับพื้นราวสองตลบ มันลุกขึ้นอีกครั้งและพุ่งเข้าหาอู๋ฝานอย่างรวดเร็ว

เมื่อทั้งสองฝ่ายเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ อู๋ฝานเหวี่ยงพลั่วขุดสมุนไพรออกไปอีกครั้ง หนูขนทองตัวนี้ฉลาดมากและทำท่าหลบหลีก แต่ขณะเดียวกันรอยยิ้มเย้ยหยันปรากฏขึ้นที่มุมปากอู๋ฝาน ท่าทางการโจมตีของเขาเป็นแค่การแกล้งทำเท่านั้น เพื่อรอให้อีกฝ่ายหลบหลีกตามแผน

หลังหนูขนทองเพิ่งจะเคลื่อนไหวเพื่อหลบเลี่ยงการโจมตี ทันใดนั้นพลั่วขุดสมุนไพรในมืออู๋ฝานก็เปลี่ยนทิศทางตามร่างของหนูขนทองไปติด ๆ

สถานะความว่องไวของอู๋ฝานอยู่ที่ 2 พลั่วขุดสมุนไพร 1 และอีก 2 แต้มสำหรับรองเท้าเมฆา รวมเป็น 5 แต้ม ทำให้การเคลื่อนไหวร่างกายของเขาไม่ได้ช้าไปกว่าหนูขนทองเลย

“เปรี้ยง!” พลั่วขุดสมุนไพรของอู๋ฝานกระแทกลงที่หัวหนูขนทองอย่างเต็มแรง มันไม่สามารถหลบการโจมตีครั้งนี้ ทำให้ถูกอู๋ฝานตีจนกระเด็นออกไป

ด้วยนิสัยที่ดุร้ายโดยสัญชาตญาณ แม้ว่าจะได้รับบาดเจ็บจนมีแผลขนาดใหญ่บนหัว แต่มันไม่ได้เลือกที่จะหลบหนีแต่อย่างใด กลับพุ่งตัวเข้าหาอู๋ฝานอีกครั้ง

“แน่นอนว่ามันเป็นสัตว์ที่ติดเชื้อจากพลังเวทมนตร์ ก็เลยสูญเสียจิตสำนึกไปแล้ว”

เมื่อเห็นว่าสถานการณ์เป็นเช่นนี้ อู๋ฝานจึงไม่หุนหันโจมตี จากนั้นเขาก็สามารถโจมตีหนูขนทองเป็นครั้งที่สอง หนูขนทองที่ได้รับบาดเจ็บเคลื่อนไหวเชื่องช้ากว่าเดิม ทำให้อู๋ฝานจัดการอีกฝ่ายง่ายขึ้น

หนูขนทองถูกอู๋ฝานโจมตีเป็นครั้งที่สอง ซึ่งครั้งนี้อาการบาดเจ็บรุนแรงกว่ามาก ก่อนที่มันจะล้มลงด้วยความเจ็บปวด อู๋ฝานรีบวิ่งไปด้านหน้าและใช้พลั่วตีอีกฝ่ายจนตาย

อู๋ฝานมองร่างของหนูขนทองด้วยความหวัง แต่ในที่สุดร่างของมันก็สลายหายไปโดยไม่ทิ้งสิ่งใดไว้เบื้องหลัง ขณะเดียวกันสีหน้าอู๋ฝานก็กลายเป็นผิดหวังเช่นกัน

ไม่มีศพเหลือ ก็ทำเงินไม่ได้

นอกเหนือจากการได้รับประสบการณ์ในการต่อสู้ ก็แทบไม่มีประโยชน์อื่นใดอีกเลย

หลังจากขจัดอารมณ์ที่ขุ่นมัวแล้ว อู๋ฝานก็เริ่มขุดแร่ต่อไป

เนื่องจากที่นี่ไม่ใช่เหมืองที่อุดมสมบูรณ์ มันถูกขุดแร่มานานหลายปี ปริมาณแร่จึงเหลือน้อย ด้วยความเร็วในการขุดแร่ของอู๋ฝานที่ไม่เร็วนัก จนท้ายที่สุดเวลาของที่นี่ก็หมดลง แต่เขายังไม่สามารถขุดหาแร่ปริมาณเพียงพอที่ช่างตีเหล็กซุนต้องการ

“ดูเหมือนว่าคงต้องมาทำภารกิจต่อในวันพรุ่งนี้เท่านั้น” อู๋ฝานมองเข้าไปด้านในเหมืองและพูดขึ้น

เมื่อกลับมาสู่โลกความจริง มันเป็นเวลาเกือบรุ่งสางแล้ว อู๋ฝานไม่มีความตื่นเต้นเหมือนครั้งก่อน ๆ อีกต่อไป เขาจึงเอนกายนอนลงบนเตียงและหลับไปอย่างรวดเร็ว

จากนั้นอู๋ฝานก็ถูกปลุกด้วยเสียงตะโกนราวกับระเบิด

“ป้าสาม ทำแบบนี้ได้ยังไง? ป้าปล่อยให้หนูอยู่กับผู้ชายแปลกหน้าตามลำพังได้ยังไง?” นี่คือเสียงของเยี่ยเฟยเฟย

“อู๋ฝานไม่ใช่คนเลว อยู่กับเขาไม่มีอันตรายอะไรเกิดขึ้นหรอก” และนี่ก็คือเสียงเจ้าของบ้านเช่าของอู๋ฝาน ป้าสามของเยี่ยเฟยเฟย

“ไม่เป็นไรได้ยังไง ถ้าคนอื่นรู้ว่าหนูอยู่กับผู้ชาย พวกเขาจะคิดว่าหนูเป็นคนยังไง?” เยี่ยเฟยเฟยเถียงกลับ

“แล้วมันยังไง? ทุกวันนี้มีนักศึกษาออกมาอยู่ด้วยกันมากขึ้น นี่ถือเป็นเรื่องปกติ” น้าหวังพูดอย่างเฉยเมย

“แต่ว่าเขากับหนูไม่ได้เป็นอะไรกัน มันจะเป็นเรื่องปกติไปได้ยังไง?” เยี่ยเฟยเฟยพูด “แล้วถ้ามีคนเข้าใจหนูผิดล่ะ? หนูจะไปคบกับใครเขาได้อีก?”

“เฟยเฟยโตแล้ว และก็อยากเริ่มคบหาคนอื่นแล้วสินะ” น้าหวังพูดด้วยรอยยิ้ม

“ป้าสาม… หนูไม่ได้หมายความอย่างนั้น ยังไงซะหนูอยากให้เขาย้ายออกไป หนูไม่อยากอยู่กับผู้ชายแปลกหน้า” เยี่ยเฟยเฟยพูดด้วยความเขินอาย

“ทำไมต้องอายด้วยล่ะ หลานเองก็โตมากพอแล้ว เป็นธรรมดาที่จะมีแฟน” น้าหวังพูด “ป้าคิดว่าอู๋ฝานเป็นคนดีนะ ทำไมหลานไม่ลองดูใจกับเขาดูล่ะ?”

“ป้าสาม! ยิ่งป้าพูดก็ยิ่งน่าโมโห! หนูบอกแล้วว่าหนูไม่รู้จักเขาดี!” เยี่ยเฟยเฟยตะโกน

“ก็ลองพูดคุยกันให้มากขึ้นสิ หลานจะได้คุ้นเคยกับเขามากขึ้นไงล่ะ? ป้ายืนยันเลยว่าอู๋ฝานเป็นเด็กหนุ่มที่ดีมาก เชื่อสายตาของป้าสามสิ ป้าไม่มีวันมองผิดแน่นอน” น้าหวังยิ้มกล่าว

“หนูไม่ต้องการ!” เยี่ยเฟยเฟยพูด “ถ้าเขาไม่ย้ายออกไป หนูจะไปอยู่หอพักของมหาวิทยาลัย”

“เรื่องนั้นพ่อแม่ของหลานคงไม่เห็นด้วย” น้าหวังพูด

อู๋ฝานอยู่ในห้องและรู้สึกอายที่ได้ยินแบบนั้น เขาเข้าใจความกังวลของเยี่ยเฟยเฟย แต่ไม่คาดคิดมาก่อนว่าน้าหวังจะมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับตัวเขาขนาดนี้ แล้วยังต้องการจับคู่เขากับเยี่ยเฟยเฟยอีก

เยี่ยเฟยเฟยพยายามอย่างหนักเพื่อให้ได้มาอยู่ที่นี่ แต่น้าหวังไม่ยอมปล่อยให้เธอทำตามอำเภอใจ ซึ่งเธอทำอะไรไม่ได้ เนื่องจากตอนที่ออกจากบ้านมา เธอสัญญากับพ่อแม่ว่าจะอาศัยอยู่กับน้าหวัง ตอนนี้เธอจึงไม่มีทางเลือกอื่น

อู๋ฝานแอบฟังอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็เปิดประตูเดินออกไป

“เสี่ยวฝานตื่นแล้วเหรอ? ฉันปลุกเธอหรือเปล่า?” น้าหวังหันมองอู๋ฝานด้วยรอยยิ้มแสนอบอุ่นบนใบหน้า

น้าหวังรู้ว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้อู๋ฝานเริ่มทำธุรกิจบาร์บีคิวและนอนดึกทุกวัน การตื่นสายเช่นนี้จึงเป็นเรื่องปกติ

แต่เยี่ยเฟยเฟยมองไปยังอู๋ฝานพร้อมตะคอกอย่างเย็นชา ก่อนจะเบือนหน้าไปทางอื่น

เมื่อวานนี้เกิดเรื่องที่ทำให้เธอประทับใจในตัวอู๋ฝาน แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเธอต้องการอาศัยอยู่ใต้ชายคาเดียวกันกับชายหนุ่ม บวกกับที่เธอเพิ่งเถียงป้าสามแพ้ นั่นทำให้เยี่ยเฟยเฟยรู้สึกขุ่นเคืองเมื่อเห็นอู๋ฝาน

อู๋ฝานไม่ได้สนใจท่าทีของเยี่ยเฟยเฟย แต่หันไปตอบน้าหวังด้วยรอยยิ้ม “ไม่ครับ ปกติผมตื่นเวลานี้อยู่แล้ว”

“อรุณสวัสดิ์จ้ะ” น้าหวังยิ้มกล่าว “เธอตื่นได้ทันเวลาพอดี ฉันมีเรื่องขอร้องให้เธอช่วยหน่อยน่ะ”