หลังจากซื้อเสื้อผ้าเสร็จ พวกเราก็คุยกับเคนจังอีกนิดหน่อยก่อนจะออกมาจากร้าน
“ไว้มากันใหม่น้า!”
เคนจังออกจากร้านมาโบกมือลา พวกเราก็โบกมือตอบ
“เขาเป็นคนตลกจังนะ”
“ใช่มั้ยล่ะ? ฉันได้เขาช่วยไว้หลายอย่างเลยล่ะ”
ดูเหมือนว่าเคนจังจะเคยทำชุดคอสตูมให้กับวง Angel Girls ทำให้ซาเองุสะซังและเคนจังกลายเป็นเพื่อนกัน
“เริ่มจะหิวแล้วสิ ไปหาอะไรกินกันมั้ย?”
“ได้ครับ แต่ว่าเราจะไปไหนกันดีล่ะครับ?”
“แถวนี้มีร้านอร่อยๆอยู่ พวกเราไปกันเถอะ”
ผมรู้สึกดีนะที่ได้เห็นซาเองุสะซังกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มแบบนั้น
ตอนแรกๆผมก็ยังวลอยู่หน่อยๆว่าผมจะทำได้ดรรึเป่า แต่ได้เห็นเธอเป็นแบบผมก็โล่งอก
เพราะงั้นความคิดที่ว่า “เป็นผมจะดีเหรอ” ก็ไม่มีออกต่อไป
ขณะที่ผมกำลังคิดอยู่ผมก็ยิ้มออกมาและกล่าวว่า “งั้นไปที่นั่นกันเถอะครับ!”
เอาล่ะไปสนุกกับวันนี้กันดีกว่าพวกเรา
ถ้าผมจะทำให้คนอื่นมีความสุขล่ะก็ผมจะต้องทำตัวเองให้มีความสุขซะก่อนสิ
ซาเองุสะซังพาผมมาที่ร้านอาหารอิตาเลียนใกล้ๆกับร้านของเคนจัง
ดูเหมือนจะเป็นร้านขื่อดังของเหล่าสาวๆนะ เพราะเธอนั่งอยู่เต็มหน้าร้านเลย
จากนั้นเราก็เดินไปที่ร้านนั้น
“ตอนฉันมากับทุกคนที่นี่ มันสุดยอดมากเลยล่ะ”
“งั้นเหรอครับ”
เธอคงหมายถึงสมาชิกวงคนอื่นๆสินะ
ที่นี่เป็นเมืองใหญ่เพราะงั้นต่อให้เป็นร้านธรรมดาๆก็มักจะมือคนดังมานั่งกินอยู่เป็นประจำ
ผมสงสัยจริงๆว่าคนอื่นๆไม่สังเกตเห็นบ้างเลยเหรอ? แต่พอผมกันไปมองรอบๆร้านที่เต็มไปด้วยวันรุ่นหนุ่มสาวเต็มไปหมด ผมจึงมองไม่เห็นคนดังที่พยายามหาอยู่เลย
นอกจากนี้ชิโอรินยังอยู่ตรงหน้าผมด้วยแต่ว่าไม่มีใครรู้สึกตัวเลย สำหรับที่นี่คงเป็นเรื่องที่ปกติสินะ
ชิโอรินหรือซาเองุสะซังกำลังอ่านเมนูอย่างมีความสุข
“นายจะทานอะไรงั้นเหรออิจิโจคุง?”
“หืม? ผมน่าจะทาน Bongo Bianco น่ะครับ ผมว่ามันน่าจะอร่อย”
“งั้นของฉันก็คงเป็น……Pescatore ละกัน!”
หลังจากเลือกเมนูได้แล้วพวกเราก็เรียกพนักงานให้มารับออเดอร์
วันนี้เป็นวันที่อากาศดีมากๆ ขนาดตอนมองขึ้นไปบนฟ้ายังไม่เห็นเมฆสักก้อนเลย
“ขอบคุณมากที่วันนี้มาด้วยกันนะ”
“ผมก็เหมือนกันครับได้มาซื้อของกับคุณแบบนี้มันสุดยอดไปเลย”
“งั้นเหรอ”
เมื่อได้ยินคำของผมเธอก็ก้มหน้าที่เขินอายของตัวเอง
“งั้นถ้าคราวหน้าฉันชวนนาย นายจะมาด้วยมั้ย…..?”
“หือ? แน่นอนสิครับ ผมอยากมาที่ร้านของเคนจังอีกน่ะครับ”
เมื่อผมตอบไปซาเองุสะซังก็ยิ้มบานออกมาเหมือนดอกไม้มี่เบ่งบาน
แม้ว่าเธอจะสวมแว่นกันแดดอยู่ แต่รอยยิ้มนั้นมันน่ารักและสวยงามมาก
เหนือสิ่งอื่นใด การที่เธอออกมาข้างนอกกับผมแล้วมีความสุขขนาดนี้ก็ทำให้ผมอดยิ้มไม่ได้
มันยังคนเป็นความจริงที่ว่าเธอเคยเป็นไอดอลที่ดังที่สุดและเธอสวยจนไม่น่าเชื่อ
แล้วช่วงเวลาที่ผมอยู่กับเธอผมก็มีความสุขมากๆด้วย
เมื่อผมออกจากความคิดของตัวเองได้ ผมก็พูดต่อ
“คุณรู้มั้ย…..การได้ออกมาเที่ยวกับคุณแบบนี้ผมมีความสุขมากๆเลยล่ะ”
ผมบอกเลยว่าอายสุดๆจนต้องเอานิ้วมาเกาแก้มและหันหน้าหนี
ผมอยากจะบอกเธอเหลือเกินว่าตอนผมอยู่กับเธอมันสนุกแค่ไหน
พอผมลองมองกลับมากลับไม่เห็นซาเองุสะซังที่ทำตัวน่าสงสัย แต่เป็นซาเองุสะซังที่ตัวแข็งเป็นรูปปั้นแทน
คราวนี้อะไรน่ะ? ผมสับสนกับท่าทีใหม่ของเธอ
“ชิจัง?”
“หืม? อ๊ะ? ขอโทษนะ”
เมื่อผมเรียกเธอ เธอก็กลับให้สติกลับมา
แต่ว่าแก้มของเธอตอนนี้เต็มไปด้วยสีชมพูและทำหน้าตกใจ
ระหว่างนั้นอาหารก็มาเสิร์ฟ
เหมาะเจาะสุดๆ!
“รีบทานก่อนมันจะเย็นเถอะครับ”
“อ-อื้ม”
เมื่อพวกเราเริ่มทานกัน ซาเองุสะซังดูเหมือนจะค่อยๆกลับมาเป็นตัวเองแล้ว พอเราทานเสร็จเธอก็กลับมาเป็นปกติ
“อร่อยมากเลยนะครับ”
“ใช่แล้วล่ะ นี่อิจิโจคุง”
“หืม? อะไรเหรอครับ?”
เมื่อเราทานเสร็จซาเองุสะก็เริ่มกล่าวกับผม
“ฉันว่าแบบนี้มันไม่ยุติธรรมเลยนะ”
“ไม่ยุติธรรมเหรอครับ?”
“ก็นายเรียกฉันด้วยชื่อเล่น แต่ฉันต้องมาเรียกนายด้วยนามสกุลนี่ไง”
“อ่า อย่างงี้นี่เอง”
คุณคิดแบบนั้นก็อาจจะถูก ผมเองก็ไม่ได้เกลียดหรอกนะ
“……ทัคคุง”
“!?”
“จากวันนี้ไป ฉันจะเรียกนายว่าทัคคุงนะ”
“เอ่อคือ นั่นมัน….”
“ฉันตัดสินใจไปแล้วล่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะทัคคุง”
ผมคิดว่าเธออยากจะเอาคืนที่ผมเรียกเธอว่าชิจังล่ะมั้ง
เล่นเรียกกันแบบนี้ทำผมเขินสุดๆเลยล่ะครับ