ตอนที่ 14 จบกันแค่นี้แล้วกันนะลุง!

รักครั้งแรกของคุณชายปีศาจ

ตอนที่ 14 จบกันแค่นี้แล้วกันนะลุง!

มู่เทียนซิงมองไปรอบ ๆ ด้วยความลำบากใจ ก็พบจั๋วหรันกับจั๋วซีอยู่ที่หน้าประตูอีกคนยืนอยู่ที่บันไดแต่พวกเขาไม่ได้มองเธอเลย “ก็คือ เอ่อ การแต่งงานที่ในนาม คือ ก็คือ เฉพาะในนามของสามีภรรยาเฉย ๆ ไม่ใช่เกี่ยวกับชีวิตสมรส”

“อ้อ” เขาเข้าใจแล้วถามคำถามอย่างไร้อาย “ไม่เกี่ยวกับชีวิตสมรสนี่หมายถึงอะไร?”

มองดูคนที่ทำหน้าเหมือนแกะและตีหน้าใสซื่อ มู่เทียนซิงอยากจะเอาหมอนทุบหัวเขาจริง ๆ โธ่เอ๊ย!

คนเขารู้กันทั่วโลกว่าการเป็นสามีภรรยาเป็นอย่างไร เขาเป็นผู้ชายร่างใหญ่อยู่มายี่สิบหกปีแล้ว รู้สึกขอโทษเลยที่ถามเธอเลยเหรอ ผู้หญิงตัวเล็กที่อายุสิบแปดปีนี่น่ะ

เมื่อดื่มน้ำพุทรา ท้องมันก็เกิดร้องขึ้นมา

แค่ครึ่งแก้วเองนะ เธอมองหลิงเล่ “แบรนด์อะไร?”

รสชาติมันอร่อยกว่าแบรนด์ที่เธอชอบกินที่สุดอีก

หลิงเล่ไม่ตอบคำถาม “ไม่โกรธแล้วเหรอ?”

หน้ามู่เทียนซิงขึ้นสีแดง “คุณจงใจ!”

“อือ”

“…”

เธอเกือบจะระเบิดลงแล้ว ส่วนผู้ชายตรงหน้าที่อารมณ์ดีในตอนนี้พูดต่อ “ที่จริงแล้วคุณไม่จำเป็นที่จะต้องกังวลกับปัญหานี้เลย แม้ว่าผมจะเดินเหินได้ แต่ตัวเล็ก ๆ แบบคุณผมไม่สนใจหรอกนะ ไม่ใช่ว่าคุณเคยพูดเหรอว่าผมเป็นวัวแก่กินหญ้าอ่อน? คุณพูดถูก คุณน่ะอ่อนมาก ดูอ่อนประสบการณ์จนผมไม่มีความรู้สึกอะไรด้วยเลย!”

เธอลุกขึ้นยืนแล้วจ้องเขา “ไม่มีก็ดี! คุยจบแล้วฉันจะกลับบ้าน ลาก่อน!”

หวังว่าจะมีสักวัน ที่พวกเขาจะไม่พบกันอีก

โกรธจนวิ่งมาถึงประตูหน้า แต่มันดันล็อกแถมยังซับซ้อนมากอีก มีทั้งสแกนลายนิ้วมือ มีจออิเล็กทรอนิกส์ มีให้กดเข้ารหัส แล้วยังจะมีตัวล็อกขนาดใหญ่กับปุ่มกดอีก!

หญ้าอ่อนสีขาวใช้เวลาอยู่ตรงนั้นนานมาก สุดท้ายเธอก็ร้องไห้ออกมา “เปิดประตู!”

จั๋วหรันกับจั๋วซีนิ่งไป หลิงเล่ที่ไม่ค่อยแสดงอาการจ้องมองเธอ “คุณหนูมู่ มันไม่สุภาพเลยนะที่คุณจะจบการสนทนาฝ่ายเดียวน่ะ”

เธอนิ่งไป “คุณยังจะมีอะไรต้องพูดกับฉันอีก?”

เขาส่ายหัว “ไม่มี”

“งั้นก็จบแล้วไง!” มู่เทียนซิงกำลังจะเป็นบ้า เธอรู้สึกว่าเซลล์สมองของเธอกำลังจะตายเพราะเรื่องตลอดทั้งวันนี้

สิ่งที่เธออยากพูดจบแล้ว เขาเองก็ไม่มีอะไรจะพูดกับเธอ ก็ไม่ใช่ว่าบทสนทนามันจบไปแล้วเหรอ?

“หลิงเล่! คุณทำกับฉันเหมือนกำลังเล่นกับสัตว์ คุณภูมิใจมากเหรอ? การแต่งงานในครั้งนี้มันเป็นเพียงการแสดงตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ถ้าคุณไม่พอใจก็ปฏิเสธมันได้! คุณสัญญาว่าจะแต่งกับฉัน อีกสักพักคุณก็ทำร้ายฉัน นี่จิตใจคุณมีอะไรผิดปกติหรือเปล่า?

วันดี ๆ ยังไม่ทันมา ถ้าต้องแตกหักกัน เธอเองก็ไม่ได้กลัวเขาหรอกนะ!

มู่เทียนซิงโกรธมาก เธอควักโทรศัพท์ตัวเองออกมาเตรียมโทรไปขอความช่วยเหลือจากครอบครัว

สายตาของหลิงเล่เริ่มแข็งกร้าว “เป็นคุณที่พูดไม่จบ คุณยังไม่ได้อธิบายให้ผมฟังว่าทำไมถึงไปปรากฏตัวอยู่ที่นั่นแล้วหยุดรถของผม แล้วอะไรคือผลประโยชน์ที่ทั้งสองตระกูลหลิงมู่จะได้รับ ผมเคยพูดแล้วนะว่าคนในบ้านหลังนี้จะไม่มีความลับต่อกัน ถ้าคุณไม่อยากพูดก็ไปได้ แต่การอธิบายกับพ่อแม่และตระกูลหลิงว่าไม่อยากแต่งงานนั่นก็เป็นหน้าที่ของคุณ”

“นายนี่มัน” มู่เทียนซิงชี้ไปที่เขาด้วยความโกรธ “เป็นคุณที่ให้ฉันไป แล้วยังจะพูดบ้า ๆ ว่าเป็นฉันที่อยากจะยกเลิกการแต่งงาน? ให้ฉันที่เป็นผู้หญิงตัวคนเดียวไปเผชิญหน้ากับทั้งสองตระกูล นี่คุณเป็นผู้ชายหรือเปล่า ความรับผิดชอบไม่มีสักนิดเลยเหรอ?

เขามองเธออย่างฉงนใจ “เพราะเป็นผู้ชาย ผมถึงให้คุณเป็นคนปฏิเสธการแต่งงานนี่ ส่วนเหตุผลก็แล้วแต่คุณผมไม่สนอยู่แล้ว ช่วยรักษาหน้าขนาดนี้ยังไม่ถูกต้องอีกเหรอ?

เธอเร่งเดินเข้าไปแล้วคว้าคอเสื้อเขา หลิงเล่พูด “คุณหนูมู่ โปรดดูสักนิดว่าผมเป็นคนพิการ คุณโจมตีผมแบบนี้ผมตกใจนะ”

จะบอกว่าเธอทำร้ายคนพิการไม่ได้อย่างนั้นเหรอ?

เธอจ้องมองเขาด้วยความโกรธที่ไม่สามารถระงับเอาไว้ได้ “คุณจะมียางอายสักหน่อยได้ไหม?”

เขายัง คงจ้องมองเธอโดยไม่สื่ออารมณ์อะไร “ตั้งแต่รู้จักจนถึงตอนนี้ เวลาที่เราอยู่ด้วยกันยังไม่ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมง ในเวลาสั้น ๆ แบบนี้ทำให้คนคนหนึ่งต้องใช้กำลังแก้ปัญหา ถ้าคุณหนูมู่ไม่สามารถดูแลผมอย่างอ่อนโยน ผมว่ามันคงเป็นการยากในการใช้ชีวิตแต่งงานในอนาคต”

“เหอะ! อยากให้ฉันอ่อนโยนและดูแลคุณ? คุณ? ลุงอ่ะนะ?” มู่เทียนซิงยิ้มเยอะ “โอเค งั้นก็ยกเลิกการแต่งงานนี้ ฉันจะอธิบายให้ทั้งสองตระกูลเอง ฉันคิดว่าฉันคงไม่มีความสามารถมากพอที่จะดูและคนพิการอย่างอ่อนโยน โอเค งั้นเราจบกันตรงนี้นะลุง!”

ใจอันหนักอึ้งของมู่เทียนซิงในที่สุดก็หลุดพ้นเสียที

เดินไปจนถึงประตูก็หันมามองหลิงเล่ “ยังไม่เปิดประตูอีก?”

หลิงเล่ตัวแข็งทื่อ มันทั้งสองข้างที่จับที่เท้าแขนวิลล์แชร์กันแน่น คลื่นความโกรธซัดเข้ามาไม่ยั้ง “เธอพูดมันอีกครั้งสิ!”

มู่เทียนซิงจิ๊ปาก คิดว่าเธอจะกลัวเขาเหรอ? “ยังไม่เปิดประตูอีก?”

เขาว่า “ไม่ใช่ประโยคนี้!”

เธอเลิกคิ้ว เธอใช้ความคิดสักพักคิดว่าเขาไม่ทันฟังประโยคไหน “ฉันจะหย่า! ฉันไม่มีความสามารถและความอ่อนโยนมากพอที่จะ…”

“หุบปาก!”

หลิงเล่ตะโกนเสียงดัง เขาจับปุ่มตรงวิลล์แชร์หมุนมันจนรถเข็นเคลื่อนตัวไปทางตู้เย็น เขายื่นแขนออกไปเปิดมัน หยิบเขาขวดน้ำพุทราที่เธอชอบวางไว้บนหน้าตัก ปิดตู้เย็น จากนั้นก็เคลื่อนรถเข็นนั้นไปหาเธอ

มู่เทียนซิงไม่เข้าใจ

จนกระทั่งมือใหญ่ยื่นน้ำพุทราให้เธอ ผู้ชายคนนี้กำลังทำดีกับเธอ?

เธอใจเย็นลงเล็กน้อย

การที่ครอบครัวตัดขาดกับเขาคงจะไม่ดีถ้าเขาจะไปบอกครอบตัวแบบนั้น

เธอลังเล ยกมือขึ้นมาเท้าคางประหนึ่งว่าตัวเองเป็นเจ้าหญิง “สรุปคือเราเข้าใจเกี่ยวกับการแต่งงานในครั้งนี้แล้ว?

เธอจะไม่ทำหน้าที่ภรรยาที่มีไปมีความสัมพันธ์อย่างว่ากับเขาเด็ดขาด และอย่าหวังว่าเธอจะอ่อนโยนและดูแลเขา!

แต่ต่อหน้าคนนอก เธอจำเป็นต้องเล่นให้สมบทบาทไปกับเขา

หลิงเล่มองดูการแสดงออกทางสีหน้าที่ไร้เดียงสานั่น “อือ”