ในเวลากลางคืน ในขณะที่คนอื่น ๆ กำลังนอนพักผ่อนกันอยู่

ไฟในห้องทดลองกับยังคงเปิดสว่างอยู่ โดยมีเจมมาที่สวมเสื้อคลุมสีขาวและแว่นตา กำลังศึกษาเกี่ยวกับการปรุงยายีน R รุ่นแรกอยู่ ในฐานะนักชีววิทยาแม้ว่าเธอจะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญในด้านของพันธุศาสตร์และไม่ค่อยมีความมั่นใจว่าเธอจะทำมันขึ้นมาได้สำเร็จ แต่เธอก็อยากรู้ว่ายาตัวนี้จะสามารถทำให้คนธรรมดากลายเป็นคนที่มีความสามารถพิเศษได้อย่างไร ทำให้เธอในตอนนี้ใช้สมาธิทั้งหมดของเธอจดจ่อกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดอะไรขึ้นมา โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าซู่เจินได้เดินเข้ามาในห้องทดลองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ซึ่งซู่เจินก็ไม่ได้รบกวนอะไรเธอ เขายืนอยู่นิ่ง ๆ และเฝ้ามองเธออยู่ห่าง ๆ เจมมานั้นมีรูปร่างที่ดูดีและใบหน้าที่งดงาม บางทีอาจจะเป็นเพราะนิสัยส่วนตัวของเธอหรือความเป็นมืออาชีพในการทำงาน ทำให้เธอไม่ค่อยจะแต่งตัวมากนัก และในขณะนั้นซู่เจินก็สังเกตุเห็นขาของเธอโผล่ออกมาจากเสื้อคลุมของเธอ ซึ่งขาของเธอมันขาวมาก ทำให้มุมปากของซู่เจินยกขึ้นเล็กน้อย เขายังจำได้อยู่เลยว่าเขาเคยบอกกับเจมมาว่าขาของเธอมันสวยมาก ทำไมเธอถึงไม่ลองเปลี่ยนมาใส่ขาสั้นหรือไม่ก็กระโปรงให้มากขึ้นล่ะ มันจะทำให้เธอดูดีกว่านี้ และเธอก็เปลี่ยนมันจริง ๆ ….. ดูเหมือนว่าเธอจะมีเจตนาแอบแฝงอะไรบางอย่าง เพราะตอนที่เธอออกไปทำภารกิจเธอยังสวมกางเกงขาสั้นเดนิมอยู่เลย!

“อ๊า … ” เมื่อเจมมาเงยหน้าขึ้นมา เธอก็เห็นซู่เจินที่ยืนอยู่ข้างหน้าของเธอ ทำให้เธอรู้สึกประหลาดใจและตกใจเป็นอย่างมาก “คุณมาทำอะไรที่นี่ ?”

ซู่เจินยิ้มขึ้นมาพร้อมกับเดินเข้าไปหาเธอและพูดว่า “ตอนแรกผมเอาของขวัญมาให้คน ๆ หนึ่ง แต่ดูเหมือนว่าเขาจะลืมจ่ายของตอบแทนให้กับผม ผมก็เลยมาที่นี่เพื่อทวงค่าตอบแทนของผม!”

เจมมาเริ่มรู้สึกว่าหน้าของเธอแดงขึ้นเล็กน้อยและพูดว่า “ถ้าฉันศึกษายาตัวนี้จนสำเร็จและผลิตมันได้ มันไม่ใช่ของขวัญที่ดีที่สุดงั้นหรอ ?”

“มันก็ใช่ … แต่ใครจะไปรู้ว่ามันจะต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหน มันจะดีมากถ้า … คุณจ่ายดอกเบี้ยให้กับผมก่อน ดังนั้น… ในตอนนี้คุณควรถอดเสื้อคลุมของคุณออกก่อน เพราะผมรู้นะว่าคุณใส่กางเกงขาสั้นมาเพื่อผมใช่ไหม ? มันคงจะน่าเสียดายแย่ถ้าขาของคุณจะต้องถูกซ่อนเอาไว้ใต้เสื้อคลุมตัวนั้น น่าเสียดาย ๆ !” ซู่เจินพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม

เจมมาไม่คิดว่าซู่เจินจะรู้ว่าเธอในตอนนี้กำลังสวมกางเกงขาสั้นอยู่ ทำให้เธอรู้สึกลังเลว่าจะถอดเสื้อคลุมออกดีไหม ?

สุดท้ายเธอก็ตัดสินใจถอดเสื้อคลุมออก ทำให้เห็นเสื้อยืดกับกางเกงยีนส์ขาสั้นที่เธอกำลังใส่อยู่

ข้อดีของคนขายาวก็คือ เขาสามารถเห็นขาอ่อนของเธอได้อย่างหมดจดเมื่อเธอใส่กางเกงขาสั้นเช่นนี้ มันชั่งขาวราวกับไข่มุก

“งดงาม!”

ซู่เจินจ้องมองไปที่ขาของเจมมาด้วยความจริงจัง ทำให้เจมมารู้สึกเกร็งเล็กน้อย

“คุณเคยได้ยินคำว่า ‘ปีแห่งการเล่นขา’ ไหม ?” ซู่เจินถามเจมมาขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม

เจมมาส่ายหัวเบา ๆ และถามขึ้นมาอย่างสงสัยว่า “ไม่นะ ฉันไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย มันคืออะไรงั้นหรอ?”

ซู่เจินชี้ไปที่ขาของเธอและพูดว่า “มันหมายความว่า แค่ขาพวกนี้เพียงอย่างเดียวก็เพียงพอแล้วสำหรับการที่ผมจะเล่นกับมันเป็นเวลาหนึ่งปีได้โดยไม่เบื่อ มันอาจจะฟังดูไม่ค่อยมีรสนิยมสักเท่าไหร่ แต่มันก็ไม่ได้มีความหมายในทางเสื่อมเสียอย่างแน่นอน ผมแค่อยากจะบอกคุณว่า ขาของคุณมันสวยมากจริง ๆ !”

“จริงเหรองั้นหรอ?” เจมมาก็ยังไม่เชื่ออยู่ดี เพราะว่าเธอไม่เคยได้ยินใครยกย่องขาของเธอเช่นเดียวกับซู่เจินมาก่อน

“จริงสิ ขาของคุณน่ะสวยมาก ๆ เลยนะ และมันยังสามารถทำให้คนอื่นรู้สึกพึงพอใจได้อีกด้วย … ผมหวังว่าผมจะมีโอกาสได้ดูมันไปตลอดชีวิต!” ซู่เจินพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม และเขาก็พูดต่อว่า “ถ้าเกิดว่า SHIELD ถูกทำลายลง คุณจะมาเข้าร่วมทีมของผมไหม ? ตอนนี้ผมมีห้องทดลองอยู่ห้องหนึ่ง ซึ่งมันยังไม่มีคนที่น่าเชื่อถือมาคอยดูแลให้ ถ้าเกิดว่าคุณตกลงห้องทดลองอันนั้นมันน่าจะเหมาะกับคุณมากเลยล่ะ!”

“ชิลด์จะถูกทำลายได้อย่างไร!” เจมมาไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลยเช่นกัน

“ทุกสิ่งทุกอย่างมันเกิดขึ้นได้ ยังไงก็ถามถ้าเกิดว่า SHIELD ถูกทำลายลงจริง คุณก็แค่มาอยู่กับผมก็แค่นั้น“ ซู่เจินมองไปที่เจมมาด้วยสายตาอย่างจริงจัง

เจมมารู้สึกตะลึงและพยักหน้าเบา ๆ “ถ้าวันนั้นมันมาถึง … ฉันจะไปอยู่กับคุณ“

“คุณสัญญากับผมแล้วนะ“

ซู่เจินยิ้มออกมาด้วยความพึงพอใจและกล่าวว่า “แต่มันยังไม่เกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้หรอก ดังนั้นในตอนนี้คุณควรที่จะไปพักผ่อนได้แล้ว ส่วนเรื่องของยาความสามารถพิเศษคุณไม่จำเป็นที่จะต้องรีบร้อนเกี่ยวกับมันมากนัก“

“ฉันขออยู่ตรงนี้อีกสักพักหนึ่ง“

“ราตรีสวัสดิ์?”

ซู่เจินเดินเข้าไปหาเจมมาและจูบไปที่แก้มของเธอเบา ๆ เมื่อเขาเห็นว่าเธอไม่ได้มีท่าทางขัดขืน

“ฝันดี!” เจมมาพูดขึ้นมาพร้อมกับหน้าแดง

หลังจากที่ซู่เจินเดินออกมาจากห้องทดลอง เขาก็กลับไปที่ห้องเพื่อพักผ่อนทันที

สามวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว

ในช่วงสามวันที่ผ่านมานี้ไม่ได้มีภารกิจใหม่อะไรเข้ามา ทำให้ซู่เจินสามารถใช้เวลาอยู่กับสกายและเจมมาได้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกับเจมมา และเขาก็ไม่ได้ดูดกลืนอนุภาคอีเทอร์หรือคริสตัลแห่งความกลัวแม้แต่น้อย

เขาต้องบอกเลยว่าเจมมานั้นเป็นคนที่เก่งมาก ๆ เธอทั้งสวยทั้งหุ่นดี และมีบุคลิกที่น่ารัก และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือเธอมีความเป็นมืออาชีพสูงมาก เธอสามารถแยกแยะได้ว่าเวลานี้จะต้องทำอะไรก่อนหลังอย่างเป็นระบบ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ซู่เจินคอยติดตามเธออยู่บ่อย ๆ

และในช่วงสามวันที่ผ่านมานี้เจมมายังสามารถเข้าใจเกี่ยวกับตัวยายีน R รุ่นแรกได้เบื้องต้นแล้ว แต่เนื่องจากยาตัวนี้มันให้ความสามารถพิเศษแบบสุ่ม ทำให้เธอจะต้องลองศึกษาและค้นคว้าเพิ่มเติมเพื่อหาวิธีทำให้เธอสามารถเลือกความสามารถพิเศษได้ตามที่เธอต้องการ

แม้ว่าในตอนนี้เธอจะยังไม่มีเบาะแสอะไรเกี่ยวกับมัน แต่มันก็เพียงพอแล้วสำหรับการพิสูจน์ว่าเธอนั้นมีความสามารถจริง ๆ

หลังจากอยู่อย่างสงบสุขเป็นเวลาสามวัน ซู่เจินก็เตรียมตัวที่จะไปกำลังจะเดินทางไปที่เกาะเพื่อตรวจดูความเรียบร้อยของฐานว่าเป็นยังไง ถึงแม้ว่าเขาจะฝากให้บริ๊งค์เป็นคนจัดการ แต่การที่มันเป็นฐานและเกาะของเขา การที่เขาจะไม่ไปดูมันหน่อย มันคงจะดูไม่ค่อยดีนักในฐานะหัวหน้า

หลังจากอยู่อย่างสงบสุขเป็นเวลาสามวัน ตอนนี้ก็ถึงเวลาแล้วที่ซู่เจินจะต้องเดินทางไปตรวจสอบความเรียบร้อยของฐานว่าคืบหน้าไปแค่ไหนแล้ว

“คุณจะไปแล้วงั้นหรอ?”

ในขณะที่ซู่เจินกำลังจะจากไป จู่ ๆ โควสันก็ถามขึ้นมาอย่างกระทันหัน โดยที่ซู่เจินไม่รู้ตัวเลยว่าเขาโผล่มาจากที่ไหน

ซู่เจินรู้สึกใบ้กินเล็กน้อยและหันไปถามโควสันว่า “คุณแอบติดตามผมอยู่ตลอดเวลาเลยงั้นหรอ ?”

“ใช่!” โคลสันพยักหน้าเบา ๆ พร้อมกับพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้มว่า “ฉันกลัวว่าคุณจะแอบหนีไปโดยไม่บอก …. และคุณก็สัญญาไว้ว่าจะพาฉันไปดูยานบินของคุณไม่ใช่หรอ ?”

“ตอนนี้ผมยังไม่มีเวลา เพราะว่าเดี๋ยวผมจะต้องไปทำธุรต่อ ถ้าเกิดว่าผมว่างเมื่อไหร่ผมจะมาเชิญคุณไปที่นั่นด้วยตัวผมเองเป็นยังไง ?” ซู่เจินพูดขึ้นมา

โควัสนยักไหล่เบา ๆ และพูดว่า “เอาล่ะ! ไว้ครั้งหน้าเราค่อยคุยกัน“

“โอเค! … ถ้าเกิดว่าคุณมีเรื่องอะไรสามารถติดต่อผมได้ตลอดเวลา“