ตอนที่ 100 ปฏิบัติการยามค่ำคืน
ในห้องมืดๆของคลินิกเก่าๆ ลิซที่ได้รับการรักษาก็ค่อยๆลุกขึ้นจากเตียง
「……ฉันเป็นใคร ฉันอยู่ที่ไหน……?」
ฉันพึมพำสิ่งนั้นและหัวเราะออกมาเบาๆ
「อะไรงั้นเหรอ ฉันก็ต้องจำได้แน่นอนอยู่แล้วสิ」
ฉันเป็นเจ้าแม่แห่งกิลด์ใต้ดิน
เพื่อที่จะเข้าไปในคฤหาสน์ของผู้ครองดินแดนเลยต้องแกล้งตาย
เป็นเรื่องจริงที่ว่าความทรงจำบางส่วนของฉันหายไปหลังจากเข้าไปในคฤหาสน์ แต่ฉันจำทุกอย่างได้ชัดเจน
การอ้างว่าสูญเสียความทรงจำเป็นเพียงวิธีการที่จะอยู่ที่นี่ต่อ
ยังไงก็ตามลิซคิดแบบนั้น
ฉันไม่เคยคิดว่าเซนอสจังที่อยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจะกลายเป็นผู้ปกครองสลัมแห่งนี้
เขาเป็นคนง่ายๆที่ความคิดอ่านเข้าใจได้ยาก แต่พูดตามตรงเพราะภาพลักษณ์ของเขาห่างไกลจากตัวตนที่จะควบคุมที่นี่ได้
――แต่ว่าเขาก็เปลี่ยนไปเยอะเหมือนกัน……。
เช่นเดียวกันกับฉัน
ตอนนี้ทุกอย่างแตกต่างไปจากเมื่อก่อน
――สำหรับตอนนี้ฉันคิดถึงวิธีบุกเข้าหาเซนอส。
ลิซเปลี่ยนความนึกคิดและสังเกตสภาพแวดล้อม
เตียงที่ฉันนอนอยู่ตอนนี้อยู่ในห้องติดกับทางเข้า
เซนอสและผู้ช่วยของเขาได้เข้าห้องนอนด้านหลังไปแล้ว ตอนนี้ถึงเวลาที่ฉันต้องลงมือ
「……」
ฉัดลดขาลงจากเตียงและนั่งอยู่ตรงนั้น
ถึงจะบอกว่าลงมือ แต่จะลงมือยังไงดี?
ในระหว่างที่ฉันค้นหาคฤหาสน์ร้างแห่งนี้ ก็ไม่ได้พบสิ่งใดเลย
ในที่สุดฉันก็สามารถอยู่ที่นี่ได้ แต่ฉันก็ไม่ได้ถูกพาไปห้องลับแต่อย่างใด
ฉันคิดว่าเขาน่าจะมีลูกน้องจำนวนมาก แต่ว่าไม่มีวี่แวว
ยังคงมีความรู้สึกไม่สบายใจที่อธิบายไม่ได้
เซนอสเป็นผู้ครองดินแดนนี้จริงๆเหรอ
「……ไม่มีประโยชน์ที่จะคิดมากสินะ」
ถ้าเป็นเช่นนั้นมีสิ่งเดียวที่ต้องทำ
เพื่อให้เซนอสกลายเป็นหมากของฉันโดยเร็ว จากนั้นก็ให้เขาสารภาพทุกสิ่งที่เขารู้มาให้หมด
นั่นคือจุดประสงค์ดั้งเดิม
「พี่ลิซ ตื่นแล้วเหรอครับ?」
「เอ๊ะ อืม」
เมื่อฉันหันกลับไปก็เห็นเซนอสมองผ่านประตูมา
ลิซประหลาดใจเล็กน้อยกับการเรียกกะทันหัน แต่เธอก็พยักหน้าโดยไม่แสดงสีหน้าออกมา
「มีอะไรงั้นเหรอจ้ะเซนอสจัง?」
「เอ่อ คือว่า ลิลลี่เองก็หลับไปแล้วด้วย ผมก็เลยคิดว่ามานั่งจับเข่าคุยกัน」
(ป.ล.พระเอกจะใช้คำสุภาพเมื่ออยู่สองต่อสองเพราะให้ความเคารพ)
「……เอ่อ งั้นเหรอจ้ะ」
ลิซพยักหน้าแล้วลุกจากเตียง
ก็ไม่รู้หรอกว่าเซนอสจังคิดอะไรอยู่แต่นี่ล่ะโอกาสอันดีเลย
ลิซตามเซนอสไปที่ห้องอาหาร
ฝ่ายตรงข้ามเป็นถึงผู้ครองดินแดน เขาอาจจะมีทักษะเก่งกาจเพราะสามารถคุมทั้งสามเผ่าได้
ฉันเลยตัดสินใจไม่เข้าจู่โจมในทันทีและคอยดูเหตุการณ์ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ฉันนั่งลงบนที่นั่งที่หันเข้าหากันและพูด
「แล้วมีเรื่องอะไรจะคุยกับฉันเหรอจ้ะเซนอสจัง」
「เอาล่ะก่อนหน้านั้น……」
เซนอสเกาแก้มของเขา
「ช่วยหยุดเรียกผมว่าเซนอสจังได้ไหมครับ ผมไม่ใช่เด็กแล้วนะครับพี่ลิซ」
「เอ๊ะ…? อ่า อืม แต่ในใจของฉันเซนอสจังก็ยังเป็นเซนอสจังละน้า」
「เฮ้อ เอาจริงเหรอครับ…..เอ่อช่างมันเถอะครับ」
……ฉันสงสัยว่าการพูดคุยนี่มันจะดูสงบสุขดีจังนะ
เซนอสดูไม่เหมือนผู้ครองดินแดนที่เป็นคนชั่วช้าที่กักเก็บเหล่าสาวๆไว้กับตัวเลย
ความรู้สึกไม่สบายใจมันยิ่งหนักมากไปอีก
หรือว่าเขาจะซ่อนตัวตนที่แท้จริงเอาไว้?
ลิซรวบรวมความกล้าและเปิดปากของเธอ
「เอ่อเรื่องของเรื่องคือ เซนอสจัง?」
「เอ่อ พอดีผมอยากจะเล่าเรื่องในวันวานให้พี่ฟัง」
「……?」
「ก็ดูสิพี่ลิซเสียความทรงจำไปชั่วคราวนี่น่า ผมก็ไม่รู้เรื่องราวอะไรเยอะนักหรอก แต่ถ้าผมกระตุ้นความทรงจำเก่าๆของพี่แล้วอาจจะจำบางอย่างได้ขึ้นมา」
「อ่า นั่นสินะ」
――เพื่อฉันยังงั้นเหรอ?
ฉันพิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่เขาจะจู่โจมฉันโดยไม่ถามอะไร แต่มันก็ยังแปลกๆอยู่ดี
เซนอสที่อยู่ตรงข้ามฉันยังพูดต่ออย่างสงบ
「แล้วพี่ลิซจำเรื่องราวได้ถึงตอนไหนเหรอครับ?」
「คือ…ฉันจำได้ว่าฉันเคยอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าคาริ」
ในตอนนี้พวกเราตกลงที่จะพูดคุยกัน
「หลังจากออกสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าล่ะครับ?」
「……ฉันจำอะไรไม่ได้เลย」
เขาวางมือบนหน้าผากด้วยสีหน้าลำบากใจ
「แล้วพี่จำเรื่องราวในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าได้มากแค่ไหน?」
「นั่นก็….ในระดับหนึ่ง…แต่ก็มีบางส่วนที่ยังเป็นเหมือนจิ๊กซอว์คลุมเครืออยู่」
ฉันกล้าพูดออกไปแบบนั้น
「พี่จำซีน่าได้ไหมครับ」
「อื้อ」
「ดีแล้วล่ะ ซีน่าเป็นน้องสาวของพี่ ตอนนี้ซีน่าจะเป็นยังไงบ้างนะ?」
「เอ่อคือ……」
「ว่าไงครับ?」
「เอ่อ คือฉันจำไม่ได้เลยจริงๆพวกเราไม่ได้อยู่ด้วยกัน……」
「งั้นเหรอครับ ผมคิดว่าพี่กับซีน่าจะอยู่ด้วยกันตลอดตั้งแต่ออกจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าซะอีก แต่พี่ลืมไปแล้วเหรอครับ」
「……อืม」
ลิซตอบเบาๆ
「แล้วพี่จำสมาชิกในหน่วยของเราได้มากแค่ไหนครับ?」
「เอ่อก็มีเซนอสจัง ซีน่า หลังจากนั้นก็ มาร์คัส เอมิล ลอมบาร์ด แอชลีย์ คูจา และ เวลริตต้า」
「นั่นสินะ ขาดไปไม่กี่คนเอง แต่สมาชิกส่วนใหญ่พี่ก็จำได้หมดเลยนะครับ」
「นั่นสินะ แฮะ แฮะ」
หลังจากเงียบไปสักพักเซนอสก็ถามช้าๆ
「เอ่อพี่ลิซรู้ไหมครับว่าตอนนี้เวลริตต้าอยู่ที่ไหน?」
「เวลริตต้าจังเหรอ เธอเป็นเพื่อนที่สนิทกับเซนอสจังมาก แต่ว่าขอโทษนะพี่ไม่รู้เลย」
「นั่นสินะครับ ขนาดพี่ยังไม่รู้เลยว่าซีน่าที่เป็นเหมือนกับน้องสาวแท้ๆของพี่อยู่ที่ไหนจะไปรู้เรื่องของเวลริตต้าได้ยังไง」
เซนอสพูดแบบนั้นพร้อมกับเกาหัวแกรกๆ
「แย่ล่ะ ถ้างั้นคืนนี้คุยกันแค่นี้พอนะครับ ถ้าผมถามมากไปกว่านี้มันจะเป็นภาระต่อสมองของพี่ด้วย ผมไม่อยากให้พี่ฝืนเกินไป」
「อะอืม」
「พรุ่งนี้ ลองไปเดินเล่นในเมืองดีไหมครับ? ความจริงที่ว่าพี่ลิซนอนอยู่ในซากปรักหักพักของเมืองอาจจะเกี่ยวข้องกับบริเวณนี้ ถ้าเดินไปรอบๆอาจจะจำอะไรได้บ้าง」
「เข้าใจแล้ว ขอบคุณมากเลย」
เอ่อไม่ใช่ว่าคิดไปเองคนเดียวหรอกเหรอ
นี่ฉันดูเหมือนผู้หญิงความจำเสื่อมขนาดนั้นเลยสินะ
「นี่ ทำไมถึงพยายามขนาดนั้นเพื่อพี่กันล่ะ?」
「เอ๊ะ? พี่ลิซดูแลผมมานาน ผมจะช่วยพี่ลิซเท่าที่ช่วยได้นั่นแหละ」
「……」
ไม่รู้หรอกว่าเขากำลังวางแผนอะไรอยู่รึเปล่า ฉันยังจะมาโดนจับไต๋ตอนนี้ไม่ได้
ลิซตัดสินใจถามตรงๆ
「เอ่อ เซนอสจังล่ะ มาทำอะไรที่นี่เหรอ?」
「อ๋อ ผมเหรอ……」
หลังจากลังเลอยู่พักหนึ่ง เซนอสก็พูด
「มันไม่ใช่สิ่งที่ผมจะพูดในที่สาธารณะได้น่ะ」
「เอ๊ะ?」
ลิซถามพร้อมกับโน้มตัวไปข้างหน้า
「เป็นเรื่องที่ไม่ว่ายังไงก็พูดไม่ได้งั้นเหรอ แม้แต่กับพี่สาวคนนี้?」
「เอ่อ ไม่ได้ก็คือไม่ได้……」
――ท้ายที่สุดแล้วก็เป็นผู้ครองดินแดนงั้นเหรอ?
「มีผู้หญิงมากมายล้อมรอบตัวเลยนี่น่า?」
「เข้าใจผิดแล้วครับพี่ แต่เป็นเรื่องจริงที่มีแต่พวกสมองเพี้ยนรอบตัวผมน่ะ」
「แถมยังทำการทดลองกับมนุษย์ด้วย?」
「พูดอะไรตั้งแต่เมื่อกี้แล้วครับ? เป็นความจริงที่ผมตรวจร่างกายพี่ แต่ผมไม่คิดจะทำการทดลองใดๆเลยนะครับ」
――เถรตรงเกินไปแล้ว ! ฉันก็ว่างั้นแหละ!
ดูเหมือนจะค่อนข้างสับสน แถมยังดูปกปิดอะไรอยู่อีก
ลิซเหยียดนิ้วชี้ของเธอไว้ใต้โต๊ะ
……ถึงกระนั้น ฉันก็หยุดที่จะทำต่อ
เนื่องจากไม่รู้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไรอยู่ จึงมีความเสี่ยงอย่างมากที่จะเผชิญหน้ากันแบบซึ่งหน้า
เป็นการดีกว่าที่จะรอจังหวะเผลอตัว
「ถ้างั้นราตรีสวัสดิ์นะครับ พี่ลิซ」
「อืม ราตรีสวัสดิ์เซนอสจัง……」
ลิซตอบด้วยรอยยิ้มขณะที่เซนอสยืนขึ้นและยิ้ม
ใช่แล้วสิ่งที่ฉันต้องทำก็คือจู่โจมอีกฝ่ายตอนจังหวะหลับ――
+++
เป็นช่วงเวลาที่ชาวเมืองหลับไหล
ลิซค่อยๆลุกออกจากเตียง
เดินตามเข้าไปห้องข้างในสุดที่เป็นห้องนอนของทั้งสอง
หากโดนโจมตีระหว่างหลับต่อให้แกร่งแค่ไหนก็ไม่รอด
ฉันกลั้นหายใจขณะเดินไปที่หน้าประตูห้องแล้วมองเข้าไปข้างใน
ได้ยินเสียงลมหายใจอันเงียบสงบมาจากภายใน
「ตอนนี้แหละ……」
ลิซเปิดประตูช้าๆ
เมื่อดวงตาปรับเข้ากับความมืด เตียงทั้งสองก็เห็นได้ชัด
เอลฟ์สาวตัวน้อยอยู่ด้านหลัง
เซนอสอยู่ด้านหน้า
ชะวิ้ง ฉันค่อยๆเหยียดนิ้วชี้แล้วออกเดินเพื่อเข้าหาเซนอส
มือขวาของเขายื่นออกมาจากผ้านวม
เพียงแค่สร้างรอยขีดข่วนอันน้อยนิด――
「คุณคิดจะทำอะไรกับคุณเซนอสงั้นเหรอคะ?」
「ว๊ายยยยยย」
ฉันเผลอส่งเสียงร้องแปลกๆ จู่ๆก็ถูกเรียกกะทันหัน
เมื่อมองไปรอบๆอย่างเขินอาย ก็เห็นเอลฟ์สาวตัวน้อยตื่นอยู่
「เข้าหาคุณเซนอสด้วยเวลาดึกดื่นแบบนี้ต้องการอะไรกันแน่คะ ลิซซัง」
เอลฟ์สาวตัวน้อยพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูโกรธจัด
ค่อนข้างน่ากลัวมากเพราะเธอไม่แสดงสีหน้าที่แท้จริงออกมา
「เอ่อ ไม่ใช่อะไรหรอกนะ ฉันก็แค่จะเดินหาห้องน้ำเท่านั้น……」
「งั้นเหรอคะ ห้องน้ำอยู่อีกฝั่งของโถงทางเดินค่ะ」
น้ำเสียงของเอลฟ์สาวตัวน้อยสดใสขึ้นราวกับโล่งใจ
「อ่าา ขอบคุณมากเลยจ้ะ……」
ลิซตัดสินใจออกจากห้องนอน
――น่ากลัวววว…….ทำไมถึงตื่นในเวลาแบบนี้ล่ะ……。
ลิซกัดเล็บของเธอขณะที่เดินไปที่ห้องน้ำ
ฉันคิดว่าสามารถแอบเข้าไปได้ก็จริง แต่ดูระมัดระวังตัวเกินไป
――เมื่อเป็นเช่นนี้……。
ลิซรออย่างจดจ่ออยู่ในความมืด
แม้แต่เอลฟ์ที่อยู่ใกล้ก็ต้องหลับสักช่วงหนึ่ง เพียงแค่รอจนถึงตอนนั้น
ลิซรอและอดใจไม่ไหวที่จะเผลอหลับไปหลายครั้ง
เฝ้ารออย่างจดจ่อ
จากนั้นเมื่อราตรีลาลับแล้ว ลิซก็รีบคลานไปที่เตียง
「ทำไมถึงมาอยู่นี่กันนะ……」
ฉันคร่ำครวญราวกับจะอาเจียนความทรมานและเปิดประตูออกไป
ครั้งนี้ยืนยันว่าทั้งสองหลับไปแล้วอย่างแน่นอน
ฉันกลั้นลมหายใจเข้าไปหาและเหยียดปลายนิ้วชี้ไปที่แขนของเซนอส
「ดิฉันขอถามย้ำอีกครั้งนะคะ จะทำอะไรคุณเซนอส……」
ลิซตัวแข็งทื่อเมื่อได้ยินเสียงของเด็กสาวอีกครั้ง
「ครอกฟี้……」
แต่ไม่นานนักก็กลายเป็นว่าเธอละเมอ ดูเหมือนว่าจะหลับไปแล้วจริงๆ
――อย่าทำให้ฉันกลัวสิยะ……。
ลิซถอนหายใจด้วยความโล่งอกและเอานิ้วชี้ไปจิ้มที่แขนของเซนอส
――ในที่สุดก็ มิชชั่นคอมพลีส……!
+++
เซนอสตื่นขึ้นมาท่ามกลางแสงแดดยามเช้าพร้อมเสียงนกร้อง
ลิลลี่ที่อยู่เตียงข้างๆดูเหมือนจะหลับอยู่
ชั้นมุ่งหน้าไปที่ห้องวินิจฉัยเพื่อยืดเส้นสาย
ลิซคงจะนอนอยู่บนเตียงตั้งแต่เมื่อวานแล้ว
อย่างไรก็ตามเมื่อชั้นเปิดประตู ก็มีใครบางคนตื่นขึ้นมา
「อรุณสวัสดิ์นะเซนอสจัง」
「อ่า อรุณสวัสดิ์นะพี่ลิซ แต่ว่าตื่นเช้ามากเลยนะครับ」
「ก็นะ พี่เป็นพวกนอนน้อยน่ะ」
「ไม่เป็นไรนะครับ? เพราะพี่ก็กังวลเหรอว่าเสียความทรงจำเลยหลับไม่สนิท」
「อืม มีเรื่องเกิดขึ้นมากมายเลย แต่นั่นก็พอแล้วล่ะ」
ลิซลุกขึ้นจากเตียงแล้วยิ้มอย่างไม่เกรงกลัว
「จากนี้ไปเซนอสจังจะต้องอยู่ภายใต้คำสั่งของฉัน สลัมแห่งนี้เป็นของฉันแล้ว」
「……?」
เมื่อเซนอสเอียงคอด้วยความสงสัย ลิซก็ชี้ไปที่พื้นอย่างภาคภูมิใจ
「หมอบซะ!」
……。
……。
……。
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เซนอสก็พูดแบบเขินอาย
「เอ่อว่าไงนะครับ……」
จากนั้นลิซก็กลอกตาไปมาและชี้ไปที่พื้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า
「หมอบ! ฉันบอกให้หมอบลงคุกเข่าต่อหน้าช้านนนนนนนนนน!」
「พี่ลิซ?」
「หมอบซะ! หมอบสิ! หมอบลงไปซ้าาาาาาาาาาาา!」
「ถ้าอยากให้ผมลงไปนอนหมอบขนาดนั้นจะทำให้ก็ได้นะ แต่ว่าพี่เป็นอะไรไปเนี่ย?」
「……เอ๊ะ……?」
ลิซพึมพำขณะที่ตกตะลึง
「ขอมือด้วย」
「มือเหรอครับ?」
เซนอสกางมือของเขาออก
ที่นั่นมีแต่มือที่สะอาดสะอ้าน
ลิซพูดพร้อมกับตาเบิกกว้าง
「เอ๊ะ บาดแผลนั่น?」
「แผล? ก่อนหน้านี้พี่ลิซพูดถึงเรื่องอะไรนี่」
「……ไม่ เอ่อ ขอโทษทีนะ ฉันน่าจะสติเลอะเลือนไปเอง เมื่อคืนพี่ฝันว่าพี่เผลอสร้างแผลให้มือเซนอสจังน่ะ……」
「ฝันได้แปลกดีนะครับ? แต่ไม่ต้องกังวลหรอกนะครับ ผมมีนิสัยที่ชอบใช้เวทย์ป้องกันสะท้อนกลับใส่อีกฝ่ายเมื่อได้รับบาดแผลโดยอัตโนมัติ」
「……เอ๊ะ?」
「ก็ดูสิครับ ที่นี่คือเมืองที่ล่มสลาย หากโดนโจรบุกเข้ามาโจมตีเรา มันก็จะเป็นปัญหาใช่ไหมล่ะครับ」
ยังไงซะลิลลี่เองก็นอนอยู่ข้างหลังด้วย ดังนั้นชั้นเลยต้องทำหน้าที่เป็นโล่
เซนอสพูดอย่างร่าเริงขณะที่ลิซตัวแข็งทื่อ
「วันนี้พวกเราจะไปเที่ยวรอบเมืองตามที่วางแผนกันไว้นะครับ? ผมหวังว่าความทรงจำของพี่จะกลับมาโดยเร็ว」
「……อ่า เอ่อ อืม」
ลิซพยักหน้าในขณะที่หน้าเธอสั่นเป็นเจ้าเข้า
ตอนที่ 101 เดินเล่น
「พอนึกอะไรออกเกี่ยวกับแถวนี้ไหมครับ」
「อ่า เอ่อ ไม่เลยล่ะ」
หลังจากช่วงรุ่งสาง หลังอาหารเช้า เซนอสพาลิซมาเดินเล่นรอบเมืองที่ล่มสลายด้วยกัน
ตามที่คาดไว้การสูญเสียความทรงจำไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยเวทย์รักษา ดังนั้นจุดประสงค์ที่พามาเดินเล่นก็เพื่อกระตุ้นความทรงจำด้วยการเดินไปรอบๆเมืองล่มสลายที่เธอล้มฟุบไป
「ถึงแบบนั้นมันก็ยากเกินไปที่จะเสียความทรงจำ……」
ลิลลี่ที่มากับชั้นพูดด้วยสีหน้าเป็นกังวล
「ลิซซังน่ะ แอบเข้าห้องมาเมื่อคืนนี้ด้วยนะคะ เข้าใจผิดว่าห้องนอนพวกเราเป็นห้องน้ำ ความทรงจำล่าสุดคลุมเครือขนาดนั้นเลยเหรอคะ?」
「อ่า เอ่อ ใช่แล้วล่ะ……」
ด้วยเหตุผลบางอย่างลิซจึงตอบด้วยสีหน้าขมขื่น
ทั้งสามก็ค่อยๆเดินเที่ยวชมเมืองที่ล่มสลายเพราะโรคระบาด
ซากปรักหักพัง บ้านร้าง โรงเรือนที่แทบจะพัง สุสานร้าง
ฉากที่ไร้ซึ่งความล้าหลังซึ่งถูกทิ้งไว้ตามกาลเวลายังคงดำเนินต่อไป
「เอ่อตอนนี้เป็นยังไงบ้างพี่ลิซ พอจะจำอะไรได้ไหม?」
「ขอโทษด้วยนะ พี่นึกอะไรไม่ออกเลย……」
「งั้นเหรอ……」
เซนอสกอดอกและครุ่นคิด
「อืม….ถ้างั้นขยายขอบเขตการเดินสักหน่อยจะดีไหมครับ」
「ขยายขอบเขต?」
「เพียงเพราะล้มลงในเมืองนี้ไม่ได้แปลว่าจะเกี่ยวข้องกับที่นี่เสมอไป มาสำรวจพื้นที่ใกล้เคียงเถอะครับ」
ลิลลี่ทำหน้างุนงงเล็กน้อย และเซนอสพยักหน้าพูดต่อ
「หากพูดถึงที่ๆอยู่ใกล้เมืองล่มสลายก็สลัมนั่นแหละ」
+++
เมื่อเดินลึกเข้าไปในเมืองที่ล่มสลาย ก็จะพบกับถิ่นที่อยู่อาศัยของพวกยาจก
ระดับการพังทลายค่อนข้างคล้ายกับเมืองนี้ แต่ในแง่ของการมีชีวิตชีวาตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง
「อะสวัสดีครับอาจารย์」
「อืม เป็นยังไงบ้างล่ะ?」
「เอ๋ อาจารย์เซนอสไม่ใช่เหรอนั่น」
「กรุณาอย่าตื่นเต้นเกินไปจนล้มลงเหมือนเมื่อก่อนนะครับ」
「อาจารย์ เล่นพาสาวสวยมาทั้งสองคน คบกันอยู่งั้นเหรอ~?」
「เอิ่มแค่มาเดินเล่นครับ เดินเล่น」
ถนนเต็มไปด้วยผู้คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกึ่งมนุษย์ และผู้คนจากทั่วทุกมุมก็เข้ามาหาทันที
เมื่อเราหยุดพูดคุยเป็นครั้งคราว ลิซซึ่งกำลังดูอยู่ก็แสดงความสงสัย
「นี่เซนอสจังได้รับความนิยมมากเลยนะ」
「เอ่อ แถวนี้ก็มีแต่คนรู้จักทั้งนั้นแหละครับ」
「ดูเหมือนทุกคนจะไม่กลัวเซนอสจังเลยนะ……」
「ทำไมต้องกลัวผมเหรอครับ?」
「ท้ายที่สุดแล้วทุกคนไม่ได้ถูกครอบงำด้วยความกลัวงั้นเหรอ?」
「เอ่อ พี่พูดอะไรอีกแล้วเนี่ย?」
ตั้งแต่ที่เจอกัน พี่ลิซก็เริ่มพูดอะไรที่ชวนเข้าใจยากมาบ่อยครั้ง
แม้กระทั่งตอนนี้เธอก็พึมพำพร้อมก่ายหน้าผาก「เกิดบ้าอะไรขึ้นเนี่ย……แปลกเกินไปแล้ว……」
ผ่านถนนสายหลักแล้วเลี้ยงผ่านถนนแคบๆคล้ายกับเขาวงกต
ลิลลี่เองก็กังวลกับท่าทีของลิซเลยเปลี่ยนเรื่องคุย
「เอ่อสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่ทั้งสองคนเติบโตมามันลำบากมากเลยใช่ไหมคะ?」
เซนอสกับลิซเห็นด้วยกับคำพูดของลิลลี่ในเวลาเดียวกัน
「เอ่อ ขอโทษนะคะ」
「เรียกได้ว่าคุกเลยดีกว่ามั้ง」
「ผู้อำนวยการคาลิทซ์เป็นคนที่แย่มากเลยล่ะ」
พวกเขาต่างแสดงสีหน้าซีดเซียว
เหมือนกับยมฑูตที่เพียงแค่เด็กๆได้ยินชื่อก็หวาดผวา แม้แต่เซนอสเองยังดูท่าทางกังวล
หลังจากขนลุกเพราะเรื่องราวเก่าๆเซนอสก็ถามลิซ
「แล้วความทรงจำของพี่ลิซล่ะ?」
「นั่นสินะ……」
ลิซใช้ปลายนิ้วลูบคางราวกับว่าเธอกังวลกับบางสิ่งบางอย่าง
ในขณะนั้นเองก็มีเด็กน้อยหลายคนวิ่งมาจากถนน
หนึ่งในนั้นสะดุดล้มลง
เธอคนนั้นจับเข่าที่ถลอกและมีเลือดไหลออกมาและเริ่มร้องไห้
เด็กคนอื่นๆก็กังวลว่าจะทำยังไง
「คุณเซนอส」
「อืม พวกเด็กๆนี่ร่าเริงกันดีจริงๆเลยนะเนี่ย」
ลิลลี่และเซนอสมุ่งหน้าไปหาเด็ก
「ฟังนะ อย่าได้ร้องไห้เพียงเพราะแค่สะดุดล้ม」
「เจ็บง่าาาาา เจ็บบบบบบบบบ」
เซนอสยักไหล่และก้มลงวางมือบนเข่าของเด็ก
「ดูสิ ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้ว ครั้งต่อไปก็ระวังตัวด้วยล่ะ เข้าใจไหม」
「อึก ไม่เจ็บแล้ว?」
เด็กน้อยเอียงคอด้วยความประหลาดใจ
ตอนนี้เข่าที่ถลอกสะอาดสะอ้านราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ขอบคุณนะพี่ชาย เด็กๆพูดเช่นนั้นและวิ่งออกไปอีกครั้ง
ลิซที่ยืนอยู่ด้านหลังก็ตกตะลึงและเสียงของเธอก็สั่นเทา
「เอ่อ เซนอสจัง….เด็กเมื่อกี้นี้……?」
เซนอสหันกลับมาแล้วเกาหัว
「อ๋อ ผมลืมบอกไปเลยสินะครับ จริงๆแล้วผมเป็นฮีลเลอร์น่ะ」
「เอ๋?」
ลิซอ้าปากค้าง ตกใจอย่างมาก
「ฮีลเลอร์……? ไม่ใช่ผู้ครองดินแดน?」
「พี่จะพูดถึงเรื่องนั้นไปถึงเมื่อไรกันครับเนี่ย?」
「แล้วงานด้านมืดที่บอกกับพี่คืออะไร……」
「เอ่อที่ผมไม่อยากจะพูดก็เพราะ ผมไม่มีใบประกอบวิชาชีพในการเป็นฮีลเลอร์ ก็เลยเรียกได้ว่าเป็นหมอเถื่อนก็ได้ครับ」
「นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมถึงมีหนังสือกายวิภาคและยาอยู่ที่บ้าน……?」
「อ่าใช่แล้ว พี่แอบสำรวจบ้านผมเหรอ」
「……」
「พี่ลิซ……?」
เซนอสมองไปยังลิซที่ตกตะลึงและเงียบไป
ลิซครางออกมาเล็กน้อยและเริ่มร้องไห้ออกมาเหมือนกับเด็ก
「แงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง นั่นสินะ เซนอสจังคนนั้นไม่มีทางทำอะไรแบบนั้น……」
ตอนที่ 102 พลังพิเศษ
「เป็นอะไรไปเหรอพี่?」
「ไม่เป็นอะไรนะคะลิซซัง?」
「เอ่อ เปล่าไม่มีอะไรหรอก」
เซนอสและเอลฟ์ตัวน้อยกำลังมองเธอด้วยความกังวล และลิซก็ส่ายหัวช้าๆ
ความจริงที่ฉันคาดไม่ถึงขณะที่เดินไปรอบๆสลัม
เซนอสไม่ใช่ผู้ครองดินแดน แต่เป็นเพียงฮีลเลอร์
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกกึ่งมนุษย์ถึงชื่นชมในตัวเขา
――แล้วนี่ฉันมากังวลบ้าอะไรเนี่ย……。
ฉันแทบจะคุกเข่าลงกับพื้นเพราะความพยายามอันเปล่าประโยชน์
ด้วยความปรารถนาอันสิ้นหวัง เอลฟ์ตัวน้อยที่ปกป้องคู่หูจนกระทั่งหลับไป และฉันเองก็มัวแต่วุ่นจะจับเซนอสมาเป็นหมากจนไม่ได้นอน
「พี่ลิซ เผลอจำเรื่องแย่ๆได้ขึ้นมาเหรอครับ?」
เซนอสพูดด้วยสีหน้าลำบากใจ
「ขอโทษนะที่บังคับพี่มาที่นี่ บางทีผมอาจจะรีบเกินไปหน่อย」
「เอ่อ ไม่ต้องกังวลไปหรอกเซนอสจัง ขอบคุณมากนะ」
ฉันที่นั่งร้องไห้และยิ้มทั้งน้ำตา
ฉันพยายามทำร้ายเซนอสขณะหลับ แต่ก็ไม่ได้ผลเพราะเวทย์ป้องกัน
ฉันเคยพยายามให้เขาดื่มเลือดของฉัน แต่มันก็ไม่ได้ผลเพราะมันขาดความเข้มข้น
ฉันคิดว่าฉันสามารถหาช่องว่างต่างๆได้ แต่ถ้าเซนอสไม่ใช่เป้าหมาย ทุกอย่างก็ไร้ความหมาย
ประการแรกการมีอยู่ของผู้ครองดินแดนนั้นน่าสงสัย
――เดี๋ยวนะ?
ลิซเงยหน้าขึ้นมามองทันที
「นี่ เซนอสจังบอกว่าใช้เวทย์ป้องกันได้ใช่ไหม?」
「อืม ทำไมเหรอครับ」
「แล้วเซนอสจังที่บอกว่าตัวเองเป็นฮีลเลอร์หมายความว่ายังไง?」
「เอ๋? ผมก็แค่ใช้เวทย์รักษากับเวทย์ป้องกันได้นี่」
「แบบนั้นเหรอ? มันเป็นไปได้ด้วยเหรอ?」
「มีคนเคยบอกผมก่อนหน้านี้ แต่หลักการทำงานมันก็เหมือนๆกันคือการเสริมความแข็งแกร่งให้ร่างกาย」
「อืมมม……」
ลองคิดดูสิ ตอนที่อยู่ในงานเทศกาลฉันได้ยินมาว่า เซนอสจับหินเวทย์ระเบิดที่ไกล์ออนปาไปด้วยมือเปล่า ระดับของเวทย์ป้องกันนั่นน่าจะสูงลิ่วเลยนะ ถ้างั้นเวทย์ป้องกันก็คือเวทย์หลักที่ชำนาญที่สุด แล้วเวทย์รักษาเป็นรองงั้นเหรอ
「เอาล่ะเรากลับกันเถอะครับพี่ลิซ」
「อืม…ฉันจะพยายามนึกบางอย่างให้ออกนะเซนอสจัง ขอฉันอยู่คนเดียวสักพัก」
「เข้าใจแล้ว พอจะจำอะไรได้ก็บอกผมได้เลยนะครับ?」
「อืม ไม่เป็นไรหรอกนะ ขอเวลาให้ฉันสักครู่」
「เข้าใจแล้วครับ อย่ากดดันตัวเองจนเกินไปนะครับ」
เซนอสหายตัวไปตามตรอกถนน โดยพาเอลฟ์ตัวน้อยไปด้วย
ลิซยืนอยู่อย่างหมดแรง
เมื่อสิ่งนี้มันเกิดขึ้นแล้ว ไม่มีประโยชน์ที่จะต้องแสดงอีกต่อไป
เราต้องพิจารณาว่าจุดประสงค์ต่อไปควรจะทำเช่นไรดี
「ถ้างั้นก็ขอทำตัวมาร์คกิ้งไว้ที่นี่……」
ลิซครางและกัดเล็บของเธอ
「คุณหนูลิซ」
จู่ๆก็โดนเรียกชื่อจากกำแพงด้านหลังที่พังทลาย
ไกล์ออนที่เป็นลูกน้องของฉันโผล่ออกมาจากช่องว่างนั่น
ลิซตรวจดูรอบๆแล้วค่อยเดินไปใกล้ๆกำแพง
「แอบตามมาเหรอ?」
「ครับ เพื่อมาดูว่าเกิดเหตุอะไรรึเปล่า……」
「แล้วสีหน้าแบบนั้นมันมีอะไรผิดปกติรึไง?」
หากมองใกล้ๆก็จะเห็นได้ว่าใบหน้ามีแต่รอยฟกช้ำ
「ทั้งหมดนี่ก็เพื่อท่านเลยนะครับ」
「……」
ลิซยังคงยืนงง
ไกล์ออนที่ใบหน้าบวมเต่งไปหลายแห่ง ได้อ้าปากของเขาด้วยท่าทางกลัวเล็กน้อย
「คุณหนูลิซ พวกของเราค่อนข้างใจร้อน เมื่อไรพวกเราจะได้ยึดครองสลัมแห่งนี้」
「ถึงปากแกจะพูดแบบนั้นก็เถอะน้า……」
ฉันพยายามระมัดระวังและรีบออกจากที่นี่โดยเร็วที่สุด
「อันที่จริงเขาไม่ใช่ผู้ครองดินแดนอะไรนั่นหรอก」
「เอ๊ะจริงเหรอครับ?」
「ดังนั้นมันไม่ง่ายขนาดนั้น――」
เมื่อฉันพูดแบบนั้น ไกล์ออนก็ส่ายหัวเล็กน้อย
「คุณหนูลิซ ยังไงผมก็ยังแนะนำแผนเดิม」
「……」
เฮ้อ ไม่ยอมฟังใครเลยจริงๆนะหมอนี่
ฉันควรจะเอายังไงดีเนี่ย――
ในขณะนั้นก็ได้ยินเสียงกรีดร้องอันสยดสยองดังมาจากข้างถนน
「ช่วยด้วย ฉันโดนแทงงงงงงงง」
「ชุลมุลไปหมดแล้ว」
ลิซจ้องมองไปที่ไกล์ออน
「นี่แกทำบ้าอะไรลงไป」
「เอ่อ ไม่ใช่ผมนะครับ แต่บางที……」
ลิซวิ่งออกไปจากที่เกิดเหตุและมุ่งหน้าไปยังจุดที่เกิดความวุ่นวาย
ลิซาร์ดแมนนอนหงายโดยจับสีข้างของเขาเอาไว้
「นี่ แข็งใจไว้นะ」
「คนร้ายไปทางไหนแล้ว?」
「ไม่รู้เลย」
「ดูเหมือนว่าจะถูกแทงจากด้านหลังอย่างกะทันหัน」
เหตุการณ์ความวุ่นวายที่เริ่มขึ้น ลิซสังเกตเห็นกระดาษแผ่นหนึ่งวางอยู่ข้างๆลิซาร์ดแมนที่ล้มลง
เมื่อฉันหยิบกระดาษแผ่นนั้นมันถูกเข้ารหัสด้วยกิลด์ใต้ดินเขียนว่า「ลงมือด่วน」
「……」
นี่มันข้อความจากเบื้องบนที่เป็นคำสั่งด่วน
นี่เหรอวิธีทำงานของกิลด์ใต้ดิน
อย่างไรก็ตามลิซว่ามันเร็วเกินไปสำหรับสงครามเต็มรูปแบบ
แม้ว่าจะเป็นไปได้ที่จะจัดการกับพวกกึ่งมนุษย์ระดับล่างได้และทำให้เกิดความสับสน แต่เวลาเดียวกันที่จะต้องจัดการระดับหัวหน้าเองก็ต้องเสียเลือดเสียเนื้อเป็นจำนวนมาก ดังนั้นหลังจากยึดที่มั่นหลักได้แล้วก็ต้องถ่ายเลือดให้พวกนั้นเป็นประจำเพื่อใช้เป็นหมาก หากพวกนั้นเกิดอาการขาดเลือดก็จะกลับมาได้สติ
มีพวกกึ่งมนุษย์มากมาย จำเป็นต้องเตรียมการอย่างระมัดระวังในการลงมือ
ตามที่คาดไว้ การจะขึ้นไปดำรงตำแหน่งสูงสุดนั้นค่อนข้างยากเพราะสามเสาหลักดันเป็นผู้หญิงเสียหมด
ตอนนี้การดำรงอยู่ของผู้ปกครองเป็นเรื่องที่น่าสงสัย พวกเราจะยึดพื้นที่นี้ได้จริงเหรอ?
ในขณะที่ฉันวิตกกังวล ชายคนหนึ่งในชุดคลุมสีดำก็มาพร้อมกับเอลฟ์ตัวน้อย
「ผู้บาดเจ็บอยู่ที่ไหน?」
「ท่านเซนอส ตรงนี้ครับ」
ลิซเก็บกระดาษที่ได้มาไว้ในกระเป๋า
「เซนอสจัง」
「เอ๊ะ พี่ลิซอยู่นี่ด้วยเหรอครับ?」
「อืม พอดีมีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นที่นี่……」
เซนอสคุกเข่าลงข้างๆผู้บาดเจ็บ
ใบหน้าของลิซาร์ดแมนนั้นดูซีดเซียว
เลือดไหลออกมาจากสีข้างของเขา อาจเป็ฯเพราะว่าถูกแทงโดนเส้นเลือดใหญ่
ฉันรู้เรื่องนี้เพราะฉันสัมผัสมันมาก่อน
ผู้บาดเจ็บรายนี้ช่วยไว้ไม่ได้แน่
แต่ว่า――
「เฮ้อ โชคดีจริงๆที่ท่านเซนอสเดินอยู่แถวนี้」
「นั่นสินะ โครตจะอันตรายเลย」
แม้ว่าเพื่อนๆของเขากำลังจะตาย แต่ไทยมุงก็สร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายอย่างยิ่ง
ไม่ แม้แต่ผู้บาดเจ็บที่ใกล้จะตายก็ยังดูโล่งใจ
พวกเซนอสเองก็ไม่ได้ตื่นตระหนกอะไร และวางมือลงบนสีข้างของผู้บาดเจ็บ
「มันค่อนข้างจะลึก ต้องสร้างผนังหลอดเลือดใหม่ สมานผนังอวัยวะภายใน สร้างเยื่อบุช่วงท้อง เนื้อเยื่อกล้ามเนื้อขึ้นมาใหม่ สุดท้ายปิดด้วยผิวหนัง」
เขาพึมพำขณะที่ยกมือขึ้น และมีแสงสีขาวเป็นประกายลอยอยู่รอบๆตัว
และเมื่อแสงระยิบระยับคล้ายกับผงหายไป บาดแผลของผู้บาดเจ็บก็ปิดสนิทแล้ว
「เอ๋……?」
「โอเค ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้ว อย่างไรก็ตามอย่าลืมเรื่องค่ารักษาพยาบาลด้วย」
「แน่นอน ขอบคุณที่ช่วยชีวิตผมไว้ครับ ท่านเซนอส」
เมื่อมองไปที่ลิซาร์ดแมนที่ยืนขึ้นราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ลิซก็พึมพำด้วยความตกใจ
「ล้อกันเล่นใช่ไหมเนี่ย……」
แผลที่ดูเหมือนสายเกินไป แต่ผู้บาดเจ็บก็หายเป็นปลิดทิ้ง
ลิซกระพริบตาหลายครั้งกับภาพที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน
พร้อมกับความกลัว ความตื่นเต้นอันแสนมากมายก็มากล้น
เพื่อนสมัยเด็กของฉันเซนอสจัง
เขาไม่ใช่ผู้ครองดินแดน เป็นเพียงฮีลเลอร์
แต่――
พลังของมันที่ไม่เคยมีมาก่อนและสามารถรวบกึ่งมนุษย์ให้เป็นหนึ่งเดียวได้
มันยังไม่จบ
ถ้าฉันสามารถควบคุมเขาได้ ความปรารถนาของฉันก็จะเป็นจริง
ลิซออกจากที่เกิดเหตุท่ามกลางฝูงชนและพูดสิ่งนี้กับไกล์ออนที่รออยู่หัวมุมถนน
「บอกเบื้องบนให้รออีกสักหน่อย」
「ครับ เข้าใจแล้วครับ ว่าแต่ไม่เป็นไรนะครับคูณหนู?」
ลิซพยักหน้าช้าๆ
ความพยายามที่สร้างความเสียหายใส่เขานั้นล้มเหลวเพราะเวทย์ป้องกัน
แม้ว่าจะเจาะทะลวงเกราะป้องกันได้ก็จริง แต่เวทย์รักษาก็จะสมานแผลก่อนเลือดของฉันจะหยดลงไป
กล่าวอีกนัยหนึ่งการให้เลือดฉันผ่านเส้นเลือดนั้นแทบเป็นไปไม่ได้
อย่างไรก็ตามมีเพียงทางเลือกเดียวเท่านั้น
「ถ้าฉันไม่สามารถทำร้ายเขาได้ ฉันก็ต้องทำให้เขาหลงเสน่ห์ของฉันหัวปักหัวปำในฐานะผู้หญิง」
การใช้เลือดมันก็แค่ทางเลือก
พลังที่แท้จริงของซัคคิวบัสจะปรากฏให้เห็นเด่นชัดเมื่อเธอได้หลอมรวมเป็นหนึ่งกับผู้ชาย
เคล็ดลับก็คือการเปิดซิงของพวกเราทั้งคู่นั่นเอง
ด้วยวิธีนี้เวทย์ป้องกันและเวทย์รักษาก็ไม่เกี่ยวกันแล้ว
ถ้าทำแบบนั้นก็จะสามารถถ่ายทอดพลังเวทย์ของซัคคิวบัสเข้าในตัวได้โดยตรง
เมื่อฉันพึมพำแบบนั้นไกล์ออนก็ประหลาดใจ
「ถึงขั้นกับต้องเสียงพรหมจรรย์เลยเหรอครับ ? หมอนั่นมันมีอะไรดีขนาดนั้นเลยเหรอ」
ดูเหมือนว่ากำลังพูดถึงเซนอส
「แล้วทำไมแกต้องมาสนใจด้วยล่ะหะ」
「ไม่ ไม่ คือแบบ……」
「ฉันน่ะ ไกล์ออน เป้าหมายของฉันมันยิ่งใหญ่ไม่ว่าจะต้องทำยังไงก็ต้องทำมันให้สำเร็จ」
ดูเหมือนจะมีผู้หญิงมากมายล้อมรอบเซนอส แต่พวกเธอล้วนเป็นพวกสมองเพี้ยนทั้งนั้น
ฉันมั่นใจว่าฉันสามารถเอาชนะเสน่ห์ในฐานะผู้หญิงได้อย่างแน่นอน
จนถึงตอนนี้เป้าหมายหลักของฉันคือการแทรกซึมและเข้าใกล้เขามากขึ้น แต่จากนี้ไปต้องเปลี่ยนเป้าหมายหลัก
ใช้ทักษะของฉันอย่างเต็มที่เพื่อดึงดูดเซนอส
ลิซเอานิ้วชี้แตะปากแล้วหัวเราะ
「รอฉันก่อนนะเซนอสจัง จะทำให้ขาดพี่สาวคนนี้ไม่ได้เลยล่ะ」
ตอนที่ 103 ลิซผู้จริงจัง vsเหล่าสาวๆ【บทเริ่ม】
【วันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ.ฟาบิลอส(ファビラウス) 304】
(TN:ป.ล.ถ้าเอาสำเนียงยุ่นก็ฟาบิลาอุส แต่มันเป็นคำทับศัพท์เพราะงั้นใช้ภาษาอังกฤษเถอะ)
เซนอสกลับมาจากการเดินเล่นรอบเมืองที่พังทลายพร้อมกับหญิงคนหนึ่งที่อ้างว่าสูญเสียความทรงจำ
「ความทรงจำยังไม่กลับมาอีกเหรอ?」
「อืม ขอโทษด้วยนะจ้ะ」
「ไม่หรอก มันก็เป็นความผิดของผมด้วยแหละที่ฝืนให้พี่ทำแบบนี้」
「ไม่เป็นไหรอกจ้ะ เซนอสจัง กังวลไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาเราค่อยๆรื้อฟื้นมันอย่างช้าๆดีกว่านะ」
เซนอสและผู้หญิงที่ชื่อลิซกำลังสนทนากัน
「แต่ว่า เกิดเหตุการณ์แบบนี้มันน่ากลัวนะคะ……」
เอลฟ์ตัวน้อยลิลลี่ส่ายหัว
ดูเหมือนมีเหตุการณ์เกิดขึ้นในสลัม
「ดีนะที่ช่วงนี้มีความสงบสุขเกิดขึ้นในสลัม……」
เซนอสพูดอย่างงั้นพร้อมกับมองไปที่ลิซ
ลิซมีรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ
「มีอะไรงั้นเหรอจ้ะเซนอสจัง?」
「ปะเปล่า….ไม่มีอะไรครับ」
เมื่อเซนอสส่ายหัวกับท่าทางที่ไร้ความกังวล ลิซก็ปรบมือของเธอ
「เอาล่ะขอตรวจตรา และเดี๋ยวเก็บกวาดสักเล็กน้อยก็น่าจะโอเคแล้ว」
「นั่นมันงานของลิลลี่นะคะ」
เมื่อลิลลี่พูดแบบนั้น เซนอสก็ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
「ไม่เป็นไรหรอกน่า ลิลลี่ฉันเองก็เป็นหนี้เธอนะจ้ะ ให้ฉันทำบ้างเถอะ」
ฉันจับไหล่ของลิลลี่แล้วให้เธอนั่งลงบนเก้าอี้
ลิซพับแขนเสื้อขึ้น บิดผ้าออกและเริ่มทำความสะอาด
และเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงห้องของพวกเขาก็ทำความสะอาดจนหมดจด
「อืม มันต้องอย่างงี้สิ」
「สุดยอดเลย」
「เพอร์เฟ็คมาก……」
ขณะที่เซนอสและลิลลี่กำลังชื่นชม ลิซก็หยิบไม้ปัดฝุ่นแล้วมุ่งหน้าไปที่บันได
「ถ้างั้นก็ไปทำความสะอาดชั้นสอง」
「เอ่อ ขอร้องล่ะครับอย่าขึ้นไปชั้นบนเลย」
เซนอสหยุดฉันทันที ลิซก็ได้แต่มองไปที่บันได
เขาพึมพำด้วยสีหน้ากังวลเล็กน้อย
「อืม…ก็ไม่รู้ว่าทำไมหรอกนะแต่ฉันเองก็คิดว่าจะเลิกดีกว่า……」
บาดแผลนั่นทะลุเข้ามาในใจเธอรึเปล่านะ
ในท้ายที่สุดก็ล้มเลิกการทำความสะอาดบนชั้นสอง เซนสอและลิลลี่ออกไปซื้อส่วนผสมและวัตถุดิบอาหารโดยปล่อยลิซไว้ตามลำพัง
เรื่องนี้ค่อนข้างช็อคเล็กน้อยแทนที่จะพาฉันไปด้วยกลับให้ฉันเฝ้าบ้าน
ดูเหมือนว่าฉันควรจะเช็คตู้แล้วดูอุปกรณ์เย็บผ้าของลิลลี่
ฉันได้แต่สงสัยว่ามีอะไรใช้งานได้บ้าง แต่หลังจากนั้นก็ต้องล้มเลิกความสนใจ
「อาจารย์เซนอส ริงก้าเอาปลามาให้」
มนุษย์หมาป่าริงก้าปรากฏตัวที่คลินิกพร้อมกับตะกร้าที่เต็มไปด้วยปลา
「อืม สวัสดีจ้ะ ถ้าเซนอสจังไม่อยู่หรอกนะจ้ะ」
เมื่อลิซตอบ ริงก้าก็พูดด้วยสีหน้าลำบากใจเล็กน้อย
「ไม่มีอะไร เมื่อวานเห็นล้มฟุบไม่ใช่เหรอ ตอนนี้อาการปกติแล้วงั้นเหรอ?」
「โอ้ คุณคือริงก้าสินะคะ ฉันได้ยินมาว่าคุณเป็นคนอุ้มฉันมาที่นี่ ขอบคุณที่ช่วยฉันไว้นะคะ」
「อืม ว่าแต่ทำไมยังอยู่ที่นี่ล่ะ? หากรู้สึกดีขึ้นก็สามารถกลับบ้านได้แล้วนี่」
「พอดีว่าฉันเสียความทรงจำเพราะอาการช็อค…และเซนอสจังก็ขอให้ฉันอยู่ที่นี่กับเขาจนกว่าฉันจะหายดี」
「เอ๋อาจารย์เซนอสจะอาศัยอยู่กับคุณ……?」
ดวงตาของริงก้าเบิกกว้างด้วงความตกใจ
「จ้ะ ฉันเป็นคนรู้จักของเซนอสจังเมื่อนานมาแล้ว และดูเหมือนเขาจะกังวลเกี่ยวกับฉันมากเลยล่ะ」
「ให้ตายเหอะศัตรูเพิ่มอีกแล้วไม่น่าช่วยเลย」
ประกายไฟปรากฏขึ้นบนตาของทั้งสอง
「……ว่าไงนะค้าาาาาาาา?」
ราวกับนึกอะไรบางอย่างได้ลิซก็เข้าไปใกล้ตะกร้าปลาที่ริงก้าวางไว้
「ริงก้าซังสินะคะ สิ่งนี้คืออะไรเหรอคะ?」
「หมายถึงอะไรเหรอ?」
「ก็ดูสิปลาตัวนี้ มีเข็มอยู่ในเหงือกปลาด้วยเนี่ย」
ลิซหยิบปลาขึ้นมา และหยิบอะไรบางอย่างออกมา
มันมีเข็มบางๆอยู่ที่ปลายนิ้ว
「หมายความว่ายังไงคะ ริงก้าซังงงงงงง」
ริงก้าเบิกตากว้าง
「ไม่ ไม่ ไม่ เค้าไม่รู้อะไรเลยนะ เค้าเพิ่งจับมันได้เมื่อเช้านี้……」
「ฉันไม่ได้ยินเรื่องแบบนั้นมาเลยนะคะ ถ้าเกิดฉันไม่เช็คให้แล้วเซนอสจังได้รับบาดเจ็บเธอจะว่ายังไง」
「เอ่อ คือว่า ริงก้าไม่ได้――」
「จริงๆแล้วปลาที่รับมาเมื่อวานนี้ก็มีเข็มติดอยู่ด้วย ลิลลี่ซังฟ้องมาว่าเกือบได้รับบาดเจ็บและเซนอสจังก็โกรธมากด้วย」
「เอ่อ ไม่น่าจะเป็นแบบนั้นนะ」
ริงก้าถอยห่างจากลิซที่เดินเข้ามาหาเธอ
「ไม่ ไม่ ริงก้าไม่กล้าทำแบบนั้นเลยนะ ริงก้าไม่ทำแบบนั้นเด็ดขาด」
หลังจากพูดแบบนั้นริงก้าก็วิ่งหนีและกลับบ้านไป
ลิซพึมพำเมื่อมองเห็นแผ่นหลังที่เผ่นแน่บไป
「ฮะฮะฮะ กะแล้วเชียวว่าต้องมีคนเอาของฝากมาให้เหมือนกับที่รอเมื่อวานเลย」
ลิซยิ้มเล็กน้อยขณะที่เธอใส่เข็มกลับเข้าไปในกล่องเย็บผ้า
「ก่อนอื่นเลย…ฉันจะกำจัดยัยผู้หญิงที่จะเข้าหาเซนอสจังทุกคนให้หมดเลย」
+++
ชั้นสองที่ถูกปกคลุมด้วยความมืด
ผีตนนึงมองดูไดอารี่ มุมปากของเธอยิ้มขึ้น
「ข้าเข้าใจแล้ว…นั่นคือแผนที่เจ้าวางเอาไว้สินะ เหตุผลที่ทำความสะอาดห้องก็เพื่อดูว่าอุปกรณ์เย็บผ้าอยู่ที่ไหน เอาล่ะ มาเล่นกันหน่อยไหม ผู้มาเยือนใหม่เอ๋ย ถ้าปล่อยให้แผนการของเจ้าราบรื่น มันก็จะไม่สนุกเอานะสิ」
จากนั้นตรวจสอบมุมขวาบนก็บนชื่อเช็คลิสต์ของริงก้า
「ริงก้าจะยอมถอยกลับไปงั้นรึ? แม้ว่าจะเป็นศัตรูเพียงคนเดียวแต่ก็ใช้มารยาได้น่ากลัว ท้ายที่สุดแล้ว เหล่าสาวๆที่มาไต่ตอมเซนอสก็จะพ่ายแพ้ให้กับคนๆนี้ทีละคนงั้นรึ……」
ฉันเอาปากกาแนบหูแล้วพลิกดูไดอารี่
「ตอนนี้ใครจะครอบครองเซนอส เพื่นอสมัยเด็กผู้มาใหม่หรือเหล่าสาวๆที่มาก่อนกาล เซนอสเอ๋ย มันน่าสนใจมากกว่าที่ข้าคาดเอาไว้ใช่ไหม……!」
คามิลล่ากอดอกอย่างเกียจคร้านในความมืด
――ตอนนี้ถึงเวลา จัดโชว์พิเศษแล้ว!
ตอนที่ 104 ลิซผู้จริงจัง vs เหล่าสาวๆ【บทกลาง】
【วันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ.ฟาบิลอส 304 (ตอนบ่าย)】
ในช่วงบ่าย ลีฟมาถึงพร้อมกับลูกน้องหลายคน
ผนังและเสาด้านนอกของคลินิกบางส่วนพังทลายลง และดูเหมือนว่าจะมาซ่อมแซม
「ขอบคุณนะ ลีฟ」
「ลีฟซังแข็งแกร่งมาก ดังนั้นจึงชอบช่วยเหลือผู้อื่น」
เซนอสและลิลี่พูดพร้อมกัน
「ฮ่าๆๆ ถ้าของแบบนี้อยู่ในมือข้าแปปเดียวก็เสร็จแล้ว」
ออร์คหลายตัวที่นำโดยลีฟกำลังเดินไปรอบๆคฤหาสน์ที่แบกไม้ไว้บนบ่า
「เอาล่ะ ทุกคน ดื่มชาพักกันสักหน่อยนะคะ」
ลิซผู้เป็นอิสระที่เดินมาพร้อมกับถาดชาเย็น
จากนั้นเธอก็แจกถ้วยชาให้ทุกคนอย่างมีความสุข
「ช่วงนี้อากาศร้อนมาก ดังนั้นโปรดระวังอย่าให้ร่างกายขาดน้ำ」
เธอยิ้มและทำตัวเหมือนกับศรีภรรยา
「อย่างไรก็ตาม ไม่เคยคิดเลยนะว่าเธอจะเป็นเพื่อนสมัยเด็กของเซนอส……」
「ใช่แล้วค่ะ ฉันชื่อว่าลิซ เซนอสจังคอยดูแลฉันอยู่เสมอ ลีฟซัง」
「อืม…ไม่ใช่ คนที่คอยดูแลผมก็คือพี่นี่ล่ะ」
ลีฟที่ได้ยินแบบนั้นก็ทำสีหน้าอธิบายไม่ถูก
ลิซวางถาดลงแล้วพุ่งเข้าหาเซนอส
「เซนอสจัง มีอะไรให้ฉันช่วยไหมจ้ะ」
ฉันหยิบค้อนและตะปูที่อยู่บนพื้นขึ้นมาแล้วพับแขนเสื้อขึ้น
「ให้ฉันช่วยตอกตะปูตรงกำแพงนี้ดีไหม?」
「ก็ได้อยู่หรอกครับ แต่ว่าจะไหวเหรอพี่ลิซ?」
「แม้ว่าตอนที่ฉันจะอยู่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า บางครั้งก็ถูกให้ทำงานช่างไม้นี่ ดังนั้นมันก็คงไม่เป็นไร」
「ลองคิดดูก็ถูกแล้ว」
ลิซตอกตะปูกับผนังแล้วถือค้อนและ――
「อ๊าาาาาาาาาาาาา」
ฉันเผลอเสียการทรงตัวและเกือบจะล้มลงบนเซนอสจากด้านหลัง
เซนอสซึ่งตอนนี้มีบทบาทเป็นตัวประกอบพูดกับลิซ
「พี่ลิซ ไม่เป็นไรนะครับ?」
「โอ้ขอโทษนะจ้ะเซนอสจัง เอ่อ ฉันก็พยายามทำแล้วแต่ว่าก็ไม่โอเคเลย……」
ลิซผู้กอดเซนอส เหลือบมองลีฟ
「หึหึหึ……」
「พี่ลิซ เดี๋ยวผมทำต่อเอง ดังนั้นอย่าพยายามมากเกินไปสิ」
「โอ้ ขอโทษด้วยค่า เพราะฉันมันไร้ซึ่งพลัง……」
เธอทำหน้าขิงใส่ลีฟ
「ปล่อยให้งานแบบนี้เป็นหน้าที่ของคนที่มีพละกำลังเยอะดีกว่านะ ฉันเองก็อยากจะมีกล้ามใหญ่ๆแบบลีฟซังเหมือนกัน……」
「ฮะฮะฮะฮะ……」
ลิซกระซิบกับลีฟขณะที่พวกเขาเดินผ่านกัน
「เซนอสจังดูเหมือนจะชอบผู้หญิงหุ่นนางงามนะคะ」
「หนอยยยยยยยยยยยยยยยยยยย」
ลีฟคร่ำครวญ จากนั้นจู่ๆก็ทิ้งท่อนไม้ที่เธอแบกไว้บนบ่าและล้มลงคุกเข่า
「เฮ้ เฮ้ เกิดอะไรขึ้นกับลีฟ?」
เมื่อเซนอสถาม ลีฟก็หายใจแรงและครวญคราง
「ให้ตายเถอะ ข้าอ่อนแอเกินกว่าจะจับไม้สี่เหลี่ยมแบบนี้」
「……เอ่อไม่ใช่ว่าเหวี่ยงมันได้สบายๆเลยเหรอ?」
「ว้าาา ไม้ท่อนนี้มันหนักเกินไปสำหรับสาวอ่อนแอแบบข้า」
「เดี๋ยวพูดบ้าอะไรอยู่เนี่ย……?」
「ขอโทษด้วย เซนอส ดูเหมือนวันนี้ข้าจะไม่ค่อยสบาย」
ลิฟจากไปพร้อมกับลูกน้องของเธอ
「……เกิดบ้าอะไรขึ้นกันแน่?」
ด้านหลังเซนอสที่กำลังงุนงง ลิซยิ้มอย่างผู้ชนะ
+++
ในตอนเย็นมีผู้หญิงคนที่สามปรากฏตัวขึ้น
「โซเฟียมีอะไรงั้นเหรอ?」
「อาจารย์ดูเหมือนว่าจะช่วยดูแลลูกน้องของฉันเป็นอย่างดีเลยนะคะ ฉันมาเพื่อขอบคุณค่ะ」
ดูเหมือนเธอจะนำผลไม้มาเป็นของที่ระลึกพร้อมกับเงินค่ารักษา
เซนอสที่นั่งโต๊ะอยู่สอบถาม
「แล้วจับตัวคนร้ายได้รึยัง?」
「อืมเขาบอกว่าถูกแทงจากด้านหลังและฝูงชนเยอะมากก็เลยไม่เห็นตัวคนร้าย น่าเสียดาย」
โซเฟียพูดขณะที่เธอหันไปมองลิซที่นำชามา
「เอ่อ นี่มันคนไข้ที่ริงก้าพามานี่คะ」
「อืม ฉันชื่อลิซ ขอบคุณมากเลยนะคะที่ช่วยฉันเอาไว้」
「พอดีได้ยินข่าวลือมาเป็นเพื่อนสมัยเด็กของอาจารย์เหรอคะ?」
「ใช่แล้ว ฉันตกใจมากเลยล่ะที่ได้เจอกับเซนอสจังเมื่อตื่นขึ้นมาน่ะ」
「ดังนั้นตอนนี้ก็ความจำเสื่อมชั่วคราวและเป็นปัญหาอยู่สินะคะ?」
「ค่า ถูกต้องเลย」
ลิซตอบด้วยแววตาชัดเจน
โซเฟียจ้องไปที่ลิซและหายใจออกมาเบาๆ
「อืม…ถ้างั้นดิฉันขอตัวก่อนนะคะ อาจารย์ ไว้เดี๋ยวฉันจะแวะมาบ่อยๆนะคะ」
「งั้นเหรอ?」
「พอดีว่ากังวลนิดหน่อย」
โซเฟียยืนขึ้นจ้องมองไปที่ด้านหลังของลิซแล้วพูด
ทันทีที่ออกจากคลินิกก็มีคนตะโกนเรียกโซเฟีย
「เอ่อ โซเฟียซัง」
「……หืมเธอเองเหรอ มีอะไร?」
โซเฟียมองย้อนกลับไปพบเจอกับลิซที่กำลังปิดประตูคลินิก
หลังจากมองไปรอบๆลิซก็ลดเสียงต่ำลงแล้วพูด
「อืมเกี่ยวกับคนที่เผ่นผ่านไปมาช่วงนี้ พอดีว่าฉันกังวลนิดหน่อยค่ะ」
「……」
「ฉันอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุ ก็เลยพอจะบอกได้ว่าเดินผ่านออร์คและมนุษย์หมาป่าคู่หนึ่งออกจากพื้นที่วุ่นวายด้วยความรวดเร็วค่ะ」
「พูดอะไรน่ะ?」
「แน่นอนอาจจะไม่ใช่อย่างที่ฉันคิดก็ได้ แต่ฉันคิดว่าบอกเพื่อไว้ก็ดีค่ะ……」
「อืม…แม้ว่าจะความจำเสื่อมแต่ก็ยังจำคนได้อีกงั้นเหรอคะ?」
「ฉันจำได้ว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากตื่นนอน ตอนนี้ฉันจริงจังมากค่ะ」
หลังจากเงียบไปสักพัก โซเฟียก็หันส้นเท้าของเธอ
「……อืม จะฟังไว้ผ่านหูแล้วกัน」
「ค่ะ จำไว้ด้วยนะคะ อย่าให้มันเป็นโซ่ตรวนมากวนใจคุณ」
ลิซพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาขณะที่หันหลังกลับ
+++
「อืม ทำได้ดีกว่าที่คิดไว้อีกนะยัยเพื่อนสมัยเด็ก」
บนชั้นสองของคลินิกรักษา คาร์มิลล่าเอาปากกาวางบนริมฝีปากของเธอแล้วพูดเช่นนั้น
น่าแปลกที่ลิซขับไล่พวกกึ่งมนุษย์ออกจากเซนอสสำเร็จในวันเดียว
พูดตามตรงเลยไม่คิดว่าจะมาไกลขนาดนี้
「นอกจากนี้ ริงก้า ลีฟ และโซเฟียที่พอจะมีสมองอยู่บ้าง ก็รับมือกับยัยนี่ไม่ได้ พอมีไอเดียดีๆแล้วสิ」
แม้ว่าจะคืนดีกันผ่านตัวกลางอย่างเซนอส แต่ความขัดแย้งก็ยุติลงได้ไม่นาน
แม้ว่าจะไม่มีใครรู้ว่าเปลวไฟจะปะทุอีกเมื่อไร แต่ยัยนั่นก็คุมโซเฟียไว้ได้อยู่หมัดและบอกเป็นนัยว่าเรื่องราวเกี่ยวกับมนุษย์หมาป่าและออร์ค
ตอนนี้โซเฟียไม่มีทางเลือกนอกจากจับตาดูลีฟและริงก้า
ด้วยการป้อนข้อมูลอันละเอียดอ่อน ทำให้ป้องกันการทำงานร่วมกันได้อย่างใกล้ชิด
「อืม ข้าควรจะปล่อยให้นางเล่นไปอีกนานแค่ไหนดีน้อ…มันคงจะขำไม่ออกถ้าเพื่อนสมัยเด็กได้เข้าวินแบบนี้……」
คามิลล่าเช็กลิสต์ลีฟและโซเฟีย
ถึงกระนั้นคามิลล่าก็มองชื่อที่เหลือและพูดด้วยรอยยิ้มอย่างไม่เกรงกลัว「เอาล่ะ ถึงเวลาเจอตัวท็อปแล้วสินะยัยเพื่อนสมัยเด็ก」
「ในที่สุดการแข่งขันศึกชิงนางเอกก็ได้มาถึงจุดไคล์แม็กซ์ คู่ต่อสู้คนต่อไปแม้ดูอ่อนแอ แต่ก็แข็งแกร่งอย่างน่าเหลือเชื่อ เพื่อนสมัยเด็กเอ๋ยเตรียมใจไว้ให้ดี」
ตอนที่ 105 ลิซผู้จริงจัง vs เหล่าสาวๆ【บทท้าย】
【วันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ.ฟาบิลอส 304 (ตอนดึก)】
เมื่อมืดสนิทลิลลี่ก็กำลังเตรียมอาหารเย็นอยู่ในครัว
ลิซเป็นคนที่เข้ามาในครัว
「กลิ่นหอมมากเลยนะ ลิลลี่ทำอาหารเป็นประจำเลยเหรอ?」
「เอ่อคุณเซนอสมีหน้าที่ดูแลคนไข้ ลิลลี่เองก็เลยมาช่วยงานจิปาถะแทนค่ะ」
「แล้วถ้าฉันช่วยจะได้ไหมจ้ะ?」
「เอ่อ คุณลิซทำความสะอาดไปแล้วเพราะงั้นไม่เป็นไรหรอกค่ะ」
ลิลลี่ตอบอย่างลังเล
「แต่ว่าตอนซ่อมบ้านเองฉันก็ไร้ประโยชน์มากเลยนะ ปล่อยไว้แบบนี้จะดีเหรอจ้ะ」
「อึก……」
ลิซพูดพร้อมกับยิ้มให้กับเอลฟ์ตัวน้อยผู้สับสน
「ถ้างั้นทำไมพวกเราไม่ทำอาหารด้วยกันสองคนล่ะ? ถ้าช่วยกันทำแปปเดียวก็เสร็จแล้ว การเป็นเพียงคนว่างงานมันลำบากใจนะ เพราะงั้นให้พี่สาวคนนี้ช่วยเถอะน้า」
「……อืม เข้าใจแล้วค่ะ」
「อืมมมมมมมมม พี่สาวมีความสุขมากเลยล่ะ」
ลิซพันผ้ากันเปื้อนของลิลลี่ไว้รอบตัวแล้วยืนอยู่ในห้องครัว
ขณะที่ฮัมเพลงกับตัวเอง เธอสับผัก เนื้อปลา ผัดเนื้อ และทำซอสโฮมเมดอย่างช่ำชอง
「ว้าว สุดยอดมากเลยค่ะ……」
ลิลลี่ที่อยู่ข้างๆเบิกตากว้างขณะถือมีด
ผักย่างกับชีส
ห่อขนมพัฟอบ
พาสต้าซอสครีมกุ้ง
一สเต็กเนื้อน่อง
ในเวลาไม่นานจานทั้งสี่ใบจัดเสร็จสวยงาม
「อืม ลิซซังทำออกมาอย่างละสองจาน……」
「เอ่อ โทษทีนะจ้ะ พอดีเผลอทำมากเกินไปหน่อย」
ลิซแลบลิ้นแล้วยกจานไปที่ห้องอาหาร
「แต่ก็เป็นโอกาสอันดี เพราะงั้นรีบไปทานกันเถอะ เซนอสจัง อาหารพร้อมแล้วนะ」
เซนอสที่มาจากห้องวินิจฉัยก็มองที่โต๊ะและพูดออกมา
「ว้าววววว งดงามดูน่ากินสุดๆ」
「ไม่เลย พวกเราสองคนกับลิลลี่ช่วยกันทำน่ะ」
「เอ่อลิลลี่ไม่ได้ทำแม้แต่จานเดียว……」
ลิลลี่มองออกมาอย่างเศร้าๆในครัว
「อ๊ะ ใช่แล้ว ถ้าปล่อยให้เย็นเสียดายแย่ งั้นพวกเรามากินก่อนที่จะเย็นเถอะนะ?」
「อะอืม」
ลิลลี่นั่งลงที่โต๊ะและนำอาหารที่อยู่ตรงหน้าเข้าปาก
「โอ้ววววว อร่อยยย……!」
「อร่อยมากจริงๆนะเนี่ย」
ลิซโล่งใจและหันไปมองเซนอส
「เซนอสจัง แม้ว่าฉันจะจำเรื่องราวหลังออกจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้ แต่ฉันจำเรื่องราวต่างๆตอนที่อยู่กับเธอได้ทั้งหมดเลยนะ」
「ถ้าแบบนั้นก็ดีแล้วครับ」
「จำได้ไหม ว่าตอนนั้นฉันหิวมากจนเผลอไปเก็บถั่วโดยไม่สนใจคำเตือนของพวกผู้ใหญ่」
「อ่าคิดถึงจังเลยนะครับ」
「แล้วจำเรื่องฐานทัพลับได้ไหม? ที่นั่นมีบ่อน้ำพุ และฉันก็เคยไปแช่น้ำในนั้นเป็นบางครั้งด้วยล่ะ」
「นั่นสินะครับ สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่มีที่อาบน้ำด้วย」
「มาร์คัสเกือบจมน้ำตายแน่ะ」
「ตอนที่พยายามเก็บหอยหายากที่ด้านล่าง สุดท้ายก็เป็นเพียงก้อนหิน ตลกมากเลยล่ะ」
「เวลริตต้าเกลียดน้ำมากจนไม่กล้าเข้าไปเลยเนอะ」
「เพราะเธอค่อนข้างเป็นพวกพิเศษหน่อยๆนี่」
「……」
ขณะที่นั่งระลึกความหลัง ลิลลี่ก็นำอาหารเข้าปากอย่างเงียบๆ
ในที่สุดก็ถึงช่วงสี่ทุ่ม อาหารบนโต๊ะว่างเปล่า
เมื่อลิลลี่มุ่งหน้าไปที่ห้องครัวพร้อมจานในมือ เธอได้ยินเสียงคนสองคนพูดคุยกันในห้องรับประทานอาหาร
「อร่อยมากเลยขอบคุณนะครับพี่ลิซ」
「ถ้าไม่รังเกียจละก็ฉันทำให้ทานทุกวันเอาไหม」
「เอ๋……」
ในห้องครัว ลิลลี่ถึงกับตัวสั่น
อาหารของเธอที่อยู่ในระหว่างทำก็เย็นชืดหมดแล้ว
「……」
เธอหยิบจานขึ้นมาเงียบๆแล้วเทลงไปในถังขยะ
เซนอสคือคนที่หยุดลิลลี่
「เดี๋ยวก่อนนั่นมันสตูว์เนื้อที่ลิลลี่ทำประจำนี่」
「เอ่อ ค่ะ พอดีว่ามันยังทำไม่เสร็จลิลลี่ก็เลย……」
「รอก่อนนะลิลลี่ แบบนั้นมันเสียดายของแย่เลย」
「แต่ว่ามันเย็นหมดแล้วนะคะ」
「มันก็แค่เย็นเองนะ ตอนที่ชั้นอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าชั้นคิดว่าขนมปังดำคือของกินสุดล้ำค่าเชียวนะ」
เซนอสหยิบจานของลิลลี่แล้วเอาเข้าปาก
「อึก อร่อยยยยยย」
「เอ่อมันก็คงไม่ได้เรื่องหากเทียบกับของคุณลิซ……」
「อืมของพี่ลิซอร่อยก็จริง แต่การทำอาหารของลิลลี่และเวลาที่ชั้นได้ทานอาหารของลิลลี่มักทำให้ใจชั้นสงบอยู่เสมอ เพราะมันเป็นฝีมือที่ชั้นกินเป็นประจำนี่น่าจะให้ลืมได้ยังไง」
「คุณเซนอส……」
「เอ๋? ทำไมถึงทำหน้าเหมือนกับร้องไห้ล่ะ?」
「เอ่อเปล่าไม่มีอะไรค่ะ」
ลิลลี่เช็ดใบหน้าของเธอพร้อมกับยิ้มออกมา
「ถ้าอย่างนั้น คราวหน้าหนูจะทำอะไรอุ่นๆให้คุณเซนอสทานนะคะ」
ลิซซึ่งกำลังดูเหตุการณ์อยู่จากด้านหลังกำแพง กัดเล็บหัวแม่มือของเธอด้วยความหงุดหงิด
「……ทำไม เป็นแผนที่สมบูรณ์แบบแล้วแท้ๆ……」
+++
นอกจากนี้ยังมีผู้หญิงร่างโปร่งแสงมองเข้าไปที่เกิดเหตุจากชั้นสอง
「เข้าใจล่ะ ก่อนอื่นเลย ก็ทำให้ทุกคนเห็นถึงความต่างชั้นจนใจสลาย ไม่เพียงเท่านั้น ยังใช้เรื่องความทรงจำสมัยเด็กเข้าช่วย จนอีกฝ่ายไม่มีที่ยืน และกำจัดศัตรูให้ห่างตัวออกไป จากนั้นก็ทำการเตือนศัตรูว่าลองดูความผูกพันของทั้งสอง แม้ว่าจะเป็นวิธีการทั่วไปแต่ต้องละเอียดรอบคอบ」
คามิลล่าที่ประทับใจก็กล่าวต่อ
「อย่างไรก็ตาม ทางฝ่ายลิลลี่แม้เวลาที่จะได้อยู่ด้วยกันนั้นสั้นกว่า แต่ลิลลี่ก็ไม่ได้ด้อยกว่าในด้านความผูกพันระหว่างเซนอส ท้ายที่สุดแล้วพวกเขาทั้งสองก็มีความทรงจำร่วมกันตั้งแต่เปิดคลินิกรักษาร่วมกันมาตลอด มันไม่ง่ายเลยที่เพื่อนสมัยเด็กจะมาท้าชิงตำแหน่งศรีภรรยาไปได้……」
หลังจากนั้นเธอยิ้มและคามิลล่าก็หรี่ตาลงเล็กน้อย
「อย่างที่บอกไปว่าเพื่อนสมัยเด็กดูจะเป็นพวกโอตาคุมากไปหน่อย มันไม่ใช่เรื่องของข้าที่จะต้องไปยุ่งกับคนเป็น แต่ในขณะที่ข้าอยู่ที่นี่ อย่างน้อยก็จะขอสาปแช่งเจ้า ซึ่งจะทำให้เจ้าฝันร้ายถึงผีหัวขาด」
หลังจากร่ายเวทย์บางอย่าง คาร์มิลล่าก็ลูบคางของเธอ
「ถึงกระนั้นก็ดูหมกมุ่นเกินไปนะยัยเพื่อนสมัยเด็กเอ๋ยเหมือนตัวเจ้าจะนำพาความบรรลัยมาสู่ที่นี่ ยังไงซะใช่ว่าข้าจะยอมแพ้ ถึงทีข้าต้องงัดไม้เด็ดมาแล้วเหรอ?」
และเมื่อถึงเวลาที่แท้จริง เซนอสจะเลือกใคร
“โปรดติดตามตอนต่อไป”…เสียงอันน่าขนลุกดังมาจากชั้นสอง
มังงะเล่ม 1-2 หาอ่านได้แล้วที่ BOOK☆WALKER
ฉบับนิยายตอนนี้ล่าสุดอยู่เล่ม 5
สนับสนุนค่าชานมได้ที่ 097-005-6950 ภารดร บุญมา พร้อมเพย์/ทรู วอลเล็ต