บทที่ 21 แฟนหนุ่ม

บทที่ 21 แฟนหนุ่ม

สายตาของหลิ่วเหยียนเอ๋อร์กวาดมองผ่านร่างของเยี่ยเฟยเฟย สุดท้ายจึงพยักหน้า และหันกลับเดินจากไป

“คนนี้เป็นใครกัน? ดูดีมาก” เยี่ยเฟยเฟยอดไม่ได้จะที่จะต้องเอ่ยถาม ราวกับเธอลืมเลือนไป ว่าตนเองยังเพิ่งด่าอู๋ฝานว่าเป็นคนโรคจิต

“หลิ่วเหยียนเอ๋อร์ เป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเจียงโจว” อู๋ฝานตอบกลับ

“มีสัมพันธ์กันยังไง?” เยี่ยเฟยเฟยมองยังอู๋ฝานก่อนจะกระซิบถาม

“ไม่ใช่สาระ” อู๋ฝานตอบกลับ

แท้จริงแล้ว คนทั้งสองไม่ได้เป็นอะไรกันทั้งนั้น และวันนี้ก็ถือเป็นการพูดคุยต่อกันครั้งที่สอง

แม้แบบนั้น เยี่ยเฟยเฟยก็แสดงท่าทีว่าไม่เชื่อ หากว่าไม่มีอะไร มีหรือหญิงงามเช่นอีกฝ่ายจะเข้ามาพูดกล่าวทักทาย? หากไม่มีอะไร มีหรืออีกฝ่ายจะทราบเรื่องอู๋ฝานไม่ไปออกกำลังกาย?

พบเห็นท่าทีของเยี่ยเฟยเฟย อู๋ฝานจึงเอ่ยคำขึ้น “พวกเราไม่ได้เป็นอะไรกันจริง ก็เท่านี้ ไปกันได้แล้ว รีบไปรายงาน”

สิ้นคำ อู๋ฝานจึงหันกลับและจากไป เยี่ยเฟยเฟยจึงต้องเร่งรีบตามไปพูดคุย “บอกมาเถอะ ฉันสงสัยจริงนะเนี่ย”

แท้จริงแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างอู๋ฝานและหลิ่วเหยียนเอ๋อร์ ไม่ใช่มีเพียงแค่เยี่ยเฟยเฟยที่สงสัย เพราะสาวงามเช่นหลิ่วเหยียนเอ๋อร์โชคชะตาให้เป็นที่จับตามองของผู้คนที่เธอเดินผ่าน ชื่อเสียงของเธอในมหาวิทยาลัยเจียงโจวนั้นไม่ใช่เล็กน้อยเลยทีเดียว

ไม่เคยมีใครพบเห็นหลิ่วเหยียนเอ๋อร์มีปฏิสัมพันธ์พูดคุยกับเพศตรงข้ามมาก่อน ทำให้บรรดาผู้ตามจีบเธอ ต่างก็ไม่เคยได้รับการไว้หน้า กระทั่งว่าหลายคนนึกสงสัยว่าหลิ่วเหยียนเอ๋อร์ไม่ได้ชอบผู้ชาย หากไม่แล้วมีหรือเธอจะเย็นชาไร้หัวจิตหัวใจถึงขนาดนี้?

แม้แบบนั้น เรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ ก็ต้องเปลี่ยนความคิดของผู้คนไป ที่แท้หลิ่วเหยียนเอ๋อร์ไม่ได้ไม่ต้องการปฏิสัมพันธ์พูดคุยกับเพศตรงข้าม แต่พวกเขาไม่ใช่คนที่เธอคิดอยากพูดคุยด้วยต่างหาก

ขณะเวลานี้ เด็กหนุ่มหลายคนจากมหาวิทยาลัยเจียงโจวต่างใจสลาย พวกเขามองอู๋ฝานด้วยดวงตาที่เปี่ยมชัดซึ่งความเกลียดชัง เป็นศัตรูทางความรัก โดยเฉพาะยามพบเห็นว่าข้างกายของอู๋ฝาน ยังมีหญิงสาวอีกคนหนึ่งที่รูปลักษณ์ไม่ได้ด้อยไปกว่าหลิ่วเหยียนเอ๋อร์ สายตาของพวกเขายิ่งแสดงชัดว่าปรารถนาจะสังหารอู๋ฝานเสียให้ได้

อู๋ฝานที่ตกเป็นเป้าสายตาของพวกเขา จึงช่วยให้เยี่ยเฟยเฟยลงทะเบียนเสร็จสมบูรณ์

“ไปกัน เดี๋ยวจะพาไปที่หอพัก” อู๋ฝานกล่าวบอก

มหาวิทยาลัยเจียงโจวได้จัดแจงหอพักสำหรับนักศึกษาใหม่ทุกคนที่ลงทะเบียน ส่วนว่าพวกเขาจะอยู่หรือไม่นั้น ก็ถือเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ทางสถานศึกษาไม่ได้ห้ามนักศึกษาเช่าบ้านสำหรับใช้อยู่อาศัยภายนอกแต่อย่างใด

ดังนั้น เยี่ยเฟยเฟยจึงมีหอพักเป็นของตัวเอง

“จะไปหอพักทำอะไรกัน ฉันไม่อยู่ที่นั่นหรอก” เมื่อพูดถึงหอพัก ท่าทีสงสัยใคร่รู้ของเยี่ยเฟยเฟยเมื่อครู่จึงเลือนหาย และถูกแทนที่ด้วยท่าทีหมดเรี่ยวแรงแกมไม่พอใจ

“อันที่จริง จะอยู่ที่หอพักก็ทำได้” อู๋ฝานคิดไปครู่ก่อนจะตอบรับ “ความเห็นส่วนตัวของฉันนะ คิดว่านักศึกษาใหม่ได้ใช้เวลาที่หอพักจะยิ่งสนิทกับเพื่อนร่วมเรียนได้ดีมากขึ้นนะ”

“นั่นก็จริง เห็นด้วย!” เยี่ยเฟยเฟยตอบรับ “แต่พ่อกับแม่ยืนกราน ว่าจะให้ฉันอยู่ที่บ้านของป้าสาม”

“งั้นเอาแบบนี้เป็นยังไง เลือกอยู่หอพักเป็นหลัก กลับไปบ้างเป็นครั้งคราว ยังไงป้าสามของเธอก็คงมาไม่บ่อย ตราบเท่าที่ไม่บอกก็คงไม่รู้หรอก” อู๋ฝานเสนอความเห็น

“ได้เหรอ?” เยี่ยเฟยเฟยมองอู๋ฝานด้วยความตื่นเต้นยินดี “ทำไมใจดีขนาดนี้กันเนี่ย?”

“ถ้าไม่เชื่อฉันก็ไม่เป็นไร งั้นก็คงต้องมาอยู่กับฉันแทนแล้ว” อู๋ฝานตอบรับ

“เชื่อแล้ว เชื่อแล้ว!” เยี่ยเฟยเฟยเร่งรีบตอบรับ “ตกลงตามนี้!”

เยี่ยเฟยเฟยย่อมยินดีที่ไม่ต้องอยู่กับอู๋ฝาน รวมถึงสลัด “กล้องวงจรปิด” อย่างป้าสามทิ้งไปได้ ยิ่งไปกว่านั้นเธอก็ไม่เคยกินนอนที่สถานศึกษา ทำให้มีความสงสัยและคิดอยากลองทำสักครั้งมานานแล้ว

“ก็ได้ ไปกัน เดี๋ยวพาไปที่หอพัก” อู๋ฝานตอบคำกลับ

แท้จริงแล้ว อู๋ฝานทำเช่นนี้ ก็มีจุดประสงค์ของตัวเองเช่นกัน

เขาต้องเทเลพอร์ตเดินทางทุกวัน มันถือเป็นความลับส่วนตัว ไม่ควรให้ใครทราบเรื่องแม้สักคนเดียว เยี่ยเฟยเฟยย่อมอาศัยอยู่ในห้อง และแม้ว่าจะไม่เข้าห้องคนอื่นโดยพลการ แต่อู๋ฝานก็ยังคงเป็นกังวลว่าหากความลับของตนเองเปิดเผยออกไป มันอาจนำพาปัญหาใหญ่มาเยือนได้

อีกเรื่องหนึ่ง คือการที่เยี่ยเฟยเฟยแสดงชัดว่าค่อนข้างระมัดระวัง หากว่าคนทั้งสองต้องอยู่ร่วมกันจริง ทั้งวันก็ต้องพบหน้ากันไปมาหลายครั้ง ถึงเวลาจะไม่ยิ่งสร้างความขัดเขินหรอกหรือ

ด้วยเหตุนี้ การให้เยี่ยเฟยเฟยอาศัยอยู่ที่สถานศึกษาจึงเป็นเรื่องดี

เยี่ยเฟยเฟยมีอารมณ์ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ตัวเธอไม่ “ปากเสีย” ใส่อู๋ฝานเหมือนดังก่อนหน้าอีก แต่เผยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม ยิ่งเป็นการขับเน้นเสน่ห์ดึงดูดของเธอ

แน่นอนว่า อู๋ฝานที่กำลังพูดคุยอยู่ข้างเธอ ย่อมได้รับสายตาอันเป็นศัตรูจากรอบด้านที่รุนแรงมากขึ้น

นับได้ว่าเป็นครั้งแรกที่อู๋ฝานเข้ามายังอาคารหอพักหญิง แม้ว่าสงสัยอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ใช่กล้าเดินสำรวจ อย่างไรแล้วอาคารนี้ก็เต็มไปด้วยนักศึกษาใหม่ วันนี้มีพ่อแม่ของหลายคนมาช่วยกันขนย้ายของเข้า จึงทำให้อู๋ฝานไม่ได้ดูแปลกแยกแต่อย่างใด

ภายหลังส่งเยี่ยเฟยเฟยถึงหอพัก อู๋ฝานจึงเดินทางกลับ เยี่ยเฟยเฟยโบกมือให้พอเป็นพิธี แต่อู๋ฝานหาได้สนใจไม่ เพียงหันกลับและเดินออกไป

“เฟยเฟย ไม่ไปส่งแฟนหนุ่มหน่อยเหรอ?” เพื่อนร่วมห้องจากหอพักเดียวกันเอ่ยถามเยี่ยเฟยเฟยด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

“แฟนงั้นเหรอ? ใครกัน?” เยี่ยเฟยเฟยเผยท่าทีสับสน ก่อนจะตระหนักได้ว่าอีกฝ่ายกำลังพูดถึงอู๋ฝาน เธอถึงกับต้องเร่งร้อนอธิบาย “เขาไม่ใช่แฟนฉันนะ ก็แค่เพื่อนกันทั่วไป ไม่สิ พวกเราไม่ใช่เพื่อนทั่วไปด้วยซ้ำ”

คนทั้งสองรู้จักกันยังไม่ถึงสองวัน ดังนั้นย่อมนับว่ายังไม่ใช่เพื่อน

“ไม่ใช่เพื่อน งั้นมาส่งเธอทำไมกัน? แล้วทำไมปฏิเสธไม่เด็ดขาด?”

“จริงด้วย เมื่อกี้ที่สำนักงานลงทะเบียนเห็นนะว่าเขาจับมือเธอ อย่าอายหน่อยเลย พวกเราก็เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยกันแล้ว จะมีแฟนบ้างก็ไม่เห็นใช่เรื่องแปลก”

“แต่ว่านะ แฟนหนุ่มของเธอก็ดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ฉันคิดว่าเขาสวมใส่ชุดตามข้างทาง แต่รองเท้าที่ใส่ก็ดูไม่ใช่ของธรรมดา”

เพื่อนร่วมห้องหลายคนของเยี่ยเฟยเฟย แสดงชัดว่าไม่เชื่อ โดยเฉพาะเด็กสาวคนสุดท้ายที่ชื่อว่าหวังเหวินถิง เธอเชื่อว่าอู๋ฝานคือแฟนหนุ่มของเยี่ยเฟยเฟย แต่ขณะเดียวกันก็ดูถูกอู๋ฝาน เห็นได้ชัดว่าคิดใช้เรื่องนี้อธิบาย ว่าสายตาของเยี่ยเฟยเฟยไม่ดีอะไรนัก

หวังเหวินถิงมีรูปลักษณ์ไม่แย่ รวมกับการวางตัว รูปลักษณ์จึงได้เจ็ดแต้ม ภายนอกถือว่าค่อนข้างน่ารัก เพียงแต่ต่อหน้าเยี่ยเฟยเฟย เห็นชัดว่ายังดีไม่มากพอ ไม่แปลกหากจะทำหวังเหวินถิงที่ผู้คนมักให้ความสนใจและชื่นชมจนตัวแทบลอยโดยตลอด จะรู้สึกไม่ค่อยพอใจเท่าใดนัก ดังนั้นจึงเลือกใช้วิธีเช่นการมองเหยียดต่อ “แฟนหนุ่ม” ของเยี่ยเฟยเฟย

คำของหวังเหวินถิง ถึงกับทำเยี่ยเฟยเฟยต้องขมวดคิ้วเล็กน้อย เธอรู้สึกไม่พอใจ แม้ว่าอู๋ฝานไม่ใช่แฟนของตนเอง แต่อย่างไรอีกฝ่ายก็มาส่งเธอถึงที่นี่ อีกทั้งเธอยังได้เห็นท่าทีเป็นปรปักษ์ของหวังเหวินถิงต่อตัวเองอย่างชัดเจน เห็นได้ว่าเป็นการมุ่งเป้ามาที่เธอทั้งสิ้น

ด้วยเหตุนี้ น้ำเสียงของเยี่ยเฟยเฟยจึงเย็นเยียบลง “เขาไม่ใช่แฟนของฉันจริง พวกเราเป็นแค่คนรู้จัก พวกเธอจะเชื่อหรือไม่ก็ตามแต่”

สิ้นคำตอบนั้น เยี่ยเฟยเฟยจึงเมินเฉยท่าทีตอบสนองของคนอื่น ก่อนจะมุ่งตรงไปจัดเตียงนอนของตัวเอง