บทที่10 ทำขายหน้า

คิงดราก้อน

บทที่10 ทำขายหน้า

ไม่นานบนโต๊ะก็เต็มไปด้วยไวน์ เริ่มแรกทั้งสองก็ยังคงใช้แก้วในการดื่มไวน์ แต่ว่าตอนหลังดื่มหนักขึ้น ทั้งสองคนยกขวดดื่ม

ไวน์ยี่ห้อโรมาเน่ก็องติ ราคากว่าห้าหมื่นหยวนหมดลงในพริบตา เป็นการทำลายไวน์ราคาแพงให้สูญค่าอย่างเปล่าประโยชน์จริงๆ

เมื่อไวน์แดงสี่ห้าขวดลงไปในท้องจ้าวฟางสงก็เริ่มรู้สึกว่าตนดื่มเหล้าจนเมาแล้ว แต่ว่าเซียวหยางยังไม่เมา ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจและร้อนใจ ดูเหมือนว่าเขาจะต้องเล่นให้แรงกว่านี้ถึงจะได้เรื่อง

จ้าวฟางสงเร่งจังหว่ะการดื่มให้เร็วขึ้นเซียวหยางก็เร่งตามเช่นเดียวกัน

“พี่……พี่ชาย ความสามารถในการดื่มเหล้าไม่เลวเลย นับถือจริงๆ โบราณกล่าวไว้ว่า พบคนรู้ใจ ดื่มกันพันจอกยังว่าน้อย พวกเราดื่มกันต่อเถอะ ชนแก้ว!” จ้าวฟางสงหน้าแดงกล่ำ วิงเวียนศีรษะ เขาดื่มมากไปแล้วจริงๆ

เซียวหยางยิ้มอย่างเยาะเย้ย แล้วดื่มกับเขาต่อ

ไวน์แดงอีกสิบกว่าแก้วลงไปในท้องจ้าวฟางสงเริ่มไม่ได้สติ

ล้มลงนอนราบบนโต๊ะ เริ่มพูดจาเหลวไหล เต้นแร้งเต้นกา ผ่านไปไม่นานก็ร้องไห้โฮออกมา

สถานการณ์นี้ทำให้หลิวฉ่ายเสียกับเย่เสี่ยวหวั่นตกใจ

หลิวฉ่ายเสียปวดใจยิ่งกว่าจึงถามจ้าวฟางสงด้วยความเป็นห่วงว่า:“ฟางสงอ่า คุณเป็นยังไงบ้าง ไปโรงพยาบาลไหม?”

จ้าวฟางสงสะบัดมือออกอย่างแรง พลางร้องไห้โฮพลางพูดขึ้นเสียงดังว่า:

“ผมเป็นโรคภาวะไตบกพร่อง ผมชักว่าว วันหนึ่งชักสองครั้ง ผมมีความต้องการมากเกินไป ฮือๆๆๆ……”

เย่หยุนซูเอามือป้องไว้ที่ปากอันจิ้มลิ้มของเธอเกือบที่จะหัวเราะออกมา

ส่วนหลิวฉ่ายเสียและเย่เสี่ยวหวั่นที่อยู่ข้างๆก็แสดงท่าทีไม่สู้ดีนัก

“เซียวหยาง ดูเรื่องดีๆที่นายทำไว้สิ!” หลิวฉ่ายเสียพูดขึ้น

เซียวหยางงงงวย “ผมทำอะไรเหรอ?”

“ยังจะมาถามว่าทำไมอีก บอกให้นายดื่มเป็นเพื่อนประธานจ้าวแค่สองแก้ว แต่นายกลับมอมเหล้าประธานจ้าวจนเมามายขนาดนี้ รีบแบกประธานจ้าวขึ้นหลังสิ แล้วพาเขาไปส่งโรงพยาบาล!”

เซียวหยางขมวดคิ้ว มองแม่ยายด้วยสายตาเย็นชา

แค่เพียงสายตานี้ ก็ทำให้หลิวฉ่ายเสียสั่นสะท้านไปทั้งตัว

ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เขากับเย่หยุนซูยังไม่ได้หย่าร้างกัน ยังเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่หลิวฉ่ายเสียกลับให้หยุนซูดูตัวกับผู้ชายคนอื่น

การกระทำเช่นนี้ หากเป็นคนอื่นเซียวหยางก็คงจะต่อยคล่ำไปตั้งนานแล้ว

หลิวฉ่ายเสียตกใจจนแทบจะฉี่ราด พูดขึ้นด้วยความหวาดกลัวว่า:

“นาย……นายจะทำอะไร?”

เซียวหยางยิ้มอย่างเย้ยหยัน จากนั้นลุกขึ้นแล้วเดินจากไป

เย่หยุนซูมองแม่อย่างโกรธเคือง แล้วรีบตามเขาออกไป

……

ระหว่างทางกลับ เย่หยุนซูอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นว่า:“เซียวหยางคุณเคยเรียนที่ต่างประเทศเหรอ?”

“เคยอยู่ต่างประเทศสองสามปี แต่ไม่เคยเรียน” เซียวหยางพูดขึ้นอย่างราบเรียบ

“ไม่เคยเรียนมหาวิทยาลัย แล้วทำไม……”

“ผมเก่งใช่ไหม?” เซียวหยางยิ้มอ่อน

เย่หยุนซูเลิกคิ้ว พลางพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย่อหยิ่งว่า:“อย่าเข้าข้างตัวเองไปหน่อยเลย ต่อให้คุณเก่งแค่ไหนก็ไม่เกี่ยวกับฉัน ที่ฉันออกมากับคุณก็เพราะว่าฉันไม่เห็นด้วยกับวิธีของแม่ฉัน”

เซียวหยางยิ้มอย่างขมขื่น ผู้หญิงคนนี้ จะชมเขาสักประโยคมันยากมากใช่ไหม

แต่ว่า หลังจากที่ผ่านเรื่องราวนี้เย่หยุนซูรู้สึกว่าเซียวหยางนั้นไม่ใช่ว่าจะไม่มีข้อดีเลย มุมมองที่มองต่อผู้ชายคนนี้ก็ค่อยๆเริ่มเปลี่ยนไปบ้าง

“เซียวหยาง ในเมื่อคุณพูดภาษาฝรั่งเศสได้ คุณไปสมัครเป็นพนักงานขายที่บริษัทของพวกเราได้นะ ค่าตอบแทนไม่เลวเลย”

“ผมไม่ไป”

ในใจของเย่หยุนซูรู้สึกโมโห “ทำตัวให้มันเอาไหนหน่อยได้ไหม หรือว่าจะยอมให้คนในครอบครัวดูถูกคุณตลอดไปแบบนี้เหรอ?”

“ผมไม่สนใจว่าคนอื่นจะคิดยังไง” เซียวหยางยักไหล่ สีหน้ายังคงเรียบเฉย

แต่ไหนแต่ไรเขาก็ไม่ได้ถือว่าเป็นคนเมืองหยินโจวและก็ไม่ใช่คนในตระกูลเย่ด้วย การที่เขามาเป็นลูกเขยของตระกูลเย่ก็เพื่อตอบแทนบุญคุณเท่านั้น

“คุณ……” เย่หยุนซูขมวดคิ้วแน่น เมื่อนึกถึงเรื่องในวันนี้ ก็รู้สึกโกรธจนเจ็บหน้าอก

ถ้าเซียวหยางเป็นคนเอาไหน แม่ของเธอก็คงไม่บังคับให้เธอมาดูตัว แต่เซียวหยางกลับทำท่าทางไม่สนใจใยดีเลย

ไม่ว่าจะยังไง ตนก็เป็นภรรยาของเขาไม่ใช่เหรอ หรือว่าอยากจะมอบภรรยาของตนเองให้กับคนอื่น?

“คุณเป็นอะไรไป?” เมื่อเซียวหยางเห็นสีหน้าของเธอซีดเซียว ก็อดไม่ได้ที่จะถาม

“เฮ้อ เฮ้อ ก็โกรธคุณไง คุณนี่มันเศษวะจริงๆ!”เย่หยุนซูพูดขึ้นอย่างไม่สบกับความไม่เอาถ่านของเขา

เมื่อกลับมาถึงบ้าน เซียวหยางก็รีบเข้าไปในห้องครัวเพื่อต้มซุปไก่ให้เย่หยุนซูทาน

หลังจากที่ใส่ผลึกโลหิต

เข้าไปแล้ว ก็ตักมาชามหนึ่ง แล้วนำมาเสิร์ฟที่เบื้องหน้าของเย่หยุนซู

“ให้ฉันดื่มซุปนี่อีกแล้ว ฉันไม่อยากดื่มแล้ว” เย่หยุนซูย่นจมูกพลางพูดขึ้น

เธอดื่มซุปนี้มาตลอดสามปี ดื่มจนอยากจะอ้วกออกมาแล้ว

“ถ้าคุณดื่มผมจะไปทำงาน” เซียวหยางพูดขึ้นอย่างจนปัญญา

แววตาของเย่หยุนซูเป็นประกาย รู้สึกว่าพระอาทิตย์น่าขึ้นทางทิศตะวันตก

“คุณเป็นคนพูดเองนะ ห้ามกลับคำเด็ดขาด” เย่หยุนซูรับซุปไก่มาดื่ม แต่พอดื่มเข้าไป เธอถึงได้สติ

ไม่ใช่สิ การที่คุณจะไปทำงาน แล้วทำไมฉันจะต้องมารับโทษด้วยการดื่มซุปนี่ด้วย

ผู้ชายออกไปทำงานมันก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เย่หยุนซูก็คับแค้นใจจนโมโห