เอลล่าเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายในการจีบ เธออาจมีความแข็งแกร่งไม่มากนัก แต่ความสามารถโดยกำเนิดของเธอทำให้เธอมีสติปัญญาสูง
เธอเป็นมือขวาของคาร์เมล ถ้าพูดถึงเรื่องการวางแผน, จัดระเบียบและเรื่องอื่นๆ ไม่มีใครสามารถเอาชนะเธอได้เลย
หลังจากเข้ามาในห้องผมก็ถูกจ้องมองด้วยสายตานับไม่ถ้วน มันเหมือนกับว่าผมเป็นสัตว์หายากอย่างไงอย่างงั้นแหละ
เมื่อมองไปที่ด้านหน้าของผมก็พบเข้ากับเด็กสาวที่อยู่ข้างหลังคาร์เมล ถ้าผมเดาถูก พวกเธอคงจะใช้เวทมนตร์ฉายภาพเพื่อสร้างภาพของเธอ
กระดานหมากรุกที่อยู่ข้างหน้าผมเองก็อาจใช้เวทมนตร์เชื่อมกับกระดานหมากรุกที่อยู่ข้างหน้าพวกเธอ ในตอนที่ผมเดินหมากการเดินนั้นคงจะเกิดขึ้นที่ฝั่งของพวกเธอด้วย
มันก็เหมือนกับการเล่นหมากรุกบนคอมพิวเตอร์กับเพื่อนนั่นแหละ เว้นแต่ว่านี่จะอยู่ในระดับที่สูงกว่า ขณะที่ผมกำลังเรียกใช้ทฤษฎีเวทมนตร์ในหัวของตัวเองนั้นก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมา
“นอร่าไม่รู้กฎรึไงว่าห้ามผู้ชายเข้ามาในห้องนี้หน่ะ”
ผมได้ยินเสียงดังมาจากหน้าจอเครื่องหนึ่ง ผมไม่เห็นตัวอีกฝ่ายแต่เดาได้ว่าเธอน่าจะเป็นคนสำคัญ
“ฉันรู้ค่ะ แต่ฉันไม่ได้จะให้เขาเข้าองค์กรของเรา แถมเขาก็เป็นน้องชายฉันด้วยค่ะ”
นอร่าตอบอย่างท้าทาย
“นอร่าแน่ใจเหรอว่าเขาจะช่วยให้เราชนะได้หน่ะ?”
โอลิเวียถามด้วยความสงสัย เธอไม่รู้มาก่อนเลยว่าลูกพี่ลูกน้องของเธอคนนี้มีพรสวรรค์ในการเล่นหมากรุกด้วย
“ฉันมั่นใจค่ะ”
จากนั้นโอลิเวียก็มองมาที่ผมซึ่งกำลังมองไปรอบๆ ห้องอยู่ราวกับว่าผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ผมก็พอเข้าใจได้ว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านี้
‘ดูเหมือนว่านี่จะเป็นโอกาสที่ดีในการโชว์ของ’
“เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ พี่สาว”
ผมทำท่าทาง “สงสัย” ขึ้นมาขณะถาม หลังจากนั้นนอร่าก็อธิบายให้ผมฟังว่าเกิดอะไรขึ้นและต้องทำอะไร
“งั้นผมก็ต้องเอาชนะพี่สาวคนนี้ด้วยหมากรุกสินะครับ”
ผมพูดพลางมองไปที่เอลล่า
“ถูกต้อง”
นอร่าพยักหน้า
แต่แทนที่ผมจะตกลง ผมกลับทำอย่างอื่นแทน
“แต่ว่าทำไมผมต้องช่วยด้วยหล่ะครับ?”
คำถามของผมทำให้ทั้งห้องเกิดความเงียบ เด็กสาวที่ไม่สนใจก่อนหน้านี้เริ่มให้ความสนใจ หลังจากที่ผ่านมานี่เป็นครั้งแรกที่พวกเธอได้ยินคนปฏิเสธ
“หืมมม? งั้นนายจะไม่ช่วยฉันเหรอ?”
โอลิเวียถามด้วยความสนใจแทนที่จะโกรธ
“ก็…ผมช่วยได้นะครับ แต่ว่าพี่สาวจะให้อะไรผมได้บ้างกันน้า”
เมื่อได้ยินคำพูดของผม พี่สาวของผมก็เงียบก่อนจะพูดขึ้นมา
“ค่าขนม 1 สัปดาห์”
“ค่าขนม 2 สัปดาห์ ผมถึงจะตกลงครับ”
ผมพูดราคาออกไปตรงๆ ทำให้เธอสะดุ้ง แต่หลังจากคิดอยู่เล็กน้อยเธอก็ตอบตกลง
“ได้ ค่าขนม 2 สัปดาห์และของหวาน”
เมื่อได้ยินแบบนั้นผมก็ทำท่าทางสำเร็จและกำลังจะไปเล่นหมากรุกแต่โอลิเวียดันพูดขึ้นมาซะก่อน
“นี่นายกำลังบอกว่าจะไม่ทำในสิ่งที่ฉันต้องการฟรีๆ เหรอ?”
“ทำไมผมต้องทำหล่ะครับ?”
การได้ยินคำตอบแบบนี้ของผมควรจะทำให้โอลิเวียโกรธ แต่ว่าเธอกลับมีความสุขซะอย่างนั้น
‘การถูกปฏิเสธเป็นประสบการณืที่เธอไม่เคยพบมาก่อน’
+35 ความชอบ
‘ฮึ่มมม…นี่แหละผู้หญิง ผมรู้จักพวกเธอดี’
แทนที่จะมุ่งความสนใจไปที่นอร่า ผมเดินไปทางเอลล่าซึ่งนั่งอยู่ข้างหน้าผมด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยจะดูดีเท่าไหร่
“เจ้าหนู เธอคิดว่าจะชนะฉันได้จริงเหรอ?”
ผมยักไหล่และยิ้มให้เธอ
“ใครจะรู้หล่ะครับ?”
หลังจากนั้นเราก็นั่งเล่นเกมหมากรุกกันโดยเธอเป็นฝ่ายเดินก่อน เช่นนี้เรายังคงผลัดกันเดินหมากของแต่ละฝ่าย เด็กสาวหลายคนจดจ่ออยู่กับเกมๆ นี้
การแข่งขันดำเนินต่อไปเป็นเวลา 15 นาทีก่อนที่ผมจะเดินหมากครั้งสุดท้าย
“รุกฆาต”
….
ทุกคนมีสีหน้าไม่อยากเชื่อสายตาของตัวเอง โดยเฉพาะเอลล่า เธอไม่เข้าใจว่าเธอผิดพลาดตรงไหน
“ด -ได้ยังไงกัน?”
“คุณสมบูรณ์แบบมากเกินไปครับ”
คำตอบของผมทำให้เธอชะงัก ทุกคนมองมาที่ผมและรอให้ผมพูดต่อ
“การเดินหมากแต่ละครั้งของคุณเข้มงวดหรือปฎิบัติตามกฎราวกับว่ามันถูกกำหนดไว้แล้วครับ ไม่มีความพิเศษในตัวมันเลย ดังนั้นมันจึงสร้างรอยร้าวในแผนของคุณครับ”
“เพราะคุณสมบูรณ์แบบเกินไป ไม่มีความยืนหยุ่น คุณเลยหละหลวม”
ความเงียบดำเนินไปอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะมีเสียงตบมือดังขึ้น ทุกคนหันไปทางคาร์เมลที่กำลังตบมืออยู่พร้อมกับรอยยิ้ม
“น่าทึ่งมาก นี่เป็นเกมที่น่าทึ่งจริงๆ”
“โอลิเวีย ครั้งนี้ฉันแพ้แล้ว”
หลังจากที่เธอพูดแบบนั้น คนอื่นๆ ก็เริ่มตบมือตามเธอ โดยประหลาดใจกับการแสดงของผม พี่สาวของผมก็เข้ามาหาผมพร้อมกับลูบหัวของผมด้วย
“ฉันรู้อยู่แล้วว่านายจะชนะ ของหวานของฉันไม่สูญเปล่าจริงๆ”
“เยี่ยมมากออสติน ฉันติดหนี้นายแล้ว”
โอลิเวียพูดแทรกขึ้นมา
ในขณะเดียวกันเอลล่าก็ลุกขึ้นมาหาผม เธอเป็นเพียงภาพฉายที่ไม่สามารถทำอะไรผมได้ เธอเดินเข้ามาใกล้ผมก่อนจะชี้หน้า
“นายชื่อออสตินใช่ไหม? ฉันจะจำนายไว้ ครั้งต่อไปที่เราแข่งกัน ฉันจะชนะนายแน่”
หลังจากนั้นเธอก็หายตัวไป
“อย่าเอาคำพูดของเธอมาใส่ใจเลยนะ เธอแค่บ้าแข่งขันหน่ะ”
คาร์เมลพูดขึ้น
“ฉันประหลาดใจจริงๆ ที่มีอัจฉริยะหมากรุกอยู่ที่นี่ด้วย ฉันหวังว่าเราจะได้พบกันเป็นการส่วนตัวในอนาคตนะ”
หลังจากนั้นเธอก็เข้าไปพูดคุยกับโอลิเวียในขณะที่ผมถูกเหวี่ยงออกจากห้องอย่างรวดเร็ว
ผมส่ายหัวก่อนจะเดินกลับห้องของตัวเอง
‘แข่งหมากรุกกับเอลล่าคราวหน้างั้นเหรอ? เราคงแพ้…’
เหตุผลเดียวที่ผมชนะเธอในครั้งนี้ก็เพราะข้อมูลของผมจากในเกม อันที่จริงมันเป็นหนึ่งในเงื่อนไขเบื้องต้นที่จะเอาชนะใจเธอ
มีข้อบกพร่องส่วนตัวในรูปแบบการเล่นหมากรุกของเธอ ซึ่งผู้เล่นใช่เพื่อชนะเธอได้และผมพึ่งใช่มันไป แม้ว่ามันจะเป็นของที่สามารถใช้ได้เพียงครั้งเดียวก็ตาม
ผมที่กำลังเหนื่อยเข้าห้องไปก่อนจะล้มตัวลงนอน
วันรุ่งขึ้นหลังจากงานเลี้ยงจบลง ผมและครอบครัวก็ออกเดินทางกลับบ้าน ผมได้รับของขวัญจากจักรพรรดิและโอลิเวียด้วย
ขณะนี้พวกเรากำลังยืนอยู่ใกล้เรือเหาะเพื่อเตรียมพร้อมที่จะออกเดินทางโดยมีจักรพรรดิและจักพรรดินีที่มายืนรอส่งด้วย
“เดินทางปลอดภัยนะ ถ้ามีปัญหาอะไรก็บอกฉันได้นะโอเคไหม?”
“ค่ะ พี่ไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอก”
ผมยืนดูพวกเขาที่กำลังบอกลากัน ร่างกายของผมรู้สึกเย็นไปชั่วครู่เมื่อมองตรงเข้าไปในดวงตาของจักรพรรดินี จึงเลยรีบบอกลาพวกเขาก่อนจะขึ้นเรือเหาะไป ผมไม่อยากอยู่ใกล้ผู้หญิงคนนั้นเลย
จักรพรรดินีทำให้ผมรู้สึกเหมือนพายุที่พึ่งจะสงบในตอนนี้ ถ้าถามว่าทำไมหล่ะก็…?
ผมเจอเครื่องอัดเสียงกว่า 5 เครื่องที่ห้องพักในปราสาท พวกมันถูกซ่อนไว้ตามมุมต่างๆ ปกติเด็กที่ยังไม่ได้ปลุกพลังคงไม่รู้สึกถึงพวกมันหรอก แต่ผมสัมผัสถึงพวกมันได้
เมื่อมองผ่านๆ เครื่องอัดเสียงเหล่านั้นผมก็รู้สึกได้ถึงมานาที่คล้ายกับจักรพรรดินี ผมน่าจะเป็นโง่แล้วแหละถ้ายังไม่เข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้ ถ้าให้ผมรับมือกับเธอในตอนนี้ผมคงทำไม่ได้
ความคิดที่จะประจานจักรพรรดินีฟังดูเป็นอะไรที่สิ้นหวังมาก ผมยังต้องมีชีวิตอยู่หลังจากนี้ ดังนั้นผมเลยไม่สามารถต่อต้านเธอได้จนกว่าผมจะปลุกสายเลือดของผมให้ตื่นขึ้นได้
ผมทำตัวเหมือนเด็กดีโดยการปล่อยพวกมันไว้ยังงั้นราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ผมหายใจเข้าลึกๆ เพื่อยืนยันเป้าหมายของตัวเอง
ออสตินขึ้นเรือไปโดยไม่รู้เลยว่าในอนาคตจะมีอะไรเกิดขึ้นกับตัวเองบ้าง…
-Donate-
True Money Wallet ID : mraxzy
ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต