18 วันนี้ฉันอยากจะพาทุกท่านมาเยี่ยมชมที่ทำงานของเหล่านักฟื้นฟูดาบกันค่ะ ส่วนแรก
“――จ๊า เนียจัง ฝากด้วยนะ!”
ค๊าค๊า ฉันลุกขึ้นจากรถเข็น และย้ายไปที่หน้ากล้อง
“สาม สอง หนึ่ง――”
นิ้วของหัวหน้าผู้กำกับหายไป และการถ่ายทำก็เริ่มขึ้น
“อรุณสวัสดิ์ค่ะ การเยี่ยมชมธุรกิจของเนีย・ลิสตัน วันนี้ฉันอยากจะพาทุกท่านมาเยี่ยมชมที่ทำงานของเหล่านักฟื้นฟูดาบกันค่ะ”
ฉันเริ่มชินกับงานแล้ว เพราะนี้เป็นการถ่ายทำครั้งที่ห้า
เริ่มต้นด้วยชั้นเรียนมารยาทโดยมาดามขุนนางระดับขั้นที่สาม ตามด้วยการเก็บเกี่ยวผลผลิตที่เกี่ยวข้องกับงานกสิกรรม จากนั้นเพื่อลดเวลาและต้นทุน จึงถ่ายทำการทำอาหารและขนมสองช็อตต่อเนื่อง รวมแล้วถ่ายทำเสร็จสิ้นสี่งาน
ฉันไม่รู้รายละเอียดมากนัก เพราะต้องใช้ความรู้เฉพาะทาง
หลังจากตัดต่อฟุตเทจที่ถ่ายทำแล้ว…หลังจากตัดส่วนที่ไม่สามารถออกอากาศได้และเชื่อมต่อส่วนไฮไลต์แล้ว เมจิคฟุตเทจจะถูกแปลงเป็นเมจิกวิชั่น และออกอากาศ
การเพิ่มเพลงก็อยู่ในขั้นตอนนี้เช่นกัน
และเมื่อวานนี้ ตอนที่สามที่เป็นการทำอาหารก็ได้ออกอากาศ
พี่ชายกลับไปที่สถาบันการศึกษาอาร์ตัวร์เรียบร้อยแล้ว
พ่อแม่ก็เลิกกังวลเกี่ยวกับสุขภาพของฉันแล้วเช่นกัน
ครั้งนี้ เบนเดริโอ้เจ้าของใบหน้าฉูดฉาดซึ่งอยู่กับพวกเรามาตลอดการถ่ายทำทุกครั้งหายไป
คนรอบข้างฉันก็เริ่มไม่สนใจอาการเจ็บป่วยของฉันอีกแล้ว
ทั้งตัวฉันเอง ทั้งริโนกิส สาวใช้ส่วนตัวของฉันที่ชอบพูดเรื่องต่าง ๆ นานาตอนดูวิดีโอของฉัน และทีมถ่ายทำซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงสมาชิกเล็กน้อยในแต่ละครั้ง ฉันเริ่มคุ้นชินกับการถ่ายทำแบบนี้ดีขึ้น
เป็นเวลาหนึ่งเดือนแล้วตั้งแต่การถ่ายทำครั้งแรก
สองสัปดาห์ผ่านไปตั้งแต่ออกอากาศครั้งแรก
ฤดูหนาวยังคงหนาวเย็น แต่ฉันคิดว่าความอบอุ่นของดวงอาทิตย์ที่สาดส่องลงมานั้นเพิ่มขึ้น
ฤดูใบไม้ผลิใกล้เข้ามาแล้ว
“――ดีมาก คัท! ไปกันต่อเลย!”
การถ่ายทำส่วนแรกจบลงเพียงเท่านี้
จากที่นี่ พวกเรามุ่งหน้าไปยังโรงงานของนักฟื้นฟูดาบซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของการมาเยี่ยมชมครั้งนี้
ถ้าจะให้แม่นยำกว่านั้น คือการเคลื่อนที่เข้าไปใกล้ และเยี่ยมชมโรงงาน ขณะที่การถ่ายทำไหลตามไปด้วย ทั้งหมดคือการแสดงตั้งแต่แรกเห็น
ฉันนั่งอยู่บนรถเข็นที่ริโนกิสเข็นให้ ขณะหัวหน้าผู้กำกับหนุ่มที่ไม่เคยพบหน้ากันมาก่อนกำลังให้ออกคำสั่งอย่างกระฉับกระเฉง
――ฉันยังทำกิจกรรมเป็นเวลานานไม่ได้อยู่ดี
ถึงฉันจะหายจากอาการป่วยแล้วก็จริง แต่ร่างกายก็ยังไม่แข็งแรงพออยู่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งกล้ามเนื้อที่มีไม่เพียงพอ
ในระหว่างการถ่ายทำ ฉันเคลื่อนไหวร่างกายให้เกินขีดจำกัดได้ด้วยพลังของ 「คิ」 แต่ถ้าใช้นานเกินไป ความเหนื่อยล้าจะสะสมจนลากยาวไปจนถึงวันรุ่งขึ้น
แต่ ม๊า วิถีชีวิจของฉันก็มีแค่กินให้อิ่มและพักผ่อนให้เพียงพอเท่านั้นเอง
ถ้าฉันทำอย่างนี้ต่อไปสักเดือน ฉันก็น่าจะสามารถเลิกใช้รถเข็นได้แล้ว
“คุณหนูคะ เอกสารค่ะ”
“อืม”
ปล่อยการเคลื่อนที่ให้เป็นหน้าที่ของริโนกิส ฉันอ่านเนื้อหาสรุปธุรกิจการฟื้นฟูดาบ และโรงงานที่เรากำลังจะเข้าร่วมอีกครั้ง
――ฉันคิดทุกครั้งว่า ตราบใดที่ต้องไปรบกวนที่ทำงานของช่างผีมือ การที่ไม่รู้ข้อมูลขั้นต่ำจะถือว่าเป็นการเสียมารยาท และถ้าไม่รู้เรื่องเลย ก็จะไม่สามารถพูดถึงได้อย่างถูกต้อง จะนำมาซึ่งปัญหา
ในที่สุดฉันก็สัมผัสได้ถึงความตึงเครียดและความพยายามที่มองไม่เห็นในเบื้องหลังใบหน้าฉูดฉาดของเบนเดริโอ้ที่ไม่ได้มีเพียงความประทับใจในตอนที่ดื่มเหล้าเท่านั้น
เนื่องจากมีประสบการณ์ที่ไม่รู้จักมากมาย จึงเป็นประสบการณ์การเรียนรู้ที่ดีและเป็นแรงกระตุ้นที่ดีทีเดียว
ฉันแน่ใจว่าตัวเองไม่เคยมีประสบการณ์แบบนี้มาก่อนในชีวิตชาติที่แล้ว
มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ฉันไม่รู้ และไม่เคยทำมาก่อน ทำให้การถ่ายทำครั้งนี้ก็สนุกขึ้นอีกนิด……เป็นความรู้สึกแบบนั้นมั๊ยนะ
“――ตรงนั้นอันตราย อย่าเข้าใกล้ไฟมากเกินไป”
ช่างฝีมือสามคนกำลังทำงานในโรงงาน ซึ่งเล็กกว่าที่ฉันคิดไว้
ในตอนแรกพวกเขาทั้งสามคนเข้ามาออกัน แต่ชายวัยกลางคนที่ดูเหมือนจะเป็นผู้รับผิดชอบของที่นี่แสดงอาการไม่พอใจ และส่งเสียงแหบแห้งออกมา ทุกคนจึงแตกอื้อกลับไปทำงานทันที
ฉันวางแผนว่าจะคุยกับทั้งสามคนสักหน่อย……ม๊า ช่างเถอะ
――ผู้ชายคนนั้นก็ใช้ได้อยู่ทีเดียว
ดูเหมือนว่าเขานอกจากจะเป็นช่างฝีมือแล้ว ยังเป็นคนที่・・・・พกพาดาบด้วย
รูปร่างหน้าตา การเคลื่อนไหว และการแสดงออกของเขาไม่ใช่คนธรรมดา
หากเขาไม่ใช่ช่างฝีมือแต่เป็นนักรบ ฉันก็อยากจะลิ้มลองสักหน่อย ――สำหรับเขาดูเหมือนน่าจะต้องใช้มือทั้งสองข้างถึงจะเอาชนะได้ ไม่จำเป็นต้องใช้ขา แต่ก็รู้สึกได้เลยว่าเขาต้องเป็นมือหนึ่ง
ม๊า เรื่องนั้นก็ส่วนเรื่องนั้น
“――ถ้าเช่นนั้น ช่วยบอกฉันได้ไหมคะว่าคุณทำงานประเภทไหน?”
การถ่ายทำหยุดลงชั่วขณะเนื่องจากแยกตัวจากไปที่ไม่เป็นไปตามกำหนดเวลาของชายวัยกลางคน แต่ฉันก็ดำเนินการสัมภาษณ์ตามที่ได้เตรียมการกันไว้ และถ่ายทำต่อไป
ช่างฝีมือฝึกหัดทั้งสองคนสับสนเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็เคลื่อนไหวไปตามกระแสที่ฉันดึงกลับมา
“――ขอบคุณนะเนียจัง”
หืม?
เมื่อการถ่ายทำจบลง หลังหัวหน้าผู้กำกับหนุ่มออกคำสั่งกับคนโดยรอบเสร็จก็เดินมเข้ามาหาฉัน
“ที่จริงผมต้องออกคำสั่งไปแท้ ๆ แต่ว่า……”
อ้า เรื่องเมื้อกี้สินะ
“เหตุการณ์ไม่คาดฝันมักเกิดขึ้นบ่อย ๆ เดี๋ยวก็ชินไปเองค่ะ”
มาดามสอนมารยาทที่ไม่รักษาเวลาและหมกมุ่นอยู่แต่กับการสอน
เหล่าครอบครัวเกษตรกรที่คะยั้นคะยอ「ให้กินนั่นกินนี่」แล้วให้อาหารฉันมากเกินไป
น้ำมันที่กระเด็นใส่หน้าตอนที่ฉันพูด
ฉันคิดว่าจะไปต่อทั้งแบบนั้น แต่เบนเดริโอ้และริโนกิสกลับตื่นตระหนกและสั่งหยุดถ่ายทำ
ทั้งในตอนที่กำลังประทับใจเซอร์ไพรส์ที่คุกกี้อบได้ดีกว่าที่ฉันคาดไว้ ริโนกิสก็คร่ำครวญว่า「ฉันอยากกินคุ้กกี้ที่คุณหนูอบ! อยากกิน! ฉันจะจ่ายให้ก็ด๊ายยย!」
ในการถ่ายทำทุกครั้ง จะมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นอย่างน้อยหนึ่งเหตุการณ์
ฉันไม่รู้จะพูดยังไงดี แต่ฉันคิดว่าเรื่องแบบนี้เป็นองค์ประกอบที่ขาดไม่ได้ไปซะแล้ว
“อาเร๊ะ? เนียจัง รถเข็น……”
ช่างฝีมือที่อายุน้อยที่สุดและเป็นมิตรที่สุดมองมาที่ฉันซึ่งนั่งอยู่บนรถเข็นแล้วเบิกตากว้าง
“อย่ากังวลไปเลยค่ะ ฉันพึ่งฟื้นจากอาการป่วย ร่างกายจึงยังอ่อนแออยู่”
“อะ ไม่สบายอะไรแบบนั้นเหรอ?”
“ค่ะ ――แต่การฟื้นฟูดาบเป็นงานที่ยากกว่าที่ฉันคิดไว้เลยค่ะ”
ฉันไม่อยากสร้างความกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยไม่จำเป็น ดังนั้นฉันจึงเปลี่ยนเรื่อง
และอีกอย่าง ฉันค่อนข้างกังวลเกี่ยวกับตัวเองเล็กน้อย
ฉันรู้สึกเหมือนเคยชอบหักดาบ・・・・ทุบเกราะจนเละ・・・・・・โดยไม่สะทกสะท้าน
แต่ถ้ามีคนทำพังก็จะมีคนซ่อมอยู่แล้วไง
เขาอธิบายกระบวนการ และเวลาที่ต้องใช้ในการซ่อมแซมดาบที่แตกหัก แต่ฟังดูเป็นเรื่องยากจริง ๆ
……ตอนนี้ฉันได้เห็นการทำงานอย่างหนักของช่างฝีมือแล้ว ฉันคิดว่าฉันจะหยุดตั้งแต่ตอนนี้
ฉันรู้สึกเหมือนว่านานแสนนานมาแล้ว ฉันจะเคยหักดาบมีชื่อ ทำลายดาบศักดิ์สิทธิ์ บดขยี้ดาบมาร ทำเหมือนเป็นงานอดิเรกทุกวัน……รู้สึกเหมือนได้ทำลายไปโดยไม่ลังเล แต่……
ฉันหวังว่านี่เป็นเพียงจินตนาการของฉันเอง
งานที่เกิดจากการตกผลึกจากความทุ่มเทและความหลงใหล ขัดเกลาด้วยจิตวิญญาณของช่างฝีมือ ฉันคงไม่ทำลายเพียงเพื่อความสนุกเหมือนจานใบหนึ่งหรอก ……. คิดว่าน่ะ
――ไม่ได้ทำใช่ไหม? ตัวฉัน
……ยิ่งคิดเรื่องนี้จริงจังเท่าไหร่ ฉันก็รู้สึกเหมือนจะเคยทำไปในสักช่วงหนึ่ง…….ไม่ ไม่ ไม่ ถึงจะไม่รู้ เพราะฉันจำไม่ได้ แต่แน่ใจว่าฉันไม่ได้ทำ