โอฮาชิ เคนโก

 

“ให้แกล้งเป็นคู่รักนี่หมายความว่ายังไงน่ะ!?”

 

“หืม? ก็หมายความตามที่พูดไง”

 

พี่เอียงคอแล้วทำหน้าแบบ[อะไรละ?]

 

เอ๊ะ มันแปลกที่เราไม่เข้าใจเราะ?

…..อือ ใช่ก็แย่ล่ะ!

หลังจากที่ผมสูดหายใจเข้าลึกๆ

 

“ไหงผู้หญิงที่จะทำให้โคโมริตกหลุมรักถึงมีแฟนละเฮ้ย!? คิดยังไงมันก็ให้ผลตรงกันข้ามไม่ใช่เราะ!”

 

“….เฮ้อ เคนโกนี่ไม่เข้าใจอะไรเลยสินะ”

 

หล่อนเหอะ!

 

“จากนี้น่ะฉันจะต้องทำให้โคโมริคุงคิดว่าฉันมีเสน่ห์ จนถึงตรงนี้อะอันเดอร์สแตน?”

 

อย่างกับคุยกับลิงอยู่เลย

เชี่ย เป็นครั้งแรกในชีวิตเลยที่อยากตบผู้หญิง

ผมละอยากจะบ้าที่ต้องมานั่งทนคุยกับเรื่องที่มันไม่คืบหน้า

 

เป็นการดีที่จะเริ่มเรียนรู้การจัดการความโกรธ

ชักจะนึกว่าไม่ใช่นองแต่เป็นพี่ชายแล้วนะ

 

ในขณะที่ผมกำลังทำตัวเหมือนเป็นพี่

 

“ก็เข้าให้อยู่หรอกว่าอยากให้รู้ถึงเสน่ห์ ก็เพราะเข้าใจนั่นแหละ แต่ทำไมวิธีการมันถึงเป็นคบเป็นคู่รักปลอมๆกับน้องชายละฮึ”

 

“…..เฮ้อ”

 

ที่ต้องถอนหายใจมันตูเฟ้ย!

 

“น่าผิดหวังจริงนะเคนโก”

 

“ไหงงั้นละวะ!?”

 

“ผู้หญิงดีๆส่วนใหญ่ก็มักจะมีแฟนไง ลองคิดๆดูสิ ฉันที่หน้าตาดีแต่ก็ไม่มีคนรักนอกจากโคโมริคุงเลยนะ? แบบนั้นก็เหมือนว่าฉันบุคลิกภาพไม่ดีเลยไม่ใช่รึไง”

 

ก็แย่จริงไงเฟ้ย! ในหลายๆความหมายเลย!

 

“ก็คือดูขายไม่ออกแล้วมันไม่เท่ ว่างั้น?”

 

“ใครขายไม่ออกกันยะ!!”

 

ยืดติดอะไรละฟะ!?

ไม่ได้การล่ะต้องรีบทำอะไรกับอีพี่คนนี้ล่ะ…

 

“อยากจะจัดการกับความประทับใจของโคโมริคุงที่มีต่อฉันไงละ”

 

“จัดการความประทับใจ!?”

 

ผมพ่นน้ำลายมหาศาลออกมา ส่วนพี่ก็เบิกตากว้างมองมา

 

“ใช่ ไม่ใช่ว่า ฉัน-หา-แฟน-ไม่ได้ แต่-ไม่ได้-หา-ต่าง-หาก แล้วก็ถ้าคิดจะมีก็เอาเป็นผู้ชายดีๆแบบเคนโก—-โอ๊ะ อย่าเข้าใจผิดไปละ จากมุมมองของฉันเคนโกน่ะไม่ได้ถึงขี้ตีนของโคโมริคุงหรอกนะ แต่เพราะเป็นน้องชายฉันมันก็เหมาะใช่มั้ยละ? เพราะงั้นก็เลยอยากให้คิดว่าฉันน่ะเป็นผู้หญิงชั้นหนึ่งที่หาผู้ชายดีๆได้ไงละ”

 

“อย่างนี้นี่เอง เข้าใจที่พี่อยากจะสื่อแล้ว”

 

ก็คืออยากจะปลูกให้ตัวเองเป็นผู้หญิงที่เลือกผู้ชายได้หลายๆคนงั้นสิ

ถ้างั้นก็ขอออกความเห็นไว้เป็นอย่างแรกเลยนะ ให้ผลตรงข้ามแน่ๆแหละ

ผมจะไม่อ้างว่าเป็นผู้ชายที่ดีหรอกนะ แต่คนทั่วๆไปคงจะมองแบบนั้น

พอเห็นเอะอะ[ว้าย กรี๊ด]ทุกอิริยาบทมันก็เข้าใจได้

 

เพราะแบบนั้นผม ถึงได้ตกเป็นเป้าในการถูกอิจฉา ถูกใส่ร้ายแบบไม่มีเหตุผลมากมายนับไม่ถ้วน

ถ้าเป็นคนธรรมดาๆคงทำอะไรไม่ได้ง่ายๆ 

ก็แบบนั้นนั่นแหละนะ—

 

“เพราะงั้นพรุ่งนี้หลังเลิกเรียน ก็มารับฉันซะด้วยละเคนโก เพื่อจะรายงานให้โคโมริคุงรู้ว่ามีแฟนแล้วไงละ”

 

“—ห๊ะ!? ไม่ไม่ไม่ไม่! ถ้าทำแบบนั้นไปได้ยอมแพ้พี่สาวแน่ๆเลยเฟ้ย!”

 

ก็ลองจินตนาการดูสิ

สมมุติว่าถ้าเกิดผมแกล้งทำเป็นคนรักกับพี่สาวที่เป็นดอกไม้บนเขาสูง

แล้วโคโมริเป็นคนเร่าร้อนที่ใหม้ด้วยจิตวิญญานนักสู้คงพูดว่า[ฉันไม่ยอมแพ้ไอ้หมอนี่หรอกเฟ้ย!]มันก็ได้ผลอยู่หรอก

 

แต่จากที่ได้ยินจากพี่สาวโคโมริไม่ใช่ผู้ชายแบบนั้น

ถ้าให้พูดว่าแบบใหนก็คงเป็นประเภทที่ถอยไปหนึ่งก้าวแล้วพูดว่า[อา..คนรักของคุณนัตสึคาวะเป็นคนแบบนี้นี่เอง ไม่ใช่คู่ต่อสู้เลย]นั่นแหละ

อย่าหาทำดีกว่า หยุดจะหาทำเลย

 

สัญชาตญานมันร้องเตือนแบบนั้นแต่หัวใจสำคัญโง่ๆนั้น

 

“เท่านี้โคโมริคุงก็จะประเมินฉันสูงขึ้นแบบพรวดพราดแล้วสินะ”

 

คิดยังไงก็มีแต่ขุมนรกชัดๆ น้ำตกไนแองการาเองก็น่ากลัวเฟ้ย

 

ถึงจะอธิบายไปว่าวิธีการนี้มันอันตรายแค่ใหนพี่สาวก็ไม่ฟังเลยสักนิด

 

“….เฮ้อ จะเป็นยังไงก็ไม่รู้ด้วยแล้ว”

 

พอโดนบีบบังคับผมก็จับหัวแล้วก็ถอนหายใจ

 

จะเป็นยังไงก็ไม่รู้ด้วยจริงๆแล้วเฟ้ย!

 

 

พอออกจากบ้านของพี่สาวมาผมก็รู้สึกเหนื่อยๆ

สุดท้ายพรุ่งนี้ก็ต้องแกล้งเป็นคนรักกันงั้นเหรอ…เฮ้อ โคตรจะท้อ

เอาเป็นว่าวันนี้นอนไวหน่อยล่ะกัน

 

พอกำลังเดินกลับบ้านแบบหดหู่ จู่ๆก็มีคนคุ้นหน้าปรากฏตัวขึ้นมาให้เห็น

ที่ออกมาจากร้านกาแฟนั้นก็คือแฟนของผม—เทนชินั่นเอง

แย่ล่ะ จะว่าไปแล้วเราปฏิเสธคำชวนของเทนชิแล้วก็มาบ้านของพี่สาวสินะ

 

ทั้งที่พยายามมาชวนแท้ๆแต่ทำเรื่องไม่ดีไปซะได้

 

“นี่เทนชิ!”

 

ขณะที่ตะโกนเรียกเธอไปแบบนั้นและรีบไปที่ทางม้าลาย

 

หัวใจของผมก็เต้นระรัว

ก็เพราะผู้ชายที่เดินออกจากร้านกาแฟที่เหมือนเดินตามเทนชิ

เฮ้ย เดี๋ยวนะ ผู้ชายคนนั้นมันใคร—ห หืม!?

 

ทั้งที่ไม่เคยรู้จักหน้าแท้ๆ แต่เหมือนเคยเห็นหน้าที่ใหน

เอ่อ…ที่ใหนเนี่ย? ไปรู้จักไอ้หมอนั่นมาจากที่ใหนนะ?

ผมเปิดระบบจำใบหน้าในสมอง

 

ไม่ ไม่ใช่หมอนี่ หมอนั่นก็ด้วย เวรเอ้ย ที่ใหนวะ—

ผมเกาหัวแบบไม่ติดฟิลเตอร์

และในตอนที่กำลังเลิกหา

 

—โคโมริไม่ใช่รึไงวะนั่นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน!!

 

ภาพหน้าจอของพี่สาวโผล่ขึ้นมา

เอ๊ะ เดี๋ยว เดี๋ยวก่อนเดี๋ยวก่อนเดี๋ยวก่อนนะ! ม มมมมมมมหมายความว่ายังไงน่ะ!?

ทำไมหมอนั่นถึงได้ออกมาจากร้านกาแฟกับแฟนฉันละ!

ร่างกายแข็งทื่อราวกับว่าไม่รับรู้อะไรอีกต่อไปแล้ว

 

อะไรที่ทำให้เข้าใจได้ยากที่สุดงั้นเหรอ….

 

เทนชิคนนั้นหัวเราะด้วยท่าทางสนุกสุดๆเลยไม่ใช่รึไงกันนนนนนนนน!!

แถมยังเอามือถืออกมาอีก

 

เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!

พวกเอ็งไม่ได้แลกข้อมูลติดต่อกันหรอกใช่มั้ย!? แกว่งมือถือกันด้วย!

อะไรเนี่ย เกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย!?

 

ในตอนนี้เป็นครั้งแรกในชีวิตที่รู้สึกกลัว

ขาขยับไม่ได้ด้วยความกลัวที่ว่าความสัมพันธ์กับเทนชิอาจจะจบลงก็ได้

ถ้าเกิดรีบไปที่นั่นให้เร็วกว่าที่คิดเอาไว้ก็คงไม่ต้องไปพัวพันกับปัญหาแบบนั้นมากมายแต่ว่า—-ในตอนนี้ผมเลี่ยงกับปัญหาที่ตามมาไม่ได้

 

 

โคโมริ โชตะ

 

“เดี๋ยว เดี๋ยวก่อนสิคุณอิสุมิ!  ครั้งนี้จะทำเป็นมองข้ามเรื่องเครื่องดื่มหรอก แต่ไหงต้องเลี้ยงพาร์เฟ่ต์ใหญ่พิเศษด้วยละครับ!”

 

คุณอิสุมิที่ทำสัญญากับผมบอกว่า[จากนี้จะต้องสู้กับคุณนัตสึคาวะเพราะงั้นต้องเติมพลังให้เต็ม อ๊ะ คุณพนักงานคะ ขอพาร์เฟต์ใหญ่พิเศษอันนี้ สอง-ที่ ค่ะ!]

ใช่แล้ว มันแปลกตรงที่เธอสั่งมาสองที่ที่ราคามากกว่า1500เย็นนี่แหละ

 

รู้สึกตัวอีกทีผมก็ไม่มีทางเรื่องนอกจากตามใจ

 

“น้ำตาของหญิงสาวนะลบได้ด้วยน้ำตาลนะคะ? ตรงจุดนี้ก็ต้องแสดงให้เห็นถึงสปิริตของลูกผู้ชายค่ะ”

 

“อึก….พูดมาแบบนั้นราคามันก็ถูกเลยสิ”

 

“เอ๊ะ?”

 

คุณอิสุมิเบิกตากว้างแบบไม่ได้ตั้งใจให้กับคำพูด

เอ๊ะ อะไร? นี่ผมพูดอะไรผิดไปงั้นเหรอ?

 

“เอ่อ..หรือว่าพยายามจะจีบฉันเหรอคะ?”

 

“ไหงเป็นงั้นไปได้ละ!?”

 

“ก็คือไม่ได้ตั้งใจงั้นสินะคะ…..อย่างนี้นี่เอง บางทีคุณโคโมริอาจจะเป็นเสือผู้หญิงแบบธรรมชาติก็ได้นะคะ”

 

“นอกจากจะต้องปรนนิบัติแล้วยังถูกทำร้ายทางวาจาอีก!?”

 

เคยถูกปฏิบัติแบบไร้เหตุผลจนถึงขนาดนี้รึเปล่า

 

“ฮุฮุ ไม่ว่ายังไงก็ยืนยันแล้วค่ะ—-เอาล่ะ!”

 

คุณอิสุมิดูมั่นใจมากขึ้น

และเอามือออกมาจากกระเป๋า

 

“วางใจเถอะค่ะ ฉันไม่ตั้งใจจะให้เลี้ยงแบบฟรีๆหรอกนะคะ จะจ่ายคืนให้ในราคาที่สมน้ำสมเนื้อแน่ค่ะ”

 

“อ๊ะ เปล่าไม่ได้หมายความว่าแบบนั้–”

 

“—มาแลกเปลี่ยนข้อมูลติดต่อกับฉันกันค่ะ”

 

“ครับ?”

 

“ทำสัญญาแล้วนี่คะ จากนี้เราจะร่วมมือกันและกัน เพราะแบบนั้นก็ควรจะติดต่อกันได้ตลอดไงคะ”

 

“นั่นมัน….”

 

“วางใจเถอะค่ะ ถึงจะบอกว่าแลกกันแต่ก็เป็นที่ติดต่อที่ทิ้งได้ตลอดค่ะ”

 

“แล้วให้ผมวางใจอะนะ!?”

 

“เอ๊ะ จะให้บอกข้อมูลติดต่อจริงๆอะนะ?……ชิ”

 

“เดาะลิ้นเลยเหรอ!? ให้ตาย ถ้างั้นเอาเป็นที่ติดต่อที่ทิ้งได้ตลอดก็ได้ ช่วยบอกที”

 

และพวกเราก็เขย่ามือถือแลกเปลี่ยนข้อมูลติดต่อกัน

 

“เท่านี้เราก็เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดกันแล้วสินะคะ”

 

“ก็นะ…ถึงจะไม่รู้ว่าจะทำอะไรได้บ้างก็เถอะแต่จากนี้ก็ฝากตัวด้วยนะครับ”

 

“ทางนี้ก็ด้วยค่ะ ฝากตัวด้วยนะคะ คุณ-โช-ตะ”

 

“คุณโชตะ!?”

 

======จบตอน======

เรียกได้ว่าน้องชายคุงโดนโจมตีจากทุกทาง
___________________

ติดตามผลงานอื่นๆและสนับสนุนผู้แปลได้ที่

ดอกไม้ไฟ | Facebook