ตอนที่ 18 ใจแลกใจ (รีไรท์)
ตอนที่ 18 ใจแลกใจ (รีไรท์)
แน่นอนว่าซูเถาปัดออกด้วยการโบกมือเล็ก ๆ เป็นเรื่องน่าแปลกใจที่หลี่หรงเหลียนเต็มใจให้เจียงจิ่นเวยย้ายออกมา ไม่รู้ว่าชีวิตของเธอในกองทัพจะเป็นยังไงนะตอนนี้
ซูเถาคิดไม่ถึงว่าตนเองจะได้รู้เรื่องนี้อย่างรวดเร็ว ตั่งซิ่งเหยียนบ่นให้เธอฟังในขณะที่กินอาหารค่ำ
“ผู้หญิงคนนั้นกระวนกระวายใจมากตอนขอให้เธอนำอุปกรณ์ไปเก็บศพ เธอกลัวมากจนตรงไปหาหัวหน้ากองสาม และหัวหน้ากองสามก็ไล่เธอออกไป”
มุมปากของซูเถากระตุกเล็กน้อย
เฉินเทียนเจียวก็ซื้อข้าวกล่องเพื่อมากินข้าวกับคนอื่นเช่นกัน
“เถ้าแก่ซู ที่นี่เปลี่ยนไปมาก ต่างจากครั้งแรกที่ผมเพิ่งเข้ามาจนเกือบจำไม่ได้”
“ครั้งนี้ที่พวกคุณกลับมาอยู่นานแค่ไหนเหรอ” ซูเถาเห็นอีกฝ่ายจึงเอ่ยถาม
ตอนพูดยังไม่วายเหลือบมองไปทางสือจื่อจิ้น
เดิมทีสือจื่อจิ้นต้องการจะบอกว่าเขากังวล และต้องการไปที่เกิดเหตุพร้อมกับผู้รับมอบงานพิเศษในวันพรุ่งนี้ แต่เมื่อมองเข้าไปในดวงตาของซูเถา จู่ ๆ เขาก็พูดอะไรไม่ออก
“สามวัน”
ซูเถาถอนหายใจด้วยความโล่งอก โชคดีที่ไม่ได้จากไปในวันพรุ่งนี้ เรื่องนี้มันทำให้เธอรู้สึกดีขึ้น
“พักผ่อนกันให้เต็มที่นะ ฉันเพิ่งซื้อเครื่องเล่นเกมมาใหม่ พรุ่งนี้มาเล่นด้วยกันเถอะ”
เธอเบื่อที่จะดูทีวีแล้ว หลังจากค้นหาเป็นเวลานานในร้านตกแต่งบ้าน ในที่สุดเธอก็พบคอนโซลเกมที่มีเกมขนาดเล็กมากกว่า 100 เกมเก็บไว้ในนั้น และมาพร้อมกับอุปกรณ์ควบคุมสี่ตัว ซึ่งเหมาะมากสำหรับผู้เล่นหลายคน
เมื่อเห็นว่าเธอมีท่าทางเหมือนเด็กน้อย สือจื่อจิ้นก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะอย่างขบขัน
แต่แล้ววันรุ่งขึ้นซูเถาก็ไม่มีเวลาว่างปลีกตัวมาเล่นเกม เพราะเจียงเจ๋อถูกผู้เช่าที่กระตือรือร้นของเธอจับมัดยัดถุงกระสอบไว้
เมื่อเห็นเมิ่งเสี่ยวป๋อขว้างร่างที่ดิ้นขลุกขลักและส่งเสียงเอะอะโวยวายในกระสอบลงบนพื้นเต็มแรง ซูเถาก็ตกตะลึง
“พวกคุณจะทำอะไรเนี่ย?”
สิงซูอวี่เป็นผู้นำในการคลุมกระสอบ
หลูเทาและคนอื่น ๆ เป็นผู้รับผิดชอบในการตี
หยางจวี๋แฟนสาวของเมิ่งเสี่ยวป๋อตะโกนใส่คนบนพื้น “ไอ้สารเลว ไม่ยอมรับผิดแล้วยังจะมีหน้าไปร้องเรียนอีกนะ ฉันจะทำให้รู้สึกว่าการที่ปล่อยข่าวลือแบบผิด ๆ ไปผลที่ตามมามันคืออะไร ปิดประตู เสี่ยวป๋อจัดการ!”
เมิ่งเสี่ยวป๋อกัดฟันและชูกำปั้นที่แข็งแกร่งดั่งกระสอบทรายขึ้น
ซูเถาตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ “หยุดนะ! กำปั้นนี้ของคุณทำคนตายได้เลยนะ! ปล่อยเขาไป แค่ให้บทเรียนเขาก็พอแล้ว”
หลูเทาเกร็งข้อมือ “ฉันเอง ๆ แรงฉันน้อย คงทำให้ใครตายไม่ได้”
ขณะที่เขาพูดก็ออกแรงทั้งต่อยและเตะ
ตอนนี้มีประกายไฟก่อตัวอยู่ในกระสอบ แต่เจียงเจ๋อเองก็ไม่กล้าใช้ความสามารถของเขา กลัวว่าหากเขาไม่เผาศัตรูจนตาย ก็คงเป็นเขาเองนี่แหละที่ถูกเผาจนตาย
ทันทีที่กระสอบเปิดออกและปากของเขาถูกคลายออก เจียงเจ๋อก็ร้องไห้อ้อนวอนขอความเมตตา
“ฉันผิดไปแล้วจริง ๆ ทุกคนได้โปรดหยุดเถอะ ฉันสาบานถ้าฉันปล่อยข่าวลือของเถาหยางอีกครั้งล่ะก็ ฉันขอให้กลายเป็นหมูเป็นหมาและครอบครัวของฉันก็กลายเป็นอาหารซอมบี้…”
ซูเถาขัดเขา “หยุด ๆ มาทางไหนก็กลับไปทางนั้นเลยไป”
หลังจากความโกรธของสิงซูอวี่ลดลง และไม่ได้สร้างปัญหาใด ๆ อีก เธอใช้มีดตัดเชือกป่านที่พันธการมืออีกฝ่าย “ไสหัวไปให้พ้น”
เจียงเจ๋อจมูกฟกช้ำและใบหน้าบวมเป่งตะเกียกตะกายออกไปโดยไม่กล้าหันศีรษะกลับมามอง
หลังจากได้เห็นทั้งหมดแล้ว สือจื่อจิ้นก็หัวเราะเบา ๆ “เถ้าแก่ซูนี่ได้ใจคนจริง ๆ”
ซูเถาส่ายหัวของเธอ “นี่มันคือใจแลกใจ ฉันหวังว่าเขาจะอยู่ดีกินดีและมีชีวิตที่ดี และหวังว่าเถาหยางจะสบายดีเช่นกัน”
สือจื่อจิ้นยิ้ม “ถ้าวันหนึ่งมีคนต่อต้านคุณล่ะ”
ซูเถามองอีกฝ่าย “ฉันก็ยังต้องการเป็นเจ้าของอสังหาฯ และรับผิดชอบผู้เช่าของฉันต่อไป พลตรีสือก็ไม่ต่างกัน สำหรับคุณ คุณปกป้องผู้คนมากมาย ถ้าคุณเจอคนไม่ดีคุณจะละทิ้งอาชีพของคุณเพื่อสิ่งนี้หรือเปล่า”
สือจื่อจิ้นผงะไปครู่หนึ่ง จากนั้นคลี่ยิ้มออกมา ดวงตาที่สวยงามและงดงามของเขาหรี่ลงเล็กน้อย “คุณพูดถูก”
ซูเถาเชิดหน้าขึ้นพลางเอ่ยว่า “คุณมาเล่นเกมกับฉันไหม”
“เอาสิ”
……
ซูเถาใช้เวลาสองคืนในการสรุปรายชื่อผู้เช่าสิบห้ารายและส่งหนังสือแจ้งไปให้แต่ละคน ทุกคนต้องมารายงานตัวและลงทะเบียนในเถาหยางภายในสามวัน
ในขณะเดียวกัน การเช่าระยะสั้นของสือจื่อเยว่ก็หมดลง ซูเถาจึงซื้อเตียงเดี่ยวหลังใหม่ตามความคาดหวังของเธอ พร้อมเบาะรองนั่งและผ้าห่มขนนุ่มนิ่ม
ถัดจากเตียงเดี่ยวคือโต๊ะทำงานที่เธออยากได้มาตลอด พร้อมเก้าอี้ล้อเลื่อนและฝั่งตรงข้ามมีชั้นวางหนังสือของเธอ
ห้องน้ำถูกกั้นด้วยฉากกั้นสีขาวและติดตั้งชั้นวางของสามชั้นเพื่อเก็บอุปกรณ์อาบน้ำของสาว ๆ นอกจากนี้ห้องอาบน้ำยังใช้กระจกบังสายตาคุณภาพดีเพื่อแยกส่วนแห้งและเปียก
การปรับปรุงห้องใหม่ครั้งนี้มีราคาใกล้เคียงกับห้องเดี่ยวสุดหรูของเฉินเทียนเจียว
สือจื่อเยว่กลับมาจากโรงเรียนในตอนบ่าย เมื่อเปิดประตูห้องก็เห็นห้องที่ถูกปรับปรุงใหม่ เด็กสาวถอดรองเท้าอย่างตื่นเต้นและกระโดดขึ้นเตียง ก่อนจะลงมาเดินไปรอบ ๆ ด้วยเท้าเปลือยเปล่า วางหนังสือและข้าวของกระจุกกระจิกในกระเป๋านักเรียนบนโต๊ะใหญ่อย่างกระตือรือร้น
“พี่เถาจื่อ พี่สุดยอดมาก ๆ หนูชอบห้องนี้มาเลยค่ะ พรุ่งนี้ฉันจะชวนเพื่อนร่วมชั้นมาเล่นที่ ห้อง!”
เมื่อเห็นเด็กหญิงตัวน้อยมีความสุข ซูเถาก็รู้สึกพอใจมาก “งั้นโทรชวนเพื่อนร่วมชั้นมาสักสองสามคนนะ แล้วพี่จะเตรียมอาหารอร่อย ๆ ให้”
“ได้เลย!” เธอเริ่มโทรหาเพื่อนร่วมชั้นอย่างไม่รอช้า
สือจื่อจิ้นยืนพิงประตู ส่งยิ้มให้ซูเถาพลางพูดว่า
“ขอบคุณนะ จื่อเยว่ไม่ได้มีความสุขแบบนี้มานานแล้ว เธอไม่เคยมีห้องเป็นของตัวเอง ก่อนหน้านี้ผมให้เธออยู่บ้านญาติและเธอก็แชร์ห้องกับลูกพี่ลูกน้อง ใช้โต๊ะร่วมกัน มันแออัดและไม่มีที่วางหนังสือ”
ซูเถารู้สึกสงสารจับใจ จำได้ว่าตอนที่เธออยู่ในบ้านซู ต้องพูดดี ๆ กับเจียงจิ่นเวยเพื่อที่จะได้ใช้โต๊ะทำงานของเธอชั่วคราว เพราะปกติอีกฝ่ายมักจะนอนเล่นหรืออ่านหนังสืออยู่บนที่นอนของเธอ
หวังว่าเถาหยางจะดีขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อให้ผู้คนมีพื้นที่และสิ่งของส่วนตัวมากขึ้น
“คุณมีห้องว่างเหลือไหม สำหรับ 3 คน” จู่ ๆ สือจื่อจิ้นก็ถามขึ้น
ซูเถาส่ายหัว “ตอนนี้ยังไม่มี น่าจะอีกอาทิตย์หนึ่ง”
เมื่อผู้เช่าชุดต่อไปมาถึงและจ่ายค่าเช่าเดือนแรก เธอจะมีเงินเพื่ออัปเกรดเป็นเลเวล 3 จากนั้นเธอจะสามารถปลดล็อกห้องประเภท 1 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่น ซึ่งสามารถรองรับได้สูงสุดสามคน
สือจื่อจิ้นพยักหน้า “งั้นเก็บไว้ให้ผมห้องหนึ่งนะ พี่สาวของหู่จือมีลูกสองคน เธอกำลังมองหาบ้านใหม่ ดูเหมือนว่าบ้านของคุณจะเป็นสถานที่ที่เหมาะสมที่สุด อีกอย่างพรุ่งนี้เราวางแผนที่จะไปส่งหู่จือ คุณอยากไปด้วยกันไหม?”
“ไปสิ!” ซูเถาตอบกลับโดยแทบไม่ต้องคิด
วันรุ่งขึ้นซูเถาและสือจื่อเยว่เก็บข้าวของและไปที่สุสานวีรชนตงหยาง โดยรถของกองทัพบุกเบิกการใช้ที่ดินเป็นไปอย่างคับคั่งหลังวันสิ้นโลก คนเป็นก็ยังไม่พอนับประสาอะไรกับคนตาย
โดยทั่วไปแล้วคนธรรมดาจะถูกโยนออกจากฐานเมื่อพวกเขาตาย เฉพาะผู้พลีชีพเช่นจวงหู่เท่านั้นที่ถูกเผา และอัฐิของพวกเขาจะถูกเก็บไว้ในกล่องสีดำและส่งไปยังสุสานวีรชน
ซูเถายืนอยู่ในสุสานวีรชนและมองกล่องสีดำที่จัดเป็นแถวเรียงกันจนแน่นขนัดจนแทบเป็นไปไม่ได้ที่ผู้มาไว้อาลัยจะเดินผ่านได้
หัวใจของซูเถาหนักอึ้ง เธอติดตามทุกคนเพื่อวางอัฐิของจวงหู่ในพื้นที่เล็ก ๆ ของเขา และฟังเจ้าภาพของงานศพเล่าถึงเรื่องราวชีวิตของเขา