“—!? อันตราย!! พวกพี่รีบหนีไปเร็ว!!”

 

“!?”

 

ปั้งปั้ง!!

 

ทันทีเด็กสาวผมสีเทาได้ยินเสียงของคอนแนล เธอก็ทำหน้าตกใจก่อนที่จะตะโกนออกมา และทันใดนั้นเองก็มีเสียงของปืนดังขึ้นติดต่อกันสองนัด

 

ก่อนที่พวกเขาจะเห็นกระสุนวิซสีเขียวสองนัดพุ่งออกมาจากด้านหลังของคฤหาสน์ และตีโค้งข้ามหลังคาพุ่งตรงเข้าใส่ตัวเด็กสาว แต่คอนแนลที่วิ่งนำหน้ามาก่อนนั้นก็ได้เร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นก่อนที่จะกระโดดไปขวางหน้าเด็กสาวเอาไว้และตั้งโล่ของเขาขึ้นมา

 

เป๊ง! เป๊ง!

 

“กระสุนวิซแบบนี้มัน—”

 

“นี่เธอยังกล้ากลับมาที่อีกหรือไง แมรี่!!”

 

ทันใดนั้นเองก็มีเสียงของเวก้าตวาดดังลั่นไปทั่วทั้งคฤหาสน์ ก่อนที่ตัวเขาจะพุ่งลอยขึ้นมาจากทางด้านหลังคฤหาสน์ด้วยพาร์ทที่เขาใส่ติดเอวเอาไว้

 

“แต่…เธอกลับมาด้วยตัวเองแบบนี้ก็ดี! ผมจะได้จัดการให้มันจบๆ ไปซะที!!”

 

ปั้งปั้งปั้งปั้งปั้งปั้ง!!

 

ทันทีที่เขาพูดเสร็จไอพ่นที่ติดอยู่ทั้งสองข้างของเขาก็ได้เปิดส่วนด้านบนออกมา พร้อมเผยให้เห็นปลายกระบอกปืนที่ถูกซ่อนเอาไว้ข้างละสี่อัน ก่อนที่พวกมันจะยิงกระสุนวิซสีเขียวขนาดเล็กออกมาพร้อมๆ กัน โดยที่พวกมันก็ได้พุ่งแยกไปคนละทิศคนละทางก่อนที่พวกมันจะตีวงโค้งพุ่งกลับลงทางเด็กสาวผมเทาอีกครั้ง

 

“ฮึ้ย—!?”

 

คอนแนลที่เห็นแบบนั้นแบบนั้นเขาก็รีบสะบัดโล่ในมือไปมารับกระสุนเหล่านั้นอย่างรวดเร็ว ถึงแม้ว่าเขาจะสามารถรับกระสุนส่วนมากได้ แต่ว่าก็ยังเหลืออีกสองนัดที่พุ่งลงมาจากข้างบนด้วยมุมที่แตกต่างกัน ซึ่งเมื่อเขามองดูแล้วเขาก็คิดว่าคงจะรับมันเอาไว้ไม่ทันแน่ๆ

 

“ฉันจัดการเอง!!”

 

เคร๊งเคร๊ง!!

 

ทันใดนั้นเองนากาก็รีบวิ่งเข้ามาและกระโดดขึ้นเหนือหัวพวกเขาก่อนที่จะใช้ดาบฟันเข้าใส่กระสุนทั้งสองนัดจนมันแตกกระจายไปพร้อมกันในทีเดียว

 

ซึ่งก็นับว่าโชคดีที่กระสุนซึ่งถูกยิงออกมาจากปืนกระบอกเล็กๆ จำนวนมากบนพาร์ทที่เอวของเวก้านั้นไม่ได้รุนแรงและแฝงไปด้วยแรงระเบิดเหมือนกับปืนกระบอกใหญ่ที่ถูกซ่อนในเกราะแขน ทำให้พวกเขาไม่ได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีนั้นเลย

 

“อลิซ! พาตัวเด็กคนนั้นเข้าไปหลบข้างในก่อนเร็ว!!”

 

“เข้าใจแล้ว!”

 

“ว–ว๊าย!?”

 

อลิซที่ได้ยินแบบนั้นก็รีบจับมือของเด็กสาวผมสีเทา ก่อนที่เธอจะวิ่งจูงมือเด็กสาวไปทางประตูทางเข้าตัวคฤหาสน์ในทันที เมื่อเธอรู้ตัวดีว่าด้วยอาการบาดเจ็บบนไหล่ของเธอนั้น ทำให้ถ้าเธอยังอยู่ตรงนี้ต่อไปก็คงจะเป็นได้แค่ตัวถ่วงของอีกสองคนซะเปล่าๆ

 

“นี่เธอยังกล้าก้าวเท้าเข้าไปในบ้านของผมอีกหรอหะ!!”

 

เวก้าที่เห็นแบบนั้นเขาก็ตะโกนขึ้นมาเสียงดัง แต่ดูเหมือนว่าปืนที่ซ่อนอยู่ในพาร์ทที่เอวของเขานั้นจะไม่สามารถยิงอย่างต่อเนื่องกันเป็นเวลานานได้ เขาจึงล้วงมือข้างที่ไม่ได้ใส่เกราะแขนไปคว้าเอามีดเดินป่าที่เคยเป็นของโมโกะออกมา ก่อนที่จะรีบพุ่งตัวบินตามอลิซและแมรี่ไปด้วยความรวดเร็วในทันที

 

“คอนแนล!!”

 

“รู้แล้วครับ!!”

 

ฟุ๊บ—ผลัก!!

 

“อั้ก!?”

 

ยังไม่ทันที่จะสิ้นเสียงของนากา เวก้าก็ถูกโล่ของคอนแนลกระแทกเข้าใส่จากด้านข้างอย่างจัง จนทำให้เขาปลิวกระเด็นออกไปอย่างรุนแรง และเปิดโอกาสให้อลิซนั้นพาแมรี่หลบเข้าคฤหาสน์ไปได้สำเร็จ

 

แต่เวก้าที่ลอยกระเด็นออกไปนั้นก็ใช้พาร์ทไอพ่นที่เอวของเขาช่วยพลิกตัวตั้งหลักขึ้นมากลางอากาศ ก่อนที่เขาจะรีบพุ่งตามอลิซและแม่รี่ไปอีกครั้งอย่างรวดเร็ว

 

“หยุดรังแกผู้หญิงได้แล้วน่าเวก้า!”

 

“!!”

 

ปั้งปั้งปั้งปั้ง!!

 

เคล๊ง! เคล๊ง!

 

เวก้าที่ได้ยินนากาตะโกนขึ้นมาพร้อมพุ่งตัวเข้ามาหาแบบนั้น เขาก็รีบดีดปืนที่ซ่อนอยู่ตรงพาร์ทไอพ่นออกมาข้างหนึ่ง ก่อนที่จะใช้มันยิงเข้าใส่พวกนากาในทันที

 

แต่ว่านากาก็สามารถใช้ดาบของเขาปัดกระสุนสองนัดที่พุ่งเข้ามาจากทางด้านขวาได้อย่างไม่ลำบากอะไรนัก ในขณะที่อีกสองนั้นที่พุ่งอ้อมเข้ามาทางซ้ายนั้นเขาก็ได้คอนแนลกระโดดเข้ามาใช้โล่ป้องกันเอาไว้ให้

 

จนทำให้เวก้าที่เห็นแบบนั้นเขาต้องรีบใช้ไอพ่นบินพุ่งขึ้นไปลอยตัวอยู่สูงเหนือตัวคฤหาสน์ในทันที ก่อนที่เขาจะใช้ปืนที่ซ่อนอยู่ในพาร์ทไอพ่นอีกข้างหนึ่งยิงเข้าใส่พวกนากาซ้ำอีกที และเมื่อปืนในไอพ่นข้างแรกที่เขาได้ยิงไปก่อนหน้านั้นพร้อมที่จะยิงออกมาอีกครั้ง เขาก็ไม่รอช้าที่จะยิงมันเข้าใส่พวกนากาสลับกันไปมาอย่างต่อเนื่อง

 

ที่ถึงแม้ว่าจะมีปริมาณที่ยิงออกมาพร้อมกันในทีเดียวจะน้อยกว่า แต่ว่าด้วยการยิงสลับกันไปมาก็ทำให้เขาสามารถถ่วงเวลานากากับคอนแนลเอาไว้ได้จนทำให้พวกเขาไม่มีเวลาไปทำอย่างอื่นอีก

 

ในขณะเดียวกันกับที่เวก้าก็ได้เปิดมองดูปืนกระบอกใหญ่ที่ซ่อนอยู่ในเกราะแขนของเขาว่ามันพร้อมที่จะใช้งานอีกครั้งแล้วหรือยัง ก่อนที่เขาจะพูดออกมาเบาๆ

 

“ของที่คุณเอริกะสร้างขึ้นมานี่มันจะประสิทธิภาพดีเกินไปแล้วนะ… นี่ขนาดมีอยู่แค่ส่วนเดียวแท้ๆ … ไม่แปลกใจเลยที่ว่าทำไมเบื้องบนถึงพยายามจะเก็บซ่อนมันไว้น่ะ”

 

ซึ่งถึงแม้ว่าปริมาณกระสุนที่ถูกยิงลงมาจะมีน้อยจนนากาและคอนแนลสามารถรับมือได้ง่ายๆ แต่ด้วยความที่มันถูกยิงออกมาอย่างต่อเนื่องแถมเวก้ายังลอยอยู่สูงกลางอากาศทำให้พวกเขาไม่สามารถตามขึ้นไปโจมตีสวนกลับได้เลยแม้แต่น้อย

 

“เฮ้ย! จ้องแต่จะรังแกผู้หญิงแล้วยังจะขี้ขลาดอีกหรือไง กลับลงมาสู้กันตรงๆ สิฟระ!!”

 

“เอายังไงดีล่ะครับนากา… ถ้ามีแผนอะไรอยู่คงจะได้เวลางัดออกมาใช้แล้วละมั้งครับ”

 

ในระหว่างที่พวกนากากำลังคิดหาวิธีรับมือการโจมตีทางอากาศอย่างต่อเนื่องของเวก้าอยู่นั้น ทางด้านแมรี่ที่ถูกอลิซลากเข้ามาซ่อนในคฤหาสน์นั้นก็พยายามที่จะแอบชะโงกหน้ามองดูสถานการณ์ด้านนอกผ่านทางหน้าต่าง

 

ก่อนที่เธอจะหันมาถามอลิซที่กำลังกุมแผลบนไหล่ของเธอที่เริ่มมีเลือดซึมออกมาอีกครั้งด้วยความเป็นห่วง

 

“พ…พวกพี่ชายเขาท่าทางจะลำบากอยู่นะคะ! พี่สาวจะไม่ออกไปช่วยพวกเขาหน่อยหรอ!?”

 

“ก็อยากจะช่วยอยู่หรอกนะ… แต่แขนฉันเป็นแบบนี้ออกไปก็เป็นตัวถ่วงพวกเขาซะเปล่าๆ น่ะ…”

 

อลิซพูดตอบพร้อมกับชะโงกหน้ามองดูผ่านหน้าต่างพลางอธิบายออกมา เพราะถึงแม้ว่าเธอจะสามารถดีดตัวขึ้นไปหาเวก้าได้ แต่ว่าอีกฝ่ายนั้นสามารถบินเปลี่ยนทิศทางได้อิสระต่างจากเธอที่อาศัยแรงดีดพุ่งตัวไปในทิศทางเดียว ทำให้เธอคิดว่าเขาน่าจะสามารถหลบการโจมตีของเธอได้ง่ายๆ และในจังหวะเดียวกันนั้นเองเวก้าที่กำลังมองไปมองมาก็ได้หันมาเห็นพวกเธอเข้า ทำให้เขาเผยสีหน้าโกรธแค้นออกมา

 

ก่อนที่เขาจะควบคุมกระสุนวิซจำนวนหนึ่งให้หักเลี้ยวพุ่งมาทางพวกเธออย่างรวดเร็ว ซึ่งอลิซที่เห็นแบบนั้นก็รีบกดหัวของแมรี่ลงต่ำก่อนที่กระสุนพวกนั้นจะพุ่งกระแทกเข้าใส่หน้าต่างบานที่พวกเธอชะโงกออกไปดูจนแตกกระจุยอย่างรุนแรง

 

“หลบเร็ว!!”

 

“—!?”

 

เพล้ง!!

 

“ยัยหนูไม่เป็นไรอะไรใช่มั้ย!?”

 

“ค–ค่ะ!”

 

“พวกเรารีบหลบไปที่อื่นกันก่อนดีกว่า!!”

 

เธอรีบลุกขึ้นมาก่อนที่จะจูงมือของแมรี่วิ่งออกไปตามโถงทางเดินของคฤหาสน์ที่มืดสลัว เนื่องจากเชิงเทียนที่เอริซาเบธได้ไล่จุดไปเมื่อเช้านั้นได้ดับลงไปในตอนที่พวกเธอออกจากคฤหาสน์หลังนี้ไป

 

“นี่มันคฤหาสน์ขุนนางหรือว่าห้องดับจิตกันแน่เนี่ยหะ!!”

 

ทันใดนั้นอลิซก็ได้ร้องออกมาอย่างหัวเสีย เมื่อเธอที่พยายามวิ่งหาห้องเก็บอาวุธหรืออุปกรณ์ที่น่าจะเอาไปช่วยสนับสนุนพวกนากาได้กลับพบเจอแต่ศพของอัศวินหรือไม่ก็สาวใช้ในทุกๆ ห้องที่เธอเปิดเข้าไปดู

 

“นี่เธอน่ะ! เวก้าเขาพูดเหมือนว่าเธอเคยอยู่ที่นี่เลยนี่!? พอจะรู้หรือเปล่าว่าเขาเก็บอาวุธระยะไกลกันไว้ที่ไหนน่ะ!!”

 

“ถ– ถ้าเป็นอาวุธหนูไม่รู้หรอกค่ะ แต่ว่าถ้าเป็นคริสตัลวิซละก็หนูเคยเห็นพวกพี่อัศวินเขาหยิบออกมาจากห้องเก็บของน่ะค่ะ!”

 

“จะอะไรก็ช่างเถอะ! ขอให้มันยิงออกมาได้ก็พอแล้ว!”

 

แมรี่ที่ได้ยินแบบนั้นเธอก็รีบวิ่งนำอลิซออกไปจากห้องเพื่อที่จะพาเธอไปยังห้องเก็บของซึ่งมีห้องทดลองลับใต้ดินซ่อนอยู่นั้นในทันที

 

“เวลาแบบนี้ยังคิดจะเล่นซ่อนแอบกันอีกหรือไง แมรี่!!”

 

“ถอยออกมาจากหน้าต่างซะ!!”

 

เพล้ง-เพล้ง-เพล้ง-เพล้ง—ตู๊ม!!

 

“ว๊าย!?”

 

ทันใดนั้นเองก็ได้มีเสียงของเวก้าดังขึ้นมา และตามมาด้วยเสียงของอลิซที่ตะโกนเรียกให้เธอถอยออกมาจากหน้าต่าง ก่อนที่หน้าต่างบริเวณที่พวกเธออยู่กันนั้นก็ได้ระเบิดออกอย่างรุนแรง ส่งให้เศษกระจกแตกกระจายปลิวว่อนไปทั่ว

 

อลิซที่เห็นแบบนั้นก็ได้รีบพุ่งเข้าไปผลักแมรี่ให้ล้มลงไป ก่อนที่จะกอดร่างของอีกฝ่ายเอาไว้เพื่อที่จะใช้ร่างกายของตัวเองบังเศษกระจกจำนวนมากที่แตกกระจายออกมาใส่พวกเธอ

 

สวบ!!

 

“—!?”

 

“พี่สาว!?”

 

ถึงแม้ว่าพวกเธอจะรอดจากเศษกระจกจำนวนมากที่ถูกระเบิดออกอย่างรุนแรงได้ แต่ว่าเมื่อเศษกระจกเหล่านั้นหมดแรงส่งลง พวกมันก็ตกเข้าใส่ร่างของพวกเธอตามแรงดึงดูดของโลก ซึ่งก็ได้มีเศษกระจกขนาดใหญ่ชิ้นหนึ่งตกลงมาปักใส่ขาของอลิซเข้าเต็มๆ

 

“คุณเอริกะ…นี่คุณคิดจะสร้างมันขึ้นมาเพื่อรับมือกับอะไรกันครับเนี่ย…”

 

ทางด้านเวก้าเขาก็เอ่ยออกมาอย่างแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง เมื่อเขาได้เห็นพลังทำลายของอุปกรณ์รุ่นต้นแบบที่เขาสวมใส่อยู่

 

ซึ่งถึงแม้ว่ามันจะเป็นเพียงรุ่นต้นแบบแต่ว่าพลังทำลายของมันก็สามารถที่จะเป่าให้กำแพงพังลงมาได้ทั้งแถบ จนคฤหาสน์ของเขาแทบจะพังถล่มลงมา

 

ฟวับ—

 

“—!!”

 

ทันใดนั้นเองเขาก็เหลือบไปเห็นดาบเปื้อนเลือดของนากาที่พุ่งตรงเข้ามาหาเขาอย่างรวดเร็ว จนทำให้เขาต้องรีบพลิกตัวหลบมันในทันที

 

“ชิ… ดันรู้ตัวทันอีก!”

 

นากาที่เห็นอีกฝ่ายหลบดาบของเขาไปได้ก็เดาะลิ้นออกมาด้วยความเสียดาย ในขณะที่ด้านหลังของเขาก็มีคอนแนลซึ่งกำลังหอบหิ้วเศษเหล็กที่เกิดจากซากต่างๆ ที่ถล่มลงมาด้วยฝีมือของเวก้าเอาไว้เต็มอ้อมแขน

 

“เล่นโยนอาวุธของตัวเองทิ้งไปแบบนี้แล้วคุณจะสู้กับผมต่อยังไงล่ะครับ? โง่เง่าสิ้นดี ฮะฮะฮ—–!?”

 

เมื่อเวก้าเห็นว่านากาได้ปาอาวุธของตนใส่เขาแต่ว่าพลาดเป้าไป ส่งผลให้ในมือของนากานั้นว่างเปล่าไม่มีอาวุธอื่นเหลืออีก เขาก็หัวเราะเยาะออกมาในทันที แต่ว่าทันใดนั้นเองเขาก็ต้องเงียบลงไปพร้อมกับเบิกตากว้างมองนากาด้วยสีหน้าตื่นตะลึง

 

เมื่อเขาเห็นนากาได้ยื่นมือไปคว้าเชิงเทียนอันหนึ่งออกมาจากอ้อมแขนของคอนแนล ก่อนที่เชิงเทียนธรรมดาๆ อันนั้นที่เวก้าเป็นคนเลือกซื้อมาเองกับมือจะค่อยๆ เปลี่ยนรูปร่างอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นดาบเปื้อนเลือดลักษณะคุ้นตา เหมือนอันที่มันเพิ่งจะพุ่งผ่านเฉี่ยวจมูกของเขาไปเมื่อสักครู่นี้เอง

 

“อะไรกั——-”

 

“ขอบใจสำหรับซากพวกนี้นะไอ้โง่!!”

 

นากาขว้างดาบเล่มใหม่ในมือของเขาใส่เวก้าไปอีกทีหนึ่งในทันที ก่อนที่คราวนี้เขาจะคว้าหยิบซากเหล็กดัดที่คอนแนลโยนส่งมาให้เขาและรีบเปลี่ยนมันเป็นดาบเปื้อนเลือดอีกครั้งหนึ่งในทันที เมื่อเขาเห็นว่าเวก้าหลบดาบที่เขาปาใส่ได้อีกแล้ว

 

“พวกนั้นก็ยังจะหาวิธีสู้ได้อีกนะ– โอ๊ย–!?”

 

“พ–พี่สาว!?”

 

อลิซที่ได้ยินเสียงข้าวของจำนวนมากกำลังถูกปาอยู่พร้อมกับเสียงโวยวายของนากาที่ปาอาวุธพลาด เธอก็ได้พูดออกมาก่อนที่จะเอื้อมมือไปจับเศษกระจกชิ้นใหญ่ที่ปักขาของเธอเอาไว้อยู่ ก่อนที่จะกัดฟันแล้วดึงมันออกมาในทีเดียว ส่งผลให้มีเลือดไหลทะลักออกมาในทันที

 

“ม…ไม่เป็นไรหรอก พี่เจออะไรแบบนี้มาจนชินแล้ว…”

 

อลิซพูดออกมาก่อนที่จะคว้าผ้าม่านที่ตกอยู่ใกล้ๆ มาถือเอาไว้และใช้ดาบของเธอตัดมันออกมาส่วนหนึ่ง จากนั้นจึงเอาเศษผ้าม่านนั้นมาพันเอาไว้ที่ขาของเธอแน่นเพื่อห้ามเลือดเอาไว้ก่อน

 

“โชคดีนะที่ยังมียาของหมอนั่นเหลืออยู่น่ะ… ห้องเก็บของที่เธอบอกอยู่อีกไกลหรือเปล่า!?”

 

“อยู่แค่ข้างหน้านี้เองค่ะ! ในห้องเก็บของน่าจะมีกล่องเก็บคริสตัลแล้วก็อุปกรณ์ที่พวกพี่ๆ อัศวินเอาไว้ใช้ต่อสู้เก็บไว้อยู่แน่ๆ ค่ะ!”

 

“ถ้างั้นก็รีบไปกันเถอะ!”

 

อลิซพูดตอบกลับมาพร้อมกับยันร่างของตัวเองให้ลุกยืนขึ้น จนทำให้เลือดสีแดงไหลทะลักไปตามน่องขาของเธอ แมรี่ที่เห็นแบบนั้นก็รีบกดไหล่ของเธอเอาไว้ให้เธอกลับลงไปนั่งลงอีกครั้ง

 

“เดี๋ยวหนูเข้าไปหยิบให้เองค่ะ! พี่สาวรอตรงนี้เถอะ!!”

 

“ห—หา—!?”

 

ทันทีที่แมรี่พูดเสร็จ เธอก็ออกวิ่งตรงไปเปิดประตูที่อยู่ใกล้ๆ และพุ่งเข้าไปโดยไม่รอฟังคำตอบของอลิซเลยแม้แต่น้อย

 

“ให้ตายสิ… มองไปทางไหนก็มีแต่พวกทำตามใจตัวเองทั้งนั้น…!”

 

อลิซได้พูดออกมาหลังจากที่ละสายตาไปจากประตูห้องที่แมรี่วิ่งหายเข้าไป และมองไปยังอีกฝั่งที่มีนากากำลังปาดาบของเขาเข้าใส่เวก้าอยู่ ซึ่งใกล้ๆ นั้นก็มีคอนแนลที่กำลังวิ่งคุ้ยหาเศษเหล็กมาส่งให้กับนากา ส่วนทางฝั่งตรงข้ามกับพวกเขาก็มีเวก้าบินโฉบไปมาและยิงกระสุนวิซสีเขียวเข้าใส่พวกนากาเป็นระยะๆ

 

เธอได้แต่ถอนหายใจออกมา ก่อนที่จะหยิบเอาหลอดยาขนาดเล็กๆ ขึ้นมาจากกระเป๋ากระโปรงพร้อมเปิดฝามันออก ก่อนที่เธอจะกลั้นหายใจเล็กน้อยและเทมันใส่เศษผ้าที่เธอใช้พันแผลตรงขาเอาไว้

 

ซึ่งทันใดนั้นเองก็มีความเจ็บปวดแล่นขึ้นมาจากบาดแผลนั้น ก่อนที่มันจะทุเลาลงอย่างรวดเร็วบ่งบอกว่าตัวยานั้นมีประสิทธิภาพอย่างที่อารอนบอกเอาไว้จริงๆ

 

“ฟู่ว…ยาแบบราดเฉยๆ ก็มีไม่ใช่หรอไงเนี่ย…”

 

“พี่สาว!! ในห้องเก็บของมันเหลือแค่คริสตัลแบบนี้อย่างเดียวเลยค่ะ! พวกอาวุธที่หนูเคยเห็นพี่อัศวินใช้มันหายไปไหนหมดแล้วก็ไม่รู้ค่ะ!”

 

หลังจากนั้นเพียงไม่กี่นาทีแมรี่ก็ได้โผล่ออกมาจากห้องเก็บของพร้อมกับคริสตัลก้อนสีม่วงขนาดประมาณหนึ่งฝ่ามือ และได้ตะโกนบอกอลิซพร้อมรีบวิ่งเข้ามาส่งก้อนคริสตัลในมือนั้นให้กับเธอ

 

“ชิ…ยัยเอรินั่นหิ้วไปหมดไม่เหลือเลยหรือไงกัน…”

 

อลิซบ่นออกมาเล็กน้อยก่อนที่จะรับก้อนคริสตัลมาถือเอาไว้ แต่เธอก็ชะงักไปและมองสำรวจมันสักครู่เพราะเธอเห็นว่ามันมีสีประหลาดๆ ไม่เหมือนกับที่เห็นได้ทั่วไป ก่อนที่เธอจะร้องตะโกนออกมาเสียงดัง

 

“เดี๋ยวสิ! นี่มันคริสตัลธาตุไฟฟ้าไม่ใช่หรอไง!?”

 

“เอ๋ะ—พี่สาวใช้มันไม่ได้หรอคะ!?”

 

ตู้ม!! —-โคร๊มมมม!!

 

ทันใดนั้นเองก็เกิดการระเบิดขึ้นก่อนที่จะมีร่างของคอนแนลปลิวลอยมากระแทกห้อยคาอยู่กับกรอบหน้าต่างใกล้ๆ กับพวกเธอ

 

“โอ๊ย… ลืมไปเลยนะครับเนี่ยว่ายิงเป็นระเบิดได้ด้วย…”

 

“คอนแนลเป็นอะไรหรือเปล่า!?”

 

“ย–ยังไหวอยู่ครับ!!”

 

คอนแนลตะโกนตอบนากากลับไป ก่อนที่เขาจะรีบลุกขึ้นยืนและหันมาพบกับแมรี่ซึ่งกำลังมองเขาด้วยสายตาเป็นห่วงและมีท่าทีลังเลว่าจะเข้าไปช่วยพยุงเขาลุกขึ้นยืนดีหรือเปล่า ซึ่งมันก็ทำให้เขารีบพูดออกมาในทันที

 

“ไม่ต้องห่วงนะครับ! เดี๋ยวพวกผมจัดการเรื่องนี้ให้เอง คุณหนูหลบอยู่ตรงนี้อีกเดี๋ยวเดียวก็จบแล้วครับ!”

 

“ด–เดี๋ยวก่อนสิพี่ชาย–”

 

ทันทีที่เขาพูดเสร็จนั้น คอนแนลก็ยื่นมือไปคว้าแท่งเหล็กที่ตกอยู่ใกล้ๆ ก่อนที่เขาจะรีบวิ่งกลับไปหานากาและโยนแท่งเหล็กในมือของเขาไปให้ในทันที

 

นากาที่เห็นแบบนั้นก็ปาดาบในมือของเขาเข้าใส่เวก้าอีกครั้งก่อนที่จะคว้าแท่งเหล็กนั้นกลางอากาศและเปลี่ยนมันให้เป็นดาบเล่มใหม่เพื่อปัดกระสุนสีเขียวของเวก้าที่กระหน่ำยิงสวนลงมาในทันที

 

แมรี่เหม่อมองคอนแนลและนากากำลังพยายามรับมือกับเวก้าอย่างสุดความสามารถ ซึ่งถึงแม้ว่าพวกเขาจะสามารถป้องกันตัวเองได้โดยไม่ลำบากอะไรนัก แต่ว่าพวกเขาก็ไม่มีวิธีที่จะโจมตีใส่เวก้าซึ่งกำลังบินอยู่กลางอากาศเลยนอกจากการขว้างปาสิ่งของขึ้นไป

 

“ตอบรับสักทีสิ…!! ไอคริสตัลหน้าโง่นี่!! พวกเขากำลังจะแย่แล้วนะ!!”

 

เธอได้หันกลับมามองอลิซที่กำลังก่นด่าคริสตัลในมือพร้อมกับทุบมันลงพื้นด้วยสีหน้าราวกับกำลังจะร้องไห้อยู่ เนื่องจากว่าไม่ว่าเธอจะทำอย่างไรมันก็ไม่ตอบสนองกับพลังของเธอเลยแม้แต่น้อย

 

แมรี่ที่เห็นเหล่าคนที่เธอไม่รู้จักกำลังเสี่ยงชีวิตเพื่อที่จะพยายามช่วยเธอจากเวก้าแบบนั้น เธอก็ก้มหน้าลงด้วยความรู้สึกผิด ก่อนที่สายตาของเธอจะสบเข้ากับดวงตาข้างซ้ายของตัวเองซึ่งสะท้อนกลับมาจากเศษกระจกชิ้นใหญ่ที่ตกอยู่บนพื้นเบื้องหน้า เธอจึงได้ยืนจ้องมองมันอยู่สักพักก่อนที่จะสูดหายใจเข้าลึกและหลับตาลง

 

ทันใดนั้นเองเธอก็ได้ลุกขึ้นเดินไปทางอลิซก่อนที่จะจับไหล่ของเธอเอาไว้ ทำให้อลิซหยุดมือที่กำลังทุบคริสตัลนั้นกับพื้นลงและเงยหน้าขึ้นมามองเธอ

 

“เดี๋ยวพี่สาวรีบพาพวกเพื่อนของพี่หนีไปให้ไกลที่สุดเลยนะคะ… เพราะหนูเองก็ไม่รู้ว่าจะควบคุมมันได้หรือเปล่าเหมือนกัน…”

 

แมรี่มองตรงมาที่อลิซและพูดออกมา ก่อนที่เธอจะหยิบก้อนคริสตัลสีม่วงในมือของอลิซขึ้นมาถือเอาไว้

 

“เดี๋ยวสิ! คิดจะทำอะไรของเธอน่–”

 

แต่แล้วอลิซที่สามารถสัมผัสวิซรอบกายได้นั้นก็หยุดพูดลงไปกลางคัน เมื่อเธอสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างที่กำลังปะทุออกมาจากภายในร่างของเด็กสาวตรงหน้า

 

ในระหว่างที่ทางด้านนากาซึ่งกำลังเขวี้ยงอาวุธของตนใส่เวก้าสลับกับเรียกใหม่สลับกันไปอย่างต่อเนื่องนั้นถึงแม้ว่าในช่วงแรกเขาทำให้เวก้าตึงมือได้อยู่บ้าง

 

แต่ว่าเมื่อเวลาผ่านไปสักพักเวก้าก็เริ่มชินกับวิธีการขว้างของเขาทำให้สามารถที่จะหลบหลีกหรือปัดดาบของนากาออกได้โดยไม่ลำบากอะไรมากนัก ในขณะที่รอบๆ ตัวของนากาก็เหลือเศษโลหะให้เขาเปลี่ยนเป็นดาบน้อยลงไปทุกที

 

“การโจมตีแบบนั้นใช้กับผมได้แค่ทีเผลอเท่านั้นแหละครับ!”

 

“นากา แถวนี้ไม่มีเศษเหล็กเหลือแล้วนะครับ!”

 

“หา? …บ้าจริง!”

 

เวก้าที่เห็นรอบกายของพวกเขาแทบไม่เหลือเศษเหล็กอยู่อีกต่อไป ก็ร้องยั่วยุให้นากาปาดาบในมือออกมาอีกครั้ง แต่ว่าคอนแนลได้เอ่ยปากร้องห้ามนากาเอาไว้ซะก่อน เมื่อเขาพบว่ารอบตัวของพวกเขานั้นไม่มีเศษเหล็กขนาดใหญ่พอจะให้นากาเปลี่ยนเป็นดาบเหลืออยู่อีกต่อไปแล้ว

 

ในจังหวะที่เวก้าเห็นนากากำลังเหลือบมองซ้ายขวาพยายามหาเศษเหล็กที่อาจจะยังเหลืออยู่นั้น เขาก็ได้ยิงปืนใหญ่พลังวิซที่ซ่อนอยู่ในเกราะแขนเข้าใส่นากาในทันที

 

“นาการะวัง!”

 

ตู้ม!!

 

คอนแนลที่เห็นแบบนั้นก็ร้องออกมาก่อนที่จะรีบวิ่งเข้ามาขวางหน้าของนากาและยกโล่ในมือขึ้นมาป้องกันให้เขาเอาไว้

 

ซึ่งพวกเขาก็ช่วยกันออกแรงเพื่อต้านแรงระเบิดเบื้องหน้าเอาไว้ได้โดยไม่ล้มลงไป แต่ว่ามันก็ยังทำให้พวกเขาทั้งสองปลิวกระเด็นถอยไปนับสิบเมตรอยู่ดี ก่อนที่ทั้งคู่จะใช้โอกาสนี้รีบวางแผนกันในทันที

 

“ตอนนี้ไม่เหลือเศษเหล็กให้ฉันเรียกดาบออกมาใหม่ แต่ถึงเรียกออกมาก็ปาไปไม่โดนอยู่ดีล่ะนะ… นายมีไอดีอะไรดีๆ มั้ยคอนแนล? แบบว่ามีวิซธาตุที่สองเก็บไว้ใช้เวลาคับขันอะไรแบบนี้น่ะ?”

 

“จริงๆ แล้วผมก็ใช้วิซธาตุอื่นได้อยู่หรอกนะครับแต่ว่าเอาไว้ใช้เสริมเวลาป้องกันซะมากกว่า อย่างระเบิดนั่นถ้ามีเวลาตั้งตัวสักหน่อยก็รับได้สบายๆ เลยล่ะครับ แล้วนายล่ะ ยังไม่เห็นใช้พลังวิซของตัวเองออกมาสู้เลยนิครับ?”

 

นากาที่ได้ยินไปแบบนั้นเขาก็สะอึกออกมาเล็กน้อย ก่อนที่จะรีบผละตัวออกมาตั้งท่าเตรียมต่อสู้อีกครั้งในทันที แต่ว่าทันใดนั้นเองอลิซก็รีบลากขาที่บาดเจ็บของเธออยู่นั้นออกมาร้องเรียกเขาในทันที

 

“นากา!! คอนแนล!! พวกเราต้องออกไปจากที่นี่เดียวนี้!!!”

 

“ยัยบ้า! อย่าเพิ่งออกมาตอนนี้สิ!!”

 

แน่นอนว่าเมื่อนากาเห็นแบบนั้น เขาก็รีบตะโกนออกมาในทันที เมื่อเขาเห็นว่าเวก้านั้นได้หันความสนใจไปทางอลิซก่อนที่ปืนตรงพาร์ทไอพ่นที่เอวของเขาจะเรืองแสงออกมา

 

ปั้งปั้ง!!

 

กระสุนวิซสองนัดถูกยิงออกมาและพุ่งอ้อมเข้าใส่อลิซจากสองทิศทางในทันที ซึ่งเมื่อพวกเขาดูสภาพขาของเธอแล้วก็เป็นไปไม่ได้เลยที่เธอนั้นจะสามารถหลบได้

 

เปรี้ยง!!

 

“!!?”

 

แต่ในชั่วพริบตานั้นเอง ก็ได้มีสายฟ้าเส้นหนึ่งพุ่งออกมาจากริมกำแพงด้านหลังของอลิซและมันก็กระแทกเข้าใส่กระสุนสีเขียวของเวก้าทั้งสองนัดอย่างแม่นยำจนทำให้มันแตกสลายไป

 

คอนแนลเองก็ฉวยจังหวะนั้นรีบวิ่งเข้าไปหาอลิซและอุ้มร่างของเธอขึ้นมา ในขณะที่เวก้านั้นได้มองตรงไปยังจุดที่สายฟ้านั้นพุ่งออกมาด้วยสายตาเบิกกว้าง

 

“คุณอลิซเป็นอะไรหรือเปล่าครับ!?”

 

“ส—สายฟ้าเมื่อกี้มันอะไรกัน—”

 

“เรื่องนั้นช่างมันก่อนเถอะ! ตอนนี้พวกเราต้องรีบออกไปจากที่นี้เดี๋ยวนี้ ไม่งั้นอีกไม่นานยัยนั่นอาจจะ–”

 

เปรี๊ยง!!

 

แต่ยังไม่ทันที่อลิซจะได้พูดจบก็ได้มีสายฟ้าขนาดใหญ่พุ่งออกมาจากทิศทางเดิมตรงเข้าไปยังเวก้าอย่างรวดเร็ว

 

ถึงแม้ว่ามันจะดูช้ากว่าสายฟ้าเมื่อสักครู่อยู่บ้าง แต่ว่ามันก็มีขนาดที่ใหญ่ขึ้นจนแทบที่จะเรียกได้ว่าเป็นลำแสงมากกว่าสายฟ้าซะด้วยซ้ำ เวก้าที่เห็นแบบนั้นก็รีบพุ่งตัวหลบอย่างรวดเร็ว

 

ซู่มมมมมมม!!

 

เวก้าสามารถพุ่งหลบไปทางด้านข้างได้ทัน แต่ว่าเขาก็รู้สึกได้ว่าครึ่งตัวของเขาที่อยู่ฝั่งเดียวกับสายฟ้านั้นกำลังแสบร้อนราวกับว่ามันกำลังลุกไหม้อยู่

 

และเมื่อทุกคนหันไปมองทางที่สายฟ้านั้นพุ่งออกมา พวกเขาก็ได้พบกับแมรี่กำลังเดินออกมาจากซากปรักหักพังของตัวคฤหาสน์

 

โดยที่เธอกำลังกุมใบหน้าซีกซ้ายของเธอเอาไว้ และในมืออีกข้างของเธอก็กำลังชูคริสตัลสีม่วงที่กำลังส่องแสงสว่างจ้าออกมาซะจนราวกับว่ามันคือดวงอาทิตย์อีกดวงหนึ่งชี้ตรงไปทางเวก้า

 

“แฮ่ก…แฮ่ก…น…นัดต่อไป…ไม่พลาดแน่!!”

 

“ส—สายฟ้าเมื่อกี้มันฝีมือของคุณหนูคนนั้นหรอครับ!?”

 

“อึ๊ก–!?”

 

แต่จู่ๆ แมรี่ก็ปล่อยมือออกจากคริสตัลจนมันหล่นลงพื้น ก่อนที่เธอจะเอามือทั้งสองข้างกุมเข้าที่หน้าของเธอและกรีดร้องออกมาด้วยท่าทางเจ็บปวด

 

“ม…ไม่…! หยุดนะ!!”

 

“นี่เธอ!? เป็นอะไรหรือเปล่า!”

 

“พี่ชายอย่าเข้ามา!!”

 

นากาที่เห็นแมรี่กรีดร้องออกมานั้นก็ทำท่าจะเดินเข้าไปหาเธอ แต่ว่าเขากลับถูกแมรี่ร้องห้ามออกมาเสียงดังจนชะงักไป ในขณะที่ทางเวก้านั้นก็กำลังยืนก้มหน้าลงและกำมือแน่นจนสั่นสะท้านไปทั้งตัว

 

“นาการีบถอยออกมาก่อนเร็ว!”

 

“แต่เด็กคนนั้นเขา—”

 

“ถอยออกมาซะ!!”

 

อลิซที่สัมผัสได้ถึงความผิดปกตินั้นก็ตะคอกใส่นากาด้วยสีหน้าจริงจัง ในขณะที่นัยน์ตาข้างซ้ายของแมรี่นั้นก็ได้กลายเป็นสีเหลืองทอง พร้อมกับที่มีละอองแสงสีทองเริ่มลอยฟุ้งไปทั่วบริเวณ ซึ่งมันก็คือประจุไฟฟ้าขนาดเล็กๆ ที่เมื่อมันสัมผัสกับอะไรเข้า มันก็จะปล่อยกระแสไฟฟ้าออกมาเล็กน้อยก่อนที่มันจะสลายหายไป

 

เปรี๊ยะ—เปรี๊ยะ—

 

“—!?”

 

“วิซระดับนี้มันอะไรกันครับเนี่ย!?”

 

ถึงแม้ว่าคอนแนลจะไม่มีสัมผัสพลังวิซแบบพิเศษเหมือนกับอลิซ แต่ว่าเขาก็สามารถรู้สึกถึงพลังวิซจำนวนมหาศาลที่กำลังก่อตัวขึ้นมาในร่างของแมรี่ ซึ่งเวก้าเองก็สามารถสัมผัสมันได้เหมือนกันจึงตั้งสติขึ้นมาได้ และใช้พาร์ทไอพ่นของเขาลอยตัวถอยหลังไป

 

แต่ว่าทางด้านนากานั้น เขากลับสัมผัสถึงอะไรไม่ได้เลยแม้แต่น้อย แต่ว่าเมื่อดูจากสภาพบรรยากายรอบตัวแล้ว เขาก็ตัดสินใจที่จะถอยกลับมารวมกลุ่มกับเพื่อนๆ ของเขาเอาไว้ก่อน

 

“ยัยนั่น— เอาจนได้สินะ…!! คอนแนลตั้งโล่ของนายขึ้นมาเร็ว! แล้วมีอะไรที่จะเสริมการป้องกันได้ก็งัดออกมาให้หมดเดี๋ยวนี้เลย!! นากานายมาหลบอยู่หลังพวกฉันเอาไว้!!”

 

“ค–ครับ!?”

 

“เอ๊ะ อื้ม!”

 

อลิซที่จับตามองดูกระแสพลังวิซรอบตัวอยู่นั้นก็ได้ร้องตะโกนออกมา ก่อนที่เธอจะสั่งคอนแนลให้เสริมการป้องกันด้วยทุกสิ่งที่เขามี และบอกนากาที่ไม่มีความสามารถทางด้านวิซเลยนั้นมาหลบที่ด้านหลังของพวกเธอ

 

นั่นมันเป็นเรื่องจริงหรือสิ่งที่ฉันโดนบอกให้เชื่อกันแน่!!

 

มันใช่ความผิดของหนูหรอที่เกิดมาพร้อมพลังแบบนี้น่ะ!?

 

จำเป็นต้องทำขนาดนั้นเพื่อพลังพรรค์นี้ด้วยหรือไง!?

 

“—!?”

 

แต่ในชั่วพริบตานั่นเอง จู่ๆ นากาที่กำลังหลบอยู่ด้านหลังคอนแนลกับอลิซอยู่ก็ได้เสียงของแมรี่และผู้หญิงที่เขาไม่เคยได้ยินเสียงมาก่อน ดังผสมปนเปกันขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเคียดแค้นราวกับว่าพวกเธอนั้นได้ร้องตะโกนสาปแช่งโชคชะตาของตนจนเสียงแหบแห้ง

 

“น—นี่พวกนายได้ยิน—”

 

ถ้าพวกแกอยากได้นักล่ะก็ งั้นก็เชิญเอาไปเลย!!!

 

กรี๊ดดดดดดดด!!

 

ครื่นนนนนนน—-เปรี๊ยง!!

 

ทันใดนั้นเองก็มีเสียงกรีดร้องของเด็กสาวดังสนั่นขึ้นมากึ่กก้องไปทั่วทั้งท้องฟ้า พร้อมๆ กับที่มีสายฟ้าเส้นใหญ่พอๆ กับหอคอยของวังหลวงพุ่งแหวกเมฆฝนเหนือหัวของพวกเขาจนเผยให้เห็นท้องฟ้าสีครามและปะทะเข้ากับร่างของแมรี่เข้าเต็มๆ

 

ก่อนที่พลังวิซธาตุไฟฟ้าจำนวนมหาศาลไหลจะทะลักออกมาจากร่างกายของเธอกลายเป็นสายฟ้าขนาดใหญ่ที่พุ่งกระจัดกระจายไปทั่วทุกทิศทุกทางอย่างบ้าคลั่งไร้การควบคุม

 

“เหวอ–!? / พี.คิว!! / ฮึ้ย—!?”

 

โคร๊มมมม!!!