ตอนที่ 32 องค์ที่ 2 ผู้กล้า - เจ้าหญิงแวมไพร์, ภาชนะ และการเลื่อนขั้นโดยบังเอิญ

[WN] การกวาดล้างมนุษยชาติของเจ้าหญิงแวมไพร์กับอดีตผู้กล้า

มีอาวุธเต็มไปหมดเลย มีทั้งคทา ดาบ ขวดยา หนังสือ ม้วนคัมภีร์ เสื้อผ้า เครื่องดื่ม…

ที่นี่รกมากอย่างไม่น่าเชื่อเลยนะเนี่ย

 

“เอิม ท่านจอมมารคะ ที่นี่คือ?”

“หืม? ออ เรายังไม่ได้บอกสินะ ที่นี่คือหนึ่งในโกดังของกองทัพจอมมารที่เก็บรักษาอุปกรณ์พิเศษไว้บางส่วน”

“อุปกรณ์พิเศษ?”

“ถูกต้อง บางคนได้เรียกพวกมันเหล่านี้ว่าเมจิกไอเท็ม”

 

เมจิกไอเท็ม

อุปกรณ์เวทมนตร์ที่แสนคุ้นเคย จากองค์ความรู้ของโอตาคุญี่ปุ่นสมัยใหม่อย่างฉันแล้ว มันก็คือเครื่องมือที่มีพลังเวทกักเก็บอยู่ และเมื่อทำการปลดปล่อยมัน ก็จะเกิดปรากฏการณ์เวทมนตร์ขึ้นได้

 

“แต่ พวกอุปกรณ์ที่อยู่ที่นี่ก็ไม่ใช่เมจิกไอเท็มจริงๆ หรอกนะ”

“อ้าว?”

“ลีน เจ้าเคยได้ยินไหม? เรื่องเกี่ยวกับ [สมบัติศักดิ์สิทธิ์]”

 

โอ๋~ มาอีกแล้วค่ากับคำที่น่าสนใจ

สมบัติศักดิ์สิทธิ์ ซีรีส์อาวุธที่ทรงพลังที่สุดจากทรงประสิทธิภาพระดับเทพ

ว่ากันว่าพวกมันถูกสร้างขึ้นจากเทพเองหรือจากช่างตีอาวุธชั้นเทพ และเปลี่ยนลักษณะไปในแต่ละชิ้นๆ แต่ในงานส่วนใหญ่นั้น ก็นับเป็นไพ่ใบสำคัญในการต่อสู้ได้ทั้งนั้น

 

“อืม แค่เคยได้ยินน่ะค่ะ…”

“แบบนี้เอง กษัตริย์ในอดีตกาลคนหนึ่ง ในยามที่เผ่ามนุษย์และเผ่ามารยังไม่ได้ก่อสงครามกัน ทุกฝ่ายยังอยู่บนเส้นทางของการอยู่ร่วมกันและแลกเปลี่ยนความเจริญกันอย่างสงบสุข กษัตริย์ในอดีตองค์นั้นได้รวบรวมเหล่าช่วงตีเหล็ก เภสัชกร และนักวิชาการจากทั่วอาณาจักร ก่อนจะให้พวกเขาสร้างอุปกรณ์ขึ้นมา 99 ชิ้น เพื่อเป็นหลักประกันช่วยคุ้มภัยแก่อาณาจักร”

“อุปกรณ์พวกนั้นคือสมบัติศักดิ์สิทธิ์จากยุคโบราณเหรอคะ?”

“ถูกต้องแล้ว อาณาจักรแห่งนั้นได้รับผลประโยชน์จากสมบัติศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้มาเป็นอันมาก อีกทั้งยังเจริญรุ่งเรืองและกลายเป็นประเทศในอุดมคติที่ทั้งมนุษย์และมารอยู่ร่วมกันได้… อย่างไรก็ตาม เพียงผ่านมา 300 ปีเท่านั้น อาณาจักรนั้นก็ได้ล่มสลายลงด้วยน้ำมือของชายเพียงคนเดียว หัวหน้ากองกำลังรักษาพระองค์ของอาณาจักร ณ ตอนนั้น และยังเป็นชายเพียงคนเดียวที่สามารถถือครองสมบัติศักดิ์สิทธิ์ได้มากกว่า 1 ชิ้นได้อีกด้วย”

 

… โห เป็นเรื่องราวที่น่าตกใจไปเลยนะเนี่ย

ผู้ชายคนเดียวทำลายทั้งประเทศได้เลยเหรอ นั่นมันมังงะหรือไง?

แต่ถ้าเป็นในชาติก่อนของฉัน นี่ก็ถือเป็นพัฒนาการที่ดีนะ

บางทีชายคนนั้นอาจจะทำลายอาณาจักรเพื่อปกป้องผู้คนที่ทรมานจากการกดขี่ของชาติหรืออะไรแบบนั้นก็ได้

 

“อีกทั้งยังมีข่าวว่าเขาเป็นชายคนแรกที่ถูกล้างสมองและถูกสั่งสอนโดยเทพธิดามิซารี่อีกด้วย และอาณาจักรที่ได้ก่อตั้งขึ้นใหม่ก็คืออาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ เมอร์คิวเรียสนั่นเอง อนึ่ง มีการเล่าขานกันว่าอาณาจักรอันรุ่งเรืองที่ถูกทำลายไปนั่นมีการปกครองอันดีอีกด้วย”

 

ขอถอนคำพูดทั้งหมดนั่นเลย นี่มันข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ที่น่าหัวเราะที่สุดเลย ขนาดที่แค่ฉันได้ยินก็ปวดท้องแล้ว

 

“ฉะนั้น กลับมาที่จุดเริ่มต้นกัน”

 

…เราพูดเรื่องอะไรค้างกันไว้หว่า

อ้อ เมจิกไอเท็มที่อยู่ที่นี่คือเมจิกไอเท็มที่ไม่ใช่เมจิกไอเท็มซะทีเดียวงั้นเหรอ… พวกเมจิกไอเท็มทั้งหมดที่รวมกันจนจะถล่มนี่

 

“ไม่ใช่เมจิกไอเท็ม… อย่าบอกนะคะว่า… ทั้งหมดนี่… สมบัติศักดิ์สิทธิ์!”

“ไม่ใช่หรอก”

 

อ่าว?

 

“จริงอยู่ที่ว่ากองทัพของเราถือครองสมบัติศักดิ์สิทธิ์อยู่บางชิ้นจริงๆ แต่พวกมันไม่ได้อยู่ที่นี่หรอก ที่เจ้าเห็นอยู่ที่นี่เป็นเพียงของเลียนแบบที่สร้างขึ้นโดยมีสมบัติศักดิ์สิทธิ์เป็นต้นแบบเท่านั้น… หากจะบรรยายแล้วล่ะก็ พวกมันคือสมบัติศักดิ์สิทธิ์รุ่นที่ด้อยกว่า ประสิทธิภาพของพวกมันใกล้เคียงกับสมบัติศักดิ์สิทธิ์ของจริง แต่แข็งแกร่งไม่เท่า พวกมันถูกเรียกว่า [ภาชนะ]”

“แสดงว่า พวกนี้ก็คือสมบัติศักดิ์สิทธิ์ก็อปปี้เกรด B งั้นเหรอคะ? หมายความว่าประสิทธิภาพของมันก็ไม่ค่อยดีน่ะสิ?”

“ไม่หรอก พวกมันเป็นอุปกรณ์ที่ทรงพลังใช้ได้เลย เพียงแค่มีพลังไม่แข็งแกร่งเทียบเท่ากับสมบัติศักดิ์สิทธิ์ก็เท่านั้น พวกมันคืออุปกรณ์ที่เป็นดั่งสมบัติศักดิ์สิทธิ์รุ่นที่ด้อยกว่า และยังแข็งแกร่งเกินขอบเขตของเมจิกไอเท็มอีกด้วย… เจ้าจะสามารถเรียกพวกมันว่าเมจิกไอเท็มได้หรือเปล่า?”

 

อ้อ เข้าใจแล้วค่ะ ฉันเห็นด้วย

 

“…ว่าแต่ แล้วใครเป็นคนสร้างของพวกนี้เหรอคะ? มีเต็มไปหมดเลย”

“้เมื่อครั้งที่เหล่าคนแคระถูกไล่ล่าจากพวกมนุษย์และมาขอความช่วยเหลือจากกองทัพจอมมาร เราขอให้พวกคนแคระช่วยสร้างสมบัติศักดิ์สิทธิ์เลียนแบบขึ้นมา แลกกับการมอบที่ซ่อนตัวแก่พวกเขา ตั้งแต่บัดนั้น เหล่าคนแคระก็มีแรงบันดาลใจอันยิ่งใหญ่ที่จะสร้างสรรอุปกรณ์ที่เข้าใกล้ระดับของสมบัติศักดิ์สิทธิ์ให้ได้นั่นเอง”

 

คนแคระคือเผ่าพันธุ์ที่นำโดย ‘แม่ทัพแห่งการสร้างสรร’ กาเลออน ไมน์ ผู้บริหารลำดับที่ 10 สินะ

ก็จริง ขนาดในชาติที่แล้วของฉัน ภาพจำที่ว่าคนแคระเป็นเผ่าพันธุ์ที่เก่งกาจในด้านการตีเหล็กยังชัดเจนอยู่เลย

 

“เอาล่ะๆ พวกเราออกนอกเรื่องไปไกลเชียว… เราพาเจ้ามาที่นี่เพื่อมอบรางวัลให้นี่แล”

 

อ้อ จริงด้วยสินะ ลืมไปซะสนิทเลย

 

“เจ้าเลือกภาชนะไปได้ 1 ชิ้นจากทั้งหมดนี่”

 

…อะไรนะ?

 

“…เอิม? หนึ่งในนี้เหรอคะ? อุปกรณ์ที่แข็งแกร่งถึงขนาดที่เรียกอีกอย่างได้ว่าสมบัติศักดิ์สิทธิ์รุ่นที่ด้อยกว่าเนี่ยเหรอคะ?”

“อือฮึ”

“…ฉันแค่ฆ่าพวกนักโทษเองไม่ใช่เหรอคะ?”

“มันเป็นงานที่ง่ายเพราะเจ้าเคียดแค้นมนุษย์เท่านั่นแล จริงๆ มันเป็นงานที่ค่อนข้างเป็นที่เกี่ยงกันเลยนะ ไม่ค่อยมีใครอยากรับไปทำเท่าไรนัก และที่สำคัญ ไม่ใช่ว่าทุกๆ คนจะถูกคุกคามจากพวกมนุษย์มาโดยตรง ฉะนั้น จึงเป็นการยากที่จะหาคนที่จะมาทพการสังหารมนุษย์นับพันคนได้”

“…แต่ ถึงยังงั้นก็เถอะค่ะ จะให้ของสุดยอดขนาดนี้มัน…”

“รับเอาไว้เถิด มันเป็นรางวัลที่คู่ควรกับงานที่เจ้าทำนะ”

“…จริงๆ เหรอค่ะ?”

“จริงสิ อีกเรื่องหนึ่ง เราตัดสินใจเลื่อนให้เจ้าขึ้นเป็นบุคลากรระดับกลางขั้นที่ 2 ด้วย นั่นหมายความว่าเจ้าจะต้องย้ายออกจากหอพักเดิมนะ”

 

ลำดับขั้นในกองทัพจอมมารนั้นค่อนข้างตรงไปตรงมา

ความแข็งแกร่ง, ความฉลาด, ความเป็นผู้นำ และปัจจัยอื่นๆ จะถูกนำมาพิจารณา ก่อนจะนำมาตัดสินเป็น 9 ระดับ

ลำดับขั้นที่ต่ำที่สุดคือระดับต่ำขั้นที่ 3 จากนั้นก็ขึ้นมาเป็นระดับต่ำขั้นที่ 2 และระดับต่ำขั้นที่ 1 แล้วก็มาเป็นระดับกลางขั้นที่ 3 ต่อมาคือระดับกลางขั้นที่ 2 และสูงสุดก็คือระดับสูงขั้นที่ 1

ในทางเทคนิคแล้ว ในระดับที่สูงกว่านั้นก็จะมีพวกว่าที่ผู้บริหารและผู้บริหารด้วย แต่เอาจริงๆ ผู้บริหารนั้น ในแต่ละเผ่าพันธุ์นั่นจะมีเพียง 1 คนเท่านั้น ดังนั้น ลำดับขั้นที่สูงที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ก็มักจะอยู่ที่ว่าที่ผู้บริหารนั่นเอง

ยังไงก็ตาม ดูเหมือนเรื่องพวกนี้ส่วนใหญ่คุณวีเนลก็เป็นคนจัดการนั่นแหละ

 

…แล้ว ที่ฉันจู่ๆ ก็เลื่อนจากระดับต่ำขั้นที่ 3 มาเป็นระดับกลางขั้นที่ 2 นี่มัน

 

“หากพูดถึงแต่ทักษะการต่อสู้ของเธอแล้วล่ะก็ เธอสามารถเลื่อนขั้นไปถึงระดับสูงได้เลยหากนับรวมการอวยพรจากดวงจันทร์ไปด้วย แต่เธอยังเด็กมาก และพวกเรายังไม่เห็นความสามารถในการเป็นผู้นำในตัวเธอเลย เพราะงั้น ฉันจะเลื่อนให้เธอเป็นระดับกลางขั้นที่ 2 ไว้ก่อน… นี่คือสิ่งที่วีเนลพูดน่ะ”

 

ขอบคุณสำหรับความเหนื่อยยากนะคะ คุณวีเนล

ได้โปรดอย่าทำงานหนักเกินจนล้มพับไปนะคะ ขอร้องจริงๆ

 

“แล้ว เจ้าจะทำเช่นไรกับภาชนะกัน?”

“เอ๋! จบเรื่องการเลื่อนขั้นของฉันแล้วเหรอคะ!?”

“เราบอกเจ้าตั้งแต่แรกแล้วใช่ไหม? เมื่อเจ้าเติบโตขึ้น เจ้าจะได้สามารถขึ้นถึวระดับผู้บริหารได้เป็นแน่ หากเจ้าตื่นเต้นจากการเพียงแค่ได้เลื่อนขั้นเป็นระดับกลางขั้นที่ 2 แล้วล่ะก็ เจ้าจะทำให้พวกเราต้องประสบปัญหาใหญ่เชียวล่ะ”

 

…ก็จริงนั่นแหละค่ะ

 

“ส่วนเรื่องภาชนะนี่ หากเจ้าไม่ต้องการเลือกชิ้นไหนเลย เจ้าจะไม่เอาก็ได้นะ”

“อา…เข้าใจแล้วค่ะ”

 

ค- คือ ถ้าฉันมีอาวุธดีๆ แล้วล่ะก็ มันก็ช่วยให้ฉันสามารถล้างแค้นเจ้าพวกมนุษย์ได้เร็วขึ้นใช่มั้ยล่ะ

ฉันไม่ได้ถูกดึงดูดจากอาวุธที่ดูดีแบบนี้หรอกนะ ใช่สิ ฉันไม่ได้โดนล่อลวงซะหน่อย

 

“ยานี้ทำอะไรได้เหรอคะ?”

“เมื่อกินแล้วจะสามารถยิงลำแสงออกจากตาได้ แต่หากกินยามากเกินไป มันจะแผดเผาลูกตาเอาได้”

 

“หอกนี่ล่ะคะ?”

“มันสามารถส่งคลื่นกระแทกออกไปในทิศที่หอกพุ่งไปได้ แต่พลังของมันค่อนข้างเบาบาง และมันก็ใช้ได้แค่ในระยะใกล้มากเท่านั้น”

 

“…ม้วนคัมภีร์นี้ล่ะคะ?”

“เมื่อกางออกเพื่อใช้งานแล้ว จะเพิ่มความสามารถของเวทไฟได้หลายเท่าตัว เพียงแต่ระหว่างที่ใช้งานนั้น จะไม่สามารถใช้เวทมนตร์ธาตุอื่นได้”

 

“…ลูกบอลนี่…”

“มันจะสร้างการระเบิดอย่างรุนแรงเมื่อปาออกไป ไม่ต้องใช้พลังเวทเลยแม้แต่นิดเดียว และไม่ทำอันตรายกับใครก็ตามที่ผู้ใช้เห็นเป็นพรรคพวกเลย”

“เยี่ยมเลยนี่ค่ะ”

“แต่มันเป็นของที่ใช้แล้วทิ้ง อักทั้งยังมีเพียงอันเดียวที่ทำสำเร็จด้วย”

“……”

 

…ไม่ ไม่ ไม่ คือมันก็ดีนะ

จริงๆ ของหลายอย่างในนี้ก็มีประสิทธิภาพที่ดีนั่นแหละ

 

แต่การประยุกต์ใช้งานมันค่อนข้างจะทำได้ยากน่ะนะ

 

ฉันจะทำไงดีล่ะเนี่ย? มีแต่ของที่แปลกๆ ทั้งนั้นเลย

ของบางชิ้นก็ดูดี ของบางชิ้นก็ใช้ได้แบบเฉพาะเผ่าพันธุ์ แต่พวกมันมีแต่ของแปลกๆ ทั้งนั้นเลย

 

“อ่า เหลือแค่ตู้ชั้นนี้แล้วสินะ…”

 

ถ้าตู้ชั้นนี้ไม่มีของดีล่ะก็ ฉันจะเอาลูกบอลลูกนั้นก็แล้วกัน เจ้าบอลระเบิดน่ะ

ก็ยังเอาไว้เป็นไพ่ตายเวลาอยู่ในวิกฤติได้อยู่

 

“…อือ? นี่มัน…”

 

ใจฉันที่ค่อนข้างเอนเอียงไปทางเจ้าบอลระเบิด ก็ถูกดึงดูดไปหาของชิ้นอื่นแทน

 

“ท่านจอมมาร นี่คืออะไรเหรอคะ?”

“หืม นั่นน่ะเหรอ? มันคือ―――”

 

พอฉันได้ฟังประสิทธิภาพของมันแล้ว ฉันก็

 

“…ตัดสินใจแล้ว ฉันเลือกชิ้นนี้ค่ะ”

“…ดีแล้วฤๆ? ชิ้นนั้นค่อนข้างจะระดับต่ำอยู่นะ”

“ค่ะ มันก็อาจจะใช่ แต่ถ้าฉันเป็นคนใช้ล่ะก็ ฉันคิดว่ามันจะมีประโยชน์ยิ่งกว่าชิ้นไหนๆ เลยค่ะ”

“หมายความว่า- …หืม? …อ้อ นั่นคือสิ่งที่เจ้าหมายถึงสินะ! เราเข้าใจแล้ว… เป็นไปได้มากเลยทีเดียวกับวิธีที่เจ้ากำลังคิดจะเอาไปใช้งานนั่นน่ะ แน่นอน ต้องทดลองก่อนนำไปใช้จริงด้วยล่ะ”

 

ท่านจอมมารก็นึกวิธีนี้ได้เหมือนกันสินะ

ถ้าเอาไปใช้งานจริงได้ล่ะก็ มันอาจจะอุดช่องโหว่อันนึงของฉันก็ได้นะเนี่ย

ฉันเข้าใกล้การล้างแค้นพวกมันไปอีกก้าวนึงแล้ว

 

แหม ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะได้ของสุดยอดแบบนี้มาด้วยนะ

ไม่แน่ มันอาจจะเป็นไพ่ตายสำหรับการเผชิญหน้ากับผู้กล้าก็ได้

ฉันต้องขัดเกลามันในการเตรียมตัวกับการต่อสู้กับพวกผู้กล้าที่กำลังจะมาถึงนี่แหละ