ซูมู่เกอเหลือบมองเหนือไหล่ของนางและเมื่อตอนนางขับรถม้าออกมา

นางสังเกตเห็นตั้งแต่เมื่อคืนแล้วว่าคนที่ซ่อนตัวอยู่ในป่าคอยจับตาดูการเคลื่อนไหวของพวกเขา นางจึงแทบไม่ได้นอน

คนที่อยู่ในป่าไม่ปรากฏตัวจนกระทั่งหญิงชราและหลานชายของนางปรากฏตัว ซึ่งหมายความว่าเป้าหมายของมันคือสองคนนั้น

หญิงชราและหลานชายของนางถูกสะกดรอยตาม แล้วพวกเขาเป็นเพียงคนธรรมดา ไม่ต้องสงสัยเลยว่าซูมู่เกอต้องให้ความสำคัญกับบุคคลที่น่าสงสัยที่ปรากฎตัวในเขตโจวในเวลานี้

ถ้านางไม่พาทั้งสองคนไปด้วย พวกเขาอาจถูกชายคนนั้นฆ่าไปแล้วตั้งแต่เมื่อคืนนี้

ในที่สุดพวกเขาทั้งสามก็มาถึงเมืองโจวก่อนที่จะมืด

ตามที่หญิงชรากล่าวไว้ ร้านค้าต่างๆ ปิดหมดและมีคนไม่กี่คนบนถนน

และบรรดาผู้ที่อยู่บนถนนกำลังแบกสัมภาระของพวกเขาด้วยความรีบร้อนเพื่อหนีออกจากเขตโจว

ซูมู่เกอพาหญิงชราและหลานชายของนางไปที่หย่าเหมินแห่งเมืองโจว

ข้างนอกไม่มีแม้แต่คนเฝ้าประตู ซูมู่เกอเดินตรงเข้าไปกับหญิงชราและหลานชายของนาง

มันว่างเปล่าไร้ผู้คนอยู่ในนั้น จนกระทั่งพวกเขาเข้าไปในลานโล่งด้านหลังที่ว่าการหย่าเหมิน พวกเขาเห็นชายวัยกลางคนในชุดคลุมสีเทา ยืนอยู่ที่นั่น

ซูมู่เกอเอื้อมมือไปแตะเคราบนใบหน้าของนาง นางเคยคิดที่จะเปลี่ยนตัวเองเป็นรูปลักษณ์ของซูหลุนมานานแล้วก่อนที่นางจะมาที่นี่ แม้ว่านางจะดูไม่เหมือนกับซูหลุน แต่คนที่ไม่คุ้นเคยกับเขาก็ไม่สามารถบอกความแตกต่างได้

บางทีอาจเป็นเพราะได้ยินเสียงฝีเท้าของพวกเขา ชายวัยกลางคนก็หันหน้ากลับมามอง

“ข้าได้บอกพวกเจ้าไปแล้วว่าอาหารที่ช่วยน้ำท่วมจากราชสำนักยังมาไม่ถึง ข้าไม่สามารถทำอะไรได้แม้ว่าเจ้าจะมาที่นี่ทุกวันแบบนี้ ครอบครัวของข้าก็เกือบจะขาดแคลนอาหารเช่นกัน”

ซูมู่เกอขมวดคิ้วเมื่อได้ยินคำนั้น

“นายท่าน ท่านเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองของเมืองโจวรึ?”

ชายวัยกลางคนมองไปที่ซูมู่เกออย่างสงสัย “เจ้าไม่ได้มาที่นี่เพื่อขอรับอาหาร? เจ้าเป็นใครและมาที่นี่เพื่ออะไร?”

“ท่านรู้จักผู้นำเมืองชุนหยางหรือไม่?”

ชายวัยกลางคนจ้องมองซูมู่เกอด้วยความประหลาดใจ เขาตบที่ต้นขาของเขาทันที “ท่านคือใต้เท้าซู!? พระเจ้าช่วย ใต้เท้าซู ในที่สุดท่านก็มา”

“ใต้เท้า ใต้เท้าซู? ท่านคือใต้เท้าซูแห่งเมืองชุนหยาง?” หญิงชรามองไปที่ซูมู่เกอด้วยความประหลาดใจ

ซูมู่เกอเลิกคิ้วและไม่ตอบ “ท่านคือ….”

ชายวัยกลางคนพูดต่อ “ข้าเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวของเมืองโจว เนื่องจากผู้พิพากษาเมืองถูกน้ำท่วมพัดหายไป ข้าดูแลเรื่องในเขตเมืองโจวแทน”

“คนอื่นๆ ในหย่าเหมินอยู่ที่ไหน? พวกเขาหายไปไหน?”

ใบหน้าของที่ปรึกษาหลี่แข็งกระด้างด้วยความเศร้าโศก ทุกคนในเขตหย่าเหมินที่สามารถหนีไปได้ได้จากไปนานแล้ว เมื่อซูหลุนหายตัวไปไม่มีใครยอมอยู่ที่นี่เพื่อสะสางความวุ่นวาย

“ใต้เท้าซู มันเป็นเรื่องดีมากที่มีท่านอยู่ที่นี่ ตอนนี้สิ่งต่างๆในเมืองนี้กำลังยุ่งเหยิง ท่านมาที่นี่ทันเวลาพอดี”

ที่ปรึกษาหลี่พาพวกเขาไปสู่การรับรู้เรื่องราว และซูมู่เกอขอให้เขาจัดการหาที่พักให้หญิงชราและหลานชายของนางที่ไหนสักแห่งหนึ่ง

ที่ปรึกษาหลี่หยิบหนังสือเล่มเล็กเล่มหนาออกมา ซึ่งบันทึกข้อมูลหมู่บ้านและนาข้าวไว้อย่างคร่าวๆที่ถูกน้ำท่วมในเขตเมืองโจว ณ วันนี้

ซูมู่เกอวางหนังสือเล่มเล็กไว้และไม่ได้สนใจมองมัน

“ตอนนี้ผู้ประสบภัยน้ำท่วมอยู่ที่ไหน?”

“ผู้คนส่วนใหญ่หลบหนีมาได้ รวมตัวกันตั้งอยู่ในวัดร้างในเมือง”

ซูมู่เกอพยักหน้าพร้อมกับยืนยัน ตอนนี้เขตเมืองโจวได้รับผลกระทบอย่างหนักจากน้ำท่วม สิ่งสำคัญที่สุดคือการจัดการกับคนที่หลบหนี

ซูมู่เกอและที่ปรึกษาหลี่อยู่ในห้องศึกษาจนกระทั่งมืดค่ำ ในที่สุดพวกเขาก็แยกแยะเบาะแสในการจัดการกับความยุงเหยิงได้

“ใต้เท้าซู เราจะทำอะไรต่อไป?”

“ช่วยชีวิตผู้คน”

“ช่วย ช่วยชีวิตผู้คน?” ที่ปรึกษาหลี่มองไปที่ซูมู่เกอด้วยความประหลาดใจ ในช่วงวิกฤตนี้ เขาอยู่ในอารมณ์ของการช่วยชีวิตคน? ที่นี่ไม่มีทางออกเมื่อน้ำท่วมมาถึงแม้จะไม่ได้รับความช่วยเหลือจากนางฟ้าก็ตาม การคิดวิธีซ่อนปัจจัยจากหน่วยงานที่สูงกว่านั้นสำคัญกว่าหรือไม่? มิฉะนั้น หากมีการกล่าวหาพวกเขา พวกเขาอาจจะตายได้ นับประสาอะไรกับการตกงาน!

ซูมู่เกอเงยหน้าขึ้นมองที่ปรึกษาหลี่ด้วยความสงบ “ถูกตัอง! ท่านส่งคนไปเตรียมเรือไว้สำหรับวันพรุ่งนี้ พาคนที่คุ้นเคยกับน้ำมาด้วย และใช้มาตรการด้านความปลอดภัย หลังจากนั้นไปที่แต่ละหมู่บ้านและค้นหาผู้คนที่ต้องได้รับการช่วยเหลือ”

“ขอรับ”

ซูมู่เกอจัดแจงสิ่งของต่างๆอย่างเป็นระบบระเบียบ มันมืดแล้วเมื่อนางทำงานทั้งหมดเสร็จ

ซูมู่เกอได้ข้อยุติโดยที่ปรึกษาหลี่ในสวนหลังบ้านของหย่าเหมิน

นอกจากที่ปรึกษาหลี่ คนเดียวที่เหลืออยู่ในหย่าเหมินคือชายชราผู้รับผิดชอบการทำความสะอาด ส่วนหญิงชราที่ซูมู่เกอได้ช่วยชีวิตไว้นั้น นางเริ่มทำอาหารให้พวกเขาโดยสมัครใจ

ซูมู่เกอไม่รับของหวาน หลังจากทานอาหารและล้างตัวเสร็จเรียบร้อย นางเริ่มอ่านแผนที่ภูมิประเทศของเมือง

เมืองชุนหยางตั้งอยู่ทางใต้และเมืองโจวอยู่ใต้ลงไปอีก กล่าวคือ ปริมาณน้ำฝนรายปีมีเป็นจำนวนมากและเขื่อนและการระบายน้ำควรจะดี

สิ่งนี้สามารถพิสูจน์ได้โดยการอ่านข้อมูลของปีก่อนหน้าในเมืองโจว มีการกล่าวกันว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเขื่อนในเขตเมืองโจวเมื่อฝนตกลงมาเกือบหนึ่งเดือนเมื่อสามปีก่อน แต่ครั้งนี้ทำนบเขื่อนถูกน้ำพัดหายไปโดยฝนตกหนักไม่ถึงครึ่งเดือน

ทุกปีจะมีการตรวจสอบและซ่อมแซมอย่างเข้มงวดในเขตโจว การตรวจสอบและซ่อมแซมในปีนี้มีขึ้นเพียงหนึ่งเดือนก่อนที่เขื่อนจะพังลง ทำไมเขื่อนแตกหลังจากการตรวจสอบเมื่อเดือนที่แล้ว? สิ่งนี้อาจค่อนข้างน่าสงสัย

…………………..

ภายในคฤหาสน์หวังของค่ายหยานเซี่ย

ตงหลินที่เหงื่อออกอย่างหนักกึ่งคุกเข่าอยู่บนพื้น เมื่อสักครู่ที่ผ่านมา พวกเขาได้รับข้อมูลจากหน่วยสอดแนมว่าสายลับของกองกำลังตะวันตกได้ขโมยแผนผังการป้องกันการตั้งรับและหลบหนีไปยังเขตโจว!

หากแผนผังการป้องกันตกอยู่ในมือของพวกตะวันตกผลที่ตามมาไม่อาจคาดเดาได้!

“ฝ่าบาท หม่อมฉันขออาสาไปจับสายลับพวกนั้นในเขตโจวพะย่ะค่ะ!

เซี่ยโฮวโม่นั่งอยู่บนเก้าอี้โดยหลับตาลงครึ่งหนึ่ง ไม่มีใครรู้ว่ามีอะไรอยู่ในใจของเขา

“ดูเหมือนว่ามันเป็นความผิดของข้าที่ทำตัวหย่อนยานและปล่อยให้พวกตะวันตกฉวยโอกาสถึงสองครั้ง!”

“ฝ่าบาท มันเป็นความผิดของหม่อมฉันที่ดูแลไม่ดีพะย่ะค่ะ!

“เจ้าอยู่ที่นี่และแก้ปัญหาทั้งหมดที่นี่ให้หมด แล้วข้าจะไปที่เขตโจวด้วยตัวข้าเอง”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ตงหลินก็เงยหน้าขึ้นด้วยความประหลาดใจ สายลับเหล่านั้นสร้างปัญหาและน่ารำคาญก็จริงแต่ไม่จำเป็นที่กษัตริย์แห่งจินต้องลงมือไปจับพวกเขาเอง

“ฝ่าบาท พระองค์ทรงมีรับสั่งอื่นหรือไม่พะย่ะค่ะ?”

จดหมายลับถูกโยนลงบนโต๊ะโดยเซี่ยโฮวโม่

ตงหลินหยิบมันขึ้นมาอ่านด้วยความตกใจในดวงตาของเขา “ข้ารู้ว่าเขตโจวถูกน้ำท่วม แต่เนื่องจากจักรพรรดิรู้ว่าเจ้ากำลังต่อสู้กับพวกตะวันตก ทำไมเขาถึงขอให้เจ้าไปที่เขตโจวเพื่อจัดการกับปัญหาน้ำท่วม?”

มันเป็นที่รู้กันดีทุกคนว่ากษัตริย์แห่งจินเป็นผู้นำกองกำลังตลอดหลายปีที่ผ่านมาและแทบจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเมืองภายในราชสำนัก น้ำท่วมไม่ควรเป็นความรับผิดชอบของฝ่าบาท ดูเหมือนจะเป็นเรื่องทันทีทันใดและไร้สาระที่จะขอให้พระองค์จัดการกับน้ำท่วม!

แสงในดวงตาของเซี่ยโฮวโม่กระพริบ “อะไร? เจ้าต้องการปฏิบัติตามคำสั่งของจักรพรรดิ?”

ตงหลินอยากจะหัวเราะและร้องไห้พร้อมกัน “ข้าน้อยกำลังจะไปเตรียมตัวสำหรับมันเดี๋ยวนี้พะย่ะค่ะ”

“หยุดกองทหารและวันนี้รอก่อน”

“พะย่ะค่ะ”

…………………..

ในวันที่สองที่ซูมู่เกอมาถึงเมืองโจว ฝนเริ่มไหลรินอีกครั้ง

ซูมู่เกอสวมเสื้อฟางกันฝนและเตรียมพร้อมที่จะไปยังสถานที่ที่ผู้ประสบภัยจากน้ำท่วม

ด้วยสภาพอากาศที่ร้อนชื้น จึงง่ายต่อการติดเชื้อจากไวรัส

ที่ปรึกษาหลี่วิ่งมาพร้อมกับเสื้อคลุมฟางกันฝนบนไหล่ของเขา “รถม้าพร้อมแล้วขอรับ”

ซูมู่เกอพยักหน้าและเดินออกไปพร้อมกับกล่องยาที่นางนำมาด้วย

ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนหนีได้ถูกให้รวมตัวกันพักอยู่ในวัดซอมซ่อในเมืองซึ่งยังสามารถรองรับผู้คนได้อีก

ถือกล่องยาไว้ในมือ ซูมู่เกอเข้าไปในวัดแห่งนั้น ผู้ประสบภัยที่กำลังนั่งอยู่บนพื้นเห็นซูมู่เกอมาและทุกคนก็มองไปที่นาง

ที่ปรึกษาหลี่เดินขึ้นมาและบอกทุกคนว่า “ทุกท่านนี่คือใต้เท้าซูแห่งเมืองชุนหยาง”

“ใต้เท้าซู ใต้เท้าซู โปรดช่วยเราด้วย! หมู่บ้านของเราถูกน้ำท่วมและไม่มีอะไรเหลือ….”

“ใช่ ใต้เท้าซู ได้โปรดช่วยเราด้วย….”

ผู้ประสบภัยแต่ละคนกำลังโห่ร้องขอความช่วยเหลือจากซูมู่เกอด้วยความตื่นเต้นในสายตาของพวกเขา

“ใต้เท้าซู โปรดช่วยหลานของข้าน้อยด้วย เขากำลังจะตาย!” ทันใดนั้นหญิงชราผมสีขาวก็รีบวิ่งออกมาคว้าชุดของซูมู่เกอแล้วร้องด้วยเสียงแหบแห้ง

“ทุกท่าน โปรดลุกขึ้นเถิด ราชสำนักจะไม่ทิ้งพวกท่านไว้ข้างหลัง”

ซูมู่เกอมองไปข้างหลังของหญิงชราและเห็นเด็กชายอายุราวสองหรือสามขวบนอนอยู่ที่พื้น

“ท่านแม่เฒ่าไม่ต้องกังวล ข้าจะช่วยเขาเอง”

นางเดินไปหาเด็กชายสะพายกล่องยาไว้ที่หลังและนั่งลง นางเอื้อมมือไปแตะที่หน้าผากของเด็กชายและพบว่ามันร้อนจนน่ากลัว

จากนั้นนางก็ตรวจดูปากและตาของเด็ก “หลานชายของท่านมีไข้และต้องรีบรักษโดยด่วน”

ข้าสูงอาจเป็นอันตรายต่อเด็กได้ ไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุใดขั้นตอนแรกของการรักษาคือการทำให้ร่างกายของผู้ป่วยเย็นลง

“ที่ปรึกษาหลี่ไปหาห้องที่อากาศถ่ายเทและพาเด็กไปที่นั่น”

หลายคนออกจากเขตโจว แม้ว่าแทบจะไม่เหลืออะไรเลย มีห้องว่างมากมาย ที่ปรึกษาหลี่สั่งให้คนของเขาเตรียมรับมือทันที

“ใต้เท้าซู หลายชายของข้าน้อยเป็นอย่างไรบ้าง?”

“อย่างห่วงไปเลย การตรวจเบื้องต้นของข้าบ่งชี้ว่าเด็กเป็นหวัดและมีไข้ อาการป่วยของเขาต้องได้รับการตรวจเพิ่มเติมเพื่อให้ได้ผล”

หญิงชราพยักหน้าด้วยความสับสน และสายตาของนางที่มีต่อซูมู่เกอไม่สามารถละสายตาไปได้

ไม่นาน ที่ปรึกหาหลี่ก็เตรียมห้องพร้อมให้นางใช้งาน

ซูมู่เกอสั่งให้พวกเขาอุ้มเด็กน้อยอย่างระมัดระวังเข้าไปในห้องสะอาดที่จัดเตรียมไว้

จากนั้นนางก็ขอให้ทุกคนที่รู้สึกไม่สบายออกมาและจัดให้พวกเขาอยู่ในห้องแยกต่างหากอย่างเป็นระเบียบ

“ที่ปรึกษาหลี่ ในเมืองนี้สามารถใช้วัสดุยาได้กี่ชนิด?”

“การแพทย์ วัสดุทางการแพทย์?” ที่ปรึกษาหลี่รู้สึกสับสนเล็กน้อย ใต้เท้าของข้า ท่านไม่ควรกังวลเกี่ยวกับปริมาณอาหารที่เรามีในขณะนี้!

“ข้า ข้าไม่ ไม่รู้…”

“ไปหาคำตอบมา ซื้อวัสดุทางการแพทย์ที่สามารถใช้ได้มาด้วย”

ซูมู่เกอหันหลังและเดินเข้าไปในห้องโดยไม่ได้อธิบายเพิ่มเติมกับที่ปรึกษาหลี่

เขตโจวไม่ได้ใหญ่โต มีแพทย์น้อยมาก พวกเขาเกือบทั้งหมดหนีไปเพราะน้ำท่วม นับประสาอะไรกับผู้ที่สามารถรักษาผู้ป่วยได้

มีห้องเกือบสามห้องที่เต็มไปด้วยผู้ป่วยและหัวใจของซูมู่เกอก็ปวดร้าว

นางไม่คาดคิดมาก่อนว่าหลังจากที่นางหันกลับมาและเข้าไปในห้องผู้ป่วย ที่ปรึกษาหลี่กลับมาด่วน!

ซูมู่เกอเป็นคนสุดท้ายที่ถูกขัดจังหวะเมื่อนางให้การรักษา นางหายใจเข้าลึก ๆ และมองไปที่ที่ปรึกษาหลี่

“ท่านควรมีบางอย่างที่สำคัญมากจริงๆที่จะบอกข้า!”

ที่ปรึกษาหลี่ตัวสั่นมาที่ซูมู่เกอ ใบหน้าของเขาเย็นชืดราวกับน้ำค้างแข็ง “ใต้เท้า มันสำคัญมาก!”

“อะไร?”

“ราชสำนักได้ส่งคนมาที่นี่เพื่อช่วยเราในเรื่องน้ำท่วม!”

ซูมู่เกอตะลึงเล็กน้อย “อะไรนะ?”

“จริง ใต้เท้า ตอนนี้ขุนนางจากราชสำนักได้มาถึงหย่าเหมินแล้ว ได้โปรดกลับไปกับข้าเดี๋ยวนี้เถอะ!”

ซูมู่เกอไม่ขยับ “เจ้านายคนไหนจากราชสำนัก”

“ท่านอ๋องเซี่ย!”