“ใช่! เมื่อคุณดูดซับความกลัวหนึ่งครั้งและปลดปล่อยมันออกมาหนึ่งครั้ง ไม่เพียงแค่เวทมนต์ทั้งสองมันจะเสริมสร้างซึ่งกันและกัน แต่มันยังจะเพิ่มพลังให้กับคุณอย่างทวีคูณอีกด้วย!” แรนดอล์ฟกล่าวขึ้นมาอย่างตื่นเต้น

ในฐานะที่เขาเป็นช่างตีเหล็ก แม้ว่าเขาจะไม่ค่อยชอบอาชีพนี้ของเขาสักเท่าไหร่ แต่เขาก็ยังรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่ได้สร้างอาวุธเช่นนี้ขึ้นมา!

“คุณแน่ใจแค่ไหน?”

“อย่างน้อยก็ 70% แน่นอน! “ แรนดอล์ฟพูดขึ้นมาอย่างมั่นใจ

“โอเค! งั้นผมจะทิ้งของเหล่านี้เอาไว้ที่คุณ แล้วมันจะต้องใช้เวลานานแค่ไหน ? “

“นี่ … มันยากที่จะบอกเล็กน้อย เพราะว่าฉันจะต้องเตรียมตัวก่อนนี่“

แรนดอล์ฟไม่ค่อยแน่ใจในเรื่องนี้มากนัก เพราะว่าเขาก็ไม่ได้เป็นช่างตีเหล็กมานานหลายปีแล้ว!

“งั้นผมจะมาที่นี่อีกทีก็ต่อเมื่อคุณติดต่อมาว่ามันสร้างเสร็จแล้วก็แล้วกัน … แล้วผมจะรู้ได้ยังไงว่าคุณจะไม่ฉวยโอกาสนี้เอาของพวกนี้หนีไป?” ซู่เจินถามขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม.

แรนดอล์ฟพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้มอันบิดเบี้ยว่วา “แม้ว่าฉันจะอยากหนี แต่มันก็หนีไปไหนไม่พ้นอยู่ดี!“

“นั่นเป็นเรื่องที่ยากมากเลยล่ะ!“

ซู่เจินตบไหล่แรนดอล์ฟเบา ๆ และพูดว่า “ผมรู้ว่าคุณไม่ต้องการกลับไปที่แอสการ์ด เพราะว่าคุณชื่นชอบวิถีชีวิตบนโลกเป็นอย่างมาก และตราบใดที่คุณช่วยผมสร้างมีดทั้งสองเล่มขึ้นมาได้ ผมขอรับประกันเลยว่าไม่ว่าจะเป็นแอสการ์ด หรือว่าใครก็ตามก็ไม่สามารถที่จะพาคุณไปไหนได้ ถ้าเกิดว่ายังไม่ได้รับอนุญาตจากผม!”

“ขอบคุณ!“

แน่นอนว่าแรนดอล์ฟเชื่อมั่นในคำพูดของซู่เจินเป็นอย่างมาก เพราะว่าเขาสามารถฆ่ามาเลคิธที่เป็นราชาของเผ่าดาร์กเอลฟ์ได้ หรือแม้กระทั่งอนุภาคอีเทอร์ก็ยังถูกผู้ชายคนนี้ควบคุมเอาไว้ ซึ่งมันก็เป็นระยะเวลาหลายปีแล้วที่เขาใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายและมีความสุข แต่เขาก็มักจะมีความกังวลอยู่ภายในจิตใจอย่างมากมาย และในตอนนี้ … เขาก็สามารถปล่อยวางมันได้สักที

ดังนั้นแทนที่เขาจะตำหนิซู่เจินที่จู่ ๆ ก็มาหาเขาอย่างกระทันหันและให้เขาสร้างอาวุธให้ เขาควรจะขอบคุณซู่เจินซะมากกว่า

หลังจากที่ซู่เจินให้เบอร์ติดต่อไว้กับแรนดอล์ฟเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาก็ออกจากบ้านไปทันที

เขาเชื่อว่าแรนดอล์ฟจะสร้างอาวุธให้กับเขาโดยเร็วที่สุดอย่างแน่นอน

เล่มหนึ่งดูดซับ เล่มหนึ่งปลดปล่อย

ซู่เจินจะตั้งตารออย่างใจจดใจจ่อเลยล่ะว่า มีดคู่เล่มนี้มันจะแข็งแกร่งแค่ไหนหลังจากที่สร้างเสร็จแล้ว

ในตอนแรกซู่เจินวางแผนไว้ว่าเขาจะดูดซับคริสตัลแห่งความกลัวอันนี้ แต่ในเมื่อมันสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้มากกว่านั้น มันก็ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะถึงยังไงพลังแห่งความกลัวมันก็อยู่ภายใต้การควบคุมและการใช้งานของเขาอยู่ดี!

การออกมาดื่มในครั้งนี้ เขาได้รับผลประโยชน์มากมายมหาศาลจริง ๆ

ไม่เพียงเขาได้นาตาชาเท่านั้น เขายังได้อาวุธวิเศษอีกด้วย ทำให้เขาในตอนนี้กำลังอารมณ์ดีเป็นอย่างมาก!

เขาค่อย ๆ บินขึ้นไปบนท้องฟ้า และเพลิดเพลินไปกับความงามของท้องฟ้ายามค่ำคืน ในขณะเดียวกันเขาก็คิดไปด้วยว่าจะทำอะไรต่อไปในอนาคต

ซึ่งเขาก็ไม่ได้คิดอะไรให้มันมากมายนัก เพราะว่าสิ่งที่เขาจะต้องทำในตอนนี้ก็คือสร้างชื่อเสียงและขยายอิทธิพลของเขาให้ได้มากที่สุด และมันก็มีอีกอย่างหนึ่งที่เขาจะต้องรีบคิดเกี่ยวกับมันอย่างรอบคอบ!

นั่นก็คือการคำนวณความสามารถของเขาในตอนนี้

ไวรัสเอ็กซ์ตรีมมิส , ความสามารถในการควบคุมเปลวเพลิง , ความสามารถในการสร้างเปลวเพลิง , การทำนายอนาคต , การติดตาม , พลังจิต , การควบคุมจิตใจ และ คลื่นเสียง เรียกได้ว่าเขามีความสามารถมากมายจริง ๆ

แต่นี่มันก็แค่ความสามารถที่อยู่ภายในร่างกายของเขา และภายนอกล่ะ?

อนุภาคอีเทอร์

แหวนกรีนแลนเทิร์น

หีบแห่งความหนาวเหน็บ [ กล่องน้ำแข็งของยักษ์น้ำแข็ง ]

นอกจากนี้ก็ยังมีอนุภาคแรงโน้มถ่วงอีกอันหนึ่ง

ไม่ว่าจะเป็นความสามารถภายในร่างกายของเขาหรือสิ่งของที่อยู่ภายนอก พวกมันก็ล้วนแข็งแกร่งมาก

อย่างไรก็ตามนี่มันก็แค่เพียงผิวเผินเท่านั้น

เพราะว่าเขายังมีความสามารถอีกหลายอย่างที่มันค่อนข้างจะจืดชืด และไม่ค่อยมีประโยชน์มากนัก ซึ่งโดยปกติแล้วเขาจะใช้ความสามารถเปลวเพลิงและพลังจิตเป็นการโจมตีซะส่วนใหญ่ ส่วนอุปกรณ์ภายนอกที่เขาสามารถใช้ได้ในตอนนี้ก็มีเพียงแค่อนุภาคอีเทอร์และแหวนของกรีนแลนเทิร์น ที่หลอมรวมกันจนเป็น แหวนอีเทอร์

ส่วนกล่องน้ำแข็งเขายังไม่สามารถใช้มันได้ในตอนนี้ อย่างน้อยก็จนกว่าเขาจะออกจากโลกมาเวล มิฉะนั้นโอดินจะรู้อย่างแน่นอนว่าเขาเป็นคนเอามันไป ซึ่งในตอนนี้เขายังไม่อยากเป็นศัตรูกับโอดินและแอสการ์ดสักเท่าไหร่

และอย่างสุดท้ายนั่นก็คืออนุภาคแรงโน้มถ่วง ที่ยังคงไม่มีการตอบสนองเช่นเดิม และไม่มีอะไรพิเศษไปมากกว่านั้น มันก็แค่รอให้เขากลืนกินและกลายเป็นความสามารถอีกหนึ่งอย่างของเขา

ส่วนมืดคู่มันก็น่าจะแข็งแกร่งเช่นกัน แต่ในตอนนี้มันยังไม่เริ่มสร้างเลยด้วยซ้ำ!

ถ้าพูดกันตามความจริงแล้วประสิทธิการต่อสู้ของซู่เจินก็ไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก แถมเขายังมีทักษะการต่อสู้เพียงอย่างเดียวเท่าทัน

ซึ่งโดยปกติแล้วถ้าเขาเจอกับคนที่อ่อนแอกว่า เขาก็สามารถแก้ปัญหาด้วยความสามารถแค่นี้ได้ แต่ถ้าเกิดว่าเขาเจอกับคนที่แข็งแกร่งกว่าเขาละก็ เขาคงจะทุกข์ทรมาณมากอย่างแน่นอน แต่ถึงอย่างงั้นความสามารถของเขาก็ยังสามารถพัฒนาต่อไปได้เรื่อย ๆ อยู่ดี

แถมตอนนี้เขายังมีดันเจี้ยนอีกหนึ่งแห่งที่ยังไม่ได้เลือก และเขาก็สามารถลบดันเจี้ยนแห่งเก่าทิ้งเพื่อเปิดแห่งใหม่ได้อีก ซึ่งเขาต้องการเลือกโลกในจักรวาล DC ที่มีไทมไลน์และพื้นที่ที่ใกล้เคียงกัน

เขาควรใช้ดันเจี้ยนทั้งสองแห่งนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด!

ในขณะที่ซู่เจินกำลังครุ่นคิดเกี่ยวกับการดันเจี้ยนอยู่ ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่วิ่งเข้ามาหาเขาจากระยะไกล และเมื่อเขาหันไปมองเขาก็รู้สึกได้ถึงกระแสลมอันรุนแรงที่กำลังวิ่งเข้ามาหาเขาอย่างรวดเร็ว ทำให้เขาล้มลงกับพื้นทันที

“มีคนลอบทำร้ายฉัน!”

ซู่เจินถูกโจมตีเข้าที่ร่างกายของเขาอย่างรุนแรง แต่เขาก็ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร เพราะท้ายที่สุดแล้วเขาก็มีการป้องกันจากโล่พลังงานของแหวนกรีนแลนเทิร์นที่ห่อหุ้มร่างกายของเขาอยู่ตลอดเวลา และเมื่อเขาลุกขึ้นได้แล้ว เขาก็บินตามคนที่โจมตีเขาไปอย่างรวดเร็ว

พายุทอร์นาโด!

หรือว่าเขาคือ เวิร์ลวินด์ ?

ซู่เจินมองไปที่พายุทอร์นาโดที่กำลังเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วข้างหน้าของเขา และหลังจากนั้นไม่นานเขาก็รู้สึกโล่งอก เพราะว่าเขาเห็นคนที่อยู่ข้างในพายุทอร์นาโดอย่างชัดเจน ครึ่งบนเป็นร่างกายกาย ครึ่งล่างเป็นพายุทอร์นาโดขนาดเล็ก ซึ่งเห็นได้ชัดเลยว่า …. พายุทอร์นาโดขนาดเล็กอันนี้เป็นความสามารถพิเศษของเขาอย่างแน่นอน!

“ดูเหมือนว่ามันจะน่าสนใจขึ้นมาเล็กน้อยแล้วสิ!”

จู่ ๆ ซู่เจินก็นึกถึงคน ๆ หนึ่งขึ้นมา เขาเป็นมนุษย์กลายพันธุ์ที่สามารถสร้างและควบคุมพายุทอร์นาโดได้ และเขาก็เป็นตัวร้ายที่คอยจัดการกับสไปเดอร์แมนและแอนท์แมน … แถมเขายังเก่งในเรื่องการใช้เล่ห์เหลี่ยมอีกด้วย!

แล้วผู้ชายคนนี้หาเขาเจอได้อย่างไร?

ไม่ใช่ว่าเขาเดินทางด้วยตัวคนเดียวงั้นหรอ ? แล้วผู้ชายคนนี้จะมาโจมตีเขาโดยไม่มีเหตุผลทำไม ?

แต่มันก็ไม่สำคัญ เพราะเนื่องจากที่เขากล้าโจมตีซู่เจินโดยตรงแบบนี้ เขาก็น่าจะรู้ถึงผลที่จะตามมา … แต่มันก็ยังไม่สายเกินไปที่จะถามเหตุผลจากเขาก่อน!

ในขณะเดียวกันซู่เจินในตอนนี้กำลังอารมณ์ไม่ดีเป็นอย่างมาก จู่ ๆ เขาก็ถูกโจมตีโดยไม่มีเหตุผล และดูเหมือนว่าเขาจะต้องไปถามเหตุผลจากคนที่โจมตีเขาอย่างช้า ๆ!

“ตูม!“ เสียงแตกของพื้นดังขึ้นมาอย่างรุนแรงพร้อมกับร่างของซู่เจินที่พุ่งเข้าไปด้านหน้าของเวิร์ลวินด์อย่างรวดเร็ว หลังจากที่เขามาถึงด้านหน้าของเวิร์ลวินด์เรียบร้อยแล้ว ซู่เจินก็โบกมือของเขาเบา ๆ ทันใดนั้นก็มีฝ่ามือขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นมาจากอากาศและคว้าไปทางเวิร์ลวินด์ทันที

ในขณะที่เวิร์ลวินด์กำลังควบคุมพายุทอร์นาโดอยู่ จู่ ๆ เขาก็เห็นว่ามีฝ่ามือขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นมาอย่างกระทันหันและกำลังคว้าจับมาที่เขา เขาก็เร่งความเร็วและรีบหนีไปทันที

และหลังจากที่เขาหลบหนีออกมาได้แล้ว จู่ ๆ ก็มีบอลเพลิงหลายอันปรากฏขึ้นมาตรงหน้าของเขาอีกครั้งหนึ่ง เขาพยายามเร่งแรงลมเพื่อดับไฟ แต่แทนที่มันจะดับมันก็รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ

เขาถึงกับผงะไปครู่หนึ่ง และค่อย ๆ ตั้งสติขึ้นมา ในเมื่อลมของเขาไม่สามารถดับเปลวเพลิงพวกนี้ เขาก็ใช้ความสามารถของเขาเป่าบอลเพลิงพวกนี้ออกไปทันที และในขณะที่เขากำลังจะเคลื่อนตัวหนี ทันใดนั้นก็มีกำปั้นขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นมาตรงหน้าของเขาอย่างรวดเร็ว

“อะไร……“

เกิดเสียงร้องดังขึ้นมาจากในพายุทอร์นาโดอย่างเจ็บปวด พร้อมกับร่างของเวิร์ลวินด์ที่กระเด็นออกไป!

“จะไปไหนกลับมานี่!”

ซู่เจินหัวเราะเยาะด้วยความสะใจ จากนั้นเขาก็เปลี่ยนจากกำปั้นขนาดใหญ่อันนั้นให้กลายเป็นเชือกและยืดออกไปไล่จับเวิร์ลวินด์ทันที