แสงสีขาวสองจุดเปรียบเสมือนภูติบนภูเขาลูกนี้

ดวงตาสีเข้มของจิ้งจอกเก้าหางเป็นมีแสงสว่างแล่วผ่านไปอย่างรวดเร็ว เผยให้เห็นความคิดที่เหมือนมนุษย์ราวกับมันมีสติปัญญา

”พี่สาว เราไม่แปลงร่างได้มั้ยเราซ่อนตัวอยู่บนภูเขาด้วยกันไม่ดีกว่าเหรอ”

ดวงตาของจิ้งจอกหกหางแสดงความกังวลและเสียงที่น้อยๆก็ดังมาจากปากของเขา เสียงของมันคล้ายเสียงของเด็กสาว

จิ้งจอกเก้าหางส่ายหัวดวงตาของเขาแสดงสีที่แน่วแน่ “สัตว์อสูรมีนิสัยที่แตกต่างกันและข้าจะตอบแทนความเมตตา ได้ก็ต่อเมื่อข้ากลายร่างได้”

”เราสามารถปกป้องเขาอย่างลับๆโดยไม่ต้องแปลงร่าง” จิ้งจอกหกหางกล่าวอย่างงงงวย

จิ้งจอกเก้าหางอดไม่ได้ที่นึกถึงบางสิ่งในความคิดของเขาพลางกระซิบด้วยเสียงต่ำ“ เจ้ายังเด็กนัก เจ้าไม่เข้าใจความรู้สึกนี้หรอก”

วันนั้นที่เขากำลังจะตายและมีคนพันผ้าพันแผลอย่างระมัดระวังและช่วยรักษาบาดแผลซึ่งทำให้มันรอดมาได้

แม้ว่าจะสงสัยว่าทำไมมนุษย์ธรรมดา สามารถรักษาอาการบาดเจ็บของเขาได้ ตั้งแต่นั้นมาดูเหมือนว่าเขาจะฝึกได้เร็วยิ่งขึ้นและเขาไฝึกฝนถึงเก้าหางในเวลาเพียงไม่กี่ปี

จิ้งจอกหกหางกังวลเก็กน้อย“ ท่านพี่ ทัณฑ์จากสวรรค์แห่งการเปลี่ยนแปลงนั้นน่ากลัวมาก ข้าไม่อยากเห็นวิญญาณของท่านสลายจากไปข้าจะทำอย่างไรถ้าท่านจากไป”

”ตอนนี้เจ้ามีพลังที่จะปกป้องตัวเองได้แล้วถ้าข้าแปลงร่างสำเร็จ เจ้าก็ยังต้องปกป้องตัวเอง” จิ้งจอกเก้าหางกล่าว

ดวงตาของมันย่อตัวลงเล็กน้อยและหางทั้งเก้าด้านหลังก็ส่ายไปมา “ข้ารู้สึกว่าจะมีโอกาสฝ่าได้เร็ว ๆ นี้!”

หลังจากจบการสนทนา เขากระโดดลงต้นไม้ราวกับว่ากำลังเดินบนอากาศและจากไปไกล

”ท่านพี่.”

ดวงตาของจิ้งจอกหกหางเต็มไปด้วยน้ำตาและเขาก็รีบทำตาม

นอกเหนือจากการฝึกตนหลายพันปีแล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับสัตว์อสูรในการแปลงร่างคือการได้รับโอกาส

มนุษย์เป็นสัตว์ที่สวรรค์สรรสร้างและถ้าสัตว์อสูรอยากเปลี่ยนร่างก็ต้องเผชิญทัณฑ์จากสวรรค์ที่มีพลังมหาศาลและถ้าเจ้าไม่ระวังจิตวิญญาณของเจ้าก็จะหายไป

ฃแม้ว่าสัตว์อสูรจะสามารถต้านทานทัณฑ์จากสวรรค์งได้สำเร็จ ฐานการฝึกตนทั้งหมดจะหายไปและต้องเริ่มต้นใหม่!

แม้ว่าหลังจากแปลงร่างเป็นมนุษย์ความเร็วของการฝึกตนใหม่จะเร็วขึ้นมาก แต่การฝึกฝนใหม่คือการเริ่มต้นใหม่ตั้งแต่ต้น หากศัตรูพบในเวลานั้นแทบจะต้องตายอย่างแน่นอน!

นอกจากนี้ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือสัตว์อสูร สิ่งที่เจ้าเป็นคือสัตว์อสูรที่เพิ่งกลายร่างสำเร็จ

ตอนเพิ่งกลายร่างฐานการฝึกตนของสัตว์อสูรชะเป็นช่วงอ่อนแอที่สุด แต่แก่นอสูรนั้นทรงพลังอย่างมากหากจับสัตว์อสูรที่เพิ่งกลายร่างได้จะเป็นเหมือนกับพายเนื้อที่ตกมาจากท้องฟ้า

ดังนั้นการเปลี่ยนร่างของสัตว์อสูรจึงเป็นเรื่องล้อเล่นกับชีวิตของพวกมันเองโดยทั่วไปสัตว์อสูรจำนวนน้อยที่เลือกที่จะแปลงร่าง ส่วนใหญ่ล้วนอยู่ในร่างสัตว์อสูรหรือครึ่งคนครึ่งปีศาจ

“ เมื่อท่านกลายร่างเป็นมนุษย์แล้ว ข้าจะอยู่เคียงข้างท่าน”
จิ้งจอกหกหาง คิดดวงตาของเขาก็กระชับขึ้นในขณะที่มองไปข้างหน้า

เวลาหนึ่งเดือนสำหรับผ็ฝึกตนก็ไม่แตกต่างจากหนึ่งวันของมนุษย์

“ ตูม!”

จู่ๆวันนี้ก็เมฆดำหนาก็ปรากฏขึ้นเหนือท้องฟ้าปกคลุมดวงอาทิตย์โดยไม่เหลือช่องว่างแม้แต่น้อย ท้องฟ้ามืดสนิท

เห็นได้ชัดว่าตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงวัน แต่ดูเหมือนเป็นเที่ยงคืน

เสียงฟ้าร้องและฟ้าแลบกำลังก่อตัวในก้อนเมฆพร้อมกับเสียงฟ้าร้อง เมื่อมองขึ้นไปบนท้องฟ้า เจ้าจะเห็นอัสนีบาตรแล่นไปทั่วก้อนเมฆคล้ายอสรพิษ

”ไม่ มันบังเอิญที่ข้าออกมาในวันนี้?”

หลี่เหนียนฟานยืนอยู่บนภูเขาและส่ายหัวพร้อมกับยิ้มอย่างบิดเบี้ยวและมองไปที่ท้องฟ้า

เขาคิดเข้าป่าและพา ต้าเฮย ไปรอบ ๆ ภูเขาาเพื่อดูว่าเขาสามารถหาอะไรกินได้บ้าง
ไม่คิดว่าฝนจะตกกระทันหัน

เป๊าะแป๊ะๆ

เพียงไม่กี่นาทีฝนก็ตก

ข้าต้องหาที่หลบฝน” หลี่เหนียนฟานมองสภาพแวดล้อมโดยรอบอย่างรวดเร็ว

”ห้องๆ!”

ต้าเฮย ตะโกนหลายครั้งในทิศทางเดียว

หลี่ เหนียนฟ่านตามต้าเฮยไปและเห็นถ้ำเบื้องหน้า

”โชคดีที่เป็นถ้ำที่ว่างๆขนาดใหญ่ เยี่ยม!”

หลี่ เหนียนฟ่าน หัวเราะและไม่ลังเลที่จะดชิดชูตัวเอง

อย่างไรก็ตรามเขาไม่รู้ว่าตอนนี้ปีศาจหมีหนีไปจากที่นี่ด้วยความหวาดกลัว

”แตก!”

เมื่อหลี่เหนียนฟานเพิ่งซ่อนตัวอยู่ในถ้ำฟ้าร้องและฟ้าผ่าก็ฟาดทลงมาที่ใดที่หนึ่งในป่า!

โลกที่จมดิ่งสู่ความมืดมิดสว่างไสวทันที

ไม่นานฝนก็สาดเทลงมาอย่างต่อเนื่อง

หลี่เหนียนฟานยืนอยู่ที่ปากถ้ำมองไปยังท้องฟ้าอันห่างไกล

“ ตูม!”

เสียงฟ้าร้องและสายฟ้าผ่าลงมาอีกครั้ง คราวนี้ฟ้าร้องและฟ้าผ่ารุนแรงกว่าครั้งที่แล้วมาก มันราวกับเสาเงินของสวรรค์ตั้งตระหง่านอยู่ระหว่างท้องฟ้าและโลก

หลี่เหนียนฟานตกใจเมื่อเห็นมันและมีอาการหนาวสั่นทั่วร่างของเขา

โลกแห่งการฝึกตนช่างน่ากลัวจริงๆฟ้าร้องและสายฟ้าแบบนี้ไม่สามารถแม้แต่จะเกิดขึ้นได้ในชาติก่อนได้ มันสามารถทำให้เมืองๆหนึ่เป็นอัมพาตได้ในพริบตาแม้ว่าจะมีสายล่อฟ้า แต่ก็ช่วยอะไรไม่ด้

”ตกลง?”

ดวงตาของ หลี่ เหนียนฟ่าน หรี่ลงเล็กน้อยและทก็ตกตะลึง

ถ้าเขามองเห็นถูกต้องมีบางสิ่งเคลื่อนไหวอยู่ภายใต้มวลเมฆและสายฟ้า

นี่มันเจ๋งมาก!

ความสามารถในการต่อสู้กับสายฟ้าแบบนี้อยู่ในระดับบอสใหญ่ในโลกแห่งการฝึกตน ข้าจะไม่พบกับบอสใหญ่สองตัวที่กำลังต่อสู้กันใช่ไหม?

หน้าของ หลี่ เหนียนฟ่าน ซีดลงและหัวใจของเขาก็เต้นแรงขึ้น

มันไม่เหมาะที่จะอยู่ที่นี่นาน ๆ

เขาไม่เคยคิดที่จะร่วมสนุกกับการต่อสูครั้งนี้ เขาคาอยากหนีไปไกลๆ

ข้าเป็นแค่มนุษย์และแค่สะเก็ดพลังเพียงอย่างเดียวก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ข้ากลายเป็นขี้เถ้า ถ้าข้าไปที่นั่นก็เท่ากับฆ่าตัวตาย

เมื่อเขาคิด ท้องฟ้าก็สว่างขึ้นอีกครั้ง!

ตูม!

อัสนีบาตผ่าลงมาเป็นครั้งที่สาม เมื่อเทียบกับสองครั้งแรก คราวนี้สายฟฟ้ามีสีแดงเล็กน้อยและเห็นได้ว่าแข็งแกร่งกว่าสองครั้งก่อนมาก

หลี่ เหนียนฟ่าน เห็นมันจริงๆดูเหมือนว่าจะมีบางสิ่งอยู่ใต้สายฟ้าและเมฆ ดูเหมือนว่ามันกำลังลอยอยู่บนท้องฟ้า

“ ผู้ฝึกตนต้องการต่อสู้กันที่นี่?” หลี่เหนียนฟานรู้สึกขมขื่น

โชคดีที่ตำแหน่งของของเหล่าสายฟ้าไม่ได้เคลื่อนที่ หัวใจของ หลี่ เหนียนฟ่าน สงบลงเล็กน้อย

เขาอุ้ม ต้าเฮย ขึ้นหนึ่งคนและสุนัขหนึ่งตัว

หลังจากฟ้าร้องและฟ้าแลบครั้งที่เก้าในที่สุดเมฆดำบนท้องฟ้าก็เริ่มกระจายฝนตกหนักหยุดลงและดวงอาทิตย์ก็กลับมา

หลี่เหนียนฟานรู้สึกดีใจแทบร้องไห้ เมื่อกี้นี้มันทำให้ข้ากลัวตาย

เขาไม่กล้าที่จะเดินอาดๆ ออกจากถ้ำและรีบเดินไปในทิศทางตรงกันข้ามกับสายฟ้าอย่างรวดเร็ว

“ ต้าเฮยรีบไปกันเถอะ” หลี่เหนียนฟานเร่งเร้า

ทางบนภูเขาหลังฝนตกเต็มไปด้วยโคลนรองเท้าและกางเกงของหลี่เหนียนฟานเปื้อนเต็มไปด้วยโคลน แต่เขาก็ยังไม่กล้าที่จะชะลอความเร็ว

ใครจะรู้ว่าผู้ฝึกฝนทั้งสองที่อยู่ข้างหลังเขาจะรู้สึกยังไงและอาจต่อสู้กันอีกครั้งก็ได้

ถ้าเขาโดนมันคงตายแน่ ๆ

หลี่ เหนียนฟ่าน กล่าวว่าเขาจะไม่สนุกกับชีวิตของเขา

ผ่านป่าแห่งนี้ไปมีทะเลสาบใหญ่ปรากฏอยู่ตรงหน้า น้ำของทะเลสาบเป็นเริบบิ้นยาวไหลผ่านภูเขา

เมื่อเดินตรงไปตามทะเลสาบแห่งนี้และเจ้าสามารถไปถึงบ้านของ หลี่ เหนียนฟ่าน ได้
แสงสีขาวสองจุดเปรียบเสมือนภูติบนภูเขาลูกนี้

ดวงตาสีเข้มของจิ้งจอกเก้าหางเป็นมีแสงสว่างแล่วผ่านไปอย่างรวดเร็ว เผยให้เห็นความคิดที่เหมือนมนุษย์ราวกับมันมีสติปัญญา

”พี่สาว เราไม่แปลงร่างได้มั้ยเราซ่อนตัวอยู่บนภูเขาด้วยกันไม่ดีกว่าเหรอ”

ดวงตาของจิ้งจอกหกหางแสดงความกังวลและเสียงที่น้อยๆก็ดังมาจากปากของเขา เสียงของมันคล้ายเสียงของเด็กสาว

จิ้งจอกเก้าหางส่ายหัวดวงตาของเขาแสดงสีที่แน่วแน่ “สัตว์อสูรมีนิสัยที่แตกต่างกันและข้าจะตอบแทนความเมตตา ได้ก็ต่อเมื่อข้ากลายร่างได้”

”เราสามารถปกป้องเขาอย่างลับๆโดยไม่ต้องแปลงร่าง” จิ้งจอกหกหางกล่าวอย่างงงงวย

จิ้งจอกเก้าหางอดไม่ได้ที่นึกถึงบางสิ่งในความคิดของเขาพลางกระซิบด้วยเสียงต่ำ“ เจ้ายังเด็กนัก เจ้าไม่เข้าใจความรู้สึกนี้หรอก”

วันนั้นที่เขากำลังจะตายและมีคนพันผ้าพันแผลอย่างระมัดระวังและช่วยรักษาบาดแผลซึ่งทำให้มันรอดมาได้

แม้ว่าจะสงสัยว่าทำไมมนุษย์ธรรมดา สามารถรักษาอาการบาดเจ็บของเขาได้ ตั้งแต่นั้นมาดูเหมือนว่าเขาจะฝึกได้เร็วยิ่งขึ้นและเขาไฝึกฝนถึงเก้าหางในเวลาเพียงไม่กี่ปี

จิ้งจอกหกหางกังวลเก็กน้อย“ ท่านพี่ ทัณฑ์จากสวรรค์แห่งการเปลี่ยนแปลงนั้นน่ากลัวมาก ข้าไม่อยากเห็นวิญญาณของท่านสลายจากไปข้าจะทำอย่างไรถ้าท่านจากไป”

”ตอนนี้เจ้ามีพลังที่จะปกป้องตัวเองได้แล้วถ้าข้าแปลงร่างสำเร็จ เจ้าก็ยังต้องปกป้องตัวเอง” จิ้งจอกเก้าหางกล่าว

ดวงตาของมันย่อตัวลงเล็กน้อยและหางทั้งเก้าด้านหลังก็ส่ายไปมา “ข้ารู้สึกว่าจะมีโอกาสฝ่าได้เร็ว ๆ นี้!”

หลังจากจบการสนทนา เขากระโดดลงต้นไม้ราวกับว่ากำลังเดินบนอากาศและจากไปไกล

”ท่านพี่.”

ดวงตาของจิ้งจอกหกหางเต็มไปด้วยน้ำตาและเขาก็รีบทำตาม

นอกเหนือจากการฝึกตนหลายพันปีแล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับสัตว์อสูรในการแปลงร่างคือการได้รับโอกาส

มนุษย์เป็นสัตว์ที่สวรรค์สรรสร้างและถ้าสัตว์อสูรอยากเปลี่ยนร่างก็ต้องเผชิญทัณฑ์จากสวรรค์ที่มีพลังมหาศาลและถ้าเจ้าไม่ระวังจิตวิญญาณของเจ้าก็จะหายไป

ฃแม้ว่าสัตว์อสูรจะสามารถต้านทานทัณฑ์จากสวรรค์งได้สำเร็จ ฐานการฝึกตนทั้งหมดจะหายไปและต้องเริ่มต้นใหม่!

แม้ว่าหลังจากแปลงร่างเป็นมนุษย์ความเร็วของการฝึกตนใหม่จะเร็วขึ้นมาก แต่การฝึกฝนใหม่คือการเริ่มต้นใหม่ตั้งแต่ต้น หากศัตรูพบในเวลานั้นแทบจะต้องตายอย่างแน่นอน!

นอกจากนี้ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือสัตว์อสูร สิ่งที่เจ้าเป็นคือสัตว์อสูรที่เพิ่งกลายร่างสำเร็จ

ตอนเพิ่งกลายร่างฐานการฝึกตนของสัตว์อสูรชะเป็นช่วงอ่อนแอที่สุด แต่แก่นอสูรนั้นทรงพลังอย่างมากหากจับสัตว์อสูรที่เพิ่งกลายร่างได้จะเป็นเหมือนกับพายเนื้อที่ตกมาจากท้องฟ้า

ดังนั้นการเปลี่ยนร่างของสัตว์อสูรจึงเป็นเรื่องล้อเล่นกับชีวิตของพวกมันเองโดยทั่วไปสัตว์อสูรจำนวนน้อยที่เลือกที่จะแปลงร่าง ส่วนใหญ่ล้วนอยู่ในร่างสัตว์อสูรหรือครึ่งคนครึ่งปีศาจ

“ เมื่อท่านกลายร่างเป็นมนุษย์แล้ว ข้าจะอยู่เคียงข้างท่าน”
จิ้งจอกหกหาง คิดดวงตาของเขาก็กระชับขึ้นในขณะที่มองไปข้างหน้า

เวลาหนึ่งเดือนสำหรับผ็ฝึกตนก็ไม่แตกต่างจากหนึ่งวันของมนุษย์

“ ตูม!”

จู่ๆวันนี้ก็เมฆดำหนาก็ปรากฏขึ้นเหนือท้องฟ้าปกคลุมดวงอาทิตย์โดยไม่เหลือช่องว่างแม้แต่น้อย ท้องฟ้ามืดสนิท

เห็นได้ชัดว่าตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงวัน แต่ดูเหมือนเป็นเที่ยงคืน

เสียงฟ้าร้องและฟ้าแลบกำลังก่อตัวในก้อนเมฆพร้อมกับเสียงฟ้าร้อง เมื่อมองขึ้นไปบนท้องฟ้า เจ้าจะเห็นอัสนีบาตรแล่นไปทั่วก้อนเมฆคล้ายอสรพิษ

”ไม่ มันบังเอิญที่ข้าออกมาในวันนี้?”

หลี่เหนียนฟานยืนอยู่บนภูเขาและส่ายหัวพร้อมกับยิ้มอย่างบิดเบี้ยวและมองไปที่ท้องฟ้า

เขาคิดเข้าป่าและพา ต้าเฮย ไปรอบ ๆ ภูเขาาเพื่อดูว่าเขาสามารถหาอะไรกินได้บ้าง
ไม่คิดว่าฝนจะตกกระทันหัน

เป๊าะแป๊ะๆ

เพียงไม่กี่นาทีฝนก็ตก

ข้าต้องหาที่หลบฝน” หลี่เหนียนฟานมองสภาพแวดล้อมโดยรอบอย่างรวดเร็ว

”ห้องๆ!”

ต้าเฮย ตะโกนหลายครั้งในทิศทางเดียว

หลี่ เหนียนฟ่านตามต้าเฮยไปและเห็นถ้ำเบื้องหน้า

”โชคดีที่เป็นถ้ำที่ว่างๆขนาดใหญ่ เยี่ยม!”

หลี่ เหนียนฟ่าน หัวเราะและไม่ลังเลที่จะดชิดชูตัวเอง

อย่างไรก็ตรามเขาไม่รู้ว่าตอนนี้ปีศาจหมีหนีไปจากที่นี่ด้วยความหวาดกลัว

”แตก!”

เมื่อหลี่เหนียนฟานเพิ่งซ่อนตัวอยู่ในถ้ำฟ้าร้องและฟ้าผ่าก็ฟาดทลงมาที่ใดที่หนึ่งในป่า!

โลกที่จมดิ่งสู่ความมืดมิดสว่างไสวทันที

ไม่นานฝนก็สาดเทลงมาอย่างต่อเนื่อง

หลี่เหนียนฟานยืนอยู่ที่ปากถ้ำมองไปยังท้องฟ้าอันห่างไกล

“ ตูม!”

เสียงฟ้าร้องและสายฟ้าผ่าลงมาอีกครั้ง คราวนี้ฟ้าร้องและฟ้าผ่ารุนแรงกว่าครั้งที่แล้วมาก มันราวกับเสาเงินของสวรรค์ตั้งตระหง่านอยู่ระหว่างท้องฟ้าและโลก

หลี่เหนียนฟานตกใจเมื่อเห็นมันและมีอาการหนาวสั่นทั่วร่างของเขา

โลกแห่งการฝึกตนช่างน่ากลัวจริงๆฟ้าร้องและสายฟ้าแบบนี้ไม่สามารถแม้แต่จะเกิดขึ้นได้ในชาติก่อนได้ มันสามารถทำให้เมืองๆหนึ่เป็นอัมพาตได้ในพริบตาแม้ว่าจะมีสายล่อฟ้า แต่ก็ช่วยอะไรไม่ด้

”ตกลง?”

ดวงตาของ หลี่ เหนียนฟ่าน หรี่ลงเล็กน้อยและทก็ตกตะลึง

ถ้าเขามองเห็นถูกต้องมีบางสิ่งเคลื่อนไหวอยู่ภายใต้มวลเมฆและสายฟ้า

นี่มันเจ๋งมาก!

ความสามารถในการต่อสู้กับสายฟ้าแบบนี้อยู่ในระดับบอสใหญ่ในโลกแห่งการฝึกตน ข้าจะไม่พบกับบอสใหญ่สองตัวที่กำลังต่อสู้กันใช่ไหม?

หน้าของ หลี่ เหนียนฟ่าน ซีดลงและหัวใจของเขาก็เต้นแรงขึ้น

มันไม่เหมาะที่จะอยู่ที่นี่นาน ๆ

เขาไม่เคยคิดที่จะร่วมสนุกกับการต่อสูครั้งนี้ เขาคาอยากหนีไปไกลๆ

ข้าเป็นแค่มนุษย์และแค่สะเก็ดพลังเพียงอย่างเดียวก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ข้ากลายเป็นขี้เถ้า ถ้าข้าไปที่นั่นก็เท่ากับฆ่าตัวตาย

เมื่อเขาคิด ท้องฟ้าก็สว่างขึ้นอีกครั้ง!

ตูม!

อัสนีบาตผ่าลงมาเป็นครั้งที่สาม เมื่อเทียบกับสองครั้งแรก คราวนี้สายฟฟ้ามีสีแดงเล็กน้อยและเห็นได้ว่าแข็งแกร่งกว่าสองครั้งก่อนมาก

หลี่ เหนียนฟ่าน เห็นมันจริงๆดูเหมือนว่าจะมีบางสิ่งอยู่ใต้สายฟ้าและเมฆ ดูเหมือนว่ามันกำลังลอยอยู่บนท้องฟ้า

“ ผู้ฝึกตนต้องการต่อสู้กันที่นี่?” หลี่เหนียนฟานรู้สึกขมขื่น

โชคดีที่ตำแหน่งของของเหล่าสายฟ้าไม่ได้เคลื่อนที่ หัวใจของ หลี่ เหนียนฟ่าน สงบลงเล็กน้อย

เขาอุ้ม ต้าเฮย ขึ้นหนึ่งคนและสุนัขหนึ่งตัว

หลังจากฟ้าร้องและฟ้าแลบครั้งที่เก้าในที่สุดเมฆดำบนท้องฟ้าก็เริ่มกระจายฝนตกหนักหยุดลงและดวงอาทิตย์ก็กลับมา

หลี่เหนียนฟานรู้สึกดีใจแทบร้องไห้ เมื่อกี้นี้มันทำให้ข้ากลัวตาย

เขาไม่กล้าที่จะเดินอาดๆ ออกจากถ้ำและรีบเดินไปในทิศทางตรงกันข้ามกับสายฟ้าอย่างรวดเร็ว

“ ต้าเฮยรีบไปกันเถอะ” หลี่เหนียนฟานเร่งเร้า

ทางบนภูเขาหลังฝนตกเต็มไปด้วยโคลนรองเท้าและกางเกงของหลี่เหนียนฟานเปื้อนเต็มไปด้วยโคลน แต่เขาก็ยังไม่กล้าที่จะชะลอความเร็ว

ใครจะรู้ว่าผู้ฝึกฝนทั้งสองที่อยู่ข้างหลังเขาจะรู้สึกยังไงและอาจต่อสู้กันอีกครั้งก็ได้

ถ้าเขาโดนมันคงตายแน่ ๆ

หลี่ เหนียนฟ่าน กล่าวว่าเขาจะไม่สนุกกับชีวิตของเขา

ผ่านป่าแห่งนี้ไปมีทะเลสาบใหญ่ปรากฏอยู่ตรงหน้า น้ำของทะเลสาบเป็นเริบบิ้นยาวไหลผ่านภูเขา

เมื่อเดินตรงไปตามทะเลสาบแห่งนี้และเจ้าสามารถไปถึงบ้านของ หลี่ เหนียนฟ่าน ได้