27 – ปีกแห่งรุ่งอรุณ 3 – ความรบกวน
เวอร์ชั่นไม่เซ็นเซอร์อ่านได้ที่ tunwalai หรือ readAwrite
หน่วยจู่โจมมีรายบุคคลที่มีพรสวรรค์มากมาย ที่ก้าวข้ามความแข็งแกร่งของทหารธรรมดา แม้ว่ามีบางปัญหามาก่อน หน่วยนี้ในที่สุดก็ได้ถูกสร้างอีกครั้ง
หน่วยจู่โจมนี้ต่างจากหน่วยอื่น มันไม่จำเป็นต้องมีกัปตันอย่างเป็นทางการเพราะมีแค่ 30 คน บางทีพวกเขาอาจจะขอบคุณที่ผมเป็นคนที่เป็นผู้นำ
ตอนแรกมีชายที่ท้าทายอยู่บ้าง แต่ในนามของ ‘การฝึก’ ผมทำให้พวกเขาเชื่อฟัง
หน้าที่ของหน่วยจู่โจม คือบุกไปทำลายตำแหน่งสำคัญของศัตรู ในปีกแห่งรุ่นอรุณ คนพวกนี้เป็นคนที่มีนิสัยกล้าหาญ และพวกเขาได้มีชื่อเสียงจริงๆ เนื่องจากความกล้าหาญของพวกเขา
ในปีกแห่งรุ่นอรุณ ตำแหน่งของหน่วยจู่โจมไม่หวั่นไหวมาตลอด และตอนนี้ หน่วยนี้ได้ถูกสร้างใหม่ให้แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมอีก
「ราชา พระองค์ฮูเบลที่สองได้เสียชีวิตแล้ว!!!」
ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ผู้บัญชาการได้กินอาหารในเต็นท์ใหญ่ด้วยกัน คนส่งสาส์นจากเมืองหลวงได้รบกวนการคุยเรื่อยเปื่อยของเรา ทุกคนในเต็นท์ยืนขึ้น
「ในที่สุดเวลาของเราก็ได้มาถึงแล้ว」
「สั่งการสมาชิกทุกคนให้เตรียมตัวกับสงคราม」
「ขนธนูและกระสุนปืนธนูในหน่วยขนส่ง เราไม่ต้องการเสบียงอาหาร」
เมื่ออีไลตะโกน บลูโน่และกัปตันคนอื่นได้พุ่งออกมาในทันที
เพราะหน่วยของผมมีเพียงกำลัง 30 คน และเรามีอุปกรณ์ของเราเองตลอด เราไม่ต้องการเวลามากขนาดนั้น เมื่อเทียบกับหน่วยอื่น
อีไลมอบคำสั่งโดยตรงให้ผม ให้ตรวจสถานการณ์ในหน่วยอื่น
อย่างที่คาด เขาเป็นผู้บังคับบัญชาที่โดดเด่น
「เราจะทำอะไรหลังจากนี้?」
「เอเกอร์……เราจะรอพร้อมก่อนตอนนี้ เราจะเคลื่อนไหวเมื่อคำบัญชากรโดยตรงจากเขาได้มา」
เขา พูดอีกอย่าง ก็คือ ตำแหน่งที่ 2 ในผู้สืบทอดบัลลังก์
「เขามาที่นี่ขณะที่เราพูดกันอยู่ อย่างที่คาดกับเจ้าชายคนที่ 2 เค้ามีเล่ห์เหลี่ยมและไม่ใช่คนโง่ เค้าเลยจะมุ่งหน้ามีที่นี่ทันที ถ้าเค้าไม่ เค้าจะไม่มีวันรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับเค้าได้มั่ง」
「เราจะโจมตีเมืองหลวงทันทีเลยมั้ย เมื่อเจ้าชายคนที่ 2 มา?」
อีไลไม่ทราบได้
「ถ้าเราโจมตีโดยไม่มีเหตุผล เราจะถูกตรีตราเป็นทหารกบฏ เทียบกับทหารของโกลเดนเนีย แค่ในจำนวนเพียงอย่างเดียว เราจะถูกขยี้อย่างทำอะไรไม่ได้ ในท้ายที่สุด ที่มันเป็นการทะเลาะกันเพื่อแย่งมรดกมาตลอด」
「ในท้ายที่สุด เราต้องรอเจ้าชายคนที่ 2」
「ใช่ เพราะทั้งหมดเราเป็นดาบของเค้า แต่เราไม่รู้เกี่ยวกับแผนการในวงขุนนาง」
「งั้น ถ้าเราได้ถูกสั่งให้เผาทั้งเมือง……」
เลดี้ทั้งหลายอยู่ในเมืองหลวง พวกเธอหนีไม่ได้ถ้าเมืองได้ถูกเผาทั้งเมือง
「บางที่ เพราะทั้งหมด มันขึ้นอยู่กับความปรารถนาของเค้า」
การสนทนาของเรา ถูกขัดโดยเสียงของการควบม้า
「มันดูเหมือนเราต้องนำการสนทนานี้ค้างไว้ก่อนตอนนี้ มาคุยต่อกันกับคนคนนั้นเองเลยเถอะ」
เกวียนมหาศาลได้มา คุ้มกันโดยอัศวินหลายคน
ทุกสมาชิกในเต็นท์ รวมถึงอีไล คุกเข่า
หลังจากที่มาเพื่อสังสรรค์ตอนอาหารเย็น ชายคนหนึ่งได้ลงมาจากเกวียน
ชายคนนั้น แต่งตัวอย่างหรูหรา เขามองไปรอบๆด้วยแววที่คมในตาเขา และยกมือขึ้นอย่างอ่อนโยนไปที่ฝูงชน
ผู้ค้นพบปีกแห่งรุ่งอรุณ เจ้าชายคนที่ 2 เอลดิโอ เป็นครั้งแรกที่ได้เจอกับดาบของเขา
「ไม่พบกันนาน อีไล」
「มันเป็นเวลานานครับ องค์ชาย」
อีไลตอบระหว่างยังคุกเข่า ด้วยหัวของเขาที่คำนับ
「เจ้าไม่ต้องเป็นแบบนี้ตอนนี้ ยกหัวของเจ้าขึ้น อีไล และทุกคน」
เจ้าชายคนที่ 2 อายุประมาน 30 ปี มีลักษณะตัวที่ดูเย็นชา ที่เกิดมาจากความภาคภูมิใจในฐานะราชวงศ์ แต่ตาที่คมของเขา เติมเต็มไปด้วยความทะเยอทะยาน
「สุภาพสตรีและสุภาพบุรุษ ความเคารพของฉันและความเสียใจ ให้กับความตายของพระองค์!」
เขาได้เริ่มเปิดเผยวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของเขาแล้ว
แต่ เมื่อเจ้าชายคนที่ 2 พูดว่าราชาได้ตาแล้ว เขาดูหวั่นไหวและงุนงง
「และ พี่ชายของฉัน ผู้สืบทอดบัลลังก์ ก็ได้จากโลกนี้ไปด้วย」
นี่เป็นครั้งแรกของผมที่ได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้ อย่างที่คาด ทั้งกองทหารได้ส่งเสียง ไม่มีทางที่พ่อและลูกจะตายพร้อมกันเพราะอาการป่วย
อีไลเห็นสิ่งนี้ และปิดตาเขาอย่างช้าๆ
เข้าใจแล้ว งั้นนี่เป็นแผนของเขา
「แน่นอนว่า มันไม่ใช่เพราะอาการป่วย! ขณะที่ทางการได้ประกาศแจ้งเกี่ยวกับความตายของราชา นายกรัฐมนตรี ดยุค อัลเลนได้จมอยู่ในความทะเยอทายาน! คนนั้นก็ได้มีแผนที่จะแย่งชิงบัลลังก์และมรดกของฉันไปเอง มากกว่านี้ คนนั้นก็ยังพยายามจะทำร้ายเรา!」
ทุกคนในที่นี้ฟังคำของเจ้าชายคนที่ 2
มันเพราะเสน่ห์ของเขาเหรอ?
「แต่ เราหนีมาด้วยความช่วยเหลือของอัศวินที่กล้าหาญ อิทธิพลที่ชั่วร้ายของนายกรัฐมนตรีที่ขี้ขลาด ไม่สามารถส่งฉันไปหาฮาเดส นี่เป็นความประสงค์ศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า ทางแห่งความชอบธรรมให้เรา ราชวงศ์」
เพิ่มเติมจากนี้ เขาใช้การพูดที่ทำให้เสื่อมเสียและลดค่าอย่างต่อเนื่อง
「มากกว่านี้! ถ้าเจ้านายกรัฐมนตรีต้องสาปนั้นทราบว่าเราหนีมาได้ เขาจะใช้ชื่อเสียงของพี่ชายฉัน และตัวปลอมเพื่อที่จะหลอกลวงองครักษ์อาณาจักร และประกาศว่าเราคือคนทรยศ เราต้องการพลังของผู้นั้น ผู้ที่ไม่กลัวจะทำสิ่งที่ถูก แม้ว่า มันจำเป็นที่จะต้องแสวงหาการแก้แค้นต่อตัวร้ายตนนี้」
ทุกคนตรงนี้ให้ความสนใจกับการพูดของเขา ในท้ายที่สุด พวกเขาเป็นแค่ทหารรับจ้าง ความรักชาติของพวกเขายังขาดไปเมื่อเทียบกับทหารแห่งชาติ
มันจะยากที่จะควบคุมทั้งกองทหาร ด้วยแค่การพูดที่ชอบธรรม
มันต้องการบางอย่างที่สำคัญมากกว่านั้น
「ถ้าพวกเจ้าทุกคนช่วยฉัน เจ้าจะได้เกียรติยศในการฟื้นความยุติธรรมให้แผนดิน เจ้าจะได้เงินจำนวนหนึ่งด้วย และผ่านความสำเร็จทางการทหาร เจ้าจะได้เป็นขุนนาง」
เมื่อพวกผู้ชายได้ยินอย่างนั้น พวกเขาชมและเชียร์เจ้าชายคนที่ 2
ระหว่างที่พวกเขาตะโกน ‘ขอให้เจ้าชายผู้สืบทอดจงอายุยืนนาน! ความยุติธรรมสู่เมืองหลวง!’ ผู้นำได้เข้ามาที่เต็นท์
ข้างในเต็นท์มีเพียงผม พวกกัปตัน ผู้บัญชาการ หน่วยเสบียงและบุคคลสำคัญจำนวนหนึ่งประชุม
「……นี่คือคนที่เจ้าไว้วางใจได้เหรอ?」
เจ้าชายคนที่ 2 เปลี่ยนจากบางคนที่ร่าเริงอย่างสมบูรณ์ มาสู่บางคนที่ใจเย็น และมีหน้าที่ไม่ใส่ใจ
「ครับ! ทุกคนที่นี่เป็นบางคนที่ผมเชื่อใจ」
「โอเคถ้างั้น เมื่อกี้ เราได้ส่งคนส่งสาส์นไปที่ทหารของชาติ บอกข้อความพวกเขาเกี่ยวกับความตายของราชาได้มา และว่านายกรัฐมนตรี และเจ้าชายผู้สืบทอดได้กบฏในเวลานี้ด้วย」
แน่นอนว่า ถ้ารายงานว่านายกรัฐมนตรีเป็นผู้นำของการกบฏ ที่สังหารเจ้าชายผู้สืบทอด และใช้ตัวปลอมเพื่อแย่งชิงมงกุฎ ทหารจะเชื่อว่าเจ้าชายผู้สืบทอดนั้นกบฏต่อผู้สืบทอดที่ถูกต้อง เจ้าชายเอลดิโอ
ถ้ามีคนใดที่ไม่เชื่อเจ้าชายเอลดิโอ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเคลื่อนไหว จนกว่าพวกเขาจะรู้ความจริง
และถ้าพวกเขายุ่งเกินไปที่จะยืนยันความเป็นจริง เราจะสำเร็จการกบฏของเรา
นี่ต้องเป็นแผนของเจ้าชายเอลดิโอมาตลอด
「เราพร้อมแล้ว เราโจมตีเข้าไปในเขตศัตรูตอนไหนก็ได้ด้วยคำสั่งของท่าน」
「แม้ว่ามีกฎหมายห้ามไม่ให้กลุ่มของทหารม้าเข้าไปข้างในเมืองหลวงเหรอ?」
「ดี นี่คือเหตุฉุกเฉิน เราจะอนุญาตให้เดินทัพไปบนเมืองหลวงเพื่อประหารกบฏและฟื้นความสงบเรียบร้อย」
เด้าคำสั่งของเจ้าชายเอลดิโอ ปีกแห่งรุ่งอรุณได้เริ่มเดินทัพสู่เมืองหลวง ด้วยเสียงเหล็กกระทบ และเสียงกรุบทื่อๆของเกือกม้า
◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇
ผมและหน่วยจู่โจมได้อยู่บนทางไปเมืองหลวง มันเป็นทีมเดิม แต่อีไล และเอลดิโอ ขี่ม้าอยู่กลางทีมของเรา พูดอีกอย่างคือ เราคุ้มกันอีไลและเอลดิโอไปที่วังตอนนี้
อย่างที่คาด อีไลและเอลดิโอไม่ได้มาในสงครามโดยการขี่รถม้าที่ระยิบระยับนั้นมา ดังนั้น พวกเขาได้เปลี่ยนเป็นม้าแทน
「เจ้าคือเอเกอร์」
บางคนจู่ๆก็เรียกผม ในเวลานี้ ผมจะตอบ
「ฉันได้ยินเกี่ยวกับเจ้า เข้าเป็นทหารม้าที่น่าตกใจที่มาพร้อมหอก」
「ผมแค่ทะลุเพื่อหาทางไป」
เอลดิโอยิ้มเล็กน้อย
「โอกาส อย่างนั้นเหรอ นั่นก็ดีด้วย ประเทศของเราได้ถูกบังคับให้ทานประสบการณ์ที่ขมขื่นหลายครามากเกินไป」
สีหน้าของเขาเปลี่ยนอย่างรวดเร็วจากรอยยิ้มเป็นหน้าที่ไม่แยแส
「พวกเราอยู่ในสภาพนี้ เพราะท่าทางที่อ่อนแอที่พ่อฉันมีสู่ประเทศเล็กๆอย่างอาร์คแลนด์ ดั้งเดิมแล้ว เราชนะได้อย่างง่ายกับคู่ต่อสู้แบบนั้น……แล้วก็ พี่ชายคนโตก็ไม่มีควาามสนใจจะพัฒนาประเทศนี้ของเรา โกลเดนเนีย เขามองข้ามกำลังทหารของเราอย่างสมบูรณ์ จินตานาการว่านกนั้นเศร้าโศกที่ต้องแบ่งลานกับตัวอื่น」
หลังจากนั้น เอลดิโอไม่พูดอะไรแล้วเร่งความเร็วขึ้น ผมและอีไล ตามไปเพื่อปกป้องเขา
หลังจากซักพัก กำแพงเมืองหลวงได้ปรกฏอยู่ตรงหน้าเรา
「จ-เจ้าคนโง่! นายทำอะไรน่ะ!! นายไม่รู้ว่าคณะทหารรับจ้างนั้นถูกห้ามไม่ให้เข้าเมืองหลวงนะ」
ทหารประตูรั้วได้ตะโกนในเสียงสั่น
เพราะปีกแห่งรุ่งอรุณมาอย่างเต็มกำลัง ประมาณ 1000 คน
คุณไม่สามารถแม้แต่จะต่อต้านได้ ถ้าคุณจะทำสงครามจริงๆ
หลังจากนั้น พวกเขาปิดประตูรั้วทันที
「พวกเขาได้รับอนุญาตจากฉัน」
ครึ่งหนึ่งของทหารได้งงโดยการประกาศของเอลดิโอ
มีคนเมืองไม่กี่คนที่ได้เห็นความเป็นราชวงศ์
แม้แต่ราชาหรือเจ้าชายผู้สืบทอดนั้นไม่ถูกเห็นบ่อย เอลดิโอยิ่งน้อยกว่านั้น
ไม่นานหลังจากนั้น คนระดับหัวหน้าได้มาและคุกเข่าตรงหน้าเอลดิโอ
「พ-พระองค์ครับ! ท่านมีเหตุอันใดที่ต้องการเหล่าชายมากขนาดนี้ครับ!?」
「เจ้าต้องรู้แล้ว นายกรัฐมนตรีได้สังหารพี่ชายของเราและมีแผนจะแย่งชิงบัลลังก์」
「แต่ เราได้รับรายงานมาว่าท่านได้จากไปพร้อมกับองค์ราชา……」
「ใครกัน? ใครพูดเช่นนั้น?」
「……มันจากเจ้าชายผู้สืบทอดเบลทริอุส」
「พี่ชายของฉันได้เสียไปแล้ว มันต้องเป็นตัวปลอมที่นายกรัฐมนตรีทำมา! ถ้าเจ้าหยุดฉันอีกครั้ง ฉันจะถือว่าเจ้าเป็นสุนัขของนายกรัฐมนตรี!」
กัปตันผู้คุ้มกันและทหารของเขามองหน้ากัน
เมื่อชนชั้นกลางได้ทำการทรยศชนชั้นสูง ครอบครัวของเขาทั้งหมดจะถูกลงโทษจากหลวง ในฐานะขุนนาง ครอบครัวโดยตรงจะโดนโทษหลวงและบ้านจะโดนขยี้ แต่ครอบครัวที่อยู่ห่างออกไปจะถูกตราหน้าว่าเป็นความอัปยศ
「ฉันไม่ต้องการให้เจ้าทั้งหมดมากับฉัน แค่ให้ฉันผ่าน หลังจากนั้น แค่ทำหน้าที่ปรกติของเจ้า」
「ครับ!」
กัปตันสั่งทหารให้กระจายไปหลายๆที่ ทหารป้องกันกำแพงเมินเรา
แต่ถึงอย่างไร เสน่ห์และความสามารถของเอลดิโอนั้นค่อนข้างดี ทหารได้มองเราเหมือนมองตุ๊กตาไม้
เมื่อเราเข้ามาในเมืองและชาวเมืองได้สังเกตว่าเราไม่ใช่ทหารธรรมดา พวกเขากรีดร้องและซ่อนในบ้าน
แต่ เอลดิโอได้คุ่ยกับชาวเมือง ทำให้พวกเขาสับสนและกลัว ว่านี่เป็นการพูดของทหารรับจ้างหรือราชวงศ์
「พระองค์ครับ มันดูเหมือนชาวเมืองค่อนข้างกลัว」
「มันดีที่ชาวเมื่องกลัว อย่างไรก็ตาม ถ้าเจ้ากำจัดนายกรัฐมนตรีและพี่ชายของฉัน อาณาจักรจะถูกช่วยเหลือ」
「พูดถึงแล้ว หน่วยที่ 3 จะไปที่นายกรัฐมนตรีและทีอยู่อาศัยส่วนตัวของเจ้าชายผู้สืบทอด หน่วยที่ 2 จะมุ่งหน้าไปที่วังราชวงศ์แบบนี้」
「สำหรับตอนนี้ ทหารทุกคนนั้นเป็นศัตรูกับเรา พี่ชายและนายกรัฐมนตรีมีทหารส่วนตัวด้วยเช่นกัน」
「ผมคาดการณ์ว่าวังราชวงศจะมีองครักษ์อาณาจักรประมาน 500 คน」
「ใช่ วังราชวงศ์เคยมี ยามวัง 200 คน และ อัศวินอาณาจักร 300 คน พวกเขาทำงานมาเป็นชั่วอายุคน แต่พวกเขาจะไม่เพิ่มอย่างง่ายๆ」
「พวกเรามีประมาณ 1,000 คนโดยไม่มีหน่วยที่ 3 เราสู้ได้อย่างสูสีถ้าเราทำการโจมตีโดยไม่ทันตั้งตัว」
「อุมุ นอกจากนี้ ฉันไม่อยากจะทำลายองครักษ์อาณาจักร ฉันแค่อยากได้ 2 หัวของพวกเขา…… แต่องครักษ์อาณาจักรได้เป็นผู้คุ้มกันมาเป็นชั่วอายุคน ดังนั้น พวกเขาอาจจะคลั่งราชวงศ์」
「ไม่ว่ายังไง วังราชวงศ์เป็นที่ที่มีปัญหาเยอะ ก่อนอื่น เราต้องทำลายกำแพงด้านนอกเพื่อเข้าไปอย่างรวดเร็ว」
สายตาได้มารวมกันที่ผม
มันช่วยไม่ได้ เพราะทั้งหมด ผมเป็นกัปตันของหน่วยจู่โจม
「ชั้นจะกลับไปที่หน่วยชั้น เมื่อการเตรียมการได้เสร็จ ชั้นจะให้ข้อมูลนาย」
「เอเกอร์ จำไว้นะ ชั้นหวังพึ่งนาย」
ผมกลับไปที่หน่วยของผมหลังจากที่คำนับเอลดิโอ ผมประกาศให้สมาชิกของเราว่าเราจะไปโจมตีวังราชวงศ์
「จริงเหรอ?!」 「เราจะสู้กับองครักษ์อาณาจักร……」
「มันอะไรล่ะ? โกลเดนเนียไม่ได้มีสงครามมา 30 ปีแล้ว เราไม่จำเป็นต้องกลัวองครักษณ์อาณาจักรที่เต็มไปด้วยนายน้อยบอคชามะ*」
«TLN:นายน้อย»
มีหนุ่มน้อยได้ดุสมาชิกปาร์ตีี้ของเรา ที่ได้ส่งเสียงเกี่ยวกับการต่อสู้
「เราคือสัตว์ประหลาดที่ได้ฆ่าออร์ค เมื่อพวกเค้าเห็นเรา เค้าจะแค่เยี่ยวรดกางเกงและวิ่งไปหานมแม่! ใช่ป่ะ กัปตัน」
ถ้ามันแค่ก็อบลิน ผมจะแค่กำจัดมันง่ายๆ
「ชั้นมีความมั่นใจ ถ้ามันเกี่ยวกับวิชาดาบ ชั้นอยากจะตรวจดูว่าเค้าแข็งแกร่งแค่ไหน ด้วยการต่อสู้นี้」
คาร์ลผู้ที่มาจากครอบครัวที่ยากจนในโกลเดนเนีย เขาเป็นคนที่เสียการควบคุมตัวเองได้อย่างง่าย แต่เขาค่อนข้างมีทักษะดาบ ดังนั้นเขาได้ถูกแต่งตั้งมาในหน่วยจู่โจม
ดังเดิมแล้ว ทักษะนั้นได้ถูกตีค่าสูงในทหารรับจ้าง
มากกว่านั้น คนที่มีความมั่นใจในทักษะของเขา ได้มารวมกันอยู่ในหน่วยโจโจม ไม่นาน คนที่อยากจะทดสอบความกล้าหาญกับอัศวินบอคจังได้เริ่มตะโกนอย่างดัง
ในหมู่เสียงนั้น มีซีเลียที่ตามอย่างไม่มีเงื่อนไขมาตลอด และมาร์คที่อยากจะทดสอบความแข็งแกร่งของเรา
เมื่อเราออกมาจากถนนเมืองและมาที่พลาซ่าของวังราชวงศ์ มีองครักษ์อาณาจักรออยู่
พวกเขาจำนวนประมาณ 300 คน พวกเขาทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของอัศวินองครักษ์อาณาจักร
「ฉันกลัวว่ามันเป็นไปได้ที่นายกรัฐมนตรีได้เตรีมพร้อมสำหรับเรา บางที เขาอาจจะคาดว่านี่จะเกิดขึ้นเมื่อพ่อฉันได้เสียไป」
เอลดิโอพึมพำ ‘สัญญาชาติญานของไอแก่นั่นตลอดเลยที่มัน…’
ไม่ว่าอย่างไร นี่เป็นการโจมตีที่ไม่ทันตั้งตัวที่ตั้งตัวแล้ว
หลังจากนี้ ผมไม่มีทางเลือกนอกจากฉีกรูในการป้องกันของพวกเขา
แม้เอลดิโอจะนำเราอย่างถูกกฎหมาย องครักษณ์อาณาจักรดูพร้อมสำหรับการรบ พวกเขาไม่ฟังคำสั่งของเอลดิโอ
แน่นอนว่า พวกเขาจะเป็นอย่างนั้น เจ้านายของพวกเขา เจ้าชายผู้สืบทอด สั่งการให้พวกเขาทำแบบนี้ เราจะรู้เมื่อพวกเราเห็นเจ้าชายผู้สืบทอดว่าเขาเป็นตัวปลอมจริงๆมั้ย
「อย่าพูดอะไรโง่ๆน่า! เจ้าชายผู้สืบทอดและนายกรัฐมนตรีพูดว่าพระองค์เอลดิโอเป็นคนทรยศ และสมควรต้องถูกจับ หลักฐานคือเค้านำคณะทหารรับจ้าง ดังนั้นนายไม่จำเป็นต้องกลัวอะไรเลย!」
เมื่อกัปตันพูดเสร็จ เอลดิโอถอยไปด้านหลัง และมอบการนำทัพให้กับอีไลจากนี้ไป
และตอนนี้ได้เริ่มการต่อสู้
「หน่วยนักธนู!」
องครักษ์อาณาจักรไม่มีหน่วยนักธนู
ตั้งแต่ทีแรก หน้าที่ของผู้คุ้มกันวังราชวงศ์เป็นเกียรติ และสมาชิกทุกคนคือขุนนาง พวกเขาถือว่าธนูเป็นอาวุธของคนที่ชาติกำเนิดต่ำ
แต่ สิ่งที่สวยงามก็คือ มันไม่มีความเชื่อแบบนั้นในสงคราม
เมื่อชาติกำเนิดต่ำนี้ได้ยิงคุณ คุณจะตาย
「ยิง!」
มีลูกธนู 100 ลูกตกเป็นห่าฝนลงบนองครักษ์อาณาจักร พวกเขาป้องกันมันง่ายๆด้วยเกราะหน้าและโล่ แต่บางคนก็ยังตายเพราะโชคร้าย
พวกเขาไม่รอการยิงของเราจบ แทนที่จะอย่างนั้น พวกเขาได้เริ่มรีบเข้ามาหากองกำลังของเรา
งั้น จากตอนนี้ไป นี่เป็นหน้าที่ของเรา
「สมาชิกทุกคน บุก! เจาะทะลวงการป้องกันของพวกเค้า แล้วเข้าไปข้างในวังราชวงศ์ หลังจากนั้น ฆ่าทุกคนที่อยู่ในสายตา!」
หน่วยจู่โจม รวมถึงผมด้วย ไม่รู้จักหน้าของเจ้าชายผู้สืบทอดและนายกรัฐมนตรี
ดังนั้น เราจำเป็นต้องฆ่าทุกคน
เอลดิโอยังพูดด้วยว่ามันจะเป็นการง่ายกว่า ถ้าพวกเขาฆ่าคนเลือดร้อนบางคนที่ต่อต้านเจ้าชาย ในการกระทำอย่างนั้น
อย่างไรก็ตามเราไม่ได้ถูกสั่งให้ฆ่านางผู้ดูแลภรรยาน้อย และผู้ติดตามหญิงของพวกเธอ
เรา ทหารม้าหนักและทหารม้าเบา เร่งไปที่พลาซ่าระหว่างตะโกน
เรามีความได้เปรียบทางจำนวน แต่ไม่ใช่อุปกรณ์ ถ้าเราละเลยสิ่งนั้น เราแค่ต้องเทียบทักษะของเราด้วยดาบ
ไม่ต้องพูดถึงสถานการณ์ แต่ละคนของพวกเราสู้ระหว่างที่เคลื่อนไหวบนหลังม้า
ผมยกหอกขึ้นคิดว่านี่จะเป็นการต่อสู้ที่ยาวนาน
ตามมาเป็นเพื่อนโดยซีเลียและมาร์ค ทั้งหน่วยของเราพุ่งเข้าไป
นี่ควรจะง่าย การต่อสู้ครั้งสุดท้ายในอาร์คแลนด์นั้น ผมไม่มีคู่หูเพื่อติดตามผม
ตอนนี้ ผมมีพวกอยู่ข้างหลังผม และคู่หูข้างผม ถ้าศัตรูอยู่แค่ข้างหน้าผม นี่ควรจะง่าย
—————————————————————
ชื่อ│:│ เอเกอร์
—————————————————————
อาชีพ│:│ ปีกแห่งรุ่งอรุณ; กัปตันของกองทหารจู่โจม; เงินเดือน 8 เหรียญทอง
—————————————————————
เงิน│:│ 80 เหรียญทอง (เงินและต่ำลงมาไม่นับ) (เงินได้ถูกหักสำหรับค่าเดินทางโดยไม่ได้ถูกพูดถึงในเรื่อง การประมาณการแบบหยาบ)
—————————————————————
อาวุธ│:│ แอ่งคู่ (ดาบยาว), บัลดิชใหญ่ (หอก)
—————————————————————
ชุดเกราะ│:│ หมวกเหล็ก, เกราะโซ่, รองเท้าเหล็ก, ผ้าคลุมสีดำ(ต้องสาป)
—————————————————————
พวกพ้อง│:│ ชวาร์ซ (ม้า), ซีเลีย (ผู้ติดตาม), มาร์ค (กล้ามโต)
—————————————————————
พวกพ้องที่รออยู่ที่โรงแรม│:│ นนน่า อีเล็คตร้า, เมลิสซ่า, มาเรีย, คาร์ล่า (บ้ากาม)
—————————————————————
จำนวนคู่นอน│:│ 28
—————————————————————
เวอร์ชั่นไม่เซ็นเซอร์อ่านได้ที่ tunwalai หรือ readAwrite
สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่
067-3-63958-5
กสิกรไทย
แปลโดย: wayuwayu
ติดตามได้ที่ดิสคอทส่งข้อความมาขอได้ที่ facebook: “wayuwayu แปล”
pdfไว้อ่านตอนกลางคืน สปอนเซอร์ตอน จองตอน หารได้ ได้ทั้ง facebook และ discord