บทที่ 22 ผู้อาวุโสเทียนเหยียน (ต้น)

ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา

บทที่ 22 ผู้อาวุโสเทียนเหยียน (ต้น)

บทที่ 22 ผู้อาวุโสเทียนเหยียน (ต้น)

ลู่หยวนเตะหน้าหมัวเทียนจนกระเด็นลอยออกไป ก่อนจะใช้จิตเทวะตรวจสอบตำแหน่งของเหยียนโจว และใช้มือกดลงบนอักขระด้านบนชิ้นหยก ทำให้เศษเสี้ยวดวงวิญญาณของเหยียนโจวถูกดึงออกมา

เหยียนโจวไร้กำลังจะต่อต้านคุณชายแห่งตำหนักธารสุญญะ แม้แต่ร่างวิญญาณทั้งหมดของผู้เฒ่ายังโปร่งใสจนแทบจะมองทะลุ คล้ายกับมันพร้อมจะแหลกสลายในทุกเมื่อ

หมัวเทียนนอนอยู่บนพื้นด้วยสภาพน่าเวทนา ดวงตาคู่นั้นยังจับจ้องศัตรูคู่อาฆาตพร้อมแค่นเสียงตะโกน “ลู่หยวน เจ้าคิดจะทำอะไร? ปล่อยอาจารย์ข้า!!”

“ทำอะไรงั้นหรือ?”

ลู่หยวนยกยิ้มอย่างเย็นชา เขาจุดเปลวไฟขึ้นที่นิ้ว แล้วเผาผลาญวิญญาณของเหยียนโจว!

ภายใต้เปลวเพลิงมรณะนี้ วิญญาณของเหยียนโจวอ่อนแอลงยิ่งนัก “ผู้ไม่ยอมจำนนต่อข้าผู้นี้ จะต้องตายเท่านั้น!”

ทันใดนั้น เปลวเพลิงที่มอดไหม้ได้ห่อหุ้มดวงวิญญาณของยอดฝีมือเฒ่าไว้โดยสมบูรณ์

จนมีเสียงโหยหวนเจ็บปวดเล็ดลอดออกมา

“อย่า!”

“หยุดมือเดี๋ยวนี้!”

หมัวเทียนตะโกนอย่างสิ้นหวัง แต่เปลวไฟกลับไม่ลดกำลังลงเลยแม้แต่น้อย

ภายในไม่กี่อึดใจ เมื่อเปลวไฟดับลง วิญญาณของเหยียนโจวก็กลายเป็นควันสีดำสลายไปในอากาศ

หมัวเทียนมองภาพตรงหน้าอย่างโง่เขลา ทุกคนตกอยู่ในสภาวะเงียบงัน

หยาดน้ำตาไหลรินออกจากดวงตาของบุตรแห่งโชคชะตา ความสำนึกผิดเกาะกุมหัวใจแน่นหนา

ข้าเป็นคนสังหารอาจารย์ หากข้าไม่ยืนกรานเพื่อจะสังหารลู่หยวนที่นี่ อาจารย์คงจะพาข้าออกไปด้วยยันต์เคลื่อนย้ายพริบตาแล้ว

ทั้งหมดคือความผิดข้าเอง เพราะข้าคนเดียว!

หากไม่มีอาจารย์… ข้าก็ไร้ที่ยืนในโลกใบนี้

ระบบแจ้งเตือนว่า [บุตรแห่งโชคชะตาหมัวเทียนรู้สึกทุกข์ทรมาน และค่าชะตาของเขาลดลง 1,500 แต้ม! ค่าชะตาปัจจุบันของเขาคือ 0 แต้ม!]

[ค่าชะตาวายร้ายของท่านเพิ่มขึ้น 3,000 แต้ม! ค่าชะตาวายร้ายปัจจุบันคือ 3,000 แต้ม!]

ลู่หยวนยกยิ้ม ในที่สุดเขาก็ได้รับโชคชะตาจากเด็กคนนี้ และขั้นตอนต่อไป… คือการส่งเจ้าพระเอกนี่ตายตามอาจารย์ของเขาไป!!

ชายหนุ่มดึงกระบี่ออกมา แล้วฟาดฟันหมัวเทียนโดยไม่ลังเล

ปราณกระบี่อันน่าสะพรึงถูกปลดปล่อยออกมา จนเกิดลมกระโชกรุนแรงกวาดล้างทุกสิ่ง มันพร้อมจะคร่าชีวิตของบุตรแห่งโชคชะตา

พึ่บ!

พริบตานั้น ปราณกระบี่ชะงักค้าง เมื่อร่างหนึ่งปรากฏขึ้นตรงหน้าของหมัวเทียน

ลมหายใจเดียวกันนั้น มีใครบางคนพุ่งทะยานเข้ามาหยุดด้านข้างลู่หยวนด้วยเช่นกัน เป็นบริวารที่คอยคุ้มกันเขาอยู่ด้านหลังอย่างเฉาหง

เฉาหงชักกระบี่ออกมาพร้อมกับจับจ้องร่างตรงหน้า โดยไม่ลืมที่จะปลดปล่อยจิตสังหาร

เสียงที่ดูเหมือนจะแหบแห้งราวกับเงียบงันมานานหลายพันปีดังออกมาจากร่างปริศนา “ยกโทษให้เขาเถิดพ่อหนุ่ม เหตุใดจึงต้องสังหารพวกเขาให้สิ้นซาก?”

ลู่หยวนเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าบุคคลผู้นี้คือตู้เหิง

ไม่ …ไม่ใช่!

บุคคลที่คอยปกป้องหมัวเทียนคือตู้เหิง แต่กลิ่นอายที่เล็ดลอดออกจากร่างกายนั้นไม่ใช่ของประมุขตู้แน่นอน!

ลู่หยวนเหลือบมองกระบี่รุ้งครามไม่ไกล กลิ่นอายของมันเจือจาง และยังมีเจตจำนงกระบี่แอบแฝง

เป็นไปตามที่คิดไว้ไม่มีผิด… จะมีตัวเป้งปรากฏตัวขึ้นทีละคนเพื่อช่วยพระเอก!

ชายหนุ่มชี้ไปที่กระบี่รุ้งครามแล้วถามว่า “เจ้าเป็นเพียงเสี้ยวจิตวิญญาณในกระบี่ที่เหลืออยู่ของกระบี่รุ้งครามสินะ แล้วเจ้าเป็นใครกัน?”

ร่างตู้เหิงลูบเคราของเขาพร้อมยกยิ้มอ่อน “เจ้าหนุ่ม สายตาของเจ้าเฉียบคมไม่น้อย ข้าคือจิตวิญญาณในกระบี่ที่สถิตอยู่ในกระบี่รุ้งครามจริง ๆ มีชีวิตยาวนานหลายหมื่นปี แต่ข้าก็จดจำชื่อตัวเองได้ไม่ชัดเจนนัก ยังไงเสียถ้าให้ลองคิดดู น่าจะชื่อว่าเทียนเหยียนกระมัง?”

“เทียนเหยียน?”

ลู่หยวนพยายามค้นหาในความทรงจำเก่าของเจ้าของร่าง แต่กลับไม่พบอะไรเกี่ยวกับบุคคลนี้เลย

เฉาหงชะงักไปชั่วครู่ เขากล่าวกระซิบกับชายหนุ่ม “คุณชาย บุคคลผู้นี้คือผู้ก่อตั้งสำนักฟ้าประทาน เป็นชายผู้แข็งแกร่งเมื่อหลายหมื่นปีก่อน และเขาได้รับขนานนามว่าเทียนเหยียน หนึ่งกระบี่สังหารแห่งแดนเหนือ!”

“โอ้… เป็นผู้อาวุโสเทียนเหยียน ข้าผิดไปแล้ว”

คุณชายแห่งตำหนักธารสุญญะกล่าวอย่างสุภาพ แต่ก็ไม่ได้แสดงถึงความเคารพใด เขาเดินตรงเข้าไปหาพร้อมกล่าวอย่างเคร่งขรึม “ผู้อาวุโสเทียนเหยียนปรากฏตัวขึ้นคราวนี้เพื่อช่วยชีวิตหมัวเทียนหรือ?”

คู่สนทนาพยักหน้ารับ “ข้าเป็นเพียงจิตวิญญาณในกระบี่ที่เหลืออยู่ และสามารถสูญสลายไปได้ทุกเมื่อเพราะสำนักฟ้าประทานได้เข้าสู่จุดล่มสลายแล้ว หากไม่มีผู้สืบทอดเจตจำนงของกระบี่เล่มนี้ต่อไป ตัวข้าและสำนักฟ้าประทานแห่งนี้ก็จะถูกทำลายลงในไม่ช้า”

คุณชายตำหนักธารสุญญะหันศีรษะไปมอง และเห็นว่าเจ้าหมัวเทียนที่ยืนอยู่ด้านหลังร่างจำแลงของผู้อาวุโสเทียนเหยียน กำลังฟื้นฟูสภาพร่างกาย จนฟื้นคืนจากสภาพอ่อนแอก่อนหน้านี้แล้ว

เขาเป็นบุตรแห่งโชคชะตาที่ไม่อาจถูกทุบตีจนตายได้ บุคคลอย่างหมัวเทียนสามารถกลายร่างเป็นมังกรได้อีกครั้งหากได้รับน้ำ ถ้าหากว่าปล่อยเขาไปวันนี้ ชีวิตของลู่หยวนในอนาคตจะต้องพบเจอความยากลำบาก

“ในเมื่อท่านคิดมอบเจตจำนงกระบี่นั้นให้กับหมัวเทียน เหตุใดจึงไม่ปรากฏตัวให้เร็วกว่านี้เพื่อหยุดยั้งข้า ทำไมต้องรอจนกระทั่งลมหายใจสุดท้ายเล่า?”

ผู้อาวุโสเทียนเหยียนยิ้มแล้วตอบว่า “เจ้าหนุ่ม คำถามของเจ้านับว่าน่าสนใจแล้ว แน่นอนว่าข้าคิดจะปรากฏตัวในลมหายใจสุดท้าย หากเจ้าไม่สังหารอาจารย์ของเขา ข้าก็ไม่อาจปรากฏตัวได้”

“เจ้าเองก็ควรจะรู้สึกได้ เด็กน้อยเอ๋ย วิญญาณที่เหลืออยู่เมื่อครู่นั้นเป็นของยอดฝีมือเฒ่าเมื่อหลายแสนปีก่อน และภูมิปัญญาของเขานั้นอยู่เหนือกว่าข้าเสียอีก หากเศษเสี้ยววิญญาณที่เหลือยังไม่สูญสลาย หมัวเทียนจะได้รับการฝึกฝนและสั่งสอนจนกลายเป็นตัวตนที่เหนือกว่าผู้ใดในโลกหล้า เวลานั้นเจตจำนงแห่งกระบี่ของข้าจะเป็นเพียงของประดับบนชั้นวางสำหรับหมัวเทียน มีหรือไม่มีก็ไม่แตกต่าง หากเป็นเช่นนั้น ข้าจะสืบทอดเจตจำนงกระบี่ต่อไปอย่างไรกัน?”

ผู้อาวุโสเทียนเหยียนหันศีรษะมองความหวังของสำนักฟ้าประทาน “เจ้าหนุ่ม เจ้าเต็มใจที่จะสืบทอดเจตจำนงแห่งข้าหรือไม่?”

หมัวเทียนพยักหน้า “ขอรับ คารวะท่านอาจารย์!”

หึ… นี่น่ะหรือที่ถูกเรียกขานว่าบุตรแห่งโชคชะตา?

อาจารย์คนเก่าเพิ่งตายตก และตอนนี้มีอาจารย์อีกคนโผล่ศีรษะออกมา เขาก็รีบกอดต้นขาอีกฝ่ายไว้แน่น…

เวลานี้ลู่หยวนเริ่มอารมณ์เสียแล้ว เขาเปิดใช้งานจารึกสวรรค์และพยายามปิดปากหมัวเทียน!

ชายหนุ่มเดาะลิ้นอย่างไม่สบอารมณ์ ดูเหมือนว่าผู้อาวุโสเทียนเหยียนจะรอคอยวันนี้อยู่แล้ว

เขาไม่ต้องการให้หมัวเทียนสืบทอดเจตจำนงกระบี่นั้น! แต่หลังจากมองดูสำนักฟ้าประทานตรงหน้า หลายปีผ่านมา หมัวเทียนคือผู้มีพรสวรรค์ที่สุด

แต่วันนี้หมัวเทียนสูญเสียการสนับสนุนที่แข็งแกร่งอย่างเหยียนโจว และแม้ว่าเขาจะมีโชคชะตาที่สวรรค์ประทานให้ แต่เขาก็ยังสูญเสียทิศทางจะเดินไป เวลานี้เมื่อผู้อาวุโสเทียนเหยียนออกมาให้คำแนะนำแล้ว การตกลงเป็นผู้สืบทอดเจตจำนงกระบี่นี้จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด!

หลังจากหมัวเทียนเติบโตขึ้น เขาจะใช้ชื่อของผู้สืบทอดสำนักฟ้าประทานเพื่อท่องไปในแผ่นดินหยวนหง เวลานั้นสำนักฟ้าประทานจะถูกเชิดชูให้เป็นกองกำลังอันดับต้น ๆ และชื่อเสียงของผู้เป็นอาจารย์ก็จะหวนคืนในแผ่นดินใหญ่

“เจ้าหนุ่ม ปล่อยเขาไป ไว้หน้าตัวเองบ้างจะดีกว่า”

ลู่หยวนไม่เห็นด้วย เขาหลุบสายตาลงต่ำพลางครุ่นคิด ก่อนจะนึกแผนการบางอย่างได้ เขาหยิบกระบี่หักของตนขึ้นมา และตบบ่าของเฉาหงเบา ๆ เพื่อคลายความกังวลให้บริวาร

“ผู้อาวุโส” ลู่หยวนกล่าวคำอย่างสุภาพ “หมัวเทียนผู้นี้มีโชคชะตาที่สวรรค์ประทานให้ ซึ่งมันคือหยาง และด้วยกระบี่รุ้งครามของผู้อาวุโสนั้นเป็นหยิน หากเลือกหมัวเทียนเป็นผู้สืบทอด เขาจะไม่สามารถดึงความแข็งแกร่งของเจตจำนงกระบี่มาใช้ได้เต็มที่”