ซูมู่เกอก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าว “ข้ามีไปตรวจเยี่ยมคนไข้คนอื่นอีก โปรดรอที่นี่เถิด ท่านใต้เท้าเซี่ย”

“ท่านไม่สามารถช่วยอะไรได้!” นางรำพึงออกมา

เซี่ยโฮวโม่ไม่ปฏิเสธในครั้งนี้ “ก็ดี”

หลังจากกำจัด “หาง” ที่เป็นปัญหานี้แล้ว ซูมู่เกอพรูลมหายใจออกมาเป็นเวลานานและเดินไปที่หอผู้ป่วยต่างๆพร้อมชุดอุปกรณ์การแพทย์

จ้องมองร่างของนางที่กำลังถอยห่างไป มีความเย็นชาเล็กน้อยในดวงตาของเซี่ยโฮวโม่ “โจวเหว่ย”

โจวเหว่ยเข้ามาจากด้านนอกเมื่อนายท่านของเขาเรียกหา

“ขอรับ ใต้เท้า”

“กุยหม่าหายไปไหน?”

“หมอกุยได้ออกจากค่ายหยานเซี่ยไปแล้วขอรับ และน่าจะเดินทางไปยังดินแดนพวกตะวันตก”

เซี่ยโฮวโม่เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย “เขาไปยังดินแดนพวกตะวันตก?”

“ขอรับ”

“อืม ปล่อยเขาไป”

“ใต้เท้า ที่ท่านกำลังมองหาหมอกุยเพราะรู้สึกไม่สบายหรือไม่ขอรับ? อย่างไรเสียส่งข้อความและเรียกให้เขากลับมาไหมขอรับ?”

เซี่ยโฮวโม่ส่ายหัว “ไม่ ไปหาหมอที่เชี่ยวชาญมาให้ได้ก่อนเย็นวันพรุ่งนี้”

“ขอรับ”

ซูมู่เกอเข้าไปในห้องพักผู้ป่วยและเริ่มตรวจเพิ่มเติมและบอกวิธีการรักษา การดูแลกับผู้ป่วยแต่ละราย ถามพวกเขาเกี่ยวกับปฏิกิริยาของพวกเขาหลังจากรับประทานยา

เมื่อนางมาถึงเด็กหญิงตัวเล็กๆ ที่นอนอยู่ที่มุมห้อง ซูมู่เกอขมวดคิ้ว

“ขอบันทึกทางการแพทย์ให้ข้าด้วย” นางได้จดบันทึกสถานการณ์ของทุกคนเมื่อนางไปตรวจเยี่ยมผู้ป่วยทุกคนเมื่อวานนี้

วันนี้ ที่ปรึกษาหลี่ขอให้ผู้ช่วยแพทย์รุ่นใหม่หลายคนมาช่วยนาง และทุก ๆ สามคนได้รับการจัดสรรให้ดูแลผู้ป่วยในหนึ่งห้อง

ผู้ช่วยแพทย์อายุราวๆสิบสองปี หรือสิบสามปีไปเอาเวชระเบียนที่แขวนไว้ตรงผนังห้อง และส่งมอบให้ซูมู่เกอตามคำขอของนาง

ซูมู่เกอดูบันทึกเกี่ยวกับอาการของเด็กหญิงตัวเล็กๆคนนั้นในเวชระเบียน เมื่อนางตรวจสอบอาการเมื่อวานนี้ เด็กหญิงตัวเล็กอ่อนแอและเบื่ออาหาร ตอนนั้นเด็กหญิงตัวเล็กไม่มีไข้และชีพจรปกติ

“มีอะไรผิดปกติกับเด็กหลังจากทานยาเมื่อวานนี้หรือไม่?”

ผู้ช่วยแพทย์หนุ่มคนหนึ่งส่ายหน้า “เนื่องจากน้องสาวยังเด็กมาก ข้าดูแลนางเป็นพิเศษในบางเวลาข้าเข้ามาดูนางอีก นางหลับไปหลังจากทานยาและทานโจ๊ก ตอนนั้นไม่มีอะไรผิดปกติขอรับ”

ซูมู่เกอตรวจสอบสาวน้อยอีกครั้งและพบว่ามีอาการคล้ายๆกับเด็กชายที่เป็นไข้

“ถ่ายทอดคำพูดของข้าไป และเตรียมห้องว่างเพิ่มเติม ทำความสะอาดด้วยน้ำส้มสายชูต้มน้ำเดือดเพื่อฆ่าเชื้อโรค แล้วห้ามไม่ให้คนอื่นเข้ามาในห้อง”

ผู้ช่วยแพทย์หนุ่มเกาหัวด้วยความสับสน “ใต้เท้าซู เรามีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นหรือ?”

ซูมู่เกอส่ายหัวและอธิบายว่า “ในกรณีนี้มันจำเป็น ลงมือทำมันตอนนี้เลย”

“ขอรับ”

ซูมู่เกอจึงขอให้ผู้ช่วยแพทย์อีกสองคนช่วยพาเด็กหญิงไปยังห้องว่างอีกห้องหนึ่ง

นางไปตรวจคนไข้คนอื่น ๆ อีก และหลังจากไม่พบความผิดปกติ นางจึงออกจากห้องผู้ป่วยมา

พระอาทิตย์กำลังตกดินเมื่อในที่สุดนางก็ออกมา

“ใต้เท้าซู ห้องว่างตามความต้องการท่านพร้อมหมดแล้วขอรับ”

ซูมู่เกอพยักหน้า “ดี พาเด็กหญิงตัวเล็กคนนั้น เข้าไปและคืนนี้ดูแลนางเป็นพิเศษด้วย หากมีอะไรผิดปกติให้รีบมาเรียกข้าที่บ้านพักหย่าเหมินโดยเร็วที่สุด”

“แน่นอนขอรับ ใต้เท้า ข้ารับทราบ”

จนกระทั่งซูมู่เกอเดินออกจากประตูโดยมีชุดเครื่องมือแพทย์อยู่ด้านหลังนางก็ตระหนักถึงสิ่งที่น่าอึดอัดใจ เงยหน้าขึ้น นางเห็นเซี่ยโฮวโม่ยืนอยู่ข้างรถม้า และหยุดชั่วขณะ

“ใต้เท้าเซี่ย…” นางอยู่ในหอผู้ป่วยนานจนลืมผู้ชายคนนี้ไปเสียสนิท คาดไม่ถึงว่าเขายังอยู่ที่นั่น!

ใบหน้าของเซี่ยโฮวโม่ดูเฉยเมยและไม่สามารถรับรู้อารมณ์ของเขาได้ เขากล่าวว่า “ท่านใต้เท้าซู ท่านทำงานเสร็จแล้วหรือ?”

“ขอรับใต้เท้า ขออภัยที่ทำให้ท่านต้องรอนาน”

“ไปกันเถอะ” เซี่ยโฮวโม่หันกลับไปและขึ้นรถม้า แม้ว่าจะรู้สึกไม่เต็มใจ ซูมู่เกอก็ตามเขาไปเนื่องจากนางไม่ต้องการเดินกลับไปที่ที่พักหย่าเหมิน

รถม้าแล่นไปข้างหน้าบนถนน

ในพื้นที่ปิด ซูมู่เกอรู้สึกง่วงงุนกับบรรยากาศอันเงียบสงบ ต่อสู้กับเปลือกตาที่จะปิดของนาง ในขณะที่กลิ่นรอบจมูกของนางยังคงบอกนางว่า นางต้องตื่นให้ได้!

เมื่อพวกเขามาถึงจวนหย่าเหมิน ตาของนางเป็นสีแดงด้วยความเหนื่อยล้าและง่วงนอน

เซี่ยโฮวโม่ลงจากรถม้าก่อน ตามมาด้วยซูมู่เกอ อย่างไรก็ตามด้วยชุดแพทย์ในมือของนาง นางสะดุดและรู้สึกเจ็บที่เข่าอย่างกะทันหัน นางงอเข่าโดยไม่รู้ตัว ตกลงสู่พื้น

โอ้ย ไม่นะ!

อีกแล้วเหรอ!

เวลานี้ อย่างไรก็ตาม คราวนี้ซูมู่เกอตอบสนองอย่างรวดเร็ว นางสามารถทรงร่างกายของนางไว้ได้ตราบเท่าที่นางเอื้อมมือไปที่ขอบของรถม้า

แต่มีคนเร็วกว่า เซี่ยโฮวโม่เอื้อมมือจับนางไว้และดึงนางเข้าสู่อ้อมแขนของเขา

“อุ๊ย!”

ด้วยความประหลาดใจ ซูมู่เกอไม่ได้รู้สึกผิดอะไรก่อนที่นางจะพบสมดุลของนาง

นางก้มศีรษะลงและเห็นมือใหญ่ แต่เรียวบนหน้าอกของนาง นางพลิกตัวในอ้อมแขนของเขาและดิ้นรน

“ปล่อยข้า!”

เซี่ยโฮวโม่ปล่อยมือออกช้าๆ

ซูมู่เกอจ้องมองเขาด้วยอาการอ้าปากค้างจากอุบัติเหตุนี้

“นี่เป็นครั้งที่สอง อืม ดูเหมือนว่าท่านใต้เท้าซู ขาของท่านสั้นเกินไปจริงๆ” ดูเหมือนจะมีประกายหยอกล้อในดวงตาสีดำเข้มที่ลึกล้ำนั้น

ซูมู่เกอกัดฟันด้วยความโกรธ ซูมู่เกอสาบานกับตัวเองในใจว่า “ขอให้ท่านเป็นคนที่มีขาขึ้นมาก!” ครอบครัวของท่านทุกคนมีขาสั้น!”

“ใต้เท้าเซี่ย ข้าขอโทษที่ทำให้ท่านลำบาก! ข้าขอลา” ซูมู่เกอหยิบอุปกรณ์การแพทย์ของเธอไว้ในมือและเดินเข้าไปในเขตบ้านพัก ผ่านเซี่ยโฮวโม่ ที่ปรึกษาหลี่ที่เพิ่งออกมาและเข้าไม่รู้เรื่องเสียหน้าของนาง

“ใต้เท้าเซี่ย….ใต้เท้าซู เขา….”

มองลงไปที่มือของเขา มีรอยยิ้มจางๆเกิดขึ้นบนใบหน้าของเซี่ยโฮวโม่

“ไม่มีอะไร” หลังจากนั้นเขาก็เดินผ่านหน้าที่ปรึกษาหลี่และเดินเข้าสู่เขตบ้านพักเช่นกัน

ที่ปรึกษาหลี่ยืนนิ่งพร้อมกับคำถามนับพันในใจของเขา ทำไมมีบรรยากาศแปลกๆ ระหว่างใต้เท้าทั้งสอง?

“ปัง!” ซูมู่เกอปิดประตูตามหลังนางอย่างแรงหลังจากที่นางกลับมาที่ห้องและนั่งลงบนเก้าอี้ ความโกรธในตัวนางไม่ได้หายไปจนกว่าจะถึงเวลาต่อมา

นางวางมือบนหน้าอกและสัมผัสมัน ด้วยการขาดสารอาหาร ดังนั้นลักษณะความเป็นหญิงของนางจึงไม่เติบโตดีมากขนาดนั้น นอกจากนี้นางยังยุ่งอยู่กับการจัดการกับสิ่งของต่างๆโดยแทบไม่ได้ใส่ใจกับอาหารและการพักผ่อนของนางเลย แม้ตอนนี้นางดูดีขึ้น นอกจากนี้ ยังมีเครื่องรัดตัวที่สวมอยู่บนตัวนางซึ่งทำให้รู้สึกแข็ง ไม่น่าจะมีข้อบกพร่องให้เขาจับได้

ชายคนนี้อันตรายเกินไป นางเริ่มสงสัยว่านางอันได้รับข่าวที่ส่งกลับไปที่คฤหาสน์ซูหรือยัง นางขอให้นางอันจัดคนเพื่อมาค้นหาซูหลุนอย่างลับๆ เมื่อนางออกมาจากคฤหาสน์

สิ่งสำคัญคือต้องทำให้ชัดเจนว่าซูหลุนถูกจับหรือถูกฆ่า อาจมีปัญหาหลายอย่างในภายหลัง แม้ว่านางจะแก้ไขปัญหาในตอนนี้ที่เขตโจวตราบจนที่ยังไม่พบตัวซูหลุน

หลังจากทานอาหารเย็นที่ยายฟางนำมาให้อย่างเร่งรีบ ซูมู่เกอนำตัวอย่างเลือดที่ได้จากเด็กทั้งสองคนในวันนี้ออกมา

ถ้ามีเพียงคนเดียวที่เป็นโรคนี้ก็คงจะดี แต่ตอนนี้มีสองคนแล้วและนางก็อดไม่ได้ที่จะให้ความสนใจมันเป็นพิเศษ

นอกเขตหย่าเหมินมีร่างสีดำสองร่างซ่อนตัวอยู่ในตรอกลึกตรงข้าม

หลังจากสังเกตอย่างลับๆมานาน พวกเขาจากไปอย่างรวดเร็ว ไปยังบ้านที่อยู่ห่างไกล

ในความมืด คนหนึ่งผลักประตูให้เปิดและเข้าไป ในขณะที่อีกฝ่ายเฝ้าดูสภาพแวดล้อมอย่างระมัดระวัง ก่อนจะปิดประตูตามหลังพวกเขา

“นายท่านกำลังกระตุ้นพวกเรา ท่านจะได้รับมันเมื่อไหร่?” เสียงแหบดังออกมาจากความมืด

“ข้าวางแผนที่จะดำเนินการก่อนที่ข้าจะมาถึงที่นี่เขตโจว แต่ดูเหมือนชายคนนั้นจะเป็นเชี่ยวชาญ ข้ากลัวที่จะกระตุ้นความสงสัยของเขาดังนั้นข้าจึงไม่ลงมือ”

เสียงแหบแห้งด้วยความเย็นชา “หลังจากผ่านมาหลายปีกับใต้เท้า ดูเหมือนท่านจะยังไม่ใจเลย! ท่านไม่รู้วิธีซ่อนสิ่งที่สำคัญเช่นนี้ไว้กับตัวเอง!”

“ถ้าข้ามีมันกับข้า ข้าไม่สามารถออกจากค่ายหยานเซี่ยได้”

“ข้าไม่สนใจเรื่องนั้น หากเจ้าไม่ได้อะไรเลยก่อนสิ้นเดือนนี้ เจ้าไม่ต้องกลับไป!”

ร่างในความมืดกัดฟันกรอด ตอนนี้มันเหลือเวลาแค่เพียงไม่กี่วันก่อนสิ้นเดือน!

“ข้าทราบ!”

…………….

“ดูซิ ใต้เท้าซู คนที่ใต้เท้าเซี่ยจัดเตรียมไว้ได้ยกตลิ่งด้วยทรายและหิน น้ำหยุดไหล!” ที่ปรึกษาหลี่ชี้ไปที่ริมฝั่งแม่น้ำไม่ไกลด้วยความตื่นเต้น

ที่ปรึกษาหลี่มาหานางเมื่อเช้านี้บอกว่าน้ำท่วมหยุดแล้ว และมันจะไม่มาถึงเขตโจวอีกต่อไป ตามความเร็วก่อนหน้าของน้ำท่วม เขตโจวทั้งหมดจะถูกน้ำท่วมหมดแล้วในตอนนี้!

ซูมู่เกอยังสงสัยว่าใต้เท้าเซี่ยจะหาคนที่มีประสิทธิภาพในการทำงานสูงขนาดนี้ได้ที่ไหน ดังนั้นนางจึงตามที่ปรึกษาหลี่ไปที่ริมฝั่งแม่น้ำเพื่อตรวจสอบ

“มานี่เร็ว ยกกระสอบทราบมาที่นี่ ยังมีช่องว่าอยู่ตรงนี้อีก!”

“เร็วเข้า!”

เมื่อมองไปที่ชายในเครื่องแบบที่ทำจากผ้าเนื้อหยางในดวงตาของซูมู่เกอก็มีแต่ความประหลาดใจ

คนเหล่านี้ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีและมีพลังพร้อมกับความแข็งแกร่ง เมื่อพวกเขาทำมัน พวกเขาไม่พูดอะไรซักคำ แต่แค่จดจ่อกับงานของตน

พวกเขาไม่ใช่คนที่จับพลัดจับพลูมาจากหมู่บ้านหนือเขตเมืองใกล้เคียงเลย แต่กลับดูเหมือนกลุ่มทหารที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี!

เบื้องหลังของใต้เท้าเซี่ยท่านนี้คืออะไรกันแน่? เขาสามารถหากองทัพที่แข็งแกร่งเพื่อแบกกระสอบทรายได้ในเวลาอันสั้น!

ฝนค่อยๆหยุดตกในสองวันนี้ ด้วยแนวโน้มนี้น้ำท่วมจะไม่เลวร้ายลงไปกว่านี้

“ที่ปรึกษาหลี่ ตำแหน่งทางการของใต้เท้าเซี่ยในราชสำนักของจักรพรรดิคืออะไร?” ซูมู่เกอถามระหว่างเดินทางกลับ

ที่ปรึกษาหลี่รู้สึกประหลาดใจที่ได้ยินคำถามเช่นนี้จากซูมู่เกอ เจ้าเมืองชุนหยางจะไม่รู้เรื่องนี้ได้อย่างไร?

สังเกตเห็นความประหลาดใจในดวงตาของเขา ซูมู่เกอไอเบาๆ และพูดว่า “ที่ปรึกษาหลี่ ท่านรู้ว่าข้ายุ่งอยู่กับงานบรรเทาอุทกภัยในสองสามวันมานี้ และข้าไม่ได้นำใครมาด้วยเพื่อช่วยเหลือ มันจึงเป็นเรื่องทียอมรับได้สำหรับข้าที่จะเพิกเฉยต่อบางสิ่ง”

ที่ปรึกษาหลี่เชื่อในคำอธิบายนี้และตอบนางว่า “ใต้เท้าเซี่ยดำรงตำแหน่งก่อนตำแหน่งอันดับหนึ่งในราชสำนัก และตราประทับอย่างเป็นทางการของเขานั้นไม่ธรรมดา”

ที่ปรึกษาหลี่ใช้ชีวิตครึ่งหนึ่งในเขตโจว และเขาได้ตำแหน่งนี้ในเขตหย่าเหมินโดยอาศัยความสัมพันธ์อันใกล้ชิด เขาไม่ได้มีการศึกษาในระดับดี แต่เขาก็รู้ดีเกี่ยวกับโลกและผู้คน ซึ่งเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้เขารักษาตำแหน่งนี้ได้จนถึงตอนนี้

มันไม่เคยมีมาถึงเขาเลยที่เขาได้ทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ของราชสำนักในช่วงชีวิตของเขา คงเป็นเรื่องน่ายินดีที่ต้องถ่ายทอดต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน!

“ก่อนการจัดอันดับแรก?”

ทันใดนั้น หัวใจของนางก็ขึ้นมาจุกที่ลำคอ

ที่จริงแล้ว ที่ปรึกษาหลี่ไม่ค่อยชดเจนเกี่ยวกับการจัดอันดับในระดับนั้น ซูมู่เกอรู้ นางให้เยว่รู่ช่วยรื้อฟื้นข้อมูลมากมายเกี่ยวกับราชวงศ์นี้เมื่อนางรู้ว่านางได้รับประสบการณ์ในการเดินทางข้ามเวลา

ตำแหน่งสูงสุดอย่างเป็นทางการของฉู่เป็นอันดับแรก นั้นเรียกว่า “ก่อนอันดับหนึ่ง” สามารถเป็นเพียงตำแหน่งขุนนางเท่านั้น องค์ชายแห่งราชวงศ์ หรือสถานะราชาผู้ครองแผ่นดินแห่งข้าราชบริพาร!

นั่นหมายความว่า “ใต้เท้าเซี่ย” คนนี้ก็คือองค์ชายแห่งราชวงศ์ หรือราชาแห่งข้ารับใช้ทั้งหลาย!

เดี๋ยนะ เซี่ย….ถ้านางจำไม่ผิด ชื่อสกุลของราชวงศ์ฉู่ มีตัวอักษรสองตัว….เซี่ยโฮว…ดังนั้นชื่อแรกของเขาคือเซี่ยโฮว แทนที่จะเป็นเซี่ย!

เยว่รู่เคยกล่าวไว้ว่าในค่ายหยานเซี่ย ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองชุนหยางหนึ่งร้อยไมล์ มีกษัตริย์ที่อยู่ยงคงกระพัน ราชาแห่งจิน เซี่ยโฮวโม่!

ด้วยท่าทางที่สง่าผ่าเผยนี้ “ใต้เท้าเซี่ย” คนนี้ รวมกับกองทัพที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีที่นางเพิ่งได้เห็น นางมั่นใจแล้วในตอนนี้ว่าใต้เท้าเซี่ยคนนี้ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากราชสำนัก แต่เป็นเซี่ย โฮวโม่ ราชาแห่งจิน ซึ่งเป็นเชื้อพระวงศ์กับจักรพรรดิ!

ที่ปรึกษาหลี่เห็นใบหน้าของซูมู่เกอในตอนแรกเปลี่ยนจากสีน้ำเงินเป็นสีขาวซีดเผือด แล้วเปลี่ยนจากซีดเป็นดำ ในที่สุดมันก็ดูตกใจราวกับถูกฟ้าผ่า เขางงงวยเกี่ยวกับปฏิกิริยาของนาง

“ใต้เท้าซู ท่าน ท่านสบายดีไหมขอรับ?”

ซูมู่เกอเงยหน้าขึ้นมองที่ปรึกษาหลี่ นิ่งและเงียบ

ข้าทำอะไรไม่ถูก ข้าพูดอะไรไม่ได้เลย!