เวลาผ่านไปเร็วจริงๆ เลยนะ
ฉันเคยได้ยินมาว่าในเผ่าพันธุ์ที่มีอายุขัยยาวนานจะรับรู้เวลาได้ต่างจากเผ่าพันธุ์ที่มีอายุขัยสั้นกว่า เพราะงั้นฉันเลยรู้สึกว่า 8 วันเนี่ยมันสั้นมากเลย
ฉันคิดแบบนั้นพลางพยายามหนีจากความเป็นจริงที่เกิดขึ้น
8 วันผ่านไปไวเหมือนโกหก นับตั้งแต่ฉันไปพบกับท่านอิซึสึ และพอฉันตื่นมา ตอนนั้นก็บ่ายสามแล้ว
…ใช่ อีกประมาณ 3 ชั่วโมง ฉันจะต้องไปต่อสู้กับผู้กล้าแล้ว
ทั้งๆ ที่เป็นเทพชั่วร้าย เธอกลับมีพรสวรรค์จนก้าวข้ามการคาดการณ์ของเทพอย่างท่านอิซึสึไปได้ สเตตัสเฉลี่ยทะลุ 20,000 ทักษะกระบวนดาบของเธอที่เก่งหยั่งกับแอบเข้าไปฝึกในห้องแห่งกาลเวลาของพระเจ้ามา ความแข็งแกร่งเหนือกว่าทั้งพวกผู้บริหาร ทั้งว่าที่ผู้บริหารที่น่าภูมิใจของกองทัพจอมมารเสียอีก แกร่งจนเกือบจะคิดว่าเธอเป็นสัตว์ประหลาดที่ไม่ใช่มนุษย์อีกแล้วก็ได้
…ไม่เลย เป็นไปไม่ได้เลยสินะ
ยิ่งคิด ฉันก็ยิ่งรู้สึกว่าฉันคงทำมันไม่ได้
สเตตัสเฉลี่ยมากกว่า 20,000 งั้นเหรอ แม้แต่นอนน์หรืออีดิธ ศัตรูคู่อาฆาตของฉัน ยังมีสเตตัสเฉลี่ยอยู่แค่ประมาณ 10,000 เอง
ฉันรู้ว่าอัตราความสำเร็จมันสมเหตุสมผลตอนที่ท่านจอมมารเสนอชื่อฉัน…
ไม่สิ แต่ตอนที่ฉันถามท่านอิซึสึเกี่ยวกับอัตราความสำเร็จ เธอก็ดูคลุมเครือขึ้นมาเลย บางทีท่านอาจจะบอกว่า ‘เธอมีอัตราความสำเร็จสูงเลยทีเดียว’ และความเป็นไปได้จริงๆ อาจจะมีซัก 10% หรืออะไรแบบนั้นใช่มั้ย
ฮะฮะฮะฮะ คงไม่มีทางหรอกเนอะ
…ไม่มีทางหรอก ใช่มั้ย?
“…อรุณสวัสดิ์ค่ะ”
“นี่มันบ่ายแล้วนะ เกือบจะเย็นอยู่แล้วด้วย”
“…ช่วยไม่ได้นี่คะ ก็ฉันเป็นเผ่าพันธุ์ที่ใช้ชีวิตในเวลากลางคืนนี่นา”
ฉันลากเท้าหนักๆ เข้ามาในห้องประชุมของกองทัพจอมมาร ที่ที่ฉันถูกเรียกมารวมตัวกันใน 8 วัน
ภายในห้อง มีแค่คนเดียวที่มาถึงก่อนหน้าฉัน นั่นคือ ‘แม่ทัพแห่งภัยพิบัติ’ คุณเรน แฟรี่ลอร์ด ผู้บริหารลำดับที่ 7 ของกองทัพจอมมาร
เธอคือราชินีของเผ่าแฟรี่ ส่วนสูงอยู่ที่ประมาณ 30 เซน มีผมสีเขียวแกมเหลืองที่ยาวมาจนถึงเข่า และมีใบหน้าสวยงามกับตาเฉียงเล็กน้อย
ถ้าจะให้ฉันพูดล่ะก็ เธอเป็นนางฟ้าที่เป็นพวกซึนเดเระด้วย ถ้าดูแบบชาติที่แล้วของฉันล่ะนะ
และแม้ว่าเธอจะตัวเล็กแบบนี้ เธอก็เป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดเป็นอันดับ 3 ในกองทัพจอมมาร เมื่อดูจากความสามารถในการต่อสู้
เธอเป็นอัจฉริยะที่สามารถควบคุมสภาพอากาศและภัยธรรมชาติอย่างน้ำท่วม, ฟ้าผ่า, พายุลูกเห็บ หรือไฟป่า ได้ตามใจต้องการเลย และว่ากันว่าเธอเป็นแฟรี่ที่แข็งแกร่งที่สุดตลอดกาล
นิสัยของเธอก็…ซึนเดเระผสมกับขี้เกียจล่ะนะ
“…อะไร? อยู่ดีๆ ก็จ้องฉันมีอะไรหรือไง?”
“อา ขอโทษค่ะ”
“ให้ตายสิ… เธอกำลังจะไปสู้กับผู้กล้านะ เพราะงั้นก็ยืดอกขึ้นแล้วมั่นใจเข้าไว้สิ”
“อาาา… ผู้กล้าเหรอคะ…”
“อะไรเล่า? กังวลงั้นเหรอ? ไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอก ฉันจะช่วยเธอนิดหน่อยก็ได้ แล้วซากุระก็ไปที่นั่นด้วยเผื่อเธอต้องการความช่วยเหลืออยู่แล้วนี่ จริงมั้ย?”
“ค่ะ แต่ว่า…ในจังหวะที่ฉันฆ่านักเวทนั่นแล้ว พวกเราไม่ได้จะล้อมพวกผู้กล้าด้วยผู้บริหารกับซากุระคุงตั้งแต่แรกแล้วเหรอคะ?”
“อย่าง―ที่―ว่า― เพราะผู้กล้าจะถอยไปทันทีที่เห็นว่ามีผู้บริหารอยู่ และพวก 12 อัครสาวกลำดับขั้นสูงกว่าอาจรับรู้ถึงตัวตนของพวกผู้บริหาร แล้วผุดขึ้นมาเหมือนพวกแมลงไง! เรายังไม่พร้อมที่จะปะทะกันอย่างเต็มกำลัง จึงไม่มีใครเหมาะจะรับหน้าที่นี้แล้วนอกจากเธอที่ไม่เคยถูกเจอมาก่อน และแข็งแกร่งด้วยตัวคนเดียวได้ไงเล่า!”
อึก เกลียดที่ตัวเองแข็งแกร่งขึ้นมาเลยแฮะ
ผู้กล้าตอนนี้ถูกตั้งโปรแกรมเอาไว้ ถ้าพูดแบบโลกเดิมอะนะ
เธอถูกตั้งโปรแกรมไว้ล่วงหน้าไว้ด้วยข้อมูลที่บอกให้เธอทำนู่นทำนี่ และเธอก็จะทำตามนั้น
เธอคงถูกสั่งให้ ‘ฆ่าเผ่ามารที่พบเจอ’ หรือ ‘หนีทันทีที่พบเห็นพวกผู้บริหาร’ อะไรประมาณนั้น
แสดงว่า ผู้บริหารที่ถูกรู้ใบหน้ากันหมดแล้ว แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเข้าไปฆ่านักเวทคนนั้นได้ตั้งแต่แรกแล้ว
อีกอย่าง ยังมี ‘กำแพงคู่’ 12 อัครสาวกลำดับที่ 10 อัซบาร์อยู่ตรงนั้นด้วย เจ้านั่นเชี่ยวชาญด้านการป้องกัน ไหนจะยังมีการป้องกันและการป้องกันเวทที่สูงจนน่าขยะแขยงนั่นอีก
พวกนั้นจะรู้ตัว และเริ่มทำการตั้งรับ ในขณะที่เราทำการบุก พวกนั้นก็จะหนีไป… เพราะงั้น เพื่อกันไม่ให้เรื่องพวกนั้นเกิดขึ้น จึงควรจะให้ฉัน ทหารธรรมดาที่ตัวตนยังไม่ถูกล่วงรู้เลยฝั่งนั้น เป็นคนทำงานนี้ดีกว่า
บ้าจริง
ระหว่างที่ฉันนั่งลงที่เก้าอี้ของฉัน และปรึกษาเรื่องนั้นเรื่องนี้กับคุณเรน ผู้บริหารทุกคนที่เหลือในปราสาทก็เข้ามารวมกันทีละคน และในที่สุด ท่านจอมมารก็มาถึง
“พวกเจ้าทุกคนมาถึงกันแล้วสินะ งั้น มาเริ่มการยืนยันแผนการครั้งสุดท้ายกันได้เลย”
ท่านจอมมารเริ่มพูดเกริ่นเกี่ยวกับแผนการที่วางเอาไว้จนถึงตอนนี้
แผนการที่ว่านั่นก็คือแผนเดียวกับที่วางเอาไว้ตั้งแต่ 8 วันก่อนนี่แหละ
ฉันจะต้องฆ่านักเวทให้ได้ด้วยซักวิธีนึง
คุณเฟเรียกับคุณเทียน่าจะผลัดกันใช้เวทเคลื่อนย้ายเพื่อเอาตัวอัซบาร์กับทรัซท์จากพวก 12 อัครสาวกมาที่ปราสาทจอมมารที่จะตัดเวทคุ้มครองป้องกันการเคลื่อนย้ายไปชั่วขณะ จากนั้น ผู้บริหารทั้งหมดก็จะช่วยกันรุมยำพวกมันซะ
ในเวลาเดียวกันนั้น ฉันก็ฆ่าพวกลิ่วล้อ 4 คนในคณะผู้กล้า และช่วยปกป้องผู้กล้าด้วยการซัดเธอให้ร่วง หรือยังไงซักอย่าง…ลักพาตัว? อะไรนั่นแหละ ฉันต้องพาตัวเธอกลับไป
ฉันต้องทำซักวิธีนึงเพื่อฟื้นฟูจิตใจให้ผู้กล้าให้ได้
…ขั้นตอนก็จะประมาณนี้
เอาจริงๆ ฉันน่าจะทำได้ถึงขั้นที่ 2 นะคะ
พวกมนุษย์เอาชนะพวกเราเผ่ามารได้จากตัวตนของผู้กล้า แล้วถ้ามีเผ่ามารที่ไม่รู้ตัวตนอย่างฉันปรากฏตัวออกมา พวกนั้นก็น่าจะหยุดการเคลื่อนย้ายแล้วก็น่าจะแบบ ‘มาฆ่าเจ้านี่ซะก่อนค่อยกลับบ้านแล้วกัน’ จากนั้นก็เข้าไปเชือดเจ้านักเวทนั้นทีเผลอด้วยการอวยพรจากดวงจันทร์ก็เรียบร้อย
คุณเฟเรียกับคุณเทียน่าก็จัดการขั้นที่ 2 ได้ไม่ยากเย็น นอกเหนือจากที่พวกเธอเข้ากันไม่ได้ในระดับสิ้นหวัง ทั้งคู่ก็เป็นจอมเวทที่ยอดเยี่ยมเหมือนกัน
แต่ขั้นที่ 3 นี่ ฉันไม่รู้เลย…!
“…ตอนนี้ก็มีเท่านี้ ภารกิจจะดำเนินทันทีที่อาทิตย์ตกดิน ลีน ไปเตรียมตัวให้พร้อมระหว่างที่เจ้ายังทำได้ เทียน่า เฟเรีย อย่าทะเลาะกันเองล่ะ”
“โธ่เอ๊ย นี่ฉันต้องร่วมงานกับเธองั้นเหรอ? ฉันรู้สึกโดนถ่วงแข้งถ่วงขาขึ้นมาเลย ขอให้หลานฉันมารับหน้าที่แทนได้มั้ยคะ? ถ้าร่วมงานด้วยกัน เขาน่าจะทำให้ฉันสบายใจกว่าค่ะ”
“ให้ตายสิ ฉันไม่คิดว่าคนที่ควรจะเปลี่ยนตัวกับซากุระจะเป็นฉันนะ ฉันกังวลที่จะต้องมีคนไร้ประโยชน์อย่างเธอมาอยู่ในปฏิบัติการแบบนี้นะ”
“หยุดเถียงกันต่อหน้าเราได้แล้ว! เฮ่อออ อยากให้เราถอนพวกเจ้าออกจากตำแหน่งผู้บริหารแล้วเลื่อนซากุระขึ้นมาแทนมั้ย!”
ซากุระคุงนี่ดังจริงๆ เลยนะ…
ฉันก็เป็นเพื่อนที่ดีกับเขาด้วยนั่นแหละ เขาก็เป็นเด็กดีนะ
“ฮาาา… เอาจริงๆ เลยนะ… พวกเจ้าทั้ง 2 คนช่วยร่วมมือกันให้ดีกว่านี้จะได้มั้ย?”
“ขออภัยจริงๆ ค่ะ ท่านจอมมาร แต่ฉันไม่คิดว่าตัวเองกับเทียน่าจะมีทางเห็นตรงกันได้เลยค่ะ”
“การที่ฉันกับเฟเรียจะเข้ากันได้นั้น คงถึงขั้นทำให้ฟ้าถล่มแผ่นดินทลายได้เลยค่ะ”
จริงๆ นะ ฉันคาใจจังว่าทำไม 2 คนนี้ถึงได้ไม่ชอบหน้ากันได้ขนาดนี้กันนะ?
“…ขอบคุณค่ะ คุณเทียน่า”
“ไม่เป็นไรค่ะ เรื่องแค่นี้เอง… โชคดีนะคะ”
ดวงอาทิตย์กำลังจะตก
การอวยพรจากดวงจันทร์กำลังจะมาแล้ว
สิ่งแรกที่ต้องทำก่อนเลยคือสังเกตพื้นที่โดยรอบให้ดี
ฉันที่ยังใช้เวทพื้นที่ไม่ได้ถูกส่งมาที่นี่ด้วยเวทมนตร์ของคุณเทียน่า
ตอนนี้อยู่ระหว่างเตรียมตัวสำหรับการต่อสู้กับผู้กล้าที่กำลังจะมาถึง
…ดูเหมือนผู้กล้ากับพวกลิ่วล้อนั่นจะอยู่ไกลไปจากตรงนี้แค่ประมาณกิโลนึง
“ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ ซากุระรออยู่ไกลๆ แล้ว และคุณเกรย์กับคุณเรนก็พร้อมพุ่งเข้าไปช่วยในกรณีฉุกเฉินแล้วค่ะ ไม่จำเป็นต้องเครียดไปหรอกนะคะ”
“…ค่ะ ฉันจะทำอย่างเต็มที่ค่ะ”
แล้วฉันก็เริ่มออกวิ่ง
ไม่นานนัก ฉันก็เจอพวกมนุษย์กลุ่มนึง
ในนั้นมีอยู่ 8 คน 2 คนในนั้นถืออาวุธที่ดูแล้วจะมีประสิทธิภาพดี
…และตรงหน้าสุดในกลุ่มนั้น มีเด็กผู้หญิง ตัวสูงประมาณฉันอยู่
ไม่ผิดแน่ นี่ต้องเป็นกลุ่มของ ‘ผู้กล้า’ แน่นอน
เจ้า 2 คนนั้นที่สวมอาวุธนั่นน่าจะเป็นพวก 12 อัครสาวกสินะ
และที่ริมสุดนั่น เป้าหมายแรกของฉัน นักเวทนั่นก็…
อีก 3 นาที ก่อนที่กลางวันจะสิ้นสุดลง