บทที่4 ตอนที่ 3

 

 

หลังจากแยกจากโนโซมุ ฉันก็กำลังมุ่งหน้าไปยังห้อง 1 พร้อมกับเพื่อนสนิท เขาพูดเช่นนั้นราวกับเขาโดนทรยศมาเลย

 

 

「ไอ~~。ทำไมถึงไม่ช่วยฉันล่ะ~~」

 

 

เพื่อนสนิทของฉันบ่นใส่ตัวฉันที่ไม่ยอมช่วยเธอจากเหตุการณ์ของตาแก่ลามกนั่น สำหรับทิม่าเองก็มีภูมิคุ้มกันตัวเองด้วยเวทย์อยู่แล้วนี่หน่า แถมมีมาร์คอยปกป้องด้วย

 

 

「ตอนนั้นก็มีทุกคนอยู่ไม่ใช่เหรอไง และมีมาร์เองที่ทำงานอย่างหนักเพื่อทิม่าด้วยนะ? ฉันคิดว่าทิม่าควรจะมีความสุขมากกว่านะที่ได้เขาปกป้องเช่นนี้?」

 

 

ฉันตอบกลับไปเช่นนั้น ฉันมั่นใจเลยล่ะว่าใบหน้าของฉันตอนนี้ดูแย่สุดๆ ทิม่าบอกว่าที่สำคัญก็คือ「เอ่อ…เรื่องนั้นก็ส่วนเรื่องนั้นสิ」เธอพูดเช่นนั้นพร้อมใบหน้าที่แดงก่ำ

 

 

เธอเนี่ยน้าน่ารักจริงๆเลยและฉันก็ค่อนข้างอิจฉาด้วย

 

 

บางทีเพราะตัวฉันที่ปกป้องโซเมียมาตั้งแต่ยังเด็กก็เลยทำตัวหยาบคายใส่ผู้ชายไปบ้าง แม้ว่าตัวฉันจะรูปลักษณ์สวยงามก็เถอะนะ มันไม่เหมือนกับเพื่อนสนิทของฉันที่มักจะอารมณ์แปรปรวนอยู่ตลอดเวลาที่ได้เจอเหตุการณ์ต่างๆ โซเมียเองก็เช่นกัน

 

 

(เขาเองก็เหมือนกัน……เป็นทิม่าเองจะดีกว่าไหมนะ?)

 

 

ฉันนึกถึง “เขา”ที่แยกจากกันไปเมื่อกี้นี้ เมื่อฉันเห็นว่าเขาซ่อนบางอย่างก็ทำให้ฉันโกรธมากๆ

 

 

(ทำไมถึงพยายามปิดบังเรื่องของตัวเองขนาดนี้กันนะ อย่างน้อยก็ช่วยคุยกับฉันหน่อยสิ……)

 

 

กึกกึกกึก

 

 

ความรู้สึกไม่สบายใจหมุนเวียนอยู่ในอกนี่ บางทีอาจเป็นเพราะว่าเขาพยายามปกปิดทุกอย่างกับฉันเลยทำให้ฉันต้องมาเป็นแบบนี้

 

 

「ไอใจเย็นๆสิ ตอนนั้นฉันโกรธมากเหมือนกัน แต่ว่าโนโซมุเป็นผู้ชายนะบางทีเขาก็คงมีเรื่องไม่อยากจะให้คนอื่นได้รับรู้เหมือนกันจริงไหมละ?」

 

 

「……ก็รู้แหละนะแต่ว่าโม่ว……」

 

 

แม้จะรู้ว่าเขาอาจจะมีช่วงเวลาที่ยากลำบาก แต่อารมณ์ฉันก็ยังไม่ดีขึ้นเลย ฉันเลยรีบมุ่งหน้าเข้าไปในห้องเรียนรวดเร็วด้วยใบหน้าบึ้งตึง

 

 

◇◆◇

 

 

「ไง ไอริสดิน่า」

 

「……เควินงั้นเหรอ」

 

จู่ๆก็ถูกเรียกออกมาที่โถงทางเดินหน้าห้องเรียน นักเรียนชายคนหนึ่งเรียกฉัน ร่างกายที่ดูใหญ่และสูงกล้ามเนื้อที่ฝึกมาอย่างดีจนแทบจะดันชุดเครื่องแบบออกมาเป็นเครื่องพิสูจน์

 

 

ลักษณะที่โดดเด่นก็คือหัวอันใหญ่โตและสโพกของเขามีหางและบนหัวก็มีหูเป็นเผ่าครึ่งสัตว์

 

 

 เควิน・อาร์ดินัล

 

 

หนึ่งในนักเรียนไม่กี่คนในห้อง 1 ที่เป็นแรงค์ A เช่นเดียวกับฉัน

 

 

เป็นเผ่าครึ่งสัตว์หมาป่าสีเงิน ความสามารถทางกายภาพอันแสนโดดเด่นในการขย้ำคู่ต่อสู้

 

 

เดินทีเผ่าหมาป่าสีเงินมีความสามารถสูงที่สุดในบรรดาเผ่าครึ่งสัตว์ แต่ความสามารถของเขานั้นสูงเป็นพิเศษในหมู่พวกนั้นและในการต่อสู้ระยะประชิดเขาเป็นคนเดียวที่สามารถต่อกรกับจิฮัด รัลเดล

 

 

 

 

 

「ข้าได้ยินมาว่าเมื่อวานนี้ เจ้าเข้าไปยุ่งกับ “ไอ้เศษสวะ”นั่นเหรอ ข้าน่ะแฟนตัวยงของหมอนั่นเลยนะ แฟนตัวยงที่รอเวลามันจมดินลงไปเลยน่ะ」

 

 

「…………ก็ไม่รู้หรอกนะว่านายจะคิดกับเขายังไงก็เถอะ แต่ว่าเอาจริงๆแล้วการที่นายพูดแบบนี้มันดูง่ายดีเนอะทั้งๆที่ไม่เคยเห็นความสามารถของเขาแท้ๆ」

 

 

คำพูดของเควินมันดูด้านและหยาบคายมากและมันยังดูแสดงความเกลียดชัง

 

 

ยังไงก็ตามเควินเมินฉันและเผชิญหน้ากับฉัน ผู้ชายร่างสูงใหญ่กำลังหันหน้าลงมาเผชิญหน้ากับฉัน

 

 

「เหหหห~ หน้าโกรธเองก็สวยเหมือนกันนี่หว่า? วันนี้เป็นวันดีด้วยสิข้าได้ภารกิจเข้าไปกวาดล้างพวกสัตว์อสูรในป่า มาช่วยกันหน่อยได้ไหม มันจะดีมากเลยนะถ้าเธอมาช่วยกัน」

 

「……ขอโทษด้วยนะคะ พอดีว่ามีอย่างอื่นต้องทำและฉันก็มีปาร์ตี้อยู่แล้วค่ะ」

 

 

ฉันปฏิเสธเควินในทันทีและรีบเดินเข้าห้องเรียน  แน่นอนการทำแบบนี้เขาคงจะโกรธมากแน่ๆ เพราะเช่นนั้นก็พยายามหลีกเลี่ยงการต่อสู้ที่ไม่จำเป็นให้มากที่สุดและฉันก็ไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับคนนิสัยแบบนี้

 

เอาตามตรงฉันไม่อยากจะมีเรื่องกับเควินนักหรอก ถ้าไม่โดนหาเรื่องก่อนน่ะนะ ท่าทางที่แสดงแบบตรงไปตรงมาเสียจนเกินไปน่ะ ฉันไม่ค่อยชอบเลย

 

 

อย่างน้อยคนที่อยู่กับหมอนั่นได้ก็ต้องมีจิตใจเข้มแข็งหน่อยล่ะ ไม่งั้นนะวิญญาณหลุดออกจากร่างแหงๆ

 

 

 

 

(คนที่ไว้ใจได้งั้นเหรอ! สักวันฉันจะหาคนที่เป็นคู่หู(ชีวิต)ได้ไหมนะ?)

 

การไว้วางใจก็เหมือนกับการฝากชีวิตฝากแผ่นหลังของเราให้กับอีกฝั่งเพราะฉะนั้นอีกฝั่งจะต้องเป็นคนที่เชื่อใจได้และแข็งแกร่ง

 

 

(แล้วตอนนี้โนโซมุทำอะไรอยู่กันนะ?)

 

ฉันนึกถึงชายหนุ่มคนหนึ่งที่ใช้ดาบคาตานะ

 

 

เมื่อฉันถึงใครสักคน คนแรกที่เข้ามาในหัวฉันก็คือโนโซมุ

 

 

ชายหนุ่มที่ฉันหวงแหวนมากที่สุดในตอนนี้

 

 

นักเรียนชายที่ถูกสาปให้มีชีวิตอันแสนทรหด

 

 

ฉันไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรและเขาแข็งแกร่งขึ้นมาขนาดนั้นได้เช่นไร

 

 

เมื่อคิดถึงเหตุการณ์ตอนที่เขาสู้กับรูกาโต้แล้ว ฉันก็หวังว่าความสัมพันธ์ของพวกเราจะดีขึ้น แต่ว่าเขาก็ยังคงซ่อนความลับกับฉันไว้

 

 

ฉันรู้ว่ามันช่วยไม่ได้ แต่ว่าไม่มีใครอยากจะพูดถึงมันเลยและฉันไม่อยากจะบังคับเขาให้พูด

 

 

 

 

(ถ้าเขาได้มาเป็นคู่หูของฉัน….และถ้าฉันปกป้องแผ่นหลังของโนโซมุไว้ได้ละก็……)

 

 

ปกป้องซึ่งกันและกัน การกอดกันในสนามรบช่วงสิ้นใจ พวกเราเชื่อมต่อกันด้วยหัวใจอันแสนแน่วแน่และเอาชนะฝ่าฟันความยากลำบากทั้งหลายที่อยู่ตรงหน้า แม้ว่าจะตายก็จะอยู่ด้วยกันจนวินาทีสุดท้าย

 

 

 ถ้าความสัมพันธ์ของเราไปถึงขนาดนั้นมันจะรู้สึกดีขนาดไหนกันนะ…………。  

 

(……บากะ นี่ตัวฉันคิดอะไรอยู่เนี่ย…………)

 

ใบหน้าของฉันเริ่มแดงและร่างกายเริ่มสั่นเทา แสงสว่างเล็กๆน้อยๆนั้นปรากฏขึ้นในดวงใจ เสียงหัวใจที่เต้นดัง “ตึกตัก” ฉันเอามือกุมหัวใจ มือข้างนั้นที่เคยจับมือกับเขาฉันเอามันทาบหน้าอกเพียงแค่นี้ก็เหมือนใจเราได้เชื่อมต่อกัน

 

 

「หืมมม?」

 

ตอนนั้นเองก็มีเด็กสาวผมสีแดงเพลิงจ้องมองมาทางนี้

 

「เด็กคนนั้นคือ……」

 

ตอนนั้นที่เธอจ้องมองมาที่ฉันพอสบตากันเธอก็เบือนหน้าหนีหันไปหาสมุดโน้ตทันทีและเริ่มเตรียมตัวพร้อมที่จะเรียน

 

 

◇◆◇

 

 

ณ ห้องพยาบาลช่วงพักกลางวัน ณ ที่ตรงนี้มีพวกโนโซมุกับผองเพื่อน

 

 

แค่ไอริสโผล่มาที่ห้อง 10 มันก็เป็นอะไรที่วุ่นวายพอแล้ว ดังนั้นก็เลยนัดกันมาที่นี่เพื่อจะได้ไม่วุ่นวาย

 

 

「ไอริส มาช้าจังเลยนะ。」

 

「……นั่นสิ มีอะไรผิดปกติเหรอกินเวลาไปครึ่งหนึ่งของพักกลางวันแล้วนะ?」

 

「……บางทีอาจารย์อาจจะเรียกตัวขอไปช่วยมั้ง เพราะได้รับการประเมินจากอาจารย์สูงมากเลยนี่น่า」

 

「ก็นั่นน่ะสิเน้อ…แต่ว่าปล่อยไปก่อนละกัน ถ้าไม่รีบกินเดี๋ยวจะไม่ทันเอา?」

 

「อืม นั่นสินะช่วยไม่ได้งั้นทานกันก่อนเถอะ」

 

「นั่นสิน้า~。ไอริสและทิม่าเป็นเด็กดีเพราะงั้นปล่อยพวกเธอไปก่อนเถอะน้า~~ฉันเคยไปสอนพวกเขามาด้วยล่ะตอนที่อาจารย์ห้องนั่นป่วยน่ะ~、พวกนั้นเป็นเด็กดีมากเลยล่ะ~。」

 

「อันริ แม้ว่าพวกเธอจะเป็นนักเรียนที่เป็นที่พึงพาได้มาก แต่อย่าใช้งานพวกเธอหนักนักสิ」

 

「ไม่เป็นรายหรอก~。เห็นงี้ฉันก็เป็นอาจารย์น้า~~เพราะง้านมีสิทธิไงล่ะ~~」

 

「……เฮ้ออย่างที่คิด(แบบนี้จะเป็นไรไหมเนี่ย?)」

 

 

นอร์นกังวลกับอันริที่บอกว่าโอเค

 

 

พวกเราก็มาเจอกับอันริและนอร์นที่ห้องนี้ตามปกติ ทั้งสองนั้นทานข้าวด้วยกันตลอด แถมพวกเธอยังทำข้าวกล่องมาด้วย บางครั้งก็แลกกันกิน

 

 

 

อันริที่นั่งอยู่บนเตียงของห้องพยาบาล กำลังนั่งแกว่งขา พร้อมกับพูดกับโนโซมุเหมือนนึกอะไรได้ขึ้นมา。

 

 

「จะว่าไปแล้วก็เถอะน้าโนโซมุคุง~~ตอนเช้าไม่ค่อยจะมีสมาธิเลยอ่ะ~เป็นไรป่าว~~」

 

「เอ๋」

 

 

นอร์นเองก็เข้าร่วมด้วยเพราะคำพูดของอันริ

 

 

「มันผิดปกติน่า มาร์เองก็เปลี่ยนไปเฉยเลย โนโซมุเองก็ไม่มีสมาธิเลย「อะไรละนั่น! หมายความว่ายังไง!」」

 

「นอร์น~~、ไม่จริงหรอกมาร์คุงตั้งใจเรียนทั้งวันเลยนะวันนี้น่ะ~~」

 

「งั้นเหรอ!? ……ขอโทษด้วยนะมาร์ ดูท่าทางฉันจะทำตัวหยาบคายใส่นายแล้วสิเนี่ย」

 

「อะเอ่อ ไม่เป็นไรหรอก ถ้าขอโทษแล้วละก็นะ……」

 

 

อาจจะคิดว่ามาร์คุยโอ้อวดเล็กน้อย แต่นอร์นไม่สนใจ นอร์นขอโทษมาร์

 

 

ค่อนข้างน่าแปลกใจที่มาร์เริ่มตั้งใจเรียนอย่างจริงจังในที่สุดแล้วก็อยากจะบ่นนอร์นอยู่หรอก แต่อันริก็แก้ต่างให้แล้ว มาร์เองก็ให้อภัยนอร์นแล้วด้วย

 

 

ไม่กี่วันที่ผ่านมา มาร์เริ่มตั้งใจเรียนอย่างมากทำให้ท่าทางของคนทั้งห้องเปลี่ยนไปเลย

 

 

อันริขอโทษมาร์และจ้องมองโนโซมุ โนโซมุเอามือเท้าค้างและครุ่นคิด

 

 

 

「เอ่อก็คิดอะไรนิดหน่อยน่ะครับ………อาจารย์นอร์น คุณรู้จักผู้ชายที่ชื่อฟีโอ ริซิสซ่าส์ ไหมครับ?」

 

「ฟีโอ・ริซิสซ่าส์? รู้สินักเรียนที่ท่าทางอยู่ในปีเดียวกับโนโซมุสินะ。」

 

 

 ฟีโอ・ริซิสซ่าส์

 

 

นักเรียนปี 3 ห้อง 2 เป็นนักเรียนเผ่าจิ้งจอกที่มีหูและหางสีทอง

 

 

เผ่าจิ้งจอกเป็นหนึ่งในเผ่าของครึ่งสัตว์ ก็เหมือนจิ้งจอกมีหูและหาง

 

 

ไม่เหมือนกับครึ่งสัตว์เผ่าอื่นๆ มีสังคมไม่กว้างขวางและใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวเล็กๆมีกระจายให้เห็นอยู่ทั่วทวีป

 

 

ดูเหมือนว่าทุกเผ่าเองก็แข่งขันกันขยายอำนาจของแต่ละเผ่าเพื่อสร้างฐานประชากร

 

แต่สำหรับฟีโอ ริซิสซ่าส์แล้วเป็นคนรักอิสระและชอบโดดเรียนบ่อยครั้ง

 

 

อย่างไรก็ตามการที่ได้อยู่ห้อง 2 แปลว่าผลการเรียนดีและเก่งพอควร

 

 

แรงค์ของเขาคือ C เขาสามารถสอบได้ทั้งปฏิบัติและข้อเขียนและไม่มีวิชาใดที่เขาไม่ถนัด

 

 

「อืม นักเรียนที่สามารถใช้ยันต์ได้งั้นเหรอ?」

 

「ยันต์? เทคนิคแปลกประหลาดนั่นสินะก็ไม่รู้หรอกว่าเผ่าจิ้งจอกใช้ได้ไหมแต่ดูเหมือนว่าเกี่ยวกับเผ่าที่อาศัยอยู่ทั่วทั้งทวีปของพวกเขาน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับยันต์ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง…………」

 

 

เมื่อได้ฟังคำพูดของนอร์นโนโซมุก็มั่นใจได้ สายตาของฟีโอที่จับตามองในตอนนั้นมันเป็นตอนเดียวกับที่จับตามองมาจากยันต์นั่นเลย

 

 

(หลังจากนั้นเองเหรอเป็นฟีโอเองสินะที่คอยจับตาดูผม……………แต่ว่าทำไปทำไมกันนะ?แม้ว่าจะไม่มีความรู้สึกเป็นศัตรูกันเลยก็เถอะ)

 

โนโซมุสัมผัสถึงสายตาที่จ้องมองมาได้ แต่ว่าสายตานั่นไม่รู้กำลังจับจ้องอะไรกันแน่

 

ในป่าที่มีสัตว์อสูรอยู่มากมายโนโซมุฝึกซ้ำจนเกือบจะตายไปครั้งหนึ่ง(โดนบังคับ) กับสัตว์อสูรจำนวนมากมายเพื่อสัมผัสถึงความเป็นปรปักษ์หรือฝึกจิตสัมผัส ดังนั้นเขาเลยรู้ว่าคนที่เข้าหาเขาแต่ละคนเป็นยังไง

 

 

ถ้าฟีโอเป็นศัตรูกับโนโซมุ โนโซมุก็น่าจะสัมผัสได้ก่อนหน้านี้แล้ว

 

(ที่กล่าวมาก็ไม่มีหลักฐาน ถ้าสัญลักษณ์นั่นมันบอกว่า “ไม่สำคัญ”ก็แปลว่าสำเร็จแล้วงั้นเหรอ……)

 

「ฮะ…………」

 

เขามาร์คหัวฟีโอ ไว้แล้ว แต่ยังไม่มีหลักฐานแน่ชัดโนโซมุไม่มีทางเลือกได้แต่ถอนหายใจ

 

 

◇◆◇

 

 

ห้องเรียนที่ 1 เพิ่งเริ่มพักเที่ยงย้อนกลับไปก่อนหน้านี้เล็กน้อย ฉันไอริสและทิม่า ที่เพิ่งจบจากการเรียนคาบเช้าเสร็จและกำลังเก็บอุปกรณ์นั่นเอง

 

 

พวกเราสัญญากับโนโซมุไว้ว่าจะไปทานอาหารกลางวันกันที่ห้องพยาบาล ดังนั้นตอนที่เราเก็บของเสร็จและหยิบข้าวกล่องพยายามจะไปที่ห้องพยาบาลก็พบนักเรียนหญิงคนหนึ่งมาหยุดพวกเราไว้

 

 

 

 

 

「ไอริสดิน่า พอจะว่างรึเปล่าคะ?」

 

(เอ๋)

 

 

คนที่เรียกฉันก็คือนักเรียนผมสีแดงที่จ้องมองฉันเมื่อตอนเช้า เป็นคนที่ฉันและเขาต่างรู้จักดี

 

 

เธอเดินเข้ามาหาพวกเราและพูดด้วยท่าทางจริงจัง

 

 

「ลิซ่าคุงงั้นเหรอ……」

 

「…………พอดีว่ามีอะไรอยากจะถามกันหน่อยนะคะ?」

 

 ลิซ่า・เฮาวน์

 

เดิมเป็นคนรักและเพื่อนสมัยเด็กของเขา

 

 

ผู้หญิงที่เขาชอบมากที่สุด

 

 

หนึ่งในคนที่ฉันสนใจมากที่สุดตอนนี้อยู่ตรงหน้าฉัน