เมื่อคิดถึงเรื่องนี้เย่เฉินก็อดไม่ได้ที่จะยิ้ม

มันสุดยอดมากมากที่ความเข้าใจผิดจะทำให้เกิดผลเช่นนี้ เดิมทีเย่เฉินยังคงปวดหัวกับวิธีเพิ่มความชื่นชอบและความภักดี

แต่ทุกอย่างตอนนี้ เพิ่มจนเต็มได้ในครั้งเดียว

เย่เฉินมองไปที่แผ่นหลังของเตียวหยูสักพักแล้วก็ตรงไปที่บ้านของเตียวเหิง

เมื่อเย่เฉินมาถึง เตียวเมิ่งกำลังถูกอบรบโดยเตียวเหิง เตียวเมิ่งไม่เข้าใจความหมายแฝงของคำพูดเหล่านั้น

เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเย่เฉินต้องการทำให้เตียวหยูเลิกกังวล

และเขายังพูดอย่างหน้าตาเฉยว่าเขาสามารถนำทหารออกรบได้แม้ว่าเขาจะป่วยก็ตาม

“ ท่านลอร์ด?” เตียวเหิงตกตะลึงเมื่อเห็นเย่เฉินเดินเข้ามา

ไม้กวาดในมือของเตียวเหิงถูกเตียวเมิ่งโยนทิ้งไปทันที เตียวเมิ่งยืนอยู่ด้านข้างด้วยใบหน้าแดงก่ำและก้มหน้าโดยไม่พูดอะไร

น้อยมากที่คนตัวใหญ่อย่างเขา จะหวาดกลัวด้ามไม้กวาด ไม่แปลกใจที่เขาจะหน้าแดงด้วยความเขินอาย

เย่เฉินยิ้มและพยักหน้าจากนั้นมองไปที่เตียวเมิ่งและกล่าวว่า “เตียวเมิ่งรีบฝึกทหารให้เร็วที่สุด ห้าวันต่อจากนี้ พวกเขาจะต้องออกไปกวาดล้างค่ายโจรที่อาจปรากฏขึ้นรอบหมู่บ้านให้เรียบร้อย “

เนื่องจากราชาพยัคฆ์และอสรพิษดำ จึงไม่มีสัตว์ร้ายและโจรปรากฏตัวรอบหมู่บ้านหลุนฮุย

แต่ในตอนนี้พวกมันทั้งหมดถูกเย่เฉินสังหารไปแล้ว ทำให้หมู่บ้านหลุนฮุยปลอดภัยเพียงเจ็ดวันเท่านั้น

อีกไม่นานสัตว์ร้ายและกลุ่มโจรก็จะย้อนกลับมา

หากไม่จัดการให้ทันเวลา พวกมันจะเป็นภัยคุกคามต่อชาวบ้านในหมู่บ้านหลุนฮุย ที่ออกไปทำงานเป็นอย่างมาก

เตียวเมิ่งที่กำลังกังวลเกี่ยวกับการหาทางออกไปจากที่นี้ เมื่อได้ยินเช่นนี้เขาก็ตะโกนเสียงดังโดยไม่ลังเล: “นายท่าน หน้าที่นี้ข้าจะทำให้สำเร็จ!”

หลังจากที่เตียวเมิ่งพูดจบเขาก็มองไปที่เตียวเหิงและตะโกนว่า: “ท่านพ่อ ข้ามีภารกิจ ข้าจะกลับไปที่ค่ายทหารก่อน”

หลังจากพูดจบโดยไม่เปิดโอกาสให้เตียวเหิงได้ทันพูดอะไร เขาก็วิ่งหนีไปทันที

“ท่านลอร์ด … ” เตียวเหิงมุมปากกระตุกจากนั้นมองไปที่เย่เฉินอย่างช่วยไม่ได้

“อะแฮ่ม อาวุโสเตียว ช่างตีเหล็กและคนทำเหล้าของหมู่บ้านหลุนฮุย พวกเขามีผลิตภัณฑ์พิเศษหรือไม่ ฉันหมายถึงพวกเขามีทักษะพิเศษหรือไม่?”

เย่เฉินกระแอม และเปลี่ยนหัวข้อสนทนาในทันที

เตียวเหิงได้ยินคำถามของเย่เฉินเขาก็รีบตอบว่า: “นายท่าน ชายชราได้ถามทั้งสองคนแล้ว ช่างตีเหล็กเคยเป็นเด็กฝึกงานในจักรวรรดิ แต่เขาก็ไม่มีทักษะพิเศษใด ๆ และคนทำเหล้าก็เช่นกัน “

เย่เฉินขมวดคิ้วโดยไม่ตั้งใจเมื่อได้ยินสิ่งนี้

แต่นี่ก็ไม่เกินความคาดหมายของเย่เฉิน ท้ายที่สุดเกมจะไม่มอบบุคคลที่มีทักษะพิเศษเกี่ยวกับการผลิตมาให้โดยตรง

ข้าไม่สามารถเร่งรีบได้ข้าทำได้เพียงรอซื้อมันจากตลาด

ต้องรีบหาเงิน หากมีเงินมากขึ้น ข้าก็สามารถพัฒนาดินแดนได้เร็วขึ้นไม่ว่าจะเป็นเกมหรือความเป็นจริง

นี่คือสาเหตุที่เย่เฉินถามเตียวเหิง

“ข้าเข้าใจแล้ว แต่ว่าการพัฒนาหมู่บ้านหลุนฮุยไม่ควรหยุด นอกจากนี้ให้คอยดูตลาดอยู่เสมอ หากเจ้าพบของมีค่าซื้อมันมาได้เลย ตราบใดที่มันเป็นประโยชน์ต่อหมู่บ้านหลุนฮุย” เย่เฉินถอนหายใจ จากนั้นเขาก็พูด

“ ครับท่าน” เตียวเหิงโค้งคำนับเพื่อตอบรับ

เย่เฉินพยักหน้าจากนั้นกลับไปที่คฤหาสน์ของหัวหน้าหมู่บ้าน

เย่เฉิน : บารอน ขั้นสาม

เลเวล : LV 50

ชื่อเสียง : 150,000 (เพื่อเพิ่มความน่าสนใจของบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์)

คุณูปการ : 150,000 (มาตรฐานในการเลื่อนตำแหน่งบารอนชั้นสามต้องการค่าความดีความชอบ 100,000 แต้ม)

พละกำลัง: 80

รากฐานกระดูก: 80

พลังวิญญาณ: 100

โชคชะตา : ซ่อนอยู่

เทคนิค: คัมภีร์ 9โคจรศักดิ์สิทธิ์ , ทักษะเทพสายฟ้าสวรรค์

อุปกรณ์: ไม่มี

เงิน: 11,000 ทอง

บุญบารมี: 150,000

เกมนี้ไม่ใช่แค่เกม เย่เฉินเข้าใจอย่างชัดเจน ดังนั้นทักษะการต่อสู้จึงไม่สามารถปล่อยไว้เฉยๆได้

อย่างไรก็ตามเมื่อเย่เฉินเริ่มฝึกฝน ใบหน้าของเขาก็มืดลงทันที ทักษะเทพสายฟ้าสวรรค์ไม่ใช่สิ่งที่เย่เฉินสามารถฝึกฝนได้ในตอนนี้ หากคุณต้องการฝึกฝน อย่างน้อยคุณต้องเข้าสู่ขอบเขตรู้แจ้ง

แต่ในไม่ช้าเย่เฉินก็ยิ้มออกมาอย่างอิ่มอกอิ่มใจ

ตอนนี้เขาสามารถฝึกฝนคัมภีร์ 9โคจรศักดิ์สิทธิ์ได้แล้ว และตราบใดที่มีสมุนไพรจิตวิญญาณและพลังวิญญาณเพียงพอ

เย่เฉินก็สามารถทะลวงสู่ขอบเขตต้นกำเนิดได้อย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็ทะลวงไปสู่ขอบเขตรู้แจ้งและเข้าสู่ดินแดนก่อนประวัติศาสตร์ที่แท้จริงได้

พูดง่ายๆก็คือคอขวดระหว่างขอบเขตต้นกำเนิดและขอบเขตรู้แจ้งนั้นไม่มีผลกับเย่เฉินผู้ซึ่งฝึกฝนคัมภีร์ 9โคจรศักดิ์สิทธิ์

หากมีอุปสรรคในการทะลวงระดับขั้นที่สูงขึ้น เขาก็จะทำลายมันด้วยพลังนี่คือลักษณะอำนาจกดขี่ของคัมภีร์ 9โคจรศักดิ์สิทธิ์

อย่างไรก็ตามใบหน้าของเย่เฉินกลายเป็นสีดำทันที เมื่อเขาคิดถึงจำนวนสมุนไพรจิตวิญญาณที่มีอยู่น้อยนิดในพื้นที่มือใหม่

ใช่!!ถ้าไม่พอก็แค่ไปฉกฉวยมันมา

เมื่อคิดได้แบบนั้นเย่เฉินก็เริ่มฝึกฝนคัมภีร์ 9โคจรศักดิ์สิทธิ์

เวลาผ่านไปวันแล้ววันเล่า

เย่เฉิน มักจะไปหาเตียวหยูเมื่อเขาฝึกฝนเสร็จ ตอนแรกก็จับมือและคุยเรื่องความรัก

เย่เฉินใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ในขณะที่คนอื่น ๆ ในเกมนั้นตกอยู่ในความยากลำบากและทุกข์ทรมาน

“ติ้ง หมู่บ้านเฟิงหยวน ถูกจับยึดครองโดยโจรป่า และหมู่บ้านเฟิงหยวนถูกลบออกจาก โลกที่รกร้าง”

“ติ้ง หมู่บ้านเฮยหู ถูกจับยึดครองโดยโจรป่า และหมู่บ้านเฮยหูถูกลบออกจาก โลกที่รกร้าง”

การประกาศดังกล่าวดังขึ้นไม่หยุด ตั้งแต่วินาทีแรกที่เริ่มต้น ไม่มีทางไหนเลย หลายคนไม่รู้ว่าจะพัฒนาดินแดนของตนเองได้อย่างไร พวกเขาไม่รู้ว่าพวกโจรจะบุกเข้ามาในหมู่บ้านตั้งแต่เริ่มต้น หากคุณมีเบื้องหลังที่ดีคุณก็อาจจะอยู่รอดต่อไปได้

ห้าวันต่อมาในหุบเขาลึกลับนอกหมู่บ้านหลุนฮุย มีธงรูป “ใบไม้” โบกสะบัดตามสายลม

บนหลังม้าขาวเย่เฉินสวมชุดเกราะหมิงกวง

มือถือหอกปลายแหลม มองไปที่ทหารสี่สิบสองคนของหมู่บ้านหลุนฮุยที่ยืนอยู่ตรงหน้าอย่างเงียบ ๆ

แต่ละคนติดอาวุธที่สร้างด้วยเหล็ก สวมชุดเกราะเกล็ดปลาและแบกธนูเขาสัตว์ไว้บนหลัง

ด้านหน้าของขบวนมีขุนพลยืนสวมหัวเสือและถือมีดปลายโค้งในมือ

“จากนี้ไปข้าต้องการจะกวาดล้างกองกำลังรอบ ๆ หมู่บ้านหลุนฮุยทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ร้ายหรือโจร พวกเจ้าทำได้หรือไม่!” เย่เฉินตะโกนขึ้น

“ทำได้!”

“ทำได้!”

“ทำได้!”

ทหารอาวุธขึ้นพร้อมกันและตะโกนเสียงดังลั่น ถึงจะมีไม่กี่คน แต่การเคลื่อนไหวของพวกเขานั้นแข็งแกร่งมาก กลิ่นอายที่รุณแรงถูกปลดปล่อยออกมาในขณะนี้