ตอนที่ 32 สถานะที่ถูกแย่ง

จนกระทั่งวันหนึ่งชายชราที่ดูเหมือนจะเป็นคนรวยมาที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าและเรียกตัวเธอไป…

ชายชราหยิบสิ่งของบางอย่างที่เหมือนกันกับจี้หยกที่เธอถืออยู่ออกมา เมื่อนำทั้งสองชิ้นมาประกอบรวมกันก็เข้ากันได้ดีจริงๆ

เธอไม่รู้ถึงความสำคัญของจี้หยกนั้นและโกหกว่าเป็นสิ่งที่แม่ของเธอให้ไว้ ชายชราเชื่อคำพูดเธอ เขาพาเธอไปที่บ้านตระกูลมู่และตั้งชื่อว่า มู่หว่านโหรว หลักจากนั้นเมื่อเธออายุสิบสี่ปีก็รีบตั้งเธอเป็นคู่หมั้นของม่หย่าเจ๋อทันที…

ณ ห้องทำงาน เมื่อความคิดของเธอกลับมาเธอก็ล้มลงบนโซฟาอย่างอ่อนแรงและประคองหน้าผากตัวเองด้วยฝ่ามือขณะที่เหงื่อเย็นชุ่มหลัง

เธอกำเอกสารในมือไว้แน่นปลายนิ้วของเธอสั่นอย่างไม่สามารถควบคุมได้เธอลุกลี้ลุกลนมาก

เธอเดาไม่ออกจริงๆว่าทำไมมู่หย่าเจ๋อถึงสั่งให้คนตรวจสอบข้อมูลพวกนี้? หรือว่าเขาสังเกตเห็นบางอย่างผิดปกติและเริ่มสงสัยที่มาของตัวตนเธอ? หรือว่าคุณปู่มู่เริ่มสงสัยตัวตนที่แท้จริงของเธอในตอนที่เขาไปรับมา? !

มู่หว่านโหรวลุกลี้ลุกลนมากขึ้นเมื่อนึกถึงความเป็นไปได้นี้

ในความเป็นจริงคือเธอขโมยจี้หยกนี้มาจากหยุนซือซือ เธอเติบโตมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เนื่องจากรูปลักษณ์ที่อ่อนหวานและความประพฤติที่ดีของเธอเธอจึงเป็นที่รักและยกย่องของทุกคน

ตอนนั้นเธอยังเด็กเธอไม่เคยเห็นอะไรดีๆ และเมื่อเห็นจี้หยกที่สวยงามของหยุนซือซือจึงเต็มไปด้วยความโลภและขโมยมันมาด้วยแรงกระตุ้น

ต่อมาหยุนซือซือรู้ตัวว่าจี้หยกของตัวเองถูกขโมยไปจึงไปเผชิญหน้าและมีปัญหากับเธอ ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเด็กจะมีคนไหนไม่เข้าข้างมู่หว่านโหรวบ้าง? ด้วยเหตุนี้หยุนซือซือจึงถูกผู้อำนวยการตำหนิอย่างรุนแรงและถูกลงโทษด้วยการตีที่มือ ทำให้เธอต้องร้องไห้ไปหลายคืน

มู่หว่านโหรวไม่เคยคิดมาก่อนว่าชิ้นส่วนของจี้หยกจะพัวพันกับภูมิหลังของครอบครัวที่บิดเบี้ยวแบบนี้

เมื่อสิบห้าปีก่อนด้วยความเข้าใจผิดจึงเธอถูกพาไปตระกูลมู่โดยมู่เฉิงประธานของตระกูลมู่ หลังจากนั้นชื่อของเธอก็เปลี่ยนไป

สำหรับที่มาของจี้หยกคุณปู่มู่ไม่เคยบอกอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ บอกเพียงว่าเป็นของที่ระลึกของแม่เธอ

เมื่อมาถึงบ้านตระกูลมู่คุณปู่มู่ก็เอาจี้หยกของเธอไปเก็บไว้ด้วยกันกับจี้หยกอีกชิ้นหนึ่ง ในบางครั้งเธอจะเห็นคุณปู่เหม่อลอยขณะจ้องมองไปที่จี้หยกนั้นราวกับว่ากำลังคิดถึงใครอยู่

และเมื่อเธออายุมากขึ้นคุณปู่ก็เล่าเรื่องของเธอเกี่ยวกับผู้หญิงคนนั้ เธอถึงได้รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นลูกบุญธรรมของเขา เขาพูดเรื่องราวเกี่ยวกับผู้หญิงคนนั้นมากขึ้นแต่บางทีก็ดูเหมือนปกปิดบางอย่างจากเธอและไม่ได้พูดอะไรต่ออีก

หลังจากนั้นเธอก็กลายเป็นลูกสาวของตระกูลมู่ เธอเติบโตขึ้นมาด้วยความรักนับพันและเธอก็ถูกหมั้นหมายกับหลานชายของเขาซึ่งก็คือมู่หย่าเจ๋อ

ตั้งแต่แรก เธอไม่ได้บอกที่มาที่แท้จริงของจี้หยกนี้และจงใจปกปิดมัน เพราะถ้าเธอสารภาพทุกอย่างไปก็หมายความว่าเธอจะสูญเสียทุกอย่างทั้งทรัพย์สมบัติครอบครัว สถานะคุณผู้หญิงตระกูลมู่ และที่สำคัญคือสูญเสีย… มู่หย่าเจ๋อ

เธอ… ไม่เต็มใจ! ไม่เต็มใจที่จะปล่อยไปและไม่คิดที่จะคืนสิ่งเหล่านี้ให้กับเจ้าของที่แท้จริงเช่นกัน!

เธอยอมรับว่านี่เป็นความเห็นแก่ตัว มันไม่ยุติธรรมสำหรับผู้หญิงคนนั้น แต่เธอก็ไม่เสียใจที่ทำแบบนี้เนื่องด้วยความละโมบทั้งหมดนี้ทำให้เธอหลงตัวเองในความโลภ

ในตอนแรกที่เธอเข้าไปในบ้านตระกูลมู่เธอรู้สึกผิดและกังวลใจเพราะท้ายที่สุดแล้วสิ่งเหล่านี้ไม่ได้เป็นของเธออย่างแท้จริง แต่เป็นของหญิงสาวที่ชื่อหยุนซือซือ