36 ซูมิเระ พบกับเซ็นไป

◇มุมมอง ซูมิเระ◇

“พูดถึงแล้ว ยูจีนจัง ใครคือสาวน่ารักตรงนั้นอ่ะ?”

ชายยิ้มอย่างเหลาะแหละ

ผมบลอนด์ยาวที่ไม่ดูซักนี้ดของเขา ไม่ให้หนูเห็นตาของเขา

เขาสูง และมีร่างกายของโมเดลแหนะ แต่หลังงอ เลยเสียหมดเลย

เขาแน่นอนว่าจะดูเท่ ถ้าเขาดูแลตัวเองมากกว่านี้

นั่นคือความประทับใจที่หนูได้ จากเขา

“คาโล่เซ็นไป สาวคนนี้คือซาชิโอกิ ซูมิเระซัง เธอเกิดใหม่ในโลกนี้ จากโลกคู่ขนาน ไม่รู้จักเธอเหรอ? เธอเป็นหน้าใหม่ ที่มีแผนที่จะเข้าคลับสัตว์น่ะ” (ยูจีน)

“เข้าใจแล้ว~ คนต่างโลก หือ~ ครั้งแรกเลยนะ ที่ชั้นเห็นซักคน” (คาโล่)

“ย-ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ หนูชื่อซาชิโอกิ ซูมิเระ” (ซูมิเระ)

“ยินดีที่ได้รู้จักจ้า~ พูดถึงแล้ว ทำอะไรได้มั่งล่ะ?” (คาโล่)

จู่ๆ พี่เค้าก็ถามนี่กะหนู

“หนูทำอะไรได้เหรอ…? อืม หนูเชี่ยวชาญเวทย๋ไฟ! แล้วก็ หนูมีเป้าหมายที่การต่อสู้โดยใช้มือเปล่า” (ซูมิเระ)

“น้องทำบางอย่างเหมือนเทมมอนสเตอร์ หรืออัญเชิญสิ่งมีชีวิตลึกลับหายากไม่ได้เหรอ?” (คาโล่)

<วายุ: จะเรียกการจับสัตว์มาเลี้ยง/ทำให้เชื่อง ว่า เทม (นะครับ) และอาชีพ นักเลี้ยงสัตว์ จะถูกเรียกว่า เทมเมอร์ (Tamer) แทนครับ>

“ห-หนูทำไม่ได้ค่ะ…” (ซูมิเระ)

“เข้าใจแล้ว น่าเสียดายนะ” (คาโล่)

คาโล่เซ็นไป ห่อไหล่ของเขา

หนูตกใจนิดหน่อย

เพราคนที่หนูเจอ มาจนถึงตอนนี้ทุกคน สนใจหนูในฐานะคนต่างโลก

แต่พี่คาโล่เซ็นไปคนนี้ ไม่โซว์ความสนใจเลยซักนิด

“เจอกัน รุ่นน้องของพี่ พี่จะกลับไปที่แล็บแล้ว พี่ไม่คิดว่าจะทำวิทยานิพนธ์ได้ทันเวลาเสนองานหน้าห้องน่ะ เห็นมั้ย” (คาโล่)

เขาโบกมือของเขา และหันไป

‘หืม พี่เค้าแปลกๆนิดหน่อยนะ’ -คือที่หนูคิด ขณะที่หนูมองหลังเขาเดินไป

“โทษทีพี่ คาโล่เซ็นไป! ผมขออะไรพี่ทีดิ!” (ยูจีน)

แต่ยูจีน เป็นคนที่หยุดพี่เค้า

—หอคอยซีนิท บาเบล ชั้น52

“พวก มันเป็นซักพักแล้ว ตั้งแต่ที่ชั้นมาสำรวจดันเจี้ยน~! หืนน อากาศชื้นๆ และมานาโคลนๆ! ไม่ว่าชั้นมาที่นี่กี่ครั้ง ดันเจี้ยนสุดท้ายมันหลายอารมณ์จริงๆเลย~!” (คาโล่)

คาโล่เซ็นไป ดูเหมือนจะตื่นเต้นมากๆ แม้ว่าพี่เค้าพูดอย่านั้น

มันโอเคจริงๆที่จะส่งเสียงดังขนาดนั้นเหรอ เมื่อมอนสเตอร์อาจจะมาน่ะ?

“อืม…ยูจีนคุง ทำไมเรามาที่ดันเจี้ยนสุท้ายอ่ะ…? ไม่ใช่เราสมควรจะฝึกกันซักพัก จนกว่าซาร่าจังจะกลับมาเหรอ?” (ซูมิเระ)

หนูถามคู่หู ยูจีนคุง

“ตัวเราคิดว่ามันจะดีกว่า ที่ตัวเธอจะเห็นสไตล์การต่อสู้ของคาโล่เซ็นไปน่ะ มันจะเป็นเรื่องเรียนรู้ -สำหรับตัวเราด้วย” (ยูจีน)

“จริงเหรอ…?” (ซูมิเระ)

หนูเอียงหัว

คาโล่เซ็นไป ใส่ชุดเหมือนที่โลกเก่าของหนู จะเรียกว่าเสื้อโค้ทห้องแล็บ และไม่ได้มีอาวุธในมือ

หนูไม่เห็นพี่เค้า เป็นนักสำรวจเลยซักกะนี้ด

เมื่อหนูถามพี่เค้า ‘พี่ไม่มีสหายเหรอคะ?’ พี่เค้าตอบด้วย ‘ชั้นโซโล่’

แต่หนูถูกสอนมาในโรงเรียน ว่าการสำรวจดันเจี้ยน หลักๆแล้วทำกันเป็นทีมนะ…

มันเป็นตอนนั้น…

*ปุ่ชุ่!*

“ว้าย!” (ซูมิเระ)

บางอย่างหมอกๆ พัดมาหาเรา

หนาว!

นี่อะไรอ้ะ?!

“คาโล่เซ็นไป ถ้าพี่จะสาดน้ำศักดิ์สิทธิ์ขับไล่มอนสเตอร์ใส่เรา ได้โปรดบอกเราก่อนหน้าสิ ซูมิเระตกใจหมดแล้วนั่น” (ยูจีน)

“อ้าาา~ โทษที โทษที” (คาโล่

เขาขอโทษ โดยที่เสียงไม่เหมือนขอโทษ

มมมมุ…

พี่เค้าไม่คิดว่าพี่เค้าทำอะไรไม่ดีเหรอ?!

มนุษย์กิ้งก่า อยู่ดีๆก็โผล่มา พร้อมอาวุธในมือ เพพราะมันน่าจะได้ยินเสียงเอะอะ

มันเฝ้าดูเราด้วยตาที่คม เหมือนมองของสกปรก

(ใกล้ขนาดนี้เลย?!) (ซูมิเระ)

ที่ไล่มอนสเตอร์ แม้แต่ได้ผลมั้ยเนี่ย

หนูรีบตั้งท่ายืน แต่ยูจีนคุง ไม่ได้ดูเหมือนจะลนลาน

“คาโล่เซ็นไป ผมควรจะซื้อเวลามั้ย?” (ยูจีน)

“มันโอเค~ ชั้นเรียกพวกเธอแล้ว” (คาโล่)

แม้ว่ามอนสเตอร์ เข้าใกล้เรามากขนาดนี้ พวกพี่เค้ายังคุยกันไร้กังวลอยู่เลย

ยูจีนคุง ยืนระหว่างมอนสเตอร์และเรา ดั่งจะปกป้องเรา โดยไม่ชักดาบ แต่เขาขยับไปด้านข้างทันที

มนุษย์กิ้งก่า  ดูเหมือน จับตามาที่เซ็นไป ผู้ที่ไม่มีอาวุธ

ชิดระยะอย่างช้าๆ

คาโล่เซ็นไป พูดในน้ำเสียงที่อ่อนโยน

“{มา}” (คาโล่)

ตอนแรก หนูไม่รู้ ว่าพี่เค้าพูดนั่นกับใคร

แค่หนูเรียนรู้เกี่ยวกับมัน ไม่นานหลังจากนั้น

*หึ่งงงง หึ่งงงง หึ่งงงง หึ่งงงง หึ่งงงง หึ่งงงง หึ่งงงง หึ่งงงง หึ่งงงง หึ่งงงง หึ่งงงง หึ่งงงง หึ่งงงง หึ่งงงง หึ่งงงง หึ่งงงง หึ่งงงง หึ่งงงง หึ่งงงง หึ่งงงง หึ่งงงง หึ่งงงง…*

“…เอ๋?” (ซูมิเระ)

เสียงหึ่งที่ฟังแล้วรำค๊าญรำคาญ

มันเป็นเสียงที่หนูได้ยิน บางครั้งบางคราวจากโลกก่อน

—ฝูงผึ้ง

มากกว่านั้น ขนาดนั้นไม่ปรกติ

ผึ้งขนาดเท่าหมัด ที่เหมือนตัวแตน ล้อมเรา

“ฮฮฮฮฮฮิ้!!” (ซูมิเระ)

หนูกรีดร้อง และกำลังจะหล่นไปที่ก้น

บางคนดึงไหล่หนู และปิดปากหนู

“ซูมิเระ ตัวเธอจะยุผึ้งนักฆ่าที่เซ็นไปเรียกมา ถ้าตัวเธอเสียงดัง ดังนั้นแค่ดูเงียบๆเถอะนะ” (ยูจีน)

เสียงของยูจีนคุงจริงจัง

มากกว่าเมื่อสู้กับมอนสตอร์อีก

“หยาบคายจัง ผึ้งทีน่ารักของชั้นจะไม่โจมตีนายหรอก~ แล้วก็ ชั้นได้สาดที่ไล่มอนสเตอร์ไปอย่างถูกต้องด้วย” (คาโล่)

“ง-ั้น น้ำศักดิ์สิทธิ์เมื่อกี้คือ…” (ซูมิเระ)

ไม่ใช่สำหรับมอสเตอร์ของดันเจี้ยน แต่เพื่อเลี่ยงมอนสเตอร์ที่คาโล่เซ็นไปควบคุมเหรอ

หนูกลืนน้ำลาย ละมองรอบข้างอีกครั้ง

ฝูงที่มหาศาล ของผึ้งเป็นพัน

พวกมันจัดแถวกันอย่าสวยงาม และบินอย่างสง่างาม

แน่นอนว่ามันต่างระดับจากมอนสเตอร์ที่หนูเจอมาจนถึงตอนนี้

“กย้าาาาาาาาา!! …อ้าาา…อา”

เสียงกรีดร้องดังขึ้น

แต่เบาลงอย่างช้าๆ

อุว้าาาา…

ตอนนี้ที่หนูดู มนุษย์กิ้งก่าเมื่อกี้ได้ถูกต่อยไปทั้งตัว คายเลือดออกมาและทรุดไป

มีผึ้งมากายล้อมซากของกิ้งก่า

*ค่ะชิ ค่ะชิ ค่ะชิ*

เสียงที่ต่างจากฟันถูกสร้าง

หนูไม่อยากที่จะจินตนาการเลย ว่านั่นเสียงอะไร

“ลูกๆที่กำจัดกิ้งก่าจัง กินมันได้ แต่ อย่าทิ้งอะไรไว้ข้างหลังนะ โอเค๊~?” (คาโล่)

คาโล่เซ็นไป พูดมันในท่าทางที่สดชื่น

*ค่ะชิ ค่ะชิ ค่ะชิ ค่ะชิ ค่ะชิ*

ผึ้งทั้งหมด ทำเสียงด้วยปากของมัน ในเวลาเดียวกัน

พวกมันมีความสุข…หนูว่านะ?

“…”

หนูแม้แต่พูดก็ไม่ได้อีกแล้ว

มอนสเตอร์กินมอนสเตอร์อ้ะ…

หนูเคลื่อนไหวสายตาหนี ด้วยปฏิกิริยาตอบสนอง

“ซูมิเระ ตัวเราว่าตัวเธอเข้าใจมันแล้วตอนนี้ แต่คาโล่เซ็นไปเป็นผู้ใช้มอนสเตอร์ เทมเมอร์ พี่เค้าเชี่ยวชาญเรื่องแมลง

“ใช่…ตัวเราเข้าใจมันนะ แต่ทำไมตัวเธออยากจะโชว์นี่ให้ตัวเราดูล่ะ?” (ซูมิเระ)

“ตัวเราจะอธิบายนั่นกับตัวเธอที่หลัง” (ยูจีน

ออออุ่ แต่หนูไม่เก่งกับแมลงอ่ะ

หนูได้ยินจากยูจีนคุง ว่ามีเทมเมอร์อยู่เยอะ ในคลับสัตว์

แต่หนูจินตนาการว่ามอนสเตอร์ประเภทอื่น ถูกควบคุม

หนูจะชอบมอนสเตอร์ที่น่ารักกว่านี้

“ยูจีนจัง มันโอเคที่ชั้นจะเคลียร์ชั้นนี้มั้ย?” (คาโล่)

“ได้ มันโอเค…หรือเหมือนกับ พี่บังคับอย่างละเอียดไม่ได้ ใช่ป่ะล่ะ?” (ยูจีน)

“อ่ะฮ่าฮ่า! ตอนนี้เมื่อนายพูดมัน นั่นจริง~” (คาโล่)

“พูดถึงแล้ว…พี่ต้องไม่ทำลายดันเจี้ยนนะ โอเคมั้ย?” (ยูจีน)

“ชั้นรู้ ชั้นรู้” (คาโล่)

หนูมีคำถามอยู่ไม่กี่คำ เกี่ยกับการสนทนา ระหว่างยูจีนคุงและคาโล่เซ็นไป

“เฮ้ ยูจีนคุง นี่คืออะไรเกี่ยวกับการทำลายดันเจี้ยนอ่ะ?” (ซูมิเระ)

“อาา…นี่เป็นเรื่องก่อนที่ชั้นเข้าโรงเรียน แต่บริเวณที่ราบของหอคอยซีนิท…เมื่อเคลียร์ชั้น 2-10 คาโล่เซ็นไปเทมตั๊กแตนโอนิ และกินหญ้าและต้นไม้บนทุ่งหญ้า ทำลายระบบนิเวศขณะที่พี่เค้าผ่าน มันเปลี่ยนเป็นปัญหาใหญ่ในเวลานั้น เพราะนี่…” (ยูจีน)

“ต-ตั๊กแตน…?” (ซูมิเระ)

“พูดถึงแล้ว นี่ไงตั๊กแตนโอนิจัง” (คาโล่)

“เอะ—คย้าาาาาาาาาาาาาาาาา!” (ซูมิเระ)

คาโล่เซ็นไป มีบางอย่างอยู่ที่มือขวา

สิ่งที่อยู่บนมือนั้น คือตั๊กแตน {ขนาดเท่าทารก}

หนูขนลุกเลยมะกี้

น-น่ากลัว! นี่สกปรกอ่ะ!!!

“คาโล่เซ็นไป…” (ยูจีน)

“อ้าา โทษที โทษที” (คาโล่)

คาโล่เซ็นไป ขอโทษกับที่หนูกรี้ด และเขาเก็บตั๊กแตนนั้น ไว้ในกระเป๋าของเสื้อคลุมขาว

เอ๋…?

ไม่ว่าจะคิดมันยังไง นั่นไม่ใช่ขนาด ที่จะเข้าไปในนั้นนี่

“ย-ยูจีนคุง?! นั่น…!” (ซูมิเระ)

“มีเวทย์จัดเก็บ ร่ายอยู่บนกระเป๋าของเสื้อคลุมน่ะ และเห็นว่าพี่เค้ามีมอนสเตอร์แมลงหลายประเภท เป็นโหลๆ อยู่ทั่วในกระเป๋าของพี่เค้า” (ยูจีน)

“อ-อย่างนั้นเหรอ…” (ซูมิเระ)

หนูสร้างระยะห่างจากคาโล่เซ็นไปอย่างช้าๆ

พี่เค้ามีมอนสเตอร์แมลงเป็นโหลๆ ซ่อนอยู่ในกระเป๋าพี่เค้า มาตลอดเวลาเลยเหรอ?

ไม่ใช่พี่เค้ามันภัยพิบัติเดินได้เหรอเนี่ย?

“งั้นตอนนี้ ผึ้งที่น่ารักของชั้น~ ชั้นหวังพึ่งพวกเธอให้สำรวจนะ~” (คาโล่)

เมื่อคาโล่เซ็นไปออกคำสั่ง ฝูงใหญ่ของผึ้งหายไปในชั้น 52 —ป่าของต้นไม้

หืม?

มันโอเคที่เราจะอยู่นี่เหรอ?

จากนั้น คาโล่เซ็นไป นำอะไรที่ดูเหมือนลูกบอลกลมๆ ออกมาจากข้างในกระเป๋าของพี่เค้า และเรียงมัน

(นั่นคือ…ไข่?) (ซูมิเระ)

มันดูเหมือนไข่สีส้ม ที่ปกคลุมด้วมฟิลม์บางๆ

แต่หนูมั่นใจ ว่าอะไรที่มันจะบึ๋งขึ้นมา คือแมลงนะ…

“มีอะไรบางอย่าง ที่ผมช่วยได้มั้ย?” (ยูจีน)

“หืมม งั้น ใส่มานาเข้าไปในไข่ ด้วยกันกับชั้นได้มั้ย? มันจะเร่งการฟัก” (คาล่า)

“เข้าใจแล้ว” (ยูจีน)

พูดนี่ ยูจีนคุงวางมือลงในไข่ใบใหญ่ และเริ่มใส่มานา ด้วยกันกับคาโล่เซ็นไป

ถ้ามันแค่นั้น แม้แต่หนูก็สามารถจะทำได้ด้วย…

“ขอโทษทีค่ะพี่ หนูจะช่วยอีกแรง!” (ซูมิเระ)

“หืม? จริงเหรอ? ขอบใจนะ~” (คาโล่)

หนูวางมือลงบนไข่สีส้มอย่างประหม่า

มันนุ่ม เด้งๆ และอุ่น

(ป-ประมาณเท่านี้ ชั้นเดาว่า…?) (ซูมิเระ)

หนูทำที่หนูถูำกสอนมาในวิชาเวทย์: ส่งผ่านมานา เหมือนกับเมื่อรวบรวมมานา ในไม้เท้า

ซักพักหลังจากนั้น หนูได้ยินเสียง *โด่ะคุ้น!* และรู้สึกถึงการเต้นที่แรง

“เอ๋?” (ซูมิเระ)

ไข่ที่ส้มจนถึงตอนนี้ กลายเป็นสีแดงลุกไหม้

หนูสำเร็จที่นี่มั้ย?

“โอ้? มานาของรุ่นน้องของชั้นแปลกแฮ๊ะ~” (คาโล่)

“ของผมเปลี่ยนเป็นสีขาว” (ยูจีน)

เมื่อหนูมองดู ไข่ที่มีมานาของยูจีนคุง ได้เปลี่ยนเป็นสีขาว

*ซุ่ช่าาาาาา!!*

จู่ๆ บางงอย่างก็กระโดดออกมาจากไข่ หน้าหนู

“เอ๋? …คย้าาาาาาาาาาาาา!!!” (ซูมิเระ)

ใครจะรู้ล่ะเนี่ย ว่าหนูกรี้ดไปกี่ครั้งแล้ววันนี้

มันคือมด

มดแดงยักษ์ ที่ขนาดเท่าคนได้ ถ้ามันยืนแนวตั้ง

“โออ้! มันตัวแปลก ว้าว เพราะมานาของคนต่างโลกเหรอ?” (คาโล่)

คาโล่เซ็นไป สังเกตด้วยความสนใจ

เมื่อหนูมองไปรอบๆ มีมดยักษ์ ฟักทีละตัวตามๆกัน

สีมันคือดำ

มีมดขาวตัวใหญ่ผสมกับพวกมัน แต่มันดูเหมือนนั่นเป็นตัวที่ยูจีนฟัก ด้วยมานาของเขา

“…เอ๋?” (ซูมิเระ)

หนูดูไปรอบๆ หนูเลยไม่ได้สังเกต แต่เมื่อเวลาที่หนูรู้ มดตัวใหญ่ฟักจากมานาของหนู และไต่ขึ้นมาบนหนู

“กย้าาาาาาาาา!” (ซูมิเระ)

หนูส่งเสียงกรี้ด ที่หนูไม่แพ้เวลาเมื่อตอนมนุษย์กิ้งก่าเลย

“ซูมิเระ!!” (ยูจีน)

เสียงที่เดือดดาล ของยูจีนคุง

“อ่ะฮ่าฮ่า! กองทัพมดน้อยฉลาด ดังนั้นมันดูเหมือนพวกเธอบอกได้ว่าใครเป็นคนมอบมานาให้ พวกมันติดเธอน่ะ ซูมิเระจัง” (คาโล่)

เสียงที่ร่าเริ่งของคาโลเซ็นไป  คือสิ่งสุดท้ายที่หนูได้ยิน

(…อา…นี่แย่แล้ว สติชั้น…) (ซูมิเระ)

ทุกอย่างตรงหน้าหนู กลายเป็นดำสนิท

—หนูหมดสติ

◇มุมมอง ยูจีน◇

“ซูมิเระ!” (ยูจีน)

ผมนำกองทัพมด ออกไปจากซูมิเระ

ผมได้ยินเสียงหายใจเป็นจังหวะ

ดูเหมือนเธอเพียงแค่สลบ

“อาา…ชั้นทำอะไรบางอย่างแย่แล้วดิเนี่ย เธอเป็นไรป่าว?” (คาโล่)

“มันดูเหมืนอความช็อคมันใหญ่เกินไป ผมคิดว่าจะอุ้มเธอซักพัก ไม่ว่ายังไง นี่คือภาพภาพนึงเลยนะ” (ยูจีน)

ผมสังเกตกองทัพมดที่ฟัก

ไม่ใช่รวมๆกันมันมีมากกว่า 100?

พวกมันทุกตัว แกร่งอย่างมาก

และคาโล่เซ็นไป ควบคุมพวกมัน โดยไม่มีปัญหาอะไร

ผมคิดว่าพี่เค้าเป็นเทมเมอร์ ที่มีความสามารถที่น่ากลัว

“เพราะทั้งหทด พวกเธอเป็นลูกๆ ที่ชั้นภาคภูมิใจ” (คาโล่)

คาโล่เซ็นไป ตอบอย่างภาคภูมิใจ

“งั้นตอนนี้ ออกเดินทางกัน” (คาโล่)

*ค่ะชิ ค่ะชิ ค่ะชิ ค่ะชิ ค่ะชิ ค่ะชิ ค่ะชิ ค่ะชิ ค่ะชิ ค่ะชิ ค่ะชิ ค่ะชิ ค่ะชิ ค่ะชิ ค่ะชิ ค่ะชิ ค่ะชิ ค่ะชิ…*

กองทัพมด ปล่อยเสียงออกมาจากปากของพวกมัน ในเวลาเดียวกัน

นี่น่ากลัวนิดหน่อย

มันดูเหมือนผึ้งนักฆ่า ได้สอดแนมบริเวณแล้ว คาโล่เซ็นไปเลยเดินผ่านทะเลของต้นไม้มืดๆ โดยไม่หลงทาง

กองทัพมด ปกป้องรอบข้างของเรา

เราโดนโจมตีโดยมอนสเตอร์ ระหว่างทาง แต่พวกมันถูกกำจัดไปอย่างง่ายๆ โดยมอนสเตอร์แมลง ที่คาโล่เซ็นไปควบคุม -แม้แต่มอนสเตอร์บินได้ เหมือนกริฟฟิน

ผึ้งนักฆ่า จะต่อยปีก และกองทัพมดจะกินมันในทันที

พลังของมอนสเตอร์ของคาโล่เซ็นไป ทางเทคนิคแล้ว: พลังในจำนวน

ไม่ว่ามากเท่าไหร่ที่ฝั่งเราถูกกำจัด มอนสเตอร์ตัวต่อไป จะเข้าใส่ศัตรู และสังหารมัน

และคาโล่เซ็นไปเติมมอนสเตอร์ที่ลดจำนวนลงไป

และ ส่วนที่โหดที่สุดของนี่ก็คือ

*กรุบ กรุบ กรุบ กรุบ กรุบ กรุบ กรุบ กรุบ…*

*กรุบ กรุบ กรุบ กรุบ กรุบ กรุบ กรุบ กรุบ…*

*กรุบ กรุบ กรุบ กรุบ กรุบ กรุบ กรุบ กรุบ…*

มอนสเตอร์ที่ถูกกำจัดถูกกิน ที่นั่นที่นี่

กองทัพมดกินมอนสเตอร์เพื่อดูดซับความแกร่ง และทำให้เป็นความแกร่งของมันเอง

“โอ้ มันวิวัฒนาการอีกแล้ว จำนวนของมดกัปตันเพิ่มขึ้นแล้ว” (คาโล่)

ผมได้ยินเสียงที่มีความสุข

ที่คือที่กองทัพแมลง ของคาโล่เซ็นไป แกร่งขึ้นเรื่อยๆ และเหยียบย่ำชั้น 52 ได้อย่างไร

พูดถึงแล้ว ซูมิเระตื่นขึ้นทีนึง และเห็นกองทัพมดกินมอนสเตอร์ และสลบอีกครั้ง

ผมควรจะปล่อยเรื่องคุยไว้ทีหลัง

(…หืม?) (ยูจีน)

มอนสเตอร์ถูกจัดการ โดยมอนสเตอร์ของคาโล่เซ็นไป ดังนั้น ผมไม่มีอะไรทำ

ระหว่างที่ผมเฝ้าดูรอบข้าง ผมพบบางอย่าง ส่องสว่างอยู่ที่พื้น

(นี่คือ…) (ยูจีน)

ผมหยิบมันขึ้น

ผมคิดว่าบางอย่างที่นักสำรวจทำหล่น แต่มันไม่ใช่ไอเท็มการสำรวจ

ทำไมบางอย่างแบบนี้อยูนี่…?

“ยูจีนจัง ไปกันเถอะ~” (คาโล่)

คาโล่เซ็นไป เดินไปข้างหน้า ระหว่างที่ผม สงสัยเกี่ยวกับนี่

ผมืมเกี่ยวกับอะไรที่ผมหยิบสำหรับตอนนี้ และถามคาโล่เซ็นไป เกี่ยวกับหัวเรื่องหลัก

“ชั้นไหน ที่ผึ้งนักฆ่าและกองทัพมด {ปรากฏตัว} ?” (ยูจีน)

“หืมม ประมาณชั้น 61 ชั้นเดาว่า? แต่พวกมันไมม่ได้มาในจำนวนใหญ่นะ ตอนแรก” (คาโล่)

“ครับ…” (ยูจีน)

เจ้าพวกี่ที่ทำลายชั้น 52 ปรกติแล้วโผล่มาเป็นมอนสเตอร์ หลังจากอีก 9 ชั้นเพิ่มขึ้้นไป

มากกว่านั้น ขณะที่คุณไปสูงขึ้นจำนวนของพวกมันเพิ่ม จนเป็นฝูง

อะไรที่มีปัญหาเกี่ยวกับนี่ คือพวกมัน {วิวัฒนาการ}

กองทัพมดวิวัฒนาการนั้นเข้มข้น

ทหารมด → กัปตันมด → มดยาวทีม → มดยาวกองทหาร → มดนายพล

พวกมันแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ในแบบนั้น

ผมได้ยินว่า มดนายพล สู้ได้แม้กระทั่งมังกร

หรือเหมือนกับ ผมเคยเห็นมดนายพลของคาโล่เซ็นไป กำจัดมังกร

ต้องคิดถึงมาตรการป้องกันกับพวกนี้แล้วสิ

คาโล่เซ้นไปพูดกับผม ระหว่างที่ผมคิดสุดหัว

“ยูจีนจัง ชั้นว่านายรู้แล้ว แต่บอกชั้นที ว่าทำไมมอนสเตอร์แมลงถูกกลัว” (คาโล่)

“เพราะความ {หิวโหย} ที่มหาศาล ของมอนสเตอร์แมลง ใช่มั้ยครับ?” (ยูจีน)

“ถูกต้อง! ลูกๆนั้นจะกินเหยื่อที่ถูกกำจัดทันที หรือพาพวกมันกลับไปที่รัง ดังนั้นนายจะใช้หยดน้ำชุบชีวิตไม่ได้” (คาโล่)

ถ้ามันจนถึงชั้น 100 คุณใช้หยดน้ำชุบชีวิต เพื่อชุบชีวิตคนตายได้

แต่มันไม่ได้ผล กับมอนสเตอร์แมลง

ขอบคุณนี่ มอนสเตอร์แมลง เป็นมอนสเตอร์ที่สร้างปัญหาให้นักสำรวจ ในชั้นส่วนใหญ่ ที่อยู่ใต้ชั้น 100

ชั้น 52 ถูกเคลียร์อย่าง่ายดาย ด้วยการช่วยเหลือของคาโล่เซ็นไป (หรือเหมือนกับ ส่วนใหญ่เป็นงานเขา)

◇◇

“ชั้นจะไปเดินเตร่ในดันเจี้ยนอีกนิดหน่อย เพราะทั้งหมด มันดูเหมือนลูกๆพวกนี้หิว” (คาโล่)

“ขอบคุณสำหรับวันนี้ครับ” (ยูจีน)

“ไม่มีปัญหา~” (คาโล่)

คาโล่เซ็นไป ลากกองทัพแมลง ขณะที่เขาเดินหน้าไปที่ชั้น 53

ถ้าเป็นแบบนี้ มอนสเตอร์จะถูกเหยียบย่ำซักพัก

ผมหวังว่านักสำรวจคนอื่น จะไม่ตกใจนะ

หรือเหมือนกับ พวกเขาส่วนใหญ่จะสลบล้มพับ ตรงนั้นและเดี๋ยวนั้นเลย

เสียใจด้วย

ผมอุ้มซูมิเระ และไปที่ลิฟต์ดันเจี้ยน

“…เอ๋? มอนสเตอร์แมลงพวกนั้น จะปรากฏจากชั้น 61 และขึ้นไปเหรอ?”

บนทากลับไปที่ลิฟต์ดันเจี้ยน ผมบอกความเป็นจริงนี้กับซูมิเระ ละเธอซีด

แน่นอน ผมก็บอกเธอ ว่าอะไรที่ถูกกลัว เกี่ยวกับมอนสเตอร์แมลง

มันจะอันตราย ถ้าเธอคิดว่า เธอถูกชุบชีวิตได้หลังจากทั้งหมด

“……”

ซูมิเระฟังในความเงียบ พร้อมหน้าซีด

นั่นพูด ตัวผมยืนยันความน่ากลัวของมันอีกครั้ง

“ยูจีนคุง…เจอกัน…” (ซูมิเระ)

ผมนำซูมิเระที่ไม่มั่นคงตลอดทางไปถึงหอหญิง

เธอจะโอเคมั้ย…?

มาให้เธอพักดีๆ สำหรับวันนี้เถอะ

แล้วก็ ผมรู้สึกว่ผมต้องคิดจริๆ เกี่ยวกับว่าจะทำอะไร กับชั้นในอนาคต

ผมนำเครื่องประดับเงินออกมาจากเป๋า

นี่เป็นที่ผมเก็บได้ จากชั้น 52

มีจำนวนหนึ่งที่ผมอยากจะถาม ผมเลยตัดสินใจ จะมุ่งหน้าไปที่ที่ {เธอ} อยู่

◇กรง 7 ของคลับสัตว์ – คุกปิดผนึกใต้ดิน◇

“ฟฟฟี้…ฟฟฟี้…”

เมื่ออผมมาถึงกรของเจ้าอสูร นางฟ้าตกสวรรค์ พร้อมปีกดำนิล โชว์หน้าที่หลับอย่างสงบสุข

(นั่นหายากนะ…) (ยูจีน)

เมื่อไหร่ก็ตามที่ผมมา เธอจะ ‘เตงมาสาย~!’ และวิจารณ์ผมตลอด

ผมเปิดกรง ละเข้ามัน

เอริไม่ตื่น

“เอริ ตะ—” (ยูจีน)

“…หืน อ่ะย้า?!” (เอริ)

ทันทีที่ผมเขย่าไหล่เธอ เพื่อพยายามจะปลุกเธอ ตาของเธอเปิดกว้าง

“…ยูจีน มีอะไรเหรอ?” (เอริ)

เอริขยี้ตา

“ขอโทษเกี่ยวกับนั่นน่ะ ที่ปลุกเธอระหว่างที่เธอหลับ” (ยูจีน)

“เตงแค่โจมตีเค้า ตรงนั้นเด๋วนั้นเลยกะด้ายนี่” (เอริ)

ผมหลบตาผม จากสายตามองข้าง

ผมนำเครื่อประดับเงิน ที่ผมเก็บจากดันเจี้ยน ออกมาจากกระเป๋าของผม

“ได้โปรดดูนี่” (ยูจีน)

เครื่องประดับเงิน ของงูรัดแอปเปิิ้ล

นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นมัน แต่ผมรู้ความหมายของมัน

งู เป็นสัญลักษณ์ของเทพมาร ที่อสูรบูชา

พูดอีกอย่างถ้าสัญลักษณ์งู มันจะพิสูจน์ว่าเป็นศาสนาของเหล่าอสูร ศาสนาเจ้าอสูร

ที่มันถูกทิ้งไว้ที่นั่นต้องหมายถึง  มีการบูชาเจ้าอสูรที่ชั้น 52 ที่เราเพิ่งจะอยู่กัน

—หรือที่ถูกรู้จักว่า: โบส์งู

“โอ้? นี่คือ…?” (เอริ)

มันดูเหมือนเจ้าอสูรสนใจ

“เอริ…เธอรู้เกี่ยวกับมัน ใช่มั้ย?” (ยูจีน)

ผมถามเอริ ผู้ที่เป็นเป้าหมายของการบูชา ในศาสนาเจ้าอสูร

“แน่นอนสิ ชั้นเป็นคนที่ออกแบบเครื่องหมายของโบสถ์” (เอริ)

“…อะ?” (ยูจีน)

การตอบมาที่ผมได้ ที่มันเลยที่ผมคาดไป กลับมาหาผม

วายุ: หึ่งงงง

 แปลโดย: wayuwayu

เป้าหมายเดือน 10/66

ค่าเน็ต 200/200

กาแฟ 100/300

คอมใหม่ 0/2000

สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่

067-3-63958-5

วายุ แซ่จิว

กสิกรไทย

ถ้าท่านชอบและอยากอ่านเพิ่ม โปรดโดเนทสนับสนุนผู้แปลด้วยนะครับ สปอนเซอร์ตอนให้อัพโหลดเพิ่มทันที แจ้งได้ทาง Facebook ครับ