ทาคามิเนะ มายูกะ

 

เฮ้อ! ตกใจแทบแย่ ไม่คิดเลยว่านัตสึคาวะจะประกาศสงครามมาแบบนั้น

ให้ตาย ยังขนลุกอยู่เลย แถมตัวก็ยังสั่นไม่มีท่าทีจะหายด้วย

รู้สึกอย่างกับเจอตัวประหลาดที่พูดไม่ได้เป็นภาษาเลย

 

เอาจริงๆคือคิดอยู่ว่าจะถอนตัวไปดีมั้ย

แต่ถ้าเฟดตัวออกไปตอนนี้ก็เท่ากับว่าเราถวายโคโมริให้

ผู้ชายที่เอาตัวเองเข้าแลกเพื่อปกป้องผู้หญิงที่โดนสตอร์กเกอร์

 

ถ้าเป็นแบบนั้นมีทางเลือกเดียวคือเก็บเอาไว้ก่อนสินะ

ช่วยไม่ได้ ท่าทางนัตสึคาวะเองก็เอาจริงเอาจังซะด้วยสิ….ชวนโคโมริไปเดทดีมั้ยนะ ใหนๆก็สุดสัปดาห์พอดีด้วย

 

ถึงจะได้เป็นคนรักปลอมๆกับนัตสึคาวะ แต่เหมือนจะไม่ได้มีภูมิคุ้มกันผู้หญิงเท่าไหร่ ถ้าพาไปพวกร้านชั้นในกับร้านชุดว่ายน้ำคงตกได้ง่ายๆ

 

ให้ตายสิ รู้สึกขอบคุณฉันซะด้วยละ?

ชนชั้นสูงในห้องเรียนแบบฉันเสียทั้งเวลาเสียทั้งเงินให้เลยนะ

บางทีคงจะโชคดีที่สุดในชีวิตแล้วละมั้ง

 

อิสุมิ เทนชิ

 

สุดท้ายแล้วฉันก็ไม่ได้ตอบคุณเคนโกกลับไป

เพราะจัดการอารมณ์ของตัวเองได้ไม่ทัน

ในตอนที่ฉันร้องไห้ฟูมฟาย คุณโชตะก็คอยลูบหลังให้อย่างเงียบๆ

 

คงจะรู้สึกไม่สบายใจแน่ๆเลยที่โดนผู้หญิงม.ปลายปล่อยโฮใส่แบบนั้น

แต่เขาก็ไม่หนีไปใหน และก็ยังเข้าหาโดยที่ไม่เอาค่านิยมของตัวเองมายัดเยียดให้ด้วย

รู้สึกขอบคุณมากๆเลยล่ะ มันรู้สึกอบอุ่นจริงๆ ให้ขอบคุณเท่าไหร่ก็คงไม่พอ

 

จะว่ายังไงดีละ ก็แบบ……จนถึงตอนนี้ฉันไม่เคยเข้าใจคนที่วิ่งเข้าหาเพศตรงข้ามคนอื่นที่ไม่ใช่คนรักเลยสักนิด ไม่สิ ไม่ใช่แค่ความเข้าใจ การยอมรับเองก็ด้วย

แต่วันนี้เป็นครั้งแรกเลยที่เข้าใจ

 

ในตอนที่เศร้าหรือเจ็บปวดผู้หญิงมักจะนอกใจ

ถ้าเป็นไปได้ ก็เป็นความเป็นจริงที่ไม่อยากรู้เลย

แต่ก็เพราะแบบนั้นเลยไม่อยากจะหนีจากความเป็นจริงที่เจอโดยที่เอาอารมณ์ลบมาเป็นข้อแก้ตัว

 

ถ้าอยากจะมีรักใหม่ก็ต้องจบกับรักที่มีอยู่ไป

ฉันคิดว่าการที่เหงา หรือเจ็บปวดมันก็เป็นแค่ข้ออ้างเพื่อยกโทษให้ผู้ชายคนอื่นก็เท่านั้น มันคือความขี้ขลาด

เพราะงั้นเลยยกโทษให้ตัวเองไม่ได้

 

แน่นอนว่าความรู้สึกในตอนนี้ที่ฉันมีต่อคุณเคนโกยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน

และยังตั้งใจที่จะเอาคืนมาจากคุณนัตสึคาวะอยู่

 

แต่ก่อนอื่นก็ต้องขอบคุณคุณโชตะสินะ การที่เขาอยู่ข้างๆตอนที่รู้สึกอ่อนแอมันดีมากๆเลยล่ะ

ถ้าเกิดว่านี่เป็นการซ่อนตัวตนจริงๆเอาไว้เพื่อเข้ามาใกล้ชิด….ก็คงจะยกโทษให้ตัวเองได้ แต่ถ้าเป็นแบบนั้นจริงก็อาจจะโดนความรู้สึกเสียใจบดขยี้เลยก็ได้

 

คุณโชตะไม่ทิ้งให้ฉันอยู่ตัวคนเดียวแม้ว่าจะหยุดร้องไห้ไปแล้วก็ยังคอยพูดว่า[ไม่เป็นไรหรอกนะ]

และบอกว่า [รู้สึกอยากกินอะไรหวานๆยังไงไม่รู้ ถ้าผู้ชายไปกินคนเดียวมันน่าอายซะด้วยสิ….ถ้าเกิดมีคนไปด้วยก็คงดีน้า] แล้วก็เริ่มสั่งพาร์เฟต์มาด้วยเสียงโมโนโทน

 

แล้วหลังจากนั้นก็ยังพูดอีกว่า [เอ่อ ถ้าไม่ว่าอะไรให้ไปส่งได้รึเปล่า ไม่สิก็แบบ…อยากจะไปส่งผู้หญิงกลับบ้านน่ะแค่สักครั้งก็ยังดี ว่าไปนั่น]

 

[น่าแหยงนะคะ]

 

[อั้ก]

 

แม้ว่าจะพูดจากไม่ดีออกมาแต่ก็แค่หดหู่และไม่ทิ้งห่างไปใหน

ท้ายที่สุดก็มาส่งถึงบ้าน เพื่อให้ฉันยังเป็นตัวของตัวเองอยู่

 

ก็คิดอยู่หรอกว่าบางทีคงจะใช้ประโยชน์จากการที่ฉันอกหักเพื่อเข้าไปที่บ้านรึเปล่า แต่นั่นก็ไม่ได้ใกล้เคียงเลย

ทันทีที่ฉันกลับถึงบ้านก็พูดว่า [อ๊ะ จะว่าไปแล้วเหมือนจะมีธุระที่ต้องทำอยู่ ขอตัวก่อนนะ!]แล้วก็กลับไปทันทีเลย

แค่รู้สึกเป็นห่วงฉันด้วยใจจริงก็เท่านั้นเอง

 

บางทีเสน่ห์ของคุณโชตะคงจะเป็นการที่อยู่ด้วยแล้วรู้สึกสบายใจและเป็นตัวของตัวเองได้

ในหมู่นักเรียนอย่างเราๆมีผู้หญิงหลายคนที่หลงใหลไปกับอะไรที่เข้าใจได้ง่าย อย่างตัดสินผู้ชายจากความสามารถในการเรียนและออกกำลัง

แต่ข้อดีของเขาคือยิ่งได้ใช้เวลาด้วยกันมากเท่าไหร่ก็ยิ่งจะได้รู้ว่าเขาเป็นคนที่ดีแค่ใหน

 

เพราะแบบนั้นฉันเลยอยากที่จะทำให้คุณโชตะดูเท่ อยากจะช่วยขัดเกลาจนดูดี

แน่นอนว่ามันอาจจะสร้างความรำคาญให้

 

กำลังบ่นอะไรอยู่ละเนี่ย…ฮ่ะๆ ท้ายที่สุดแล้วฉันก็รู้สึกชอกช้ำกว่าที่คิดเอาไว้เยอะเลย

อยากอยู่กับใครสักคนที่อยากจะอยู่ด้วย

เพราะงั้นที่ว่าอยากจะทำให้คุณโชตะดูเท่อะไรนั่น มันก็แค่ข้ออ้างที่จะไปเที่ยวเล่นด้วยกัน

ว่าตามตรงก็แค่อยากจะอยู่กับคุณโชตะโดยที่ไม่ได้กดดันตัวเองและรักษาระยะห่างได้ก็ท่านั้น

 

ที่อยากออกไปด้วยก็เพื่อเป็นการขอบคุณ ก็มันเป็นสุดสัปดาห์พอดีนี่นา

อยากจะไปซื้อของเยอะๆ อยากกินอาหารอร่อยๆ จากนั้นก็จะบ่นให้ฟังเยอะๆเลยย— จริงสิ ให้เป็นที่ปรึกษาด้วยดีกว่า

แต่ว่าถ้าชวนไปเฉยๆก็ไม่สนุกสิ……แกล้งเล่นสักหน่อยแล้วกัน

 

ฮุฮุ จะตั้งตารอเลย ว่าคุณโชตะมีปฏิกิริยายังไงตอนที่เห็นข้อความของฉัน

======จบตอน======

จองตั๋วเรือที่จะลงกันให้ดีนะครับทุกคน
___________________

ติดตามผลงานอื่นๆและสนับสนุนผู้แปลได้ที่

ดอกไม้ไฟ | Facebook