ตอนที่ 34 เก็บเป็นความลับ

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเธอไม่เคยทิ้งร่องรอยเอาไว้ และหลักฐานผลการตรวจดีเอ็นเอเธอก็ยิ่งไม่ทิ้งร่องรอยให้คนสงสัยได้

มู่หว่านโหรวคลายความสงสัยตรงนั้นออกไปอย่างรวดเร็ว แต่หินที่แขวนอยู่ในใจของเธอก็ไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด

อาจเป็นเพราะเด็กคนนั้นหรือบางทีมู่หย่าเจ๋อจะรู้มาตลอดว่าเด็กยังมีชีวิตอยู่และถูกผู้หญิงคนนั้นซ่อนเอาไว้ เขาจึงให้คนไปสืบตัวตนของเธอเพราะเขาสงสัยว่าเธอมีเจตนาร้ายต่อตระกูลมู่

ต้องป็นแบบนี้แน่นอน!

มู่หว่านโหรวเงยหน้าขึ้นทันทีเธอมองไปที่เอลเลนอย่างแสร้งทำเป็นสงบและสั่งอย่างเย็นชาว่า “อย่าบอกใครว่าฉันอ่านเอกสารพวกนี้ เข้าใจไหม? เธอแค่ทำเหมือนไม่รู้ไม่เห็นอะไรเลย!”

เอลเลนสะดุ้งเล็กน้อยดูเหมือนเขาจะไม่รู้จุดประสงค์ของคำเตือนเธอ เขารู้แค่ว่าเธอลบข้อมูลของหยุนซือซือเกี่ยวกับสถานสงเคราห์เมื่อสิบปีก่อนและข้อมูลเกี่ยวกับหยุนเทียนโย่วออกจากกองเอกสาร เธอไม่เงยหน้าและพูดอย่างเย็นชาต่อว่า “อย่าพูดอะไรเกี่ยวกับเด็กคนนี้รวมถึงอดีตของผู้หญิงคนนี้ให้ท่านประธานฟัง! แล้วก็อย่าพูดถึงชีวิตของผู้หญิงคนนี้จากสถานสงเคราะห์เข้าใจไหม?”

เขาเลิกคิ้วอย่างว่างเปล่า “….”

เมื่อเห็นว่าเขาไม่ตอบน้ำเสียงของมู่หว่านโหรวก็ยิ่งเย็นชาขึ้น “เธอได้ยินที่ฉันพูดไหม!?”

เอลเลนเลิกคิ้วและไม่ตอบ เจ้านายของเขาคือมู่หย่าเจ๋อและมู่หว่านโหรวเป็นภรรยาของท่านประธานท่านมู่ เธอเป็นเพียงผู้จัดการแผนกบุคคลเขาไม่จำเป็นต้องฟังคำสั่งเธอ ท่านประธานสั่งให้เขาตรวจสอบสิ่งต่าง ๆ และเขามีหน้าที่รับผิดชอบในการตรวจสอบนั้น

มู่หว่านโหรวเหมือนจะเข้าใจความคิดของเขา เธอพูดเบา ๆ และหัวเราะเยาะ “อะไรนะเธอคิดว่าเธอเป็นคนของท่านประธาน เลยไม่จำเป็นต้องฟังคำสั่งฉันงั้นเหรอ เธอคิดว่าฉันเป็นแค่ผู้จัดการแผนกบุคคลเลยคุ้มกะลาหัวเธอไม่ได้งั้นสินะ!”

เธอลุกขึ้นยืนด้วยการเยาะเย้ยแล้วก็เข้าหาเขา มองเขาขึ้นและลง เมื่อต้องเผชิญกับการจ้องมองของเธอที่เหมือนเข็มทิ่มแทง เอลเลนลดศีรษะลงเพื่อคิดขณะฟังเธอพูด “ถึงฉันจะไม่มีอำนาจในตระกูลมู่ แต่ฉันคิดว่าฉันก็ทำให้เธอจนตรอกได้นะ!”

ด้วยความตกใจเขาเงยหน้าขึ้นมองเธอ

“เรื่องนี้ปิดปากให้ดี เข้าใจไหม?” เธอสั่งอีกครั้ง

เขาเงียบเป็นเวลานาน หายใจเข้าช้าๆและผงกศีรษะด้วยความลำบากใจ

“เข้าใจแล้วค่ะ”

เมื่อมู่หย่าเจ๋อกลับมา มู่หว่านโหรวก็จากไปด้วยความรู้สึกผิด

เธอต้องทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้ข้อมูลของผู้หญิงคนนั้นไปถึงมู่หย่าเจ๋อได้เพราะเกรงว่าเขาจะรู้ความจริง!

มู่หย่าเจ๋อเป็นผู้ชายของเธอ เธอจะไม่ยกเขาให้ผู้หญิงคนอื่นเด็ดขาด!

เอลเลนอาจจะเป็นลูกน้องที่ซื่อสัตย์ของมู่หย่าเจ๋อแต่เขารู้ถึงตำแหน่งในตระกูลมู่หว่านโหรว ด้วยความที่คุณปู่โปรดปรานเธอเขาจึงไม่กล้าทำให้เธอขุ่นเคือง

ดังนั้นเมื่อมู่หย่าเจ๋อกลับมาถึงห้องทำงานและเห็นเอกสารบางอย่างบนโต๊ะความสงสัยของเขาก็ตกไปที่เอลเลน

ภายใต้การจ้องมองที่แหลมคมของเขา เอลเลนพูดอย่างใจเย็นว่า “ท่านประธานคะ หยุนซือซือคือคนที่ตั้งครรภ์แทนเมื่อหกปีก่อนค่ะ”

“หือ?” ดวงตาของเขาฉายแววเย็นชา เขาถามต่อว่า “มีอะไรน่าสงสัยเกี่ยวกับเธอไหม?”

“ไม่มีค่ะ” อัลเลนนึกถึงคำเตือนของมู่หว่านโหรว เขาก็ก้มหน้าและครุ่นคิดด้วยสีหน้าเฉยเมย

“ออกไปเถอะ”

มู่หย่าเจ๋อไม่ได้ถามอะไรอีกเพราะต้องยุ่งอยู่กับงานหนัก ดังนั้นเขาจึงวางเรื่องนี้ไว้