ตอนที่ 26 ขาใหญ่คนใหม่
มีคนดีใจก็ต้องมีคนทุกข์ใจ
ขณะที่เหล่าโจวกำลังยินดีปรีดาอยู่นั้น จ้าวเจวี๋ยกลับวิตกกังวล เธออยู่ในห้องทำงานโดยลำพัง เดินไปมาอย่างไม่เป็นสุข
สัปดาห์ที่แล้ว
เธอส่งเพลง ‘ติดไฟง่ายระเบิดง่าย’ ให้จ้าวอิ๋งเก้อ
เดิมทีคิดว่าทันทีที่ส่งเพลงไป คนแซ่จ้าวเหมือนกันอย่างจ้าวอิ๋งเก้อจะเซ็นสัญญากับสตาร์ไลท์เดี๋ยวนั้น
ทว่าผ่านไปสัปดาห์หนึ่งแล้ว ทางฝั่งจ้าวอิ๋งเก้อก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอะไร
นั่นทำให้จ้าวเจวี๋ยยิ่งกังวล
ไม่เป็นแบบนั้นหรอกมั้ง ถึงจะไม่ใช่มืออาชีพในวงการ จ้าวเจวี๋ยก็ฟังออกว่า ‘ติดไฟง่ายระเบิดง่าย’ เป็นเพลงที่ดีเพลงหนึ่ง
ตอนที่เธอฟังครั้งแรก โสตประสาทก็ถูกพันธนาการไว้จนแน่น หลังจากนั้นก็ฟังอีกหลายครั้ง อารมณ์ของเพลงนี้ยิ่งสลักลึกในความทรงจำ
ฉะนั้นจ้าวเจวี๋ยจึงคิดว่า…
ด้วยคุณภาพของเพลงนี้ ก็น่าจะเพียงพอให้จ้าวอิ๋งเก้อประทับใจได้!
กระนั้นแล้ว การที่ทางจ้าวอิ๋งเก้อยังไม่ตอบกลับมาสักที พานให้จ้าวเจวี๋ยเริ่มพิจารณาถึงผลได้ผลเสียแล้ว
หรือว่า จ้าวอิ๋งเก้อจะเซ็นสัญญากับบริษัทอื่นไปแล้ว?
ขณะที่กำลังกังวลอยู่นั้น โทรศัพท์มือถือของจ้าวเจวี๋ยก็ดังขึ้น เป็นสายของจ้าวอิ๋งเก้อที่เธอกำลังนึกถึงโทรมาพอดี
โทรมาปฏิเสธฉันเหรอ
จ้าวเจวี๋ยขมวดคิ้ว กดรับโทรศัพท์
ปลายสายโทรศัพท์ เสียงของจ้าวอิ๋งเก้อดังขึ้น น้ำเสียงแน่วแน่ “ฉันตกลงเซ็นสัญญากับสตาร์ไลท์ ขอโทษด้วยค่ะที่ทำให้คุณรอนาน”
จ้าวเจวี๋ยชะงักไป
ไม่ได้ปฏิเสธหรอกเหรอ
ไม่นานเธอก็ตั้งสติได้ รู้สึกประหลาดใจอยู่บ้าง เห็นทีในการประชันของสามบริษัทใหญ่ เป็นสตาร์ไลท์ที่คว้าชัยชนะไปอีกครั้ง
“ไม่เป็นไรค่ะ”
น้ำเสียงของเธอผ่อนคลายลง “ต้องพิจารณาให้รอบคอบก่อนถึงจะตัดสินใจ พวกเรารอได้ แล้วคุณคิดว่าจะเซ็นสัญญาเมื่อไหร่ดี”
“ฉันว่างตลอดค่ะ”
จ้าวอิ๋งเก้อเอ่ยอย่างจริงจัง “ว่ากันตามสัญญาฉบับนั้นที่คุณเสนอมา แต่ว่าเพลง ‘ติดไฟง่ายระเบิดง่าย’ จะต้องเป็นเพลงแรกของฉันที่ปล่อยออกไป หวังว่าบริษัทจะช่วยฉันโปรโมตอย่างเต็มที่”
“เรื่องนั้นแน่นอนอยู่แล้ว”
จ้าวเจวี๋ยยิ้มเอ่ย “พวกเราเป็นบริษัทที่ให้ความสำคัญกับผลสัมฤทธิ์ ถ้าคุณว่างก็เข้าบริษัทมาเซ็นสัญญาได้ช่วงบ่ายค่ะ”
จ้าวเจวี๋ยไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด
“ไม่มีปัญหาค่ะ”
จ้าวอิ๋งเก้อตอบตกลงทันที ขบคิดชั่วครูก่อนจะเสริมว่า “เพลง ‘ติดไฟง่ายระเบิดง่าย’ ฉันฟังครั้งแรกก็ชอบเลย เพลงนี้เหมาะกับฉันมาก…”
“ได้!”
ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เพลงจริงๆ ด้วย ฉันก็ว่า เพลงคุณภาพสูงของหลินเยวียนอย่าง ‘ติดไฟง่ายระเบิดง่าย’ จะปล่อยให้หลุดมือไปได้ยังไงกัน!
“งั้นคุณก็เตรียมตัวออกเดินทางเถอะ”
ในตอนนั้นจ้าวเจวี๋ยก็อารมณ์ดีขึ้นมา ความกระฉับกระเฉงเฉียบขาดกลับมาอีกครั้ง “ฉันจะให้คนไปรับคุณข้างล่าง สัญญาจะร่างเสร็จก่อนที่คุณจะมาถึง
ปลายสายตอบ “ไม่มีปัญหา”
หลังจากวางสายโทรศัพท์ จ้าวเจวี๋ยก็เบาใจลงในที่สุด
เธอนั่งลงบนเก้าอี้ หมายจะพักผ่อนสักหน่อย ผลคือยังไม่ทันนั่งจนเก้าอี้อุ่น ด้านนอกก็มีคนเคาะประตู
“เข้ามา”
“พี่จ้าว”
คนที่เข้ามาก็คือผู้จัดการชายในสังกัดของจ้าวเจวี๋ย
แต่ในยามนี้สีหน้าของผู้จัดการคนนี้แลดูตื่นเต้น “ทางฉีโจวโทรมา บอกว่าจะเชิญเจียงขุยไปร้องเพลงโปรโมตหนังเรื่อง ‘มังกรมัจฉาเริงระบำ’!”
“เจียงขุย?”
จ้าวเจวี๋ยชะงักไป
ผู้จัดการคนนี้อธิบายว่า “เป็นเด็กใหม่ในความดูแลของผมครับ ก่อนหน้านี้เธอถูกอาจารย์เซี่ยนอวี๋เลือกมาให้ร้อง
ซาวด์แทร็กที่เซี่ยนอวี๋แต่งขึ้นมาให้หนังเรื่อง ‘มังกรมัจฉาเริงระบำ’ ของฉีโจวโดยเฉพาะ วันนี้เพลงนี้ปล่อยออกไปออนไลน์ เสียงตอบรับในอินเทอร์เน็ตไม่เลวเลย ทางฉีโจวเลยให้เธอไปช้วยร้องเพลงโปรโมตหนังในฐานะนักร้อง”
หลินเยวียนอีกแล้ว!
จ้าวเจวี๋ยถึงนึกขึ้นมาได้ ว่าก่อนหน้านี้หลินเยวียนเคยขอเด็กใหม่ บอกว่าจะอัดเพลง ก่อนหน้านี้เหล่าโจวก็บอกว่าหลินเยวียนทำออเดอร์ของฉีโจวสำเร็จ ท่าทางจะเป็นซาวด์แทร็กเพลงนี้
“เพลงชื่ออะไรเหรอ”
จ้าวเจวี๋ยเปิดโปรแกรมเล่นเพลง
อีกฝ่ายตอบว่า “ชื่อ ‘ปลายักษ์’ ครับ”
จ้าวเจวี๋ยพยักหน้า พิมพ์ลงไปว่า ‘ชื่อปลายักษ์’ สามคำ ฉุกคิดได้ว่ามีบางอย่างแปลกพิกล จึงรีบแก้คำเป็น ‘ปลายักษ์’ ก็หาเพลงเจอแล้ว
จากนั้นเธอจึงสวมหูฟัง ฟังเพลงนี้รอบหนึ่ง
เมื่อฟังจบ ก็เงียบงันไปนานพอดู
ผู้จัดการเอ่ยเตือนอย่างอดไม่ไหว “พี่จ้าว”
จ้าวเจวี๋ยได้สติกลับมา ยิ้มขื่นพูดว่า “ก่อนหน้านี้หลินเยวียนบอกจะอัดเพลง ฉันก็ยังไม่วางใจ เลยให้ข้อมูลของเด็กใหม่ไปกองหนึ่ง ตอนนี้คาดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าเขาจะถึงกับอัดเพลงที่ดีอย่าง ‘ปลายักษ์’ ได้’”
“เรื่องนี้ไม่มีคาดถึงหรอกครับ”
ผู้จัดการยิ้มเป็นเชิงว่าเข้าใจ จากนั้นก็พูดว่า “นอกจากทางฉีโจวแล้ว เมื่อกี้ยังมีแบรนด์ของบริษัทที่ร่วมงานระยะยาวกับบริษัทพวกเราอีกหลายที่ บอกว่าอยากเชิญเจียงขุยไปร่วมกิจกรรมของพวกเขา แถมบอกว่าอยากให้เธอร้องเพลง ‘ปลายักษ์’ ผมเลยจะมาขอคำแนะนำจากพี่สักหน่อยครับว่าจะทำยังไงดี”
“หมายความว่า…”
จ้าวเจวี๋ยเงยหน้าขึ้น “เจียงขุยดังแล้ว?”
ผู้จัดการพยักหน้า พูดอย่างตื่นเต้นระคนทอดถอนใจ “ตั้งแต่ที่มีคำเชิญจากหลายแบรนด์เยอะแยะขนาดนี้ เจียงขุยดังแล้วจริงๆ ครับ ไม่อย่างนั้นใครจะไปจำชื่อเด็กใหม่ตัวเล็กๆ อย่างเธอได้ เธอได้อานิสงส์จากอาจารย์เซี่ยนอวี๋พอดี ผลลัพธ์ไม่ได้ด้อยไปกว่าซุนเย่าหั่วที่เดบิวต์ในฐานะอันดับหนึ่งในชาร์ตเพลงใหม่เลย”
จ้าวเจวี๋ยเป็นหัวหน้าผู้จัดการ
หัวหน้าผู้จัดการคอยควบคุมดูแลงานผู้จัดการของบริษัท ปกติแล้วไม่มีศิลปินภายใต้ความดูแล หากได้จ้าวเจวี๋ยดูแลด้วยตนเองก็จะต้องเป็นตัวท็อป หรือไม่ก็เด็กใหม่ที่จ้าวเจวี๋ยถูกอกถูกใจ
และภายใต้การดูแลของจ้าวเจวี๋ย ก็มีผู้จัดการตัวเล็กๆ อีกหลายคน
ผู้จัดการตัวเล็กๆ เหล่านี้ โดยทั่วไปจะดูแลเด็กใหม่ จุดเริ่มต้นของเด็กใหม่นั้นลำบากยากเย็น ดังนั้นชีวิตของผู้จัดการตัวเล็กๆ เหล่านี้ก็ไม่ได้ง่าย
เพราะฉะนั้น
ผู้จัดการตัวเล็กๆ แต่ละคนก็ล้วนเฝ้าคอยให้เด็กใหม่ที่ดูแลนั้นโด่งดัง เพราะเมื่อเด็กใหม่ที่ตนดูแลโด่งดังแล้ว ผู้จัดการถึงจะได้เงินตามไปด้วย
“ดี!”
จ้าวเจวี๋ยลุกพรวดขึ้นมา
วันนี้เป็นวันมงคลคู่!
เริ่มจากจ้าวอิ๋งเก้อเซ็นสัญญากับบริษัท ตามมาด้วยเด็กใหม่ตัวเล็กๆ ในสังกัดของเธอโด่งดังขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ถึง
กับข้ามขั้นฤดูกาลศิลปินหน้าใหม่ แล้วโด่งดังได้ด้วยวิธีนี้เชียว
อีกทั้ง
เรื่องดีทั้งสองเรื่องนี้ล้วนเป็นเพราะหลินเยวียน!
เด็กคนนี้ เป็นดาวนำโชคของเธอจริงๆ!
“ให้แผนกประชาสัมพันธ์จัดการเดี๋ยวนี้เลย”
มีเด็กใหม่ดังแล้ว บริษัทก็ต้องดันสักตั้ง ถ้าโอกาสแบบนี้ยังคว้าไว้ไม่ได้ สตาร์ไลท์คงไม่ได้เป็นหนึ่งในสามบริษัทใหญ่ของบลูสตาร์แล้ว
ทำเป็นอ้างว่า ‘ขอคำแนะนำ’ ไปอย่างนั้นแหละ
ที่ผู้จัดการคนตรงหน้านี้มาหาตน จุดประสงค์ที่แท้จริงก็คงจะอยากให้เจียงขุยได้รับการสนับสนุนในด้านนี้จากบริษัท แต่ว่าจ้าวเจวี๋ยก็จะไม่พูดออกไป ทุกคนล้วนแต่ทำเพื่อศิลปินของตัวเองทั้ง ทำเช่นนี้ก็พอเข้าใจได้
“เข้าใจแล้ว”
เมื่อเป้าหมายบรรลุผล รอยยิ้มของผู้จัดการก็สดใสขึ้นมา “ขอบคุณครับพี่จ้าว!”
“อีกอย่าง…”
จ้าวเจวี๋ยพูด “เจียงขุยจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับตารางงานของฉีโจวก่อน ‘ปลายักษ์’ เป็นผลงานที่ฉีโจวจ่ายเงินสั่งทำ พวกเราต้องบริการถึงที่สุด ไม่งั้นอาจมีผลกระทบถึงชื่อเสียงของบริษัท ฉันยังว่าต่อไปจะมีออเดอร์จากทางฉีโจวมาอีก”
“ไม่มีปัญหาครับ!”
ผู้จัดการรับปากเป็นมั่นเหมาะ
ทันใดนั้นจ้าวเจวี๋ยพูดขึ้นมาอย่างรำคาญใจ “ที่จริงตอนนี้ฉันเริ่มเสียดายที่ปล่อยหลินเยวียนไปแล้ว! ให้เขาอยู่ที่แผนกศิลปินก็ได้ แผนกเราออกจะใหญ่จะดูแลเขาไม่ได้เชียวเหรอ ไม่เห็นต้องให้เจ้าแก่โจวรุ่ยหมิงนั่นเอาเปรียบเขาเลย!”
ผู้จัดการ “…”
เรื่องระหว่างหัวหน้า เขาไม่ควรแทรกแซง
แต่จ้าวเจวี๋ยก็แดกดันเพียงประโยคสองประโยค ถ้าเธอเก็บนักแต่งเพลงที่มีศักยภาพสูงมากขนาดนี้ไว้ที่แผนกศิลปินไม่ยอมปล่อยไป น่ากลัวว่าเหล่าโจวคงรีบไปฟ้องบอสแน่นอน
“เซี่ยนอวี๋…”
ผู้จัดการคนนี้หัวใจกระตุกวูบ ลอบขบคิด
คนนี้ดูเหมือนจะเป็นขาใหญ่คนใหม่ในแผนกประพันธ์เพลงสินะ…เริ่มจากทำให้ซุนเย่าหั่วไต่ขึ้นหัวตารางในชาร์ตเพลงใหม่…จากนั้นก็ทำให้เจียงขุยซึ่งอยู่ในสังกัดของตนโด่งดัง…เข้ามาทำงานได้แค่สองเดือนเอง…ก็ปั้นเด็กใหม่ให้ดังได้สองคนแล้ว…
…………………………………..