โคโมริ โชตะ

 

“จะว่าไปแล้วนะคะคุณโชตะ”

 

“อ๊ะ ครับ มีอะไรเหรอครับคุณอิสุมิ”

 

“ก็ดีใจอยู่หรอกนะคะที่ได้คำชม……แต่ว่าทำไมคุณโชตะถึงไม่ใส่อะไรเลยละคะ? ไม่รู้จะมองไปตรงใหนเลยมันลำบากนะคะ”

 

“ใส่อยู่เหอะ!?”

 

เดี๋ยวนะ..คุณอิสุมิ!? พูดถึงเรื่องอะไรเนี่ย!?

สมมุตินะ สมมุติน่ะ? 

สมมุติว่าพวกเราเป็นตัวละครในนิยาย อันนั้นน่ะเป็นคำพูดที่ทำให้คนอ่านที่อยู่ข้างนอกตกใจเลยนะ!? เหมือนกับว่าผมเป็นพวกโรคจิตที่ชอบโชว์ให้ผู้หญิงที่ไม่ใช่แม้แต่แฟนเลยไม่ใช่รึไง

ดูยังไงก็เป็นคำที่ปล่อยผ่านไม่ได้ชัดๆ!?

 

“ขอโทษค่ะ บางทีตามันคงจะล้าอยู่ละมั้ง”

 

ไม่ใช่ล่ะคุณอิสุมิ ถ้าเกิดว่าเห็นผมมาที่เอาท์เล็ทมอลล์ด้วยตัวเปลือยๆมันไม่ใช่เหนื่อยแต่เป็นบ้าหรอกครับ

 

“ถ้าไม่ว่าอะไรผมให้ยืมยาหยอดตา—”

 

“—ที่ใส่มามีแค่ถุงเท้าสินะคะเนี่ย”

 

“ระดับความโรคจิตเพิ่มซะงั้น! เพิ่มจากโรคจิตเป็นโรคจิตสุดๆเฉยเลย!?”

 

“เพิ่ม? พูดอะไรน่ะคะ? มันต้องเป็นลดลงไม่ใช่เหรอ?”

 

“จะอันใหนมันก็เหมือนกันนั่นแหละ!”

 

“ห๊ะ นี่หรือว่าคุณโชตะจะพูดว่าใส่ชุดที่คนโง่มองเห็นอยู่เหรอคะ”

 

“ไม่ได้พูดเลยเถอะ!? แล้วไอ้ชุดที่มีแต่คนโง่มองเห็นนี่ยังไงน่ะ!? ไม่ใช่ว่าเป็นผ้าที่มีแต่คนโง่ที่มองไม่เห็นรึไงน่ะครับ!”

 

“ถ้าเป็นแบบนั้นฉันก็โง่สิคะ?”

 

“มันก็บอกอยู่เป็นนัยแล้วมั้ยละครับ!?”

 

“คนที่ว่าคนอื่นเขาโง่ต่างหากล่ะคะที่โง่”

 

“นี่เป็นเด็กไปแล้วเหรอครับคุณอิสุมิ!?”

 

“….และแล้วเรื่องราวนิสัยแปลกๆของคุณโชตะก็ได้จ—-”

 

“ไม่สิ ช้าก่อนท่านจอมยุทธ! บอกว่าผมใส่เสื้อผ้าอยู่ให้มันเรียบร้อยสิครับ!? ถ้าคนอ่านเขาแอบดูบทสนทนาของเราอยู่จะทำยังไง!?”

 

“คนอ่าน? พูดอะไรอยู่น่ะคะคุณโชตะ หัวเป็นอะไรรึเปล่าคะ”

 

“อึก…พอพูดมาแบบนั้นก็ไม่มีอะไรจะพูดเลย…”

 

“เธอตรงนั้นน่ะ! ทำไมถึงไม่ใส่อะไรเลยละ! เดี๋ยวจะพาไปที่สถานีนะ!”

 

“!?”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“—อย่านะ! ขอร้องล่ะครับหยุดทีเถอะ! ถ้าเกิดผมเข้าใจผิดขึ้นมาจริงๆว่าไม่ได้ใส่อะไรเลยจะทำยังไงครับ!”

 

แถมเมื่อกี้นี้คุณอิสุมิเลียนเสียงแสร้งว่าเป็นทำเป็นตำรวจ เห็นใจกันหน่อยเถอะ

ผมไม่กล้าพอจะโชว์ของลับต่อหน้าคนเยอะๆหรอกนะ

 

“ฮุฮุ….คุณโชตะเนี่ยตามน้ำได้ดีเลยนะคะเนี่ย ทำให้รู้สึกสนุกแล้วก็อยากเล่นมากขึ้นเรื่อยๆเลยล่ะค่ะ”

 

“พอเถอะครับ จริงๆนะ….”

 

ถอนหายใจ

 

“เพราะหยอกเล่นมาเยอะแล้ว จะยอมรับว่าใส่เสื้อผ้าอยู่ค่ะ แต่ว่าตามตรงคือเห่ยสุดๆเลยนะคะ เสื้อยืดกับกางเกงขาสั้น…..ขนาดเด็กประถมยังไม่แต่งคัวแบบนั้นกันเลยนะคะ”

 

“อึก…เห่ยจริงๆสินะนี่น่ะ”

 

อย่างนี้นี่เอง เจตนาจริงๆของคุณอิสุมิตรงจุดนี้เองงั้นสินะ

 

“ค่ะ ซะจนไม่อยากจะเดินอยู่ข้างๆเลยล่ะค่ะ”

 

“ขนาดนั้นเลย!?”

 

น้ำตาจะไหล ก็รู้อยู่หรอกว่าตัวเองไม่ใช่คนที่ตามแฟชั่นอะไรแต่พอมีผู้หญิงมาบอกว่า[ไม่อยากให้ยืนอยู่ใกล้ๆ]ก็รู้สึกเหมือนมีอะไรมาแทงที่อกเลย

 

คุณอิสุมิที่ทำให้ไหล่ผมตกนั้นก็พูดว่า

 

“ก็แบบนั้นแหละค่ะ ไปซื้อเสื้อผ้ากันเถอะคุณโชตะ แล้วก็ตัดผมด้วยเลยมั้ยคะ? เดี๋ยวฉันจะบอกกับช่างเองเลยว่าทรงใหนเหมาะกับคุณโชตะ เหมือนจะมีร้านเสริมสวยอยู่เยอะเลยด้วย”

 

“ครับ?”

 

ผมเอียงหัวเพราะข้อเสนอที่คาดไม่ถึง

ร ร้านเสริมสวยเนี่ย….ที่ๆที่แค่ก้าวเท้าเข้าไปเหยียบก็ทำให้รู้สึกประหม่าน่ะเหรอครับ?

 

“ถ้าแบบนั้นคุณอิสุมิก็จะไม่มีเวลาพอที่จะไปที่ที่อยากจะไปไม่ใช่เหร….”

 

ว่าตามตรงคือไม่ได้ตั้งใจจะให้พี่มายุเจอกับคุณอิสุมิเลยสักนิด ยิ่งเป็นคุณนัตสึคาวะยิ่งแล้วใหญ่

เพราะนัดของผมในวันนี้ไม่มากไม่น้อยไปกว่านั้น

 

ซื้อของกับคุณอิสุมิที่มิตสึบิชิเอาท์เล็ทมอลล์ในตอนเช้า

พื้นฐานแล้วก็อยากไปกับเธอในทุกๆที่ที่เธออยากจะไป เพราะหวังที่จะช่วยให้เปลี่ยนอารมณ์ได้ด้วยกำลังเล็กๆนี้

แต่เพราะว่าตอนบ่ายนัดเอาไว้กับพี่มายุ เลยต้องแยกย้ายกับคุณอิสุมิในตอนเช้า

 

อย่างที่คิดผมพูดว่า[เพราะว่ามีเดทกับแฟน(ปลอมๆ)ก็เลยอยู่ด้วยได้แค่ตอนเช้า]ไปไม่ได้ (ไม่ใช่ว่ารู้สึกผิดหรืออะไรหรอกนะ แค่แบบการที่ต้องอธิบายมันยุ่งยากใช่มั้ยละ?) เลยต้องได้รับการยินยอมก่อนเพราะมีนัดตอนบ่าย

 

ตอนเที่ยงต้องกินข้าวกับพี่มายุที่นี่

เพราะว่าไม่มีเวลาเปลี่ยนที่ เลยใช้เวลาตอนเช้าเพื่อเปลี่ยนอารมณ์ของคุณอสุมิ

ในกรณีที่แย่ที่สุด แม้ว่าคุณอิสุมิจะยังอยู่ที่เอาท์เล็ทมอลล์แล้วบังเอิญเจอกัน คนที่อยู่ข้างๆผมก็จะเป็นพี่มายุ ไม่มีอะไรที่ต้องมานั่งเสียใจในภายหลังเลยสักนิด ถึงคุณอิสุมิจะสับสน แต่ก็ยังอธิบายสถานการณ์ได้

 

แล้วก็ ที่น่ากังวลที่สุดก็คือตอนเย็น ที่เป็นคุณนัตสึคาวะ

เห็นได้ชัดเลยว่าคุณนัตสึคาวะนั้นวางแผนที่จะใช้เวลาทั้งวันซื้อของกับผม เพราะว่าทำไม่ได้เลยขอเลื่อนไปตอนเย็นแทน

และเนื้อหาในเมลล์ที่ขอนั่นก็คือ

[มีเรื่องจะขอร้องน่ะครับ ที่ว่าซื้อของขอเป็นตอนได้รึเปล่าครับ เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนจะอยู่ด้วยจนถึงวันอาทิตย์เลย]

 

อ๊ะ ใช่แล้ว ถึงจะนอกเรื่องก็เถอะ แต่ว่าร้านที่คุณนัตสึคาวะเสนอมานั้นอยู่ที่ศูนย์การค้าตรงข้ามกับมิตสึบิชิเอาท์เล็ทมอลล์

ไม่ว่ายังไงก็จะให้คุณนัตสึคาวะกับคุณอิสุมิมาเจอกันไม่ได้ และที่เลื่อนเวลาเจอกันพวกเธอไม่ใช่เพราะอยู่คนละที่กัน

ที่เสนอให้คุณอิสุมิมาที่นี่ก็แค่เพราะพี่มายุชวนมาที่นี่ก็เท่านั้น

 

เพราะแบบนั้นตอนเช้าเลยตั้งใจว่าจะทำทุกอย่างที่คุณอิสุมิอยาก…

ถ้าเกิดไปที่ร้านเสริมสวยเดี๋ยวเดียวก็คงบ่ายแล้ว แถมยังพูดเหมือนกับจะสำรวจดูเสื้อผ้าของผมอีก

 

“ไม่ต้องคิดมากไปหรอกค่ะ ยังไงวันนี้ก็มาเพื่อขอบคุณคุณโชตะอยู่แล้วล่ะค่ะ”

 

“ขอบคุณ?”

 

นี่ผมได้ทำอะไรให้ถูกขอบคุณด้วยเหรอ?

 

“ก็ขอบคุณสำหรับจุดๆนั่นไงละคะ เอาเถอะ ไม่ต้องคิดมากไปหรอกค่ะ เพราะนี่เป็นสิ่งที่ฉันอยากทำไงละคะ”

 

“ก็ถ้าคุณอิสุมิว่าแบบนั้นดีแล้ว ผมก็ไม่มีอะไรโต้แย้งหรอกครับ…..”

 

======จบตอน======

คลื่นสงบก่อนพายุมา?
___________________

ติดตามผลงานอื่นๆและสนับสนุนผู้แปลได้ที่

ดอกไม้ไฟ | Facebook