ตอนที่ 31 เหตุผลจริงๆที่ทำให้กลายเป็นเพื่อนกัน

บันทึกการเดินทางของคุณแวมไพร์ล่ะ

แสงสว่างค่อยๆหายไป ตรงหน้าวู่หยานคือสาวน้อยที่กำลังหลับตาอยู่ดุจดังเจ้าหญิงนิทราที่กำลังรอคอยให้เจ้าชายมาปลุก

ผมสีชา(น้ำตาล)ยาวประบ่า กับใบหน้าที่น่ารักสุดๆ ตัวเล็กและสวมชุดนักเรียนภาคหน้าร้อนของโทคิวะได

แม้จะเคยเห็นผ่านหน้าจอมานับครั้งไม่ถ้วน วู่หยานก็ยังคงรู้สึกตื่นเต้นมาก ได้เจอตัวจริงๆกับเห็นในจอ แน่นอนว่าต้องแตกต่างกันอยู่แล้ว

เมื่อแสงหายไปจนหมด ตรงหน้าอกเธอก็มีเส้นแสงพุ่งออกมา ก่อนที่วูหยานจะทันตอบสนอง มันก็ทะลวงผิวหนังเขาเข้าไปเชื่อมต่อกับหัวใจเขาแล้ว

วู่หยานใจหายวาบรีบก้มลงมองเส้นแสง ในเวลาเดียวกันเขาก็ได้ยินเสียงหัวใจสองดวงที่เต้นคนละจังหวะ เวลาผ่านไปเขาก็ยิ่งได้ยินเสียงหัวใจสองดวงที่ดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ จนสุดท้ายเสียงหัวใจทั้งสองดวงก็ผสานเป็นหนึ่งเดียวกัน และเสียงก็ได้หายไป

เส้นแสงก็ได้แยกตัวออกมาจากหัวใจพวกเขาทั้งสองคน และเริ่มหมุนวนรวมตัวกันตรงหน้าเขา จนกลายเป็นบอลแสงเล็กๆเท่าลูกปัด ลอยอยู่กลางห้อง

บอลแสงลอยขึ้นๆลงๆจากนั้นบินไปทั่วห้องเขา สุดท้ายมันก็หยุดบินและพุ่งเข้ามาในตัววู่หยาน  หลอมตัวเข้าไป

หน้าวู่หยานแข็งค้าง เอามือลูบกายตัวเอง ดูเหมือนจะไม่มีอะไรเปลี่ยน แต่เขากลับรู้สึกได้ว่าในร่างกายมีอะไรเพิ่มเข้ามา ความรู้สึกมันเหมือนกับเขาดื่มน้ำเข้ามาในร่างกายยังไงยังงั้น

นี่คือการผสานชีวิตที่ระบบมันพูดถึง?

วู่หยานหรี่ตามองสำรวจร่างตัวเองอีกครั้ง ก่อนจะเดินตรงไปหาสาวน้อยตรงหน้า

มองใบหน้าโมเอะของเธอ เห็นเธอครางออกมาเล็กน้อย ก่อนที่เปลือกตาเธอจะสั่น แล้วลืมตาขึ้นมา ราวกับว่าจะเพิ่งตื่นนอน สายตาดูสับสนมึนงง และเธอยังมีนัยน์ตาสีเดียวกันกับสีผม  

สาวน้อยกระพริบตาสองสามครั้ง แล้วเอียงหัวไปมาสำรวจสภาพรอบตัว ก่อนที่สายตาจะหยุดอยู่ที่ ‘สิ่งมีชีวิตตัวเดียวในห้อง’ ทั้งสองจ้องกันราวกับว่ากำลังแข่งจ้องสายตา และทั้งห้องก็ได้เงียบเสียงลง

สายตาเธอทำให้วู่หยานรู้สึกไม่สบายตัว โดยไม่ต้องพูดถึงอีกฝ่ายที่เป็นสาว2Dที่เขาชอบเลย ต่อให้เป็นผู้หญิงธรรมดาก็เถอะ แต่เล่นจ้องกันขนาดนี้ อย่างน้อยๆก็ต้องรู้สึกอึดอัดบ้างแหละ ไม่เว้นแม้แต่วู่หยานที่หน้าหนาเป็นพิเศษ

มิซากะ มิโคโตะ มองสำรวจเขาขึ้นๆลงๆ ดูเหมือนเธอพยายามทำความคุ้นเคยกับอะไรบางอย่าง เมื่อวู่หยานหมดความอดทนกำลังจะเอ่ยปากทำลายความเงียบนี้ อยู่ๆเธอก็พูดขึ้นมาว่า

“นายเป็นมาสเตอร์ของฉันงั้นเหรอ?” 

ทันใดนั้นความรู้แปลกๆก็พุ่งพลานในใจเขา วู่หยานอึ้ง ก่อนจะชี้นิ้วมาที่หน้าตัวเอง  

“มาสเตอร์ที่เธอพูดนั่นหมายถึงฉันงั้นเหรอ?”

เธอพยักหน้าตอบ และพูดว่า “ใช้แล้ว ดูเหมือนนายจะเป็นมาสเตอร์ของฉันนะ”

“ดะ..เดียวก่อน!” วู่หยานรีบยกมือห้าม และมอง มิซากะ มิโคโตะ ด้วยสีหน้าจริงจัง

“เธอแน่ใจนะว่าตัวเองเป็น มิซากะ มิโคโตะ ไม่ใช้ วิญญาณวีรชน หรืออะไรทำนองนั้น?”

“ฉันคือ มิซากะ มิโคโตะ!” มิโคโตะพูดเสียงดังกว่าเดิม ถึงแม้เธอจะไม่รู้ว่าวิญญาณวีรชนคืออะไร แต่การที่ตัวเองถูกเข้าใจผิดว่าเป็นอย่างอื่น ทำให้เธอรู้สึกไม่ค่อยดี

“โอเคๆ งั้นเธอช่วยบอกฉันหน่อยว่าทำไมถึงเรียนฉันว่ามาสเตอร์” นี้เป็นคำถามที่ค้างคาใจเขาที่สุด

มิโคโตะได้ยินก็สะอึกเล็กน้อย ยกนิ้วขึ้นมาเกาแก้มด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วน “เอ่อ…ก็นั้นไง… คนที่ถูกอัญเชิญมา ไม่ใช้ว่าต้องเรียกผู้อัญเชิญว่ามาสเตอร์หรอกเหรอ?”

“….ใครเป็นคนบอกเธอ” วู่หยานกรอกตาใส่ เขากระจ่างสักที สาวน้อยพลังไฟฟ้าคนนี้ไม่รู้วิธีพูดเปิดดัวดีๆนี้เอง

เมื่อเห็นวู่หยานกรอกตาใส่ตัวเอง มิโคโตะหน้าแดงแล้วโวยวาย

“หนวกหู! หนวกหู! หนวกหู!”

เหอะๆ คุณหนูเรลกันเปลี่ยนตัวเองจากวิญญาณวีรชนเป็นชานะ…….

เห้ออ~ ถึงคำพูดเปิดตัวจะแปลกๆก็เถอะ แต่เด็กสาวตรงหน้าก็คงเป็น มิซากะ มิโคโตะ ตัวจริงแหละ

วู่หยานยิ้มให้อย่างเป็นมิตร แล้วโบกมือทักทายเธอ “หวัดดี ฉันชื่อวู่หยาน เรียกฉัน หยาน ได้เลย!”

“ฉันรู้ชื่อนาย!” ภายใต้สายตาสงสัยของวู่หยาน มิโคโตะยกมืกกอดอก ขณะที่กวาดสายตามองสำรวจห้องววู่หยานอย่างสนอกสนใจ 

ส่วนวู่หยานยังคงมึนงงที่เธอบอกรู้จักเขา

“เธอรู้จักฉันได้ยังไง?”

“ตอนที่ถูกนายอัญเชิญออกมา” ริมฝีปากมโคโตะโค้งขึ้น เป็นรอยยิ้ม

“ตอนที่ฉันได้สติก็ได้มีข้อมูลไหลเข้ามาในสมองฉัน เกี่ยวกับตัวนายทั้งหมด ในข้อมูลพวกนั้นแน่นอนว่าต้องมีชื่อนาย”

“ข้อมูลฉันทั้งหมด!!” วู่หยานสติหลุด ทั้งหมด? ทั้งหมดนี่คือทั้งหมดเลยเหรอ? รวมไปถึงแผนจีบสาว2D และเรื่องฮินางิคุ ก็รู้เหรอ?

…ซวยแท้ ถ้าเธอรู้จริง ด้วยนิสัยของเธอ ดูเหมือนความหวังจีบติดเป็นศูนย์

“ทั้งหมดจริงๆเหรอ?” วู่หยานส่งสายแห่งความหวังมองมิโคโตะ ทำให้เธอรู้สึกอึดอัด

ความประทับใจแรกที่เธอมีต่อวู่หยานคือ ‘ผู้ชายแปลกๆ’

แต่เธอไม่นานเธอก็เปลี่ยนความคิด เพราะทุกคนเองก็มีความลับของตัวเอง ถ้าความลับที่เธอชอบเกโคตะถูกคนแปลกหน้ารู้เข้า เธอคงไม่ตลกด้วยแน่นอน

ถ้าคุณหนูเรลกันรู้ว่าตอนนี้ในหัววู่หยานกำลังคิดหาวิธีให้ทำยังไงได้ใจเธอ มิโคโตะคงจะโกรธเลือดขึ้นหน้าแล้วยิงเรลกันใส่แน่นอน

“จริงๆก็ไม่ใช้ทุกอย่างหรอก มีแค่เรื่องถูกส่งมา ระบบ และการอัญเชิญ แล้วก็ข้อมูลพื้นฐานของนายอ่ะนะ” เธอยิ้มขณะที่กำลังอธิบาย แต่จากน้ำเสียงและท่าทาง เขากลับรู้สึกว่าเธอกำลังปลอบเขามากกว่าอธิบาย มันดูเหมือนเธอปลอบเด็กไม่มีผิด

แต่ก็ทำให้วู่หยานโล่งอก โชคดีจริงๆ ตรายใดที่ไม่รู้หมด มันก็ง่ายที่จะ…..

มองมิโคโตะที่กำลังเอานิ้วม้วนผมตัวเองเล่น วู่หยานลังเลก่อนที่จะพูดด้วยน้ำเสียงกังวล

“งั้นเธอก็น่าจะรู้เรื่องที่ว่า ถ้าฉันตาย เธอก็ต้องตายด้วยใช้ไหม?”

มิโคโตะพยักหน้าตอบ วู่หยานขมวดคิ้ว รู้สึกรับไม่ได้ยังไม่รู้กับท่าทางเฉยๆของเธอ 

“แล้วเธอไม่รู้สึกกระวนกระวายบ้างเลยรึไง? ชีวิตของตัวเองต้องมาตกอยู่ในกำมือคนอื่นแบบนี้….”

เธอหยุดเล่นผมและหันมามองเขาด้วยท่าทางใจเย็น ราวกับว่าจะมองตรงเข้าไปอ่านความคิดในใจเขา วู่หยานก็ไม่พูดอะไร จ้องตาเธอเงียบๆ

ไม่นานนัก มิโคโตะก็ยิ้มขึ้นมา แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงใจเย็น “เอาจริงแล้ว การที่ชีวิตตัวเองไปตกอยู่ในมือคนอื่น ก็ควรไม่สบายใจถึงจะถูกใช้ไหมละ? แต่ไม่รู้ว่าทำไม ฉันถึงไม่มีความรู้สึกแบบนั้นเลย กลับฉันรู้สึกถึงใกล้ชิดนาย…ไม่…ไม่ใช้สิ ฉันหมายถึงมีความรู้สึกดีๆกับนาย….ไม่…ไม่ใช้แบบนั่นสิ…เอ่อ…”

เธอเริ่มพูดสะดุด และหันหน้ามองทางอื่นอย่างเขินอาย ยิ่งพูดยิ่งหน้าแดงจนสุดท้ายเธอก็พูดอะไรไม่ออก ได้แต่เดินวนไปมาอย่างอยู่ไม่สุข

มองท่าทางเธอ สีหน้าจริงจังของเขาก็ปลิวหายไป

ดูเหมือนคุณหนูเรลกันอยากจะพูดว่ารู้สึกใกล้ชิดกับเขา แต่ถ้าพูดออกมามันจะดูหวานๆเหมือนพูดกับคนรัก ดังนั้นเธอจึงขัดแย้งกันเอง จนพูดไม่ออกแบบนี้

สังเกตเห็นสีหน้ากระอักกระอ่วนของวู่หยาน มิซากะ มิโคโตะ กระทืบเท้าด้วยใบหน้าแดงๆ แล้วตะโกนเสียงดังว่า “ฉะ..ฉันก็แค่คิดว่านะ..นายมันน่าสงสารถูกส่งไปโลกที่ไม่รู้จักและต้องต่อสู้เอาชีวิตรอดไม่หยุด ฉันเลยคิดจะช่วยนายก็แค่นั้น ใช้ๆ! เป็นแบบนี้แหละ!”

โอ้! มาแล้ว ด้านซึนเดเระของคุณหนูเรลกัน!!

เห็นท่าทางซึนๆของเธอ เขาเริ่มหายกังวล และใบหน้าก็ค่อยๆมีรอยยิ้มโผล่ขึ้นมา และยิ่งยิ้มกว้างกว่าเดิมเมื่อเห็นท่าทางมิซากะ มิโคโตะ

วู่หยานยืนมือไปตรงหน้ามิโคโตะ เขาเมินเธอที่กำลังยืนเซ่อเพราะแขนที่ยืนมา เขาพูดด้วยรอยยิ้ม “หลังจากนี้ ฉันจะเรียกเธอว่า มิโคโตะ!”

มิโคโตะมองมือวู่หยาน แล้วเหลือบมองใบหน้ายิ้มๆนั่น ก่อนจะหันหน้าหนีไปอีกทาง แล้วเกิดเสียงดัง ‘แปะ’ เธอจับมือเขา

“ยะ…อย่าเข้าใจผิดนะ ฉันก็แค่ทำเพื่อตัวเอง นายตาย ฉันก็ต้องตายด้วย ดังนั่น…….” 

“เข้าใจแล้ว!” บีบมือมิโคโตะที่ทั้งนุ่มนิ่มและขาวเนียนเบาๆ วู่หยานเอ่ยจากใจจริงว่า “เพื่อเธอ ฉันจะพยายามมีชีวิตรอดให้ถึงที่สุด!”

“ขะ…เข้าใจก็ดีแล้ว…” เธอรีบชักมือกลับมา ก่อนจะหันหลังให้วู่หยาน

ผู้ชายคนนี้ก็นะ….นิสัยดีนี่นา……..

มองดูมือที่ว่างเปล่าของตัวอย่างเสียใจ ก่อนจะค่อยๆอมยิ้ม ตอนแรกเขาก็กังวลว่า เธอจะถูกระบบควบคุมให้ทำตามคำพูดเขา แต่ดูเหมือนว่ามิโคโตะก็ยังคงเป็นมิโคโตะอยู่ดีละนะ….. 

เพราะชีวิตเชื่อมโยงกัน เธอได้รับข้อมูลพื้นฐานของตัวเขาไป ทำให้เธอรู้สึกใกล้ชิดกับเขาตั้งแต่แรก และชีวิตเธอก็อยู่กับเขาเหมือนกัน เขายังรู้อีกว่าไอ้กรณีที่ระบบมันจะควบคุมความคิดเธอให้ความรู้สึกชอบตัวเขาเพิ่มขึ้นนั่น มันเป็นไปไม่ได้!!

สรุปได้ดังนี้ วู่หยานก็โล่งอก ถ้าต้องใช้ตัวช่วยเพื่อให้ได้ใจผู้หญิงเขาก็รู้สึบไม่ชอบเหมือนกัน แต่เอาเถอะ ตอนนี้ตรงหน้าเขาเธอก็ยังเป็นคนเดิม….

ขณะที่วู่หยานกำลังคิดแผนพิตใจคุณหนูเรลกัน ก็ได้มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น

“หยาน….อยู่ไหม..?”

เชียแล้ว! ฮินางิคุ! ไม่ใช้ว่ากำลังแอบอยู่ในห้องหรอกเหรอวะ?

“มาแล้ว!” วู่หยานหันไปมองมิโคโตะ แล้วทำสัญลักษณ์มือเป็นนัยๆให้เธอรอก่อน

เมื่อวู่หยานโผล่หน้าออกไป ฮินางิคุก็หน้าแดงก่อนที่เธอจะฝืนตัวเองให้ใจเย็นลง

“ฉันได้ยินเสียงคนคุยกันดังมาจากห้องนายน่ะ มีแขกเหรอ?”

ฮินางิคุชะโงกหน้ามองเข้าไปในห้อง และเมื่อเธอเห็นมิโคโตะ สีหน้าเธอก็มืดครึ้มทันที

“เธอเป็นใคร?”

วู่หยานยิ้มสู้ แล้วรีบดึงฮินางิคุเข้ามาในห้อง ก่อนจะอธิบายว่า

“เธอชื่อ มิโคโตะ ใช้ระบบอัญเชิญมา ที่ฉันเคยบอกไปไง ฉันอัญเชิญเธอมาช่วยเราตามหาหยกพรุ่งนี้ ทำไมพวกเธอไม่แนะนำตัวกันละ?”

สิ้นเสียงวู่หยาน ทั้งห้องก็เงียบสงัด ในแววตาฮินางิคุมีประกายความเป็นศัตรูอยู่ ดูเหมือนใบหน้าน่ารักๆของมิโคโตะ จะทำให้ฮินางิคุรู้สึกถึงวิกฤติ ส่วนมิโคโตะกำลังทำหน้ามึนงง ไม่รู้ทำไมตัวเองถึงโดนมองแบบนั้น

มองทั้งสองคนไปมา วู่หยานใจเต้นโครมคราม

นี่…คงไม่ตบตีกัน…ใช้ไหม..?

ทันใดนั้น สายตาของฮินางิคุและมิโคโตะก็เปล่งประกาย จากนั้นก็ยิ้มออกมาอย่างพร้อมเพรียงกัน

ฮินางิคุโบกมือทักทาย

“ยินดีที่ได้รู้จักนะ! ฉันชื่อ คัตซึระ ฮินางิคุ เรียกฉัน ฮินางิคุ ได้เลย! ”

มิโคโตะก็ตอบกลับด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน! ฉันชื่อ มิซากะ มิโคโตะ เรียกฮินางิคุใช้ไหม? งั้นเธอก็ต้องเรียกฉัน มิโคโตะ เหมือนกันนะ! ”

ทั้งสอนคนจับมือแล้วแกว่งไปมาดูราวกับเป็นพี่น้องคลานตามกันมา และในสายตาของทั้งคู่ต่างก็มีความเห็นอกเห็นใจต่อชะตากรรมของอีกฝ่าย

นี่…มันเปลี่ยนเร็วเกินไป วู่หยานอย่างมองอึ้งๆ แต่เมื่อเขาสังเกตเห็นสายตาสงสารยามที่พวกเธอมองหน้าอกของอีกฝ่าย วู่หยานก็หัวเราะแห้งๆ…..