หลังจากกินอาหารกลางวันเสร็จ เราก็นั่งที่ม้านั่งสักพักและคุยกันอย่างสนุกสนาน

เราจะได้ยินเสียงเด็กวิ่งเล่นอย่างมีความสุขเหมือนเคย

“มันทำให้นึกถึงวันเก่าๆ ……”

เมื่อฉันมองไปที่ฉากนั้น ซาเองุสะก็พึมพำอย่างเงียบๆ

“ฉันสงสัยว่า ชิจังเคยมาที่นี่มาก่อนหรือเปล่า”

ในที่สุดฉันก็ถามคำถามกับซาเองุสะซัง เกี่ยวกับสาเหตุที่ซาเองุสะซังบอกว่าเธอคิดถึงสวนสาธารณะแห่งนี้

“บ้านคุณย่าของฉันอยู่ใกล้ที่นี่นะ เนื่องจากตารางงานของครอบครัว ฉันมักจะมาบ้านคุณย่าในช่วงฤดูร้อนตอนที่ฉันยังเด็ก และฉันเคยมาสวนสาธารณะแห่งนี้บ่อยมากๆ”

“อา”

ใช่แล้ว

ฉันเข้าใจว่าถ้ามีบ้านของคุณยายอยู่ในละแวกนี้ เธอคงจะมาที่สวนสาธารณะแห่งนี้เพื่อเล่นตามประสาเด็กๆ

“แต่นายรู้ไหม ตอนที่ฉันยังเด็ก ฉันค่อนข้างเก็บตัวและขี้อายมากกว่าตอนนี้ และฉันก็ไม่ใช่เด็กผู้หญิงประเภทที่จะพูดคุยกับคนอื่นได้ด้วยตัวเอง”

“มันยากที่จะเชื่อใช่ไหม” ซาเองุสะพูดพลางหัวเราะเล็กน้อยอย่างสมเพชตัวเอง

อันที่จริง ฉันไม่อยากเชื่อเลยถ้าได้รู้จักซาเองุสะซังที่ร่าเริงและกระตือรือร้นในตอนนี้

“เมื่อฉันมาสวนสาธารณะแห่งนี้ ฉันก็กลายเป็นคนแปลกหน้าและไม่รู้จักใครเลย สิ่งเดียวที่ฉันทำได้คือนั่งบนม้านั่งตัวนี้และมองดูเด็กๆวัยเดียวกับฉันเล่นอย่างมีความสุข ฉันเคยอ่านหนังสือคนเดียวและคิดว่า “มันวิเศษมาก พวกเขาดูเหมือนกำลังสนุกกันอยู่เลย”

ซาเองุสะซังแบ่งปันความทรงจำของเธอกับฉันด้วยความคิดถึง

เด็กขี้อายนั่นคือซาเองุสะซัง เธอกำลังอ่านหนังสืออยู่คนเดียวในที่แห่งนี้ …… และอีกความทรงจำของฉันก็กลับมา

“แต่แล้วมีเด็กผู้ชายคนหนึ่งเข้ามาหาฉัน เขาพูดว่า “เธออยู่คนเดียวเหรอ? งั้นฉันจะเล่นกับเธอเอง!”

ซาเองุสะซังนึกถึงวันเหล่านั้น

เพราะเธอมีรอยยิ้มที่อ่อนโยนบนใบหน้าราวกับว่าเธอคิดถึงวันนั้นจริงๆ

“หลังจากนั้นฉันจะมาที่สวนแห่งนี้ทุกวันและเขาจะพาฉันเล่นสิ่งต่างๆ เขายังพาฉันไปดูการแสดงดอกไม้ไฟใกล้ๆ …… ขณะที่ฉันเล่นกับเขา ฉันค่อยๆอายขึ้นเรื่อยๆ แต่ต้องขอบคุณเขา ฉันกลายเป็นร่าเริงมากขึ้น”

ฉันฟังเรื่องราวของเธอและคิดว่า “เพราะงั้นเธอเลยกลายเป็นคนร่าเริงเหมือนซาเองุสะซังในทุกวันนี้”

“สิ่งที่สำคัญที่สุดคือสิ่งที่เขาพูดกับฉัน 「เธอเป็นคนตลกแถมยังสวยอีกด้วย ดังนั้นเธอควรมั่นใจในตัวเองให้มากกว่านี้」 คำพูดเหล่านั้นทำให้ฉันมีความสุขมาก และฉันก็อยากจะเป็นเหมือนเขา เขาเป็นฮีโร่สำหรับฉัน”

ซาเองุสะซังพูดอย่างมีความสุข แต่วินาทีต่อมา สีหน้าดีใจของเธอก็เปลี่ยนเป็นเศร้าทันที

“ฤดูร้อนนั้นสนุกที่สุดเท่าที่ฉันเคยมีมาในชีวิต หลังจากนั้นฉันจึงพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเอง และต้องขอบคุณสิ่งนั้น ฉันจึงได้เพื่อนมากมาย ดังนั้นฉันจึงรอคอยที่จะได้พบเขาในฤดูร้อนหน้าจริงๆ เพื่อที่ฉันจะได้แสดงให้เขาเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของฉันและทำให้เขาประหลาดใจที่ฉันอยากจะบอกเขาเกี่ยวกับทุกสิ่ง ฉันอยากให้เขาชื่นชมฉัน แต่เมื่อฉันมาที่สวนสาธารณะในปีถัดไป ก็ไม่มีวี่แววของเขาเลย ……”

ใช่มันควรเป็นอย่างงั้น …….

แต่เธอ…..เข้าใจผิด……

“หลังจากนั้น ไม่ว่าฉันจะมาที่สวนสาธารณะกี่ครั้ง ฉันก็ไม่ได้เจอเขาอีก และฉันก็กลับบ้านในฤดูร้อนปีนั้นโดยไม่เคยเจอเขาเลย บังเอิญฉันถูกแมวมองทาบทาม เธอเป็นเอเจนซี่ไอดอล ฉันคิดว่า 「ถ้าฉันเป็นไอดอลและมีชื่อเสียง บางทีเด็กคนนั้นอาจจะตามหาฉันเจอ」”

“มันไม่ตลกเหรอที่กลายเป็นไอดอลด้วยเหตุผลนั้น?” ซาเองุสะซังหัวเราะ

แต่ฉันหัวเราะไม่ออก

เธอสูดหายใจลึกแล้วพูดต่อ

“ฉันอยากเจอเธอมานานแล้วรู้ไหม? ทัคคุง…….”

“ฉัน…… เพราะงั้นซาเองุสะซังก็คือ ชิจัง……”

เมื่อฉันตอบ ซาเองุสะยิ้มอย่างมีความสุขและพูดว่า “ใช่ ในที่สุดเราก็ได้พบกัน”

และจากดวงตาที่สวยงามคู่นั้น น้ำตาหยดหนึ่งก็ร่วงลง

เมื่อฉันอยู่ชั้นประถมฉันได้พบกับผู้หญิงคนหนึ่งในสวนสาธารณะแห่งนี้

ฉันสงสัยเกี่ยวกับเด็กผู้หญิงที่นั่งอ่านหนังสือคนเดียวบนม้านั่งเสมอ วันหนึ่งฉันเลยถือโอกาสขอเธอเล่นด้วย

หลังจากนั้นฉันอยากรู้จักเธอมากขึ้น ฉันเลยชวนเธอออกไปเที่ยวในทุกโอกาสและพาเธอไปเที่ยว

ฉันจะเล่นกับทาคายูกิและเพื่อนๆของเขา ฉันพาเธอไปร้านขายขนมใกล้ๆ และมาพบเธอที่สวนสาธารณะแห่งนี้เสมอ จากนั้นจึงแยกกับเธอที่นั่น

ขณะที่ฉันพาเธอไปรอบๆ เธอเริ่มพูดถึงความคิดและความรู้สึกของเธอ ซึ่งทำให้ฉันมีความสุขมาก และเรายังคงมาพบกันที่สวนสาธารณะแห่งนี้และเล่นทุกวัน

ขณะที่ฉันเล่นกับเธอ ฉันรู้ว่าฉันตกหลุมรักเธอ

-นั่นคือรักแรกของฉัน อย่างไม่ต้องสงสัยเลย

ฉันจึงรวบรวมความกล้าที่จะชวนเธอไปงานแสดงดอกไม้ไฟ

แต่เนื่องจากฉันได้ยินมาว่าเธออยู่ในเมืองนี้เฉพาะช่วงฤดูร้อนด้วยเหตุผลทางครอบครัว ฉันจึงไม่สามารถเชื่อมระยะห่างระหว่างเราได้อีกต่อไป

จับมือเธอและดูดอกไม้ไฟด้วยกันคือสิ่งเดียวที่ฉันทำได้ในตอนนั้น

เมื่อการแสดงดอกไม้ไฟสิ้นสุดลงและฤดูร้อนกำลังจะสิ้นสุดลง ฉันรู้ว่าเธอต้องกลับบ้านเมื่อฤดูร้อนสิ้นสุดลง ฉันจึงไปที่สวนสาธารณะตามปกติเพื่อจะทำสัญญาสำคัญกับเด็กผู้หญิงคนนั้น

อย่างไรก็ตาม ในวันนั้น เธอไม่ปรากฏตัวบนม้านั่งตัวนี้เลย ฉันรอเธออยู่เสมอ

วันรุ่งขึ้นและวันต่อๆมา ไม่มีวี่แววของเด็กผู้หญิงที่สวนสาธารณะหรือบนม้านั่ง

ฉันอยากจะขอข้อมูลติดต่อจากเธอหรือบ้านของคุณยายของเธอ แต่ฉันไม่รู้ว่าบ้านของคุณยายเธออยู่ที่ไหน พอรู่ตัวมันก็สายไปเสียแล้ว

ฉันคิดว่าฉันจะได้เจอเธอในช่วงวันหยุดฤดูร้อนถ้าฉันมาที่นี่

จากนั้นฉันก็รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นกลับบ้านไปแล้ว

ฉันไม่สามารถบอกเธอได้ว่าฉันรู้สึกอย่างไร และไม่สามารถทำตามสัญญาที่ฉันต้องการจะทำได้

หลังจากนั้นฉันก็กลัวที่จะมาที่สวนสาธารณะแห่งนี้เพราะมันทำให้ฉันนึกถึงเด็กผู้หญิงคนนั้น

ดังนั้น หลังจากฤดูร้อนนั้น ฉันไม่ได้เล่นในสวนสาธารณะอีกต่อไป

เมื่อฉันขึ้นมัธยมต้น ทาคายูกิเริ่มเล่นบาส และฉันก็เข้าร่วมทีมกรีฑาในโรงเรียนมัธยมต้น ดังนั้นเราจึงไม่ได้วิ่งเล่นในสวนสาธารณะอีกต่อไป

ในช่วงเวลาเหล่านี้ ความทรงจำของฤดูร้อนนั้นค่อยๆ กลายเป็นอดีตสำหรับฉัน

แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีบางครั้งที่ฉันจำมันได้ในทันที

ทุกครั้งที่ฉันคิดถึงเรื่องนี้ ฉันหวังว่าเธอจะสบายดีที่อื่นในที่ๆฉันไม่รู้จัก

ฤดูร้อนนั้น เธอขี้อายมาก แต่เมื่อสิ้นสุดฤดูร้อน เธอกลับร่าเริงขึ้นจนสามารถพูดสิ่งที่คิดได้ ดังนั้นฉันจึงมั่นใจว่าเธอจะสบายดี และฉันก็เก็บความรู้สึกรักแรกเหล่านั้นไว้เงียบๆ ในใจของฉัน

ฉันจะไม่ได้เจอเธออีกแล้ว ……

ฉันได้แต่ขอให้ชิจังมีความสุข

“…… นายคิดว่าไง? ฉันเปลี่ยนไปแล้วใช่ไหม”

“…… ใช่ เปลี่ยนไปมากๆเลย”

ซาเองุสะยิ้มให้ฉันทั้งน้ำตาที่ไหลอาบหน้าของเธอ และฉันก็ตอบราวกับว่าฉันจำวันนั้นได้

– เธอกลายเป็นคนน่ารักจริงๆ ชิจัง

ฉันย้อนเวลากลับไปต่อหน้าชิจังที่โตเป็นสาวสวย

จากนั้นฉันก็จำได้ว่าฉันมีสัญญาที่อยากทำกับชิจัง

แต่มันเป็นสัญญาที่ฉันได้หนีและไม่ได้ให้ไป

แต่ถ้าฉันทำได้ฉันก็อยากจะบอกเธออีกครั้ง

และฉันต้องการให้มันเกิดขึ้นในครั้งนี้

ฉันตัดสินใจแล้วค่อยๆพูดกับชิจังที่กำลังร้องไห้อยู่ตรงหน้าฉัน

“ฉันมีสัญญาที่อยากจะทำกับชิจัง”

“…… สัญญา?”

“ใช่ สัญญา ฉันอยากบอกว่าฉันจะพบเธอในฤดูร้อนหน้า ชิจัง เป็นเวลาที่นานแล้ว แต่ …… เธอจะเล่นกับฉันอีกครั้งในฤดูร้อนนี้ได้ไหม”

ราวกับได้ย้อนเวลา ฉันบอกเธอด้วยความรู้สึกเดิมๆ ในตอนนี้ฉันได้พูดทุกๆคำที่ฉันอยากพูด

จากนั้นชิจังก็ประหลาดใจ เธอเอามือทั้งสองข้างปิดปากเธอแล้วยิ้ม

“ได้สิ ช่วยดูแลฉันด้วยนะ”

รอยยิ้มราวกับนางฟ้าของเธอทำให้ฉันนึกถึงชิจังในวัยเยาว์ที่ฉันรู้จักในตอนนั้น

ยังไงซะ ชิจังก็คือชิจัง

ฉันประหลาดใจที่ฉันไม่เคยสังเกตมาก่อน แต่ฉันก็มั่นใจว่าทำไมฉันถึงตกหลุมรักชิจังซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ดังนั้นเราจึงนั่งบนม้านั่งตัวเดิม สาบานว่าจะสนุกไปกับฤดูร้อนครั้งนี้ด้วยกัน

———————————————————————————————————————————————————–

คุยท้ายตอน

ในที่สุดก็เฉลยอดีตของทั้งสองแล้วนะครับ แหม ในที่สุดก็ได้รู้แล้วนะครับว่าทำไมไอดอลคนดังถึงตามติดพระเอกขนาดนี้

ถึงอย่างงั้นทั้งสองก็เป็นเพื่อนกันอยู่นะครับ คงอีกนานกว่าทั้งสองจะเป็นแฟนกัน เรามาตามเอาใจช่วยทั้งสองคนกันดีกว่านะครับ

วันนี้ลงช้าหน่อยต้องขอโทษด้วยนะครับ