ตอนที่ 33 ได้เวลาโลลิสนุกกับปาร์ตี้ชุ

คุณหนูโลลิคลั่งเนีย・ลิสตัน

33 ได้เวลาสนุกแล้ว

“ม๊าย ฉันก็ยังดื่มไม่ได้เหมือนกัน”

ฉันเป็นเด็กจึงไปทานอาหารกับครอบครัว ส่วนฝั่งผู้ใหญ่จะไปงานเลี้ยงปิดการแสดงที่สำเร็จลุดล่วงไปได้ด้วยดี

หลังจากทานอาหารกับครอบครัวและกลับโรงแรม ฉันก็ถูกจับโดยชาโรที่มารออยู่ที่ล็อบบี้

เธออายุแค่สิบสี่จึงยังดื่มเหล้าไม่ได้เหมือนกัน เธอจึงแค่ทานอาหารในงานเลี้ยงเท่านั้น

“ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้?”

ช่วยไม่ได้เรื่องปริศนาก็ยังเป็นปริศนา

ไม่มีเหตุผลต้องซ้อมบทละครอีกแล้ว

“ม๊าม๊า ไม่เห็นเป็นไร ไม่เห็นเป็นไรเลย”

ไม่สิ ฉันน่ะไม่เป็นไร มีหรือไม่มีไม่ใช่ฉัน

“………..”

แต่ริโนกิสล่ะ เหมือนกับว่าเธอปล่อยจิตสังหารออกมาเงียบ ๆ ……ชาโรไม่รู้ตัวเลยสินะ เป็นแม่นักแสดงที่เข้าใจยากซะจริง

――ม๊า จะทางไหนก็ช่าง ฉันไม่มีเหตุผลพิเศษที่จะปฏิเสธ

ฉันอาบน้ำในห้องเพื่อทำให้สดชื่น เป่าผมให้แห้ง ทาโลชั่น และเตรียมตัวเข้านอน

“ฉันมีบางอย่างอยากจะถาม”

ชาโรที่ใส่แค่ชุดชั้นในเอ่ยปากถามจากบนเตียง

ยังไงก็ตาม ริโนกิสใจเย็นลงบ้างแล้ว

นอกจากนี้ สมาชิกทุกคนในคณะละครก็ไปอาบน้ำที่ห้องอาบน้ำสาธารณะก่อนที่จะรีบไปยังสถานที่จัดงานเลี้ยง เห็นได้ชัดว่าเป็นการเตรียมตัวเพื่อดื่มฉลองโต้รุ่ง น่าอิจฉา อภัยให้ไม่ได้

“ความลับความแข็งแกร่งของหนูเหรอคะ? เนื้อไงคะ การกินเนื้อสัตว์จะทำให้แข็งแกร่งขึ้น”

“ไม่สิย๊ะ ไม่ใช่ที่ฉันจะถาม แล้วก็อย่างแรกเลย มีหลายเรื่องที่ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยเนื้อสัตว์หรอกนะย๊ะ”

ม๊า ก็นั่นสินะ

ถ้าแค่กินเนื้อสัตว์แล้วแข็งแกร่งขึ้นได้ก็คงไม่มีช่วงเวลาลำบากแล้ว ――แถมแต่แรกเลย ฉันก็แข็งแกร่งได้โดยไม่ต้องกินเนื้อสัตว์ด้วยซ้ำ

“――แต่ถึงไม่ใช่ก็ใกล้เคียงล่ะนะ

โฮร่า ตอนที่พวกเราเข้าไปพัวพันกับพวกอันธพาลเมื่อสองสัปดาห์ก่อน เธอไปพูดอะไรเกี่ยวกับอีกสองสัปดาห์ต่อไปไม่ใช่เหรอไง? ฉันสงสัยว่าจะเกิดอะไรขึ้น”

อ้า ลองคิดดูแล้ว เมื่อสองสัปดาห์ก่อน ตอนที่ฉันไปนัดกับพวกอันธพาลว่าจะไปเล่นสนุกด้วยนิดหน่อย ชาโรก็อยู่ที่นั่นด้วยสินะ ฉันลืมไปหมดแล้ว

ในตอนนั้น ฉันรู้สึกตื่นเต้นกับการต่อสู้ระหว่างคนด้วยกันเป็นครั้งแรกในฐานะเนีย เกี่ยวกับเรื่องนั้นเป็นหัวข้อที่ชาโรไม่ได้พูดถึงตั้งแต่นั้นเลย

――มีเพียงแค่ฉันเพียงคนเดียวที่คอยนับวันเวลาที่เหลือ

“อย่าทำเป็นเล่นสิ ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นเลยนะ”

“ล้อเล่นอยู่แล้วล่ะคะ แน่นอนค่ะ”

แต่ก็อย่างที่เดาไว้ ฉันจะทำแน่นอน ไม่มีเหตุผลที่จะไม่ทำ

“นับจากตอนนั้นพวกเราก็อยู่ด้วยกันนานเท่าที่จะทำได้ แต่ฉันก็ไม่เคยเห็นสัญญาณที่เธอจะออกไปตามนัด ดังนั้นจะเป็นหลังจากนี้ใช่ไหมล่ะ?”

“หรือว่าจะจับตาดูหนูมาตลอดเลยงั้นเหรอคะ? นั่นเป็นเหตุผลที่มาพักที่โรงแรมด้วยกันงั้นเหรอคะ?”

ถ้าเป็นแบบนั้น ก็บอกได้เลยว่าชาโรสมกับเป็นนักแสดงที่สุดเลย

แสร้งทำเป็นว่าไม่ได้จับตาดูฉันอยู่ แต่ที่จริงแล้วกำลังจับตาดูฉันอยู่

“เรื่องนั้นฉันก็รู้สึกว่าต้องทำอยู่หรอก ที่จริงอพาร์ตเมนต์ของฉันไม่มีห้องอาบน้ำ ที้นี่เลยช่วยได้มากเลยล่ะ”

ได้ทั้งจับตาฉัน ได้ทั้งอาบน้ำเลยสินะ

ฉันไม่รู้ว่าอันไหนมีน้ำหนักมากกว่ากัน แต่นั่นก็เป็นเรื่องเล็กน้อยเช่นกัน

“จะไปใช่ไหม?”

“ไม่ไปหรอกค่ะ”

“จ๊า งั้นฉันไปบอกริโนกิสก็ได้สินะ?”

“――ไปค่ะ หนูตั้งหน้าตั้งตารอจริง ๆ จะไปให้ได้แน่นอน และจะไม่ยกโทษให้ใครก็ตามที่เข้ามาหยุด”

ถ้าพูดถึงขนาดนั้นแล้ว ฉันก็ไม่มีทางที่จะปิดบังได้อีกแล้ว

ถ้าเธอไปบอกริโนกิสจะกลายเป็นเรื่องเดือดร้อนได้

และคงจะลำบากมากขึ้นไปอีก ถ้าเธอรายงานให้พ่อแม่ทราบ

“เน๊ ทำไมเธอไม่หยุดทำเรื่องที่อันตรายล่ะ ฉันรู้ว่าเนียแข็งแกร่ง แต่ฉันไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องฉลาดหรอกนะที่จะกระโดดเข้าสู่อันตรายด้วยตัวเองแบบนี้”

――อุมุ ฉันเห็นด้วย

“เก้าสิบเปอร์เซ็นต์ของผู้ที่อยู่ในวงการศิลปะการต่อสู้คือคนโง่เขลา

ไม่ว่าจะฝึกฝนมาเป็นเวลายาวนานหลายปี หรือแม้แต่จะใช้เวลาทั้งชีวิตไปกับการฝึก แต่มีดเล่มเดียว หรือแม้แต่พิษของสัตว์ตัวเล็ก ๆ ก็สามารถทำให้ตายได้อย่างง่ายดาย

แน่นอนว่ามีทั้งคนที่ตายเพราะอุบัติเหตุและความเจ็บป่วยอยู่ด้วย

สิ่งที่สะสมมาหลายปีสามารถสูญเปล่าในทันที

เข้าใจไหม?

ต่อให้แข็งแกร่งแค่ไหน ก็ไม่สามารถกลบจุดอ่อนได้ เพราะแบบนั้นถึงได้เลือกเส้นทางชีวิตแสวงหาความแข็งแกร่ง

คงคิดว่างี่เง่าใช่ไหมล่ะ?

นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม ตัวเลือกที่ดูชาญฉลาดถึงได้ไม่เหมาะสมมาตั้งแต่ต้น”

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของฉัน

ถึงยังไง ฉันก็เชื่อว่า「ต่อให้ตายแล้วเกิดใหม่อีกสักกี่ครั้ง ฉันก็จะยังต้องการมีชีวิตอยู่เพื่อศิลปะการต่อสู้」ได้อย่างเป็นธรรมชาติ

วิถีชีวิตที่ชาญฉลาดนั้นมองไม่เห็นตั้งแต่ต้น

ฉันคิดได้แค่วิถีชีวิตโง่ ๆ เท่านั้น

“……ก็นั่นสิน๊า”

ชาโรพยักหน้าอย่างจริงจัง

“ฉันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับศิลปะการต่อสู้ หรือเรื่องอะไรทำนองนั้นหรอกนะ แต่ฉันเข้าใจดีเรื่องที่ไม่สามารถตัดสินใจเลือกเส้นทางได้อย่างชาญฉลาด ถ้าฉันมัวแต่เลือกเส้นทางชีวิตที่ชาญฉลาด ตอนนี้ฉันคงไม่มาทำอาชีพนักแสดงที่มองไม่เห็นอนาคตแบบนี้

เรื่องก็คงกลายเป็นฉันกลับไปทำเกษตรตามที่ที่บ้านคาดหวังไว้นั่นแหละนะ”

ถ้าอย่างงั้นคงเข้าใจฉันแล้วใช่ไหม

“หนูจะไป เพราะเรื่องจำเป็นที่ต้องไป

“――จ๊า พาฉันไปด้วยสิ”

หืม?

“ชาโรด้วยกัน?”

“ก็เนียจะไม่แพ้ใช่ไหม? ไม่คิดที่จะแพ้ด้วยใช่ไหม? ถ้าอย่างงั้นก็ให้ฉันไปด้วยได้สินะ?”

……ฟุมุ

ฉันเข้าใจเรื่องทั้งหมดแล้ว ไม่สามารถปล่อยเธอทิ้งเอาไว้ได้

แต่ฉันก็ไม่คิดที่จะบังคับให้เธอหยุดเหมือนกัน

เพราะแบบนั้น

“หนูไม่สามารถพาไปถึงที่ต่อสู้จริงได้ เพราะจะเป็นการเกะกะการต่อสู้ แต่หนูจะให้คุณได้ดูสถานการณ์จากระยะไกล จะไม่มีการต่อรองไปมากกว่านี้แล้ว”

โดยสรุปเลยคือ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเธอแอบตามมาเพื่อหยุดฉันจนเข้าไปขัดจังหวะตอนกำลังสู้จริง

ถ้าอย่างงั้นแล้ว ก็แค่ให้รออยู่ห่างออกไปจากที่ต่อสู้สักหน่อย แล้วก็ทำให้คิดว่ามีหน้าที่ไปเรียกทหารยาม หรือทหารลาดตระเวนมาซะหากคิดว่าสถานการณ์เริ่มย่ำแย่

――สถานการณ์แบบนั้นจะไม่มีทางเกิดขึ้นก็ตาม

“เข้าใจแล้วค่ะ แบบนั้นก็ได้”

วันถัดมา

“เนียจัง ขอบคุณสำหรับความพยายามของหนูมากเลยน๊า สามารถพูดได้ว่าละครเรื่องนี้ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามเลยล่ะ”

“เพราะแบบนี้ พวกเราถึงเปิดตัวชาโรได้สำเร็จ ต้องขอบคุณจริง ๆ “

ในตอนเช้า ประธานจูเลียน กับลูซิด้า น้องสาวฝาแฝด เป็นตัวแทนของคณะละครไอซ์โรสมาเยี่ยมถึงที่ห้อง

เมื่อได้เห็นชาโรที่ใส่แค่ชุดชั้นในอยู่ในห้อง พวกเขาก็ทำหน้าสงสัยอย่างมากว่าทำไม นางเอกหลักของงานเลี้ยงเมื่อวานถึงมาอยู่ที่นี่

“คำขอเสร็จสมบูรณ์แล้ว หนูทำมันได้อย่างสมบูรณ์แบบเลยล่ะ”

ประธานจูเลียนบอกฉันว่างานจบลงแล้ว

ฉันไม่รู้ว่าได้เงินมาเท่าไหร่ เพราะพ่อแม่เป็นคนต่อรองเรื่องค่านายหน้าและอื่น ๆ แต่ ม๊า ฉันก็ไม่คิดว่าจะติดลบหรอก

และเหมือนคุณนายไลม์จะเป็นคนจ่ายค่าโรงแรมด้วย

ถ้าพูดให้ถูก โรงแรมแห่งนี้เป็นสมบัติของ โฌแรส・ไลม์ ขุนนางระดับขั้นที่สาม สามีของคุณนายไลม์

“ขอขอบคุณสำหรับการดูแลเอาใจใส่ด้วยเช่นกันค่ะ หากมีเรื่องที่อยากให้ทำอีก ได้โปรดติดต่อมาได้เสมอเลยนะคะ”

―― ฉันหวังว่าจะนำไปสู่งานต่อไป

ตอนนี้

ประธานจูเลียน ลูซิด้า และชาโรออกไปจากห้องหลังจากทักทายครั้งสุดท้าย ฉันก็อยู่กับริโนกิสตามลำพัง

“แค่คิดว่ายัยเด็กนั่นจะไม่โผล่มาแล้ว ก็รู้สึกสดชื่นมากเลยค่ะ!”

ริโนกิสยิ้มอย่างผ่อนคลายด้วยใบหน้าที่สดใส ใบหน้าสงบนิ่งที่ไม่ได้เห็นมานาน ฉันล่ะต้องการให้เป็นอย่างนั้นเสมอ

แต่ก็ยังคลายกังวลไม่ได้

“แล้วนัดหนายกับโอจี่ซามะล่ะ? ใกล้แล้วใช่ไหม?”

“อะ เรื่องนั้นสินะคะ”

วันนี้ทั้งวัน ฉันสัญญาว่าจะไปเที่ยวในเมืองหลวงกับคุณผู่ที่ฉันพึ่งเคยพบเมื่อคืนนี้

พี่นีลตามกำหนดจะมาเข้าร่วมกับพวกเราในตอนเที่ยง

ดูเหมือนว่าพ่อแม่จะทำงานเล็ก ๆ น้อยที่เมืองหลวงสักระยะหนึ่งแล้วถึงจะกลับมายังดินแดนลิสตันในไม่ช้า พวกท่านดูยุ่งอยู่เสมอ

ส่วนฉันมีกำหนดกลับตระกูลลิสตันพร้อมกับคุณในวันพรุ่งนี้

นั่นเป็นเหตุผลว่า ความสนุกจะจำกัดอยู่ที่คืนนี้

――พวกเขาจะเตรียมต้อนรับฉันพร้อมหรือยังน๊า

――อะ ฉันควรไปประกาศเดี๋ยวนี้สักหน่อยไหมว่า「จะไปหาคืนนี้」

――ดีล่ะ!ตัดสินใจแล้ว ฉันจะแยกจากริโนกิสก่อนสักครั้งหนึ่งเพื่อไปตามหาเบาะแสของพวกที่มีตราสัญลักษณ์แบบในคืนนั้น

ถึงจะเป็นแค่ปลาตัวเล็กแต่ก็กองเท่าภูเขา คนร้อยคนก็เพียงพอที่จะให้เพลิดเพลินได้หนึ่งคืนแล้ว

โอ๊ย โอ๊ย เท่ากับคืนนี้จะเป็นคืนที่ได้เล่นสนุกจนไม่ได้นอนเลยสินะ!?

มีความสุขจัง!