ตอนที่ 33 ของสามัญประจำดันเจี้ยนล่ะ!

บันทึกการเดินทางของคุณแวมไพร์ล่ะ

ตอนที่ทั้งสามคนเพิ่งเข้ามาในถ้ำ มันมืดมากซะจนแทบมองไม่เห็นกันและกัน แต่ยิ่งเดินเข้าไปลึกเท่าไหร่ก็ยิ่งมีแสงสว่างเพิ่มมากขึ้น จนตอนนี้แม้จะยังไม่สว่างเหมือนตอนกลางวัน แต่ก็ทำให้พวกเขาเห็นภาพรอบๆตัวแล้ว

 

มองสำรวจสภาพรอบตัว วู่หยานไม่สามารถเห็นอะไรที่มันปล่อยแสงได้ ภายใต้สถานการณ์แปลกๆนี่ ถ้าสมมุตว่าโลกนี้ไม่มีสิ่งเหนือธรรมชาติ เขาก็คงพูดว่า ‘เป็นเพราะผีแน่ๆ!’ แต่กับที่นี่เขาก็คิดได้อย่างเดียวคือพวกปีศาจทำ

 

และตอนนี้เองก็มีคุณหนูสองคนที่เวลาปกติจะห้าวไปทั่ว กำลังแอบอยู่หลังวู่หยาน แม้แต่เรลกันสุดแกร่งก็ยังมีสีหน้ากลัว แถมตอนที่เขาทำเป็นหันไปมอง พวกเธอก็รีบเก็บสีหน้ากันใหญ่ แต่พวกเธอไม่รู้ว่าเขาแอบมองดูตั้งนานแล้ว

 

ก็นั้นแหละ จะเก่งแค่ไหน ผู้หญิงก็ยังเป็นผู้หญิงล่ะนะ……

 

ทั้งสามคนเดินไปตามทางอย่างเงียบๆโดยไม่คุยกันเลย เป็นเพราะตอนนี้พวกเขากำลังเดินอยู่ในรังของปีศาจ การทำอะไรเสียงดัง ดึงดูดพวกมันมา มันเป็นอะไรที่โง่มาก ดังนั้นมันจะดีกว่าที่จะรอบคอบเอาไว้

 

ตอนที่เขาเหยียบเข้ามาในถ้ำ เขาก็เอาคุซานางิออกมาแล้ว เขาไม่กล้าพูดว่าเมื่อมีศัตรูโผล่ออกมาแล้วจะปฏิกิริยาตอบสนองได้ทัน วู่หยานเปิดฟังก์ชั่นตรวจสอบของระบบ เพื่อตรวจจับตัวอะไรก็ตามที่อยู่ตรงหน้าเขา แม้ว่ามันจะล่องหนก็ไม่มีทางเล็ดลอดจากระบบไปได้แน่นอน

 

“นี่ หยาน นายไม่คิดว่าพวกมันอาจจะตายกันไปหมดแล้วบ้างเหรอ? ฉันหมายถึงนี่มันก็ผ่านมานานมากแล้วนะ”

 

บางทีอาจเป็นเพราะว่าเธอไม่สามารถทนบรรยากาศตึงเครียดได้อีกต่อไป ดังนั้นฮินางิคุเลยตัดสินใจเอยความคิดตัวเอง

 

“เป็นไปไม่ได้แน่นอน!” วู่หยานพูดอย่างมั่นใจ “ถึงแม้ฉันจะไม่รู้ว่าปีศาจมันเป็นอมตะเหมือนในตำนานรึเปล่า แต่แน่นอนว่าพวกมันต้องมีอายุไขที่มากกว่ามนุษย์ และถ้าเป็นไปตามที่คุณนายซากิโนะมิยะบอกล่ะก็ ที่นี่ต้องมีปีศาจเพศเมีย ดังนั้นพวกมันจึงเพิ่มจำนวนประชากรได้!”

 

“ถ้ายังงั้นแล้วทำไม จนถึงตอนนี้พวกเรายังไม่เจอ ไอ้ตัวที่ชื่อ….ปีศาจอะไรนั่นเลยล่ะ?” ถึงแม้เวลาที่มิโคโตะถูกอัญเชิญมายังไม่ถึงหนึ่งวันเลยก็ตาม แต่ข้อมูลพื้นฐานที่จำเป็นระบบก็ได้ส่งเข้าหัวเธอไปแล้ว เรื่องน่าเหลือเชื่อย่างระบบ และภูติผีปีศาจ จะไม่ใช้ยอมรับไม่ได้ แต่สำหรับเธอที่อายุแค่สิบสี่ปี ถึงแม้จะยอมรับเรื่องมีผีจริง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่กลัว….

 

แต่ก็น้า~ ถึงแม้เวลาเจอหน้าเขา คุณหนูเรลกันจะทำเป็นไม่กลัวก็เถอะ แต่ก็เพราะแบบนี้แหละเธอถึงได้ชื่อว่า ซินเดเระเรลกัน…..

 

“ฉันก็กำลังคิดเหมือนกัน จนถึงเมื่อกี้อ่ะนะ….” หยุดเดิน วู่หยานยืนนิ่ง

 

ทำให้สองสาวที่เดินตามอยู่ข้างหลังตกใจ ก่อนจะรีบหันมองรอบๆอย่างตื่นตัว ในแววตาของมีความกลัวเจือปนอยู่

 

“มีอะไร…เกิดอะไรขึ้นน่ะ?หยาน…” ฮินางิคุกลืนน้ำลาย ถามด้วยน้ำเสียงกังวล

 

วู่หยานหันตัวกลับมาด้วยสีหน้าสงสัย

 

“พวกเธอรอก่อน…” วู่หยานโบกมือให้ ก่อนจะก้มหน้าลงมองแล้วขมวดคิ้ว

 

“ฟู่~….” เมื่อวู่ก้มหน้า ก็มีลมอ่อนๆพัดมาจากไหนก็ไม่รู้ ทำให้เส้นผมวู่หยานโบกสะบัด และทำให้กระโปรงของฮินางิคุและมิโคโตะเปิด…..

 

เพราะพวกเขากำลังหันหน้าเข้าหากัน วู่หยานเองก็กำลังก้มหัว ดังนั้นเมื่อลมพัดเขาแค่หันไปมองก็เห็นกางเกงขาสั้นทั้งสีขาวและดำทันที

 

“………” วู่หยานค้างอยู่ท่าเดิม นัยน์ตาเขาขยายใหญ่กว่าปกติถึงสองเท่าขณะที่มองกางเกงขาสั้นทั้งสองที่ต่างสีกัน เขามีสีหน้าตะลึง

 

“ว้าย!” ถึงแม้ปกติจะทำตัวห้าวๆเป็นทอมบอยก็เถอะ แต่ทั้งสองก็ยังเป็นเด็กผู้หญิงอยู่ดี ดังนั้นการที่กระโปรงถูกลมพัดจนเปิดแบบนี้เป็นไม่ได้ที่จะไม่เขินอาย ทั้งสองคนกรีดร้องออกมาพร้อมกัน เอามือกดกระโปรงลง จากนั้นเงยหน้าแดงก่ำ ขึ้นมามองวู่หยาน

 

“นายไม่เห็นอะไรใช้มั้ย หยาน….” ในมือฮินางิคุปรากฏดาบคริสตัลขึ้นมา ฮินางิคุจ้องเขม็งไปที่วู่หยาน ตราบใดที่เขาเอ่ยปากพูดเรื่องไร้ยางอายออกมา เธอพร้อมที่จะฟันเขาทันที เพราะมันไม่ใช้ครั้งแรกที่เธอเห็นเขาพูดเรื่องทุเรศๆแบบนี้…..

 

“เปรี๊ยะๆ…..” เสียงประจุไฟฟ้าดังขึ้นมา  ทำให้วู่หยานที่กำลังจะส่ายหัวแข็งค้าง ก่อนจะค่อยๆหันหน้าไปตามเสียงดุจหุ่ยนต์

 

“นายคงไม่….เพราะเรื่องแบบนั้น เลยจงใจหยุดเดินใช้มั้ย!!” มิโคโตะก้มหน้า บริเวณหน้าผากมีกระแสไฟฟ้าวิ่งพล่าน น้ำเสียงเย็นาดุจน้ำแข็งของเธอทำให้เขาไม่กล้าขยัยตัว

 

ไม่แปลกที่มิโคโตะจะคิดแบบนั้น เพราะมันออกจะ ‘บังเอิญ’ เกินไป

 

วู่หยานกรีดร้องในใจ ก่อนจะยิ้มเจือนๆพูดว่า “นี่..ปะ..เป็นเรื่องบังเอิญนะ บังเอิญจริงๆ…”

 

แน่าสงสาร ครั้งนี้วู่หยานพูดเรื่องจริง

 

วู่หยานร้องให้ในใจ ตอนนี้เขากำลังยืนอยู่หน้าระเบิดสองลูก

 

มิโคโตะยังพอเข้าใจได้ ปกติเธอก็ใส่กางเกงขาสั้นไว้ใต้กระโปรงอยู่แล้ว และเธอก็ไม่เคยโดนคนอื่นเห็นใต้กระโปรง แต่เกิดอะไรขึ้นกับฮินางิคุ? ในอนิเมะเธอเป็นคนเปิดกระโปรงโชว์ฮายาเตะเองแท้ๆ แล้วทำไมพอเป็นเขาถึงโดนแบบนี้? ไม่ยุติธรรมเลยนะ!…….

 

ความคิดผู้หญิง อย่าพยายามเดาเลย…..

 

มองทั้งสองคนที่ใกล้ระเบิอดเข้าไปทุกที วู่หยานรีบยกมือห้ามไม่ให้ทั้งสองสติแตก แล้วพูดอย่างระมัดระวัง

 

“ดะ..เดียว! ฟังคำพูดสุดท้ายของฉันก่อน!”

 

“มีอะไร?” สองสาวพูดพร้อมกัน

 

“ถ้าฉันบอกว่าฉันไม่ได้ตั้งใจล่ะ พวกเธอจะเชื่อมั้ย?” วู่หยานถามด้วยสีหน้าขมขื่น

 

“งั้นก็อธิบายมา ว่าทำไมนายถึงหยุดเดิน…..” ฮินางิคุหยุดมิโคโตะที่กำลังจะช็อตวู่หยาน และถามเขาด้วยนำเสียงไม่เป็นมิตร

 

วู่หยานมองตาปริบๆอย่างซาบซึ้ง ฮินางิคุทำเสียงขึ้นจมูกดัง ‘ฮึ!’ วู่หยานไอแห้งๆ ก่อนจะทำสีหน้าจริงจัง

 

“เหตุผลที่ฉันหยุดเดินก็เพราะ ฉันพบว่าพวกเราได้เดินผ่านทางนี้มาแล้ว!”

 

สองสาวได้ยินก็ช็อค ยิ่งกับฮินางิคุที่ไม่ได้คาดหวังเหตุผลดีๆจากปากวู่หยาน ตอนแรกเธอก็คิดว่าเขาตั้งใจทำจริงๆและจะชักแม้น้ำทั้งห้ามาแก้ตัว แต่เธอไม่คิดเลยว่าวู่หยานกลับพูดแบบนี้

 

เห็นได้ชัดว่าตัววู่หยานในใจฮินางิคุ เป็นคนดีขนาดไหน…..

 

“ที่นี่นะเหรอ?” ฮินางิคุกวาดสายตาไปรอบๆ

 

“ที่พวกเราเดินผ่านมาแล้ว?” มิโคโตะก็หยุดใช้พลังจิต แล้วมองไปรอบๆ ก่อนจะประสานสายตากับฮินางิคุ ในแววตาของทั้งคูมีความสงสัยอยู่

 

วู่หยานส่ายหัว ไม่แปลกใจทำไมพวกเธอถึงไม่พบ ที่นี่มองไปทางไหนก็เจอแต่หินกับกำแพงหิน มันแทบไม่มีอะไรที่เป็นจุดสังเกตให้จำได้เลย แต่ถึงจะมีน้อยมาก แต่กับเขาที่มี Perfect Memory ย่อมจำได้

 

“เราเคยเดินผ่านที่นี่แล้วจริงๆเหรอ?ฉันไม่เห็นรู้สึกเลยอ่ะ” มิโคโตะขมวดคิ้ว แล้วหันไปมองวู่หยาน

 

วู่หยานไม่ตอบ แต่หันไปถามฮินางิคุแทน “ฮินางิคุ เธอคงไม่ลืมตอนฉันสอบเข้าฮาคุโอใช้มั้ย? ฉันไม่มีทางจำผิดแน่!”

 

มิโคโตะทำหน้างุนงง ฮินางิคุก็พยักหน้าตอบ “ใช้ หยานไม่มีทางจำผิด ความจำเขาดีมาก สามารถจำทุกอย่างได้เพียงแค่มองเห็นครั้งเดียว ถ้าเขาบอกว่าเราเคยเดินผ่านที่นี่มาแล้ว ก็ต้องยังงั้นแน่”

 

“เห็นครั้งเดียวก็จำได้หมดงั้นเหรอ?” มิโคโตะมองวู่หยานด้วยความสงสัย “นี่มันพลังพิเศษเหรอ?…..”

 

สมแล้วที่เป็นเรลกัน เลเวลห้าของเธอไม่ได้มีไว้โชว์จริงๆ สามารถมองเห็นแก่นแท้ของ Perfect Memory ได้ทันที

 

“’งั้น…ตอนนี้พวกเราก็กำลังหลงทางอยู่น่ะสิ” ฮินางิคุถามยืนยันด้วยน้ำเสียงกังวล

 

“ไม่ใช้เราหลงหรอก” วู่หยานส่ายหน้าปฏิเสธ “ควรพูดว่าเราตกอยู่ในสถานการณ์คล้ายๆเขาวงกต”

 

“เขาวงกต?” สองสาวมองวู่หยานอย่างประหลาดใจ

 

“ใช้!” วู่หยานเดินมาตรงกำแพง แล้วเอามือตบแปะๆ พูดว่า “พวกเธอลองนึกภาพตามฉันนะ ตั้งแต่พวกเราเข้าถ้ำมา ก็มีแต่ทางตรง ไม่มีทางเลี้ยวหรืออะไรเลย แต่ตอนนี้เรากลับหลงทั้งๆที่เดินตรงอย่างเดียว”

 

“หมายความว่า…” ฮินางิคุพูดเสียงต่ำ

 

“เรากำลังเดินเป็นวงกลม!” มิโคโตะเข้าใจสถานการณ์ตอนนี้ทันที

 

“ถูกต้อง!” วู่หยานเปิดหน้าต่างระบบ “ฉันคิดว่าทางมันถูกบิดเบื้อน มันดูเหมือนทางตรงแต่จริงๆแล้วไม่ใช้ เมื่อเราเข้ามาในถ้ำเลยไม่ได้สังเกตเห็น บวกกับทางมันกว้างเกินไป ทำให้เราโดนวนไปมาโดยไม่รู้ตัว”

 

“ยังงั้นเหรอ?” ฮินางิคุก้มหน้าคิด

 

“แน่นอนอยู่แล้ว!” นี่พวกเธอคิดจริงๆเหรอว่า ฉันถึงกับต้องหยุดเดิน เพื่อเห็นใต้กระโปรงที่มีแต่กางเกงขาสั้นและไม่มีอาหารตาเลยเนี่ยนะ?

 

แน่นอนว่าประโยคหลังเขาพูดในใจเพื่อไม่ให้อายุตัวเองสั้นลง ถ้าเกิดพูดออกไปคงได้จบชีวิตที่แน่……

 

“งั้นพวกเราจะเอายังไงต่อ? เดินกลับเหรอ?” มิโคโตะเอ่ยถาม ถึงแม้เธอจะเป็นคนฉลาด แต่ตอนนี้ควรให้ผู้ชายตรงหน้าตัดสินใจ

 

“ไม่!” วู่หยานส่ายหัว “เราเดินกลับไป ก็คงเป็นเหมือนเดิม!”

 

สองสาวเงยหน้ามองวู่หยาน แล้วพูดพร้อมกัน “ทำไม?”

 

วู่หยานฝืนยิ้ม “ไม่ฉันพูดไปแล้วเหรอ? หลังจากเราเดินวงเวียนจนกลับมาจุดเดิม เธอเห็นปากทางเข้าถ้ำมั้ยล่ะ?”

 

“อย่าบอกนะว่า….” ฮินางิคุหดคอ “นี่จะเป็น ผีบังตา ในตำนาน?”

 

“ไม่ใช้มั้ง……” มิโคโตะที่กำลังขมวดคิ้วคิด พอได้ยินคำพูดฮินางิคุก็เริ่มใจไม่ดี หัวเราะแห้งๆตอบฮินางิคุ

 

“……..” มองดูสองสาวที่กำลังกลัว วู่หยานตัดสินใจหันไปพึ่งระบบ เพราะเขามีลางสังหรณ์ว่า ถ้าปล่อยให้พวกเธอจัดการกันเอง พวกเขาคงได้เดินวนในนี้ตลอดชีวิตแน่

 

สังเกตุเห็นมือวู่หยานขยับไปมา ฮินางิคุเอ่ยถาม

 

“หยาน นายกำลังทำอะไรอยู่น่ะ? คิดหาทางออกได้แล้วเหรอ?”

 

ต่างจากฮินางิคุ มิโคโตะชะโงกหน้ามาดูอย่านสนใจ

 

“….โห นี่น่ะเหรอระบบ?”

 

วู่หยานประหลาดใจมองมิโคโตะ แล้วชี้ไปที่หน้าจอตรงหน้า “เธอสามารถเห็นเมนูระบบได้งั้นเหรอ?”

 

มิโคโตะพยักหน้า

 

“แน่นอน ก็มันลอยอยู่ตรงหน้านายเลยอ่ะ”

 

“ระบบ? ที่นายเคยเล่าให้ฟังน่ะเหรอ? ทำไมฉันถึงไม่เห็นอะไรเลยล่ะ?” ฮินางิคุรู้สึกไม่ค่อยดี เพราะเธอมองไม่เห็นอยู่คนเดียว

 

วู่หยานเอามือจับคางแล้วเอ่ยความคิดตัวเอง

 

“ดูเหมือนว่าซัมมอนของฉันจะสามารถเห็นระบบได้ เฮ้ มิโคโตะ เธอใช้ระบบได้มั้ย?”

 

“ไม่ได้!” มิโคโตะตอบทันทีอย่างไม่ลังเล “ถึงแม้ฉันจะรู้สึกสนใจมันมากๆ แต่ฉันก็ไม่ทีทางใช้ระบบได้ ฉันทำได้แค่มองอย่างเดียว!”

 

“ทำไมมีแต่พวกนายที่มองเห็นละ ทำไมฉันถึงไม่เห็นบางล่ะ” ฮินางิคุไม่พอใจ เพราะดูเหมือนทั้งสองคนกำลังมีความลับกันอยู่ ซึ่งเธอไม่ได้เป็นหนึ่งในนั้น มันทำให้เธอรู้สึกไม่ดีมาก

 

“แล้วเป็นไงอ่ะ?ได้เรื่องมั้ย?” มิโคโตะเอยถาม เมื่อเห็นวู่หยานไม่หยุดกดหน้าจอระบบ

 

วู่หยานยิ้ม พลิกมือแล้วก็มี เข็มทิศ โผล่ออกมา…..

 

 ห้องสมุดคนรักนิยายแปล กลุ่มลับถึงตอน83