ทาคามิเนะ มายูกะ

 

บ่ายโมงตรง ฉันยืนอยู่ที่หน้าร้านอาหารที่จะสามารถเพลิดเพลินไปกับชีสที่เป็นของโปรดได้

ด้วยเพราะเป็นห้างที่เพิ่งจะเปิดเมื่อวันก่อน บริเวณโดยรอบจึงเต็มไปด้วยผู้คน

ชิ ไอ้เจ้าโคโมริ… ให้ผู้หญิงอย่างฉันรอคิดจะกวนประสาทกันรึไงยะ

 

แม้จะเป็นแค่แฟนปลอมๆแต่ชวนเดทไป ก็รีบๆมารอก่อนสิ

ทำไมพวกผู้ชายถึงชอบมาสายนักนะ

ในตอนที่กำลังบ่นแสดงความไม่พอใจอยู่นั้น

 

[ถึงตรงใกล้ๆร้านที่พี่มายุบอกแล้วนะ ตรงใกล้ๆกับตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ๆ]

 

หา? ตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ๆ?

ฉันเช็คดูรอบๆในทันที

ตุ๊กตาหมีตัวใหญ่….. อ่อ ไอ้นั่นเอง เดี๋ยวสิเฮ้ย!

 

หลอกกันชัดๆเลยไม่ใช่รึไง โคโมริ!

ตรงตุ๊กตาหมีตัวใหญ่มันมีแค่ผู้ชายที่ทรงหล่อมัดใจหญิงเองนิยะ!

ไอ้เวรนั่น… ตัวเองมาสายแล้วยังมาบอกอะไรไร้สาระอีกนะ!?

 

อย่ามาล้อกันเล่นนะเว้—

 

“นี่ๆ มาคนเดียวเหรอ? ถ้ายังไงมากินมื้อเที่ยงกับฉันหน่อยมั้ย?”

 

ชิ หงุดหงิดอยู่แล้วยังต้องมาโดนหลีอีก

 

พอเงยหน้าขึ้นก็เห็นผู้ชายทรงขี้หลีผมบลอนด์ยืนอยู่

จากที่ดูๆคงเป็นเด็กมหาลัย

….เฮ้อ น่ารำคาญจริง

 

เลิกหาหลีสาวม.ปลาย แล้วไปซบอกสาวมหาลัยที่ดูง่ายๆซะสิยะ

 

“….ขอโทษค่ะ พอดีว่ามีแฟนอยู่แล้วน่ะ”

 

เข้าใจแล้วก็รีบไสตูดไปได้แล้ว

 

“เอ๋~ ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่ ทิ้งแฟนที่ทำให้แฟนสาวต้องรอไปเถอะน่า ไปเที่ยวเล่นกันฉันดีกว่า”

 

โอ้ยย จะบ้า หนวกหูโว้ย! ก็บอกไม่แล้วไม่ใช่รึไงว่ามีแฟนแล้ว!

จะไปใหนก็ไปสักทีเถอะ น่ารำคาญชะมัด…. ระเบิดธาตุแท้ออกมาซะเลยดีมั้ยเนี่ย?

 

….ไม่ดีกว่า ตอนนี้อยู่กลางฝูงชน แถมยังไม่รู้อีกว่ามีใครดูอยู่รึเปล่า

ถ้าเกิดมีข่าวลือแพร่ไปในห้องว่าทาคามิเนะ มายูกะเป็นคนนิสัยไม่ดี คงจะเลวร้ายสุดๆแหง

ช่วยไม่ได้ ใช้อีกแผนแล้วกัน ถ้าเป็นเจ้านี่ไอ้หมอนี่คงยอมแพ้ได้สักที

 

“คือ….ฉันเป็นเด็กม.ปลายเองนะคะ”

 

ไงละ ถ้ารู้ว่าอายุน้อยกว่า แกก็คงจะ—

 

“—จริงป่ะ!? เห็นดูเป็นผู้ใหญ่ก็เลยนึกว่าเป็นสาวมหาลัยซะอีก! แต่ก็ไม่ติดหรอกนะ ออกจะลัคกี้ด้วยซ้ำ? ได้ไปเที่ยวเล่นกับสาวม.ปลายสุดยอดจะตาย”

 

เฮ้ย เอาจริงดิ!? ไอ้หมอนี่ไม่มีหัวความคิดแล้วใช่มั้ยนิ!?

ทางนี้อายุยังไม่ถึง18เลยนะ! นี่คิดจะกินเด็กม.ปลายเราะ!?

ไม่ไหวนะหมอนี่! น่ากลัวอะ! รีบชิ่งดีกว่า ไม่ยุ่งกับคนแบบนี้น่าจะเป็นการดีกว่า

 

“เฮ้ยๆ คิดจะไปใหนน่ะ! ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่นาแปปเดียวเอง แค่แปปเดียวเท่านั้นเองนะ”

 

ไอ้ผู้ชายขี้หลีนั่นคว้าแขนของฉันเอาไว้

ก็เลยตะโกนออกไปโดยอัตโนมัติ

 

“อย่ามาจับนะ! พอ—”

 

“—พอสักทีจะได้รึเปล่าครับ เธอคนนั้นเป็นแฟนของผมนะครับ”

 

“” !? ””

 

เป็นเสียงที่คุ้นเคย แต่ว่าที่อยู่ตรงนั้นไม่ใช่โคโมริที่ฉันรู้จัก

ไม่ใช่แค่รูปลักษณ์ภายนอก

แต่รวมไปถึงบรรยากาศด้วย

 

สายตาดูแข็งกร้าวราวกับเจอศัตรูคู่แค้น

เหมือนกับเป็นคนดีที่ร่วงหล่นลงไปสู่ความมืด จนเสียสติและพยายามจะแก้แค้นโดยที่ไม่สนว่าจะต้องแลกกับอะไร

ว่าตามตรงออร่าที่โคโมริแผ่ออกมานั้นดูอันตรายยิ่งกว่าไอ้หนุ่มขี้หลีซะอีก

 

“นี่หรือว่าคุณที่สตอล์กเกอร์ที่คอยแอบตามพี่มายุอย่างงั้นเหรอครับ? ถ้าเกิดว่าเป็นแบบนั้นก็รีบๆไปมอบตัวซะเถอะนะครับ”

 

“หาา!? สตอล์กเกอร์!? พูดเรื่องอะไรน่ะ! ฉันแค่เข้ามาคุ—”

 

“—กฎหมายที่ว่าด้วยการสตอล์กเกอร์”

 

โทนเสียงที่พูดอยู่นั้นเป็นโทนเสียงที่ราวกับจะแช่แข็งบรรยากาศเอาไว้

 

“ห๋า?”

 

“มาตราที่ 3 ห้ามมิให้บุคคลใดสะกดรอยตามอีกฝ่าย หรือทำให้อีกฝ่ายรู้สึกไม่สบายใจว่า ความปลอดภัยทางร่างกาย ความสงบในที่อยู่อาศัย เกียรติ และเสรีภาพจะถูกทำให้เป็นอันตรายเป็นอันขาด“

 

“เฮ้ย พูดบ้าอะไร…”

 

“มาตราที่ 18 ผู้ที่กระทำการสตอล์กเกอร์ จะต้องถูกจำคุงไม่เกิน1ปี หรือปรับไม่เกิน1ล้านเยน หากว่าเข้าใกล้พี่มายุมากกว่านี้ ผมจะทำให้คุณได้รับโทษด้วยทุกวิธี แม้ว่าวิธีนั้นมันจะทำให้คุณต้องสิ้นหวังไปเลยก็ตาม”

 

โคโมรินยกเล็บขึ้นมาราวกับจะดึงมือของไอ้หนุ่มขี้หลี

ครั้งแรกที่ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของหมอนี่ ทำเอาฉันรู้สึกขนลุกเลย

 

“เชี้ย…. บ้าอะไรของมันเนี่ยไอ้หมอนี่ เป็นบ้าไปแล้วงั้นเหรอ!”

 

ไอ้หนุ่มผมบลอนด์สะบัดมือของโคโมริออก และเดินออกไปราวกับว่าจะหนีออกไปจากตรงนี้

และในทันทีที่ผู้ชายคนนั้นลับสายตาไป

 

“ขอโทษนะ พี่มายุ….”

 

“เอ๊ะ อะไรเหรอ?”

 

“ขามันสั่นไปหมดเลยน่ะไม่น่าจะขยับได้ ขอยืมไหล่หน่อยได้รึเปล่า?”

 

เป็นผู้ชายที่ไม่มีความพอดีจริงๆเลยนะนายเนี่ย

======จบตอน======

กลับมาสู่ความวุ่นวายอีกครั้งแล้วววววว
___________________

ติดตามผลงานอื่นๆและสนับสนุนผู้แปลได้ที่

ดอกไม้ไฟ | Facebook