ขอบคุณทุกท่านที่เข้าสนับสนุนกัน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกๆ ท่านจะสนับสนุนกันต่อไปในอนาคต
ปิดเทอมหน้าร้อน
ในที่สุดฉันก็สามารถผ่อนคลายร่างกายและสมองที่เหนื่อยล้าจากการเรียนได้แล้ว
ย้อนกลับไปสองสัปดาห์ก่อนตอนที่ต้องเตรียมตัวสอบปลายภาคนั่นถือเป็นสัปดาห์นรกของฉันเลย
เพราะตัวเองไม่ได้มีพรสวรรค์ในด้านการเรียนมากนัก ฉันจึงจำเป็นต้องใช้พรแสวงของตัวเองบวกกับการช่วยเหลือจากเพื่อนสนิทอย่างเซริ จนในที่สุดฉันก็ผ่านพ้นมันมาได้ คิดๆ ไปแล้วก็รู้สึกภูมิใจในตัวเองไม่น้อย
อย่างที่รู้กันว่าโรงเรียนฮิบิยะของฉันนั้นขึ้นชื่อลือชาเรื่องความยากในการเรียน เพราะว่าเป็นโรงเรียนที่มุ่งมั่นในเรื่องการส่งนักเรียนเข้าสู้รั้วมหาวิทยาลัยให้ได้มากที่สุดในบรรดาเครือข่ายโรงเรียนเดียวกัน บรรดาอาจารย์จึงไม่เคยปล่อยให้พวกนักเรียนได้อยู่กันอย่างสุขสบาย
แค่นั้นยังไม่พอ ความยากมันไม่ได้อยู่ที่ตรงนั้นเพียงอย่างเดียว หากแต่มันอยู่ตรงการแข่งขันกันเองของเหล่านักเรียนด้วย พูดง่ายๆ ก็คือที่นี่มันเป็นแหล่งรวมพวกนักเรียนเก่งๆ พอเป็นนักเรียนเก่งค่าเฉลี่ยของคะแนนสอบก็สูง พอคะแนนสูงเหล่านักเรียนก็ต้องแข่งขันกันมากขึ้นนั่นเอง
แต่ยังไงโรงเรียนก็คือโรงเรียน มันย่อมต้องมีทั้งพวกเด็กเรียนและเด็กธรรมดาๆ อยู่รวมกันอยู่แล้ว แน่นอนว่าเด็กธรรมดาย่อมเยอะกว่าและฉันเองก็เป็นหนึ่งในนั้น
พอคิดแบบนั้นแล้วก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมา หลังจากอาบน้ำเสร็จแล้วก็โทรหาเซริก่อนเข้านอนเหมือนทุกที
“…โอ้วใช่ อามายะ ตกลงเธอจะไปทะเลกับพวกนิโนะมิยะคุงหรือเปล่าน่ะ?”
ช่วงหนึ่ง เซริถามฉันเรื่องที่พวกเราถูกนิโนะมิยะและเพื่อนๆ ชวนไปเที่ยวทะเลกัน ซึ่งคนที่จะไปส่วนใหญ่แล้วเป็นคนที่เคยไปติวสอบด้วยกันนั่นเอง
พูดแล้วก็ต้องย้อนกลับไปตอนช่วงติวสอบครั้งล่าสุด ถ้านับกันจริงๆ ก็เป็นครั้งที่สองแล้วที่ฉันมาติวร่วมกับกลุ่มเพื่อนๆ ของนิโนะมิยะ
ใจจริงไม่ค่อยอยากมาเท่าไรนักไม่ใช่ว่าไม่ชอบการติวกับเพื่อนๆ แต่คราวนี้มีเพื่อนร่วมห้องคนอื่นๆ ที่ครั้งก่อนไม่ได้มาติวด้วยกันที่สำคัญแล้วส่วนใหญ่ดูเหมือนจะเป็นแฟนคลับของนิโนะมิยะ ฉันมองจากดาวอังคารแล้วยังรู้เลยว่าพวกเธอมาติวด้วยจุดประสงค์อะไร
แล้วทำไมฉันต้องไปน่ะหรอ…
หึๆๆ ลองใครมาเจอสถานการณ์กดดันแบบนั้นแล้วกล้าปฏิเสธนี่จิตใจต้องแข็งแกร่งขนาดไหนนะ
พอนึกย้อนแล้วก็เคืองเซรินิดๆ ที่ไม่ยอมช่วยกันเลย ถึงสุดท้ายจะกลับคำยอมไปติวเป็นเพื่อนก็เถอะ
“เฮ้ออ… โดนกดดันขนาดนั้นจะปฏิเสธยังไงล่ะ ถูกบอกว่าให้มาให้ได้นะขนาดนั้น”
ไม่ใช่แค่นิโนะมิยะที่พูด แต่เพื่อนๆ เขาทุกคนก็พูด เลยตกลงไปแบบขัดไม่ได้ ฮืออ….
“งั้นก็ไปซิ”
“แต่เธอไม่ไปกับฉันนิ”
ครั้งนี้เซริยืนยันหนักแน่นว่าไม่ไป จะหวังให้เธอกลับลำแบบก่อนหน้านี้คงจะยาก
“ไม่เป็นไรน่า คนไปกันเยอะแยะ รับปากเขาไปแล้วด้วย”
“สถานการณ์มันบังคับนินา”
“แล้วตกลงจะไปไหม?”
“ก็ต้องไปแหละ”
วางสายจากเซริแล้วก็รู้สึกเหนื่อยใจอย่างประหลาด จริงๆ การไปทะเลในหน้าร้อนกับเพื่อนๆ นั้นก็ดูเป็นอะไรที่น่าสนุกอยู่หรอก เพียงแต่ครั้งนี้มันไม่ใช่เพื่อนที่สนิทกัน แถมบางคนไม่เคยคุยกันเลยด้วยซ้ำ
กำหนดการคือวันที่ 3 หรือก็คืออีก 2 วันหลังจากนี้ ที่หมายคืออ่าวตะวันออกที่อยู่ถัดไปสองเมือง ต้องนั่งรถไฟไปถึง 2 ชั่วโมง
ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่อยากไป ฉันเลยเลิกคิดแล้วปิดไฟนอน ตั้งใจว่าพรุ่งนี้จะตื่นแต่เช้ามาทำการบ้านที่เหลือให้เสร็จก่อนไปเที่ยว แต่ความตั้งใจนั้นก็เป็นอันเหลวไปเพราะวันต่อมาเซริบุกมาที่บ้านซะก่อน
“อามายะ รู้ข่าวหรือยัง?”
ทันทีที่เข้ามาในห้องยังไม่ทันจะได้นั่ง เซริก็ยิงคำถามที่ไม่เข้าใจเลยสักนิดมาให้
“ก็พวกผู้หญิงที่จะไปเที่ยวทะเลกับเธอครั้งนี้น่ะ บอกว่าจะอวดชุดว่ายน้ำให้พวกผู้ชายดูกันล่ะ เห็นว่าจะเอาให้ตาค้างกันไปเลย”
“อ่ออ… เห็นในกลุ่ม RaNE แล้ว”
เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร เพราะเห็นพิมพ์คุยเล่นกันในกลุ่ม RaNE ตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว
“แบบนี้แย่แน่ๆ ไม่ได้แล้วๆๆ”
“อะไรไม่ได้?”
ฉันนั่งมองเซริที่ร้อนรนจนนั่งไม่ติดด้วยความสงสัย
“ชุดว่ายน้ำเธอไง เธอบอกว่ามีชุดตอน ม.ต้น ใช่ไหม เป็นแบบไหนเอามาดูซิ”
“หืออ???”
“เหอะน่า เอามาลองเดี๋ยวนี้เลย”
เซริที่กระสับกระส่ายดึงฉันให้ลุกจากที่นอนไปเปลี่ยนชุด ฉันมองเธอด้วยความไม่เข้าใจในสถานการณ์แต่ก็ยอมทำตามที่เธอบอก ผลก็คือ
“เอ๊ะ… เหมือนจะคับไปนิดแฮะ แต่ก็ใส่ได้อยู่”
ฉันที่อยู่ในชุดว่ายน้ำแบบวันพีชมีระบายที่เอวคล้ายกระโปรงกับระบายพลิ้วๆ ตรงอกมองดูตัวเองในกระจกแล้วก็รู้สึกว่าไม่แตกต่างจากตอน ม.ต้น สักเท่าไร แค่รู้สึกว่าไซซ์จะเล็กไปนิดสำหรับร่างกายตอนนี้
“เซริ…??”
หันมาหาเซริก็เห็นเธอยืนมองฉันแบบอึ้งๆ พอเรียกเธอเบาๆ ก็เหมือนจะเพิ่งได้สติกลับมา
“อามายะ เธอเนี่ย… ซ่อนรูปเยอะเลยนะ”
“เอ๊ะ?”
“ไม่ต้องมาเอ๊ะเลย หุ่นแบบนี้แต่ยังจะใส่ชุดตอน ม.ต้น อีก ไม่เห็นหรือไงว่ามันจะล้นออกมาแล้วเนี่ย”
ไม่พูดเปล่า เซริเอานิ้วมาจิ้มหน้าอกกับก้นฉันแบบไม่ทันตั้งตัว
“อะไรเนี่ย เนียนนุ่มสุดๆ ไปเลยไม่ใช่หรอ? ไหนๆ มาให้จับหน่อยซิน้องสาว”
“ยัยบ้า เล่นอะไรเนี่ย… หยุด… อ๊ะ… อย่า… มันจักจี้… บอกว่าอย่… อ๊าา…”
กว่าจะหลุดจากมือหนวดปลาหมึกของเซริมาได้ก็เล่นเอาเหนื่อย ฉันขึงตามองเซริที่ยืนยิ้มตาหยีพลางเปลี่ยนเสื้อผ้าไปด้วย
“อ่อใช่… เปลี่ยนเป็นชุดออกไปข้างนอกเลย”
“ไปไหน?”
“ไปซื้อชุดว่ายน้ำ”
…ซื้อชุดว่ายน้ำ? ของใคร?
เซริน่าจะเดาได้ว่าฉันคิดอะไร เธอเลยตอบคำถามที่อยู่ในใจฉัน
“ของเธอนั่นแหละ ชุดนี้ไม่ไหวหรอก เธอไม่เห็นหรือไงว่ามันเล็กเกินไปแล้ว”
ฉันเงียบ มองชุดว่ายน้ำที่ถืออยู่
“อีกอย่างนั่นมันชุด ม.ต้นนะ ตอนนี้เธออยู่ ม.ปลายแล้ว แถมคนอื่นๆ ที่ไปด้วยยังจัดเต็มกันขนาดนั้น ถ้าเธอใส่ตัวนี้ไปละก็มีหวังโดนยัยพวกนั้นดูถูกแน่ๆ”
แบบนั้นยอมไม่ได้…
เซริพูดแบบนั้นด้วยท่าทางเหมือนกับพวกโค้ชชมรมกีฬาที่กระตุ้นปลุกไฟลูกทีมตัวเองก่อนการแข่งขัน แล้วก็จัดแจงลากฉันไปซื้อชุดว่ายน้ำ
อ่า… คอยก่อนนะ การบ้านที่เหลือของฉัน
—
แล้ววันนัดหมายก็มาถึง
จุดรวมพลคือหน้าสถานีรถไฟ G ของเมือง T สายที่มุ่งหน้าสู่ภาคตะวันออก
ฉันต้องออกจากบ้านตั้งแต่ 7 โมงเช้าเพื่อให้ทันเวลานัดหมายตอน 8 โมง และในตอนที่มาถึงสถานีก็พบว่ามีคนมาถึงก่อนฉันแล้วประมาณครึ่งหนึ่ง
ทันทีที่เข้าไปรวมกลุ่มพวกผู้ชายก็ทักทายฉันกันอย่างเป็นกันเอง คงเป็นเพราะค่อนข้างจะคุยกันบ่อยล่ะมั้ง พวกเขาเลยเป็นกันเองกับฉันมากกว่าพวกผู้หญิงคนอื่น
แล้วก็ไม่ใช่ว่าฉันเข้ากับผู้หญิงในกลุ่มนี้ไม่ได้หรอกนะ เพียงแต่สนิทน้อยกว่านิโนะมิยะกับพวกเฉยๆ เราเลยแค่ทักทายกันธรรมดา
พอเวลาใกล้จะแปดโมงทุกคนก็มากันครบ กลุ่มของพวกเราจึงเคลื่อนตัวเข้าไปในสถานีโดยใช้วิธีการเข้าแถวเรียงเดี่ยว 2 แถว แถวละ 7 คน ให้ความรู้สึกคล้ายกับตอนไปทัศนศึกษาสมัย ม.ต้น อยู่ไม่น้อย
ข้างๆ กันเป็นนิโนะมิยะที่มาเดินอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เขาทักทายฉันอีกครั้ง เราคุยกันเรื่อยเปื่อยระหว่างที่เดินเข้าช่องตรวจตั๋วแล้วก็ไปยืนรอเที่ยวรถกัน
ระหว่างรอกลุ่มเราก็พูดคุยเล่นกันฆ่าเวลาแต่เพราะกลุ่มมีขนาดใหญ่ พวกเราเลยยืนกันกระจายๆ เพื่อไม่ให้ไปเกะกะคนอื่น
“จริงซิ คุณโอโตเมะ คะแนนสอบครั้งนี้เป็นไงบ้าง”
อาซาวะ อาซาซึกิ หนึ่งในกลุ่มเพื่อนผู้ชายของนิโนะมิยะที่เห็นอยู่ด้วยกันตลอดถามฉันในตอนที่กำลังคุยเรื่องการบ้านกัน
“ก็ไม่แย่นะ ถือว่าทำได้ตามเป้าแหละ อาซาวะคุงเองหนนี้ก็ดูตั้งใจกว่าทุกทีหรือเปล่า ลำดับขึ้นมาอยู่ที่ 6 เลยนิ”
“ยังห่างจากเป้าหมายอีกเยอะน่ะ ฮ่าๆ”
“งั้นหรอ…”
ฉันตอบเขาแล้วเราก็หัวเราะกัน แล้วเพื่อนของอาซาวะก็โผล่หน้ามาจากข้างหลังเขา
“นี่ๆๆ โอโตเมะจังรู้หรือเปล่าว่าเป้าหมายของอาซาซึกิคืออะไร? คิกๆๆ”
คนที่โผล่มาคนนี้คือยามาโมโต้ ไทจิ หนุ่มบ้านรวยเจ้าของสถานที่จัดติวทั้งสองครั้งที่ผ่านมา แถมครั้งนี้เขายังให้ไปพักที่บังกะโลเขาได้แบบฟรีๆ อีกต่างหาก ป๋าชะมัดเลย
“นายน่ะเงียบไปน่า…”
อาซาวะดันหัวเพื่อนตัวเองออกจากไหล่พร้อมด้วยเสียงไล่แบบเหนื่อยหน่าย แต่ยามาโมโต้ไม่ได้สะทกสะท้านเลย
“หมอนี่น่ะจะเอาชนะคุณทาเคโนะอุจิให้ได้แหละ แล้วจะปะ…”
“พูดมากไปแล้ว”
อาซาวะเอามือนึงปิดปากเพื่อน แขนอีกข้างก็ล็อกคอไว้ไม่ให้หนีไปไหน
“ขอโทษทีนะคุณโอโตเมะ ฉันขอตัวแปบนะ”
“อ๊ะ… อ่อ ตามสบาย”
แล้วยามาโมโต้ถูกลากออกไปในสภาพนั้น วงสนทนาเลยเหลือแค่ฉันกับอุริว อิชิอิ ที่ไม่ค่อยได้พูดอะไร ความเงียบเลยเข้ามาปกคลุมทันที
หันไปมองอีกทางก็เห็นกลุ่มคนที่มาด้วยกันยืนเป็นกลุ่มๆ อยู่ ต่างพูดคุยทำความสนิทสนมกัน โดยเฉพาะนิโนะมิยะดูเหมือนจะถูกล้อมมากเป็นพิเศษ
ดูจากท่าทางของเขาแล้วก็คงไม่ได้รู้สึกแย่อะไร เพราะยังคงแจกรอยยิ้มสดใสให้ทุกคนได้อย่างทั่วถึง จังหวะหนึ่งเขาหันมามองทางฉันแล้วยิ้มให้ฉันด้วยรอยยิ้มที่ต่างจากรอยยิ้มมาตรฐานปกติของเขา ทำเอาฉันรู้สึกไปถึงสายตาทิ่มแทงมาจากกลุ่มนั้น
แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนหรอกนะที่จะส่งสายตาไม่เป็นมิตรมาให้ฉัน เพื่อนผู้หญิงบางคนก็ยังคุยรู้เรื่อง และเข้ามาคุยกับฉันได้เป็นปกติ ดังนั้นแล้วการเดินทางไปทะเลครั้งนี้สำหรับฉันแล้วก็คงไม่น่าเบื่อสักเท่าไรนัก