ตอนที่ 8 เริ่มเลย มาถ่ายทอดสดกินปลาหมึกกันเถอะ (8)

สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ

ตอนที่ 8 เริ่มเลย มาถ่ายทอดสดกินปลาหมึกกันเถอะ (8)  

“สิ่งนี้คืออะไร?” โอคาซีถามสวี่หลิงอวิ๋น

ในตอนบ่าย สวี่หลิงอวิ๋นออกมานอกค่ายทหารตามเวลาที่กำหนด ขณะนี้ทุ่งขนาดใหญ่บริเวณรอบค่ายกำลังถูกยึดพื้นที่โดยเหล่าทหารจำนวนมากที่กำลังลาดตระเวนอยู่ด้านนอก พร้อมกับเฝ้าระวังการโจมตีของเหล่าปลาหมึกยักษ์

เธอพลิกข้อมือและเผยให้เห็นเครื่องมือที่ใช้ถ่ายทอดสด

“มันคือเครื่องถ่ายทอดสดยังไงล่ะ!” สวี่หลิงอวิ๋นกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ถ้าผู้ชมการถ่ายทอดสดเห็นว่าท่านพลเอกของเราปลูกพริก ขิง และมันเทศด้วยตัวเอง ท่านคิดว่าทุกคนจะไม่ประหลาดใจเหรอ? และฉันก็แน่ใจว่าจะไม่ต้องกังวลเรื่องขายของอีกต่อไป!”

โอคาซีมองดูองค์หญิงสามของเขาอย่างหมดอาลัยตายอยาก ตอนนี้ชายหนุ่มติดหนี้อีกฝ่ายอยู่ และเธอสามารถสั่งอะไรเขาก็ได้

ชาร์ลที่หมอบอยู่ในมุมหนึ่งเริ่มรู้สึกหดหู่กับสถานการณ์ตรงหน้า

องค์หญิงสามคนนี้กำลังทำเรื่องน่าอับอายให้กับท่านพลเอกของเราอีกแล้ว เธอก็รู้ว่าท่านพลเอกไม่ชอบการถ่ายทอดสดหรือออกสื่อ ทำไมถึงยังให้เขาทำเรื่องน่าอายแบบนี้อีก?!

สวี่หลิงอวิ๋นไม่สนใจว่าเขาจะคิดอย่างไร เธอเพียงนึกถึงแต่เรื่องเงินเท่านั้น!

โอคาซีคนนี้คือตัวแทนของผู้ที่ไม่เคยล้มเหลว แล้วเธอจะปล่อยเขาไปได้อย่างไร? ข้อดีของการอยู่ที่นี่คือ เธอสามารถควบคุมผู้ชายคนนี้ได้ หากเธอออกไปจากที่นี่ ก็อาจจะไม่ได้รับโอกาสที่ดีแบบนี้อีก!

สิ่งแรกที่ต้องทำหลังจากเปิดกล้องถ่ายทอดสดคือการลงทะเบียนสมาชิก สวี่หลิงอวิ๋นเริ่มลงทะเบียนชื่อ ‘ผมคือโอคาซี’ ทันที เอ๊ะ! ทว่ามันกลับขึ้นแจ้งว่ามีคนลงทะเบียนชื่อนี้แล้ว!

“ฉันรักโอคาซี! ชื่อนี้ล่ะเป็นไง? ลองดูก่อนแล้วกัน! ชื่อนี้ถูกลงทะเบียนไปแล้ว!”

“ลองชื่ออื่นดู โอคาซีรูปหล่อ…”

คลิก! มีคนลงทะเบียนไปแล้ว!”

สวี่หลิงอวิ๋นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “โอคาซีผู้ติดอยู่ในดาวรกร้างและต้องการทำสวน ชื่อนี้ต้องได้แน่นอน…เย้! ลงทะเบียนสำเร็จแล้ว!”

โอคาซีส่ายหัว เขาต้องการไปทำสวนตั้งแต่เมื่อไหร่? เขาเพียงแค่ยืนอยู่บนพื้นที่รกร้างว่างเปล่าเท่านั้น

เพียงเท่านี้ก็สามารถทำให้ผู้คนรู้สึกลำบากใจได้แล้วไม่ใช่เหรอ?!

หลังจากลงทะเบียนบนเว็บไซต์ถ่ายทอดสดแล้ว การถ่ายทอดสดที่ถูกควบคุมโดยสวี่หลิงอวิ๋นก็มุ่งเป้าหมายไปที่โอคาซี สิ่งนี้เหมาะกับการเป็นเทคโนโลยีของโลกอนาคตอย่างแท้จริง เพราะนอกจากมันจะจับภาพไปที่คนคนเดียวแล้ว มันยังสามารถลอยขึ้นและจับภาพบริเวณโดยรอบได้อีกด้วย แน่นอนว่า…มันเป็นเครื่องมือที่นักถ่ายทอดสดชื่นชอบอย่างแน่นอน!

ประชาชนของจักรวรรดิต่างรู้ดีว่าก่อนหน้านี้จักรวรรดิไม่ได้รายงานเรื่องราวของท่านพลเอกโอคาซีมากนัก! อะไรทำให้จักรวรรดิออกมารายงานในวันนี้ มีอะไรเกิดขึ้นกับท่านพลเอกโอคาซีของพวกเขาหรือเปล่า?

ทางสำนักจักรวรรดิเองต่างก็รู้สึกตื่นตระหนกเช่นกัน เพราะหลังจากที่ทางเชื่อมมิติถูกระเบิดทิ้ง พวกเขาเองก็ไม่สามารถรับรู้ข่าวเกี่ยวกับพลเอกโอคาซีได้อีกเลย พวกเขาไม่แม้แต่จะอธิบายให้ประชาชนได้รับรู้ว่าท่านพลเอกหายตัวไปไหน?

รวมถึงองค์หญิงสามก็หายตัวไปเช่นกัน…

แม้ว่าพวกเขาจะสามารถเชื่อมมิติด้วยการส่งสัญญาณได้ แต่ก็ไม่มีหนทางใดที่จะเชื่อมมิติได้ในเวลาอันรวดเร็ว ราวกับสายน้ำไหลแล้วไม่หวนคืนมา หากพวกเขาไม่สามารถกลับมาที่นี่ได้ภายในหนึ่งสัปดาห์ ก็อาจจะต้องอดตายเพราะความหิวโหย!

ล่าสุดพระราชาถึงกับโศกเศร้าเป็นอย่างมากใช่หรือไม่?!

ประชาชนออกไปตามท้องถนนเพื่อเรียกร้องข่าวของท่านพลเอกอย่างกระตือรือร้น แม้จักรวรรดิจะบอกว่าพวกเขาปลอดภัยซ้ำแล้วซ้ำเล่า…

“เดี๋ยวนะ! ฉันว่าฉันเห็นท่านท่านพลเอก” หนึ่งในพลเมืองที่รู้สึกเบื่อหน่ายกับขบวนบนท้องถนน กดเข้าไปดูรายการถ่ายทอดสด แล้วบังเอิญเห็นหน้าตาของชายคนหนึ่งที่มีลักษณะคุ้นตา นั่นใช่ท่านพลเอกโอคาซีของพวกเราหรือไม่!

ชื่อห้องถ่ายทอดสดคือชื่อบ้าอะไรกัน? โอคาซีผู้ติดอยู่ในดาวรกร้างและต้องการทำสวน? เป็นไปได้ไหมว่าท่านพลเอกกำลังติดอยู่ในที่ไหนสักแห่ง?!

“ที่ไหนกัน? เชี่ย! ท่านท่านพลเอกจริง ๆ ด้วย! ทุกคน…เปิดช่องถ่ายทอดสดเดี๋ยวนี้!”

ทันทีที่ข่าวแพร่กระจายออกไป สมาชิกในขบวนทั้งหมดต่างหยุดเดิน และจ้องไปที่การถ่ายทอดสดของพวกเขาแทน

ปฏิกิริยาจากทางสำนักจักรวรรดิตอบสนองต่อการถ่ายทอดและเชื่อมต่อสัญญาณไปหาชาร์ลอย่างรวดเร็ว

ชาร์ลกล่าวว่าตอนนี้พวกเขาต้องคอยพึ่งพาปลาหมึกเพื่อสนองความหิวโหยของพวกเขา พระราชารู้สึกโล่งใจเมื่อได้ยินว่าพวกเขาไม่มีปัญหาเรื่องการกินอีกต่อไป

“คุณพระ ฉันบอกว่าแล้วว่ากระแสยอดนิยมของท่านมาแรงมาก!”

สวี่หลิงอวิ๋นรู้สึกประหลาดใจมากเพราะในช่วงแรกที่หญิงสาวเริ่มถ่ายทอดสด เธอไม่เห็นแฟนคลับแม้แต่คนเดียว แต่เพียงเวลาไม่กี่เสี้ยววินาที ห้องถ่ายทอดสดกลับเต็มไปด้วยผู้ชมหลายหมื่นคน จนทำให้สัญญาณเกือบล่ม!

ระบบรับสัญญาณกระตุกอยู่สองสามครั้ง โดยระบบรับสัญญาณนี้ได้รับการสนับสนุนจากเทคโนโลยีของจักรวรรดิที่อยู่เบื้องหลังการถ่ายทอดสด

“ท่านพลเอก! อ๊ะ! ฉันว่าฉันเห็นคนเคลื่อนไหว! เอ๊ะ!”

“ท่านพลเอก ท่านติดอยู่ที่นั้นเหรอ? ตอนนี้ท่านเห็นอย่างไรบ้างคะ?”

“ท่านพลเอก ฉันได้ยินมาว่าท่านติดอยู่กับองค์หญิงสามใช่ไหมคะ? เธอรังแกท่านใช่ไหม!”

“ท่านพลเอก ฉันชอบท่าน!”

………..

สวี่หลิงอวิ๋นส่ายหัวเมื่ออ่านความคิดเห็นบนหน้าจอ ผู้หญิงพวกนี้บ้าไปแล้ว! ฮึ! เป็นองค์หญิงสามแล้วมันเป็นอย่างไร? ทหารพวกนี้ได้รับความช่วยเหลือจากเธอไม่ใช่หรือไง?!

ถ้าไม่ใช่เพราะองค์หญิงติดอยู่กับท่านพลเอกโอคาซีรูปหล่อของพวกเธอ ป่านนี้เขาคงอดยากตายแล้วกลายเป็นเศษเสี้ยวมันเทศแห้งไปแล้ว!

โอคาซีถามสวี่หลิงอวิ๋นที่อยู่ด้านข้าง “ผมควรทำยังไงต่อครับ?”

“มันคือเมล็ดพันธุ์!” สวี่หลิงอวิ๋นหยิบเมล็ดพริกขนาดเล็กจำนวนมากมายออกมา “ปลูกเมล็ดพริกไว้ที่ด้านนอกสุด พริกพวกนี้มีกลิ่นแรงและสามารถป้องกันการโจมตีของปลาหมึกยักษ์ได้”

โอคาซีรับเมล็ดพริกมาด้วยความเต็มใจและมอบมันให้แก่เครื่องจักรกล

เครื่องจักรกลขุดดินและโรยเมล็ดพริกไว้ด้านนอกสุดด้วยความรวดเร็ว ความเร็วนี้ทำให้สวี่หลิงอวิ๋นที่มาจากอีกโลกรู้สึกประหลาดใจ

ผู้คนในโลกอนาคตช่างมีความสุขเสียจริง…

เธอหยิบเหง้ามันเทศออกมา “ท่านเห็นช่องที่อยู่ด้านบนตรงนี้ไหม? ช่องพวกนี้จะเป็นที่ที่ต้นอ่อนเติบโตขึ้นมา ท่านสามารถตัดมันเทศออกไปได้ แต่ต้องมั่นใจว่าเหง้าพวกนี้จะเติบโตขึ้นอีกครั้งหลังจากที่เราปลูกลงดิน”

“ท่านเคยเห็นวิธีการแตกหน่อของขิงไหม?” สวี่หลิงอวิ๋นกล่าวต่อว่า “พืชที่แตกหน่อแบบนี้สามารถนำไปปลูกใหม่อีกครั้งได้”

โอคาซีไม่ได้ตอบโต้อะไรกลับ เพียงแต่จ้องมองไปที่สวี่หลิงอวิ๋น ก่อนจะโรยกองขิงลงไปในพื้นที่ของตนเองจนเกิดเสียงดัง ‘ตุ้บ’ ชายหนุ่มรู้สึกสับสนเล็กน้อยว่าควรทำอย่างไรต่อ…

ชาร์ลรู้สึกโกรธจัด ก่อนหน้านี้เธอไม่ได้บอกให้เขาทำอะไรมากมาย แต่ตอนนี้ทำไมเธอถึงให้เขาทำอะไรเยอะแยะไปหมด?

“มองอะไร!” สวี่หลิงอวิ๋นไม่ได้รู้สึกผิดแม้แต่นิดเดียว “นายก็เห็นว่าฉันมีขิงเหลืออยู่น้อยแค่ไหน ถ้าให้พวกนายกินจนหมดแล้วฉันจะปลูกอะไรล่ะ? ฮึ!”

ผู้ชมในห้องถ่ายทอดสดรู้สึกอารมณ์เสียเมื่อเห็นองค์หญิงสามยืนอยู่เคียงข้างท่านพลเอกโอคาซีที่รักของพวกเขา โธ่เอ๊ย ให้ตายเถอะ!

“องค์หญิงสามทำเกินไปแล้ว ทำไมเธอถึงเอาแต่เจ้ากี้เจ้าการกับท่านพลเอกของเรา!”

ผู้ชมต่างเพิกเฉยต่อความจริงที่ว่าโอคาซีเป็นคนถามวิธีการทำสวนเอง แต่กลับมุ่งไปที่ ‘ความเจ้ากี้เจ้าการ’ ขององค์หญิงสามแทน

พวกเขาต่างคิดแบบนั้น

“ใช่! องค์หญิงสามทำเกินไป! ท่านพลเอกของเราเหนื่อยมากแล้ว ทำไมเธอไม่ไปปลูกเอง จำเป็นต้องใช้ท่านพลเอกของเราด้วยหรือไง?!”

……..

“ทำไมต้องใช้ท่านพลเอกของพวกคุณปลูกน่ะเหรอ?” สวี่หลิงอวิ๋นมองดูความคิดเห็นของพวกเขา ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างคนเจ้าเล่ห์!

“ก็เพราะว่าฉันเป็นคนเจอเมล็ดพืชบนพื้นที่รกร้างแห่งนี้ไง แม้แต่ท่านพลเอกของพวกคุณยังได้รับการช่วยเหลือจากฉัน เขาติดหนี้ฉัน พวกคุณพูดว่าไม่ให้เขาปลูกพืชพวกนี้ให้ฉัน งั้นใครจะทำล่ะ?!”