แอสติส เป็นเมืองที่มีขนาดไม่ใหญ่นักตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของอาณาจักรลิเบอร์ แม้จะไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นพื้นที่ชนบท แต่ก็เขียวชอุ่มไปด้วยแมกไม้เขียวขจี และในวันที่อากาศแจ่มใสคุณสามารถมองเห็นเทือกเขาหลายพันเมตรเหนือระดับน้ำทะเลที่อยู่เลยทะเลสาบออกไปได้อย่างชัดเจน
ในเมืองแอสติส ที่มุมหนึ่งของในเมืองมีร้านอาหารเล็กๆตั้งอยู่ เนื่องจากเวลาเพิ่งจะล่วงเลยเที่ยงวันไปเล็กน้อย จึงทำให้ในร้านมีคนอยู่เพียงไม่กี่คน และ 1 ในนั้นมีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังส่งเสียงออกมาอย่างไม่พอใจ
[ มู่วว ทำไมฉันถึงผ่านไม่ได้ !? ] – ??
เธอกำลังนั่งอยู่ที่เคาน์เตอร์ของบาร์และบ่นออกมาเรื่องเดิมๆซ้ำๆ แม้ว่าเธอจะไม่ได้ดูเหมือนคนเมาก็เถอะ
อาจเพราะก่อนหน้านี้เจ้าของร้านไม่ได้สังเกตเห็นความหงุดหงิดของเธอ เขาจึงทักเด็กสาวขึ้น
[ เธอดูอารมณ์ไม่ดีเลยนะ คุณหนู ] – เจ้าของร้าน
[ แน่นอนสิ! ฉันอารมณ์เสียสุดๆ! อุส่ามาไกลถึงแอสติสแล้วแท้ๆ มันอยู่แค่ตรงหน้าแต่กลับไปไม่ได้ !!… ] – ??
[ ตรงหน้า ? ] – เจ้าของร้าน
[ ฉันอยากจะไปที่นั้น ] – ??
เด็กสาวชี้ไปยังนอกหน้าต่างบนยอดเขากิแรน ซึ่งเจ้าของร้านรู้สึกประหลาดใจกับคำตอบของเด็กสาวคนนี้
[ เอ๋!? คุณหนู เธอมีแผนจะเข้าไปบนภูเขากิแรนหรอ ? ] – เจ้าของร้าน
[ ใช่ ! ทำไมหรอ ? ] – ??
[ ยอมแพ้ซะเถอะ ! ข้าเองก็ไม่รู้ว่าจุดประสงค์ของคุณหนูคืออะไร แต่ว่าบนภูเขานั้นมีมอนเตอร์อยู่มากมายเลยล่ะ ] – เจ้าของร้าน
[ ฉันรู้ ว่านั้นเป็นเหตุผลที่ทำให้การเดินทางขึ้นไปบนเขานี้ถึงถูกจำกัดอย่างเข้มงวด . เพราะงั้นฉันจึงจ้างคนพวกนั้นมากับฉัน !! ] – ??
พอเธอนึกเรื่องนี้ขึ้นได้อีกครั้ง ความโกรธของเธอก็ปะทุกลับมา
ภูเขากิแรน เป็นหนึ่งในภูเขาที่ใหญ่ที่สุดในอาณาจักรลิเบอร์ ซึ่งมีความสูงถึง 4,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล และมักถูกปกคลุมไปด้วยหิมะจากความสูง 1,000 เมตรเหนือยอดเขา ไม่เพียงแต่จะขึ้นไปได้ยากเท่านั้น แต่ภูเขานี้ยังปกคลุมไปด้วยหิมะและเต็มไปด้วยสัตว์ประหลาดที่ทรงพลังอีกด้วย
นั้นเป็นเหตุผลที่เธอจ้างทหารรับจ้าง 5 คนเพื่อเป็นคนคุ้มกันให้กับเธอ ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบลื่นจนกระทั้งพวกเธอมาถึงแอสติส พอเธอบอกกับพวกทหารรับจ้างว่าเธอจะขึ้นไปบนภูเขากิแรน พวกทหารรับจ้างก็แตกกระเจิงหนีไปคนละทิศละทาง
แค่นี้ก็พิสูจน์ได้แล้วว่าสิ่งที่เธอกำลังจะทำอันตรายแค่ไหน แต่เธอยังไม่ยอมรับมัน และเธอก็ได้จ่ายค่าจ้างไปล่วงหน้าก่อนแล้วครึ่งหนึ่ง แม้ระหว่างเดินทางมาเมืองนี้จะไม่ได้เกิดอันตรายอะไรร้ายแรงนัก แต่มันก็ช่วยไม่ได้ที่เธอจะรู้สึกว่าถูกปล้นเงินของเธอไป
และ ยังมีอีกเหตุผลอื่นที่ทำให้เด็กสาวคนนี้ – หรือ ลีฟาโกรธ
[ แม้พวกทหารรับจ้างที่เก่งที่สุดในเมืองนี้ยังไม่รับงานฉัน … ] – ลีฟา
ด้วยใบหน้าที่บิดเบี้ยว ลีฟาบ่นออกมาราวกับมันทำให้ท้องไส้เธอปั่นป่วน เนื่องจากได้เห็นภาพนั้น เจ้าของร้านได้แต่ยิ้มออกมาอย่างขมขื่น นั้นเพราะพวกเขาอาศัยอยู่ที่เมืองแห่งนี้ พวกเขาจึงทราบดีว่าที่บนภูเขากิแรนนั้นอันตรายถึงเพียงไหน
[ มันก็ช่วยไม่ได้ล่ะนะ ยังไงเธอก็ต้องได้รับอนุญาตจากกองอัศวินด้วยถึงจะขึ้นไปบนภูเขาได้ ] – เจ้าของร้าน
การตัดสินใจว่าจะให้ใครสามารถเดินทางขึ้นไปบนภูเขาได้เป็นหน้าที่ของกองอัศวินที่ตั้งด่านตรวจตราอยู่บริเวณเชิงเขา และพวกเขาจะไม่อนุญาตให้ผ่านเข้าไปโดยเด็ดขาดหากคนผู้นั้นมีความแข็งแกร่งไม่เพียงพอ
เพราะงี้ ลีฟาจึงจ้างพวกทหารรับจ้าง แต่ว่าพวกนั้นกลับหนีกันไปก่อนเธอจึงไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นไปบนเขาได้
ณ จุดๆนี้ ไม่เหลืออะไรที่เธอจะทำได้อีก
[ ทำยางงายฉันถึงจาขึ้นปายด้ายกานน๊าา~ .. ] – ลีฟา
ลีฟาฟรุบตัวลงที่เคาน์เตอร์ในร้าน
และในขณะที่เธอทำเช่นนั้น เสียงกระดิ่งที่ใช้เตือนเวลาประตูร้านถูกเปิดก็ดังขึ้น ทันทีที่ร่างของคนๆนั้นเข้ามา ที่ร้านก็เริ่มแตกตื่น
เพราะสังเกตสิ่งแปลกๆที่เกิดขึ้น ลีฟาจึงหันกลับมาดู
ความประทับใจแรกของเธอคือ “ดำสนิท” เด็กหนุ่มผู้ปล่อยบรรยากาศแสนเย็นชายืนอยู่ตรงนั้น ลูกค้าคนอื่นๆต่างกระซิบอะไรบางอย่างกันระหว่างเลือบมองอยู่ไกลๆ ตอนนี้ภายในร้านกลายเป็นบรรยากาศอันแสนอึดอัด
[ หมอนั้นเป็นใคร ? ] – ลีฟา
ลีฟาถามเจ้าของร้าน แม้เธอจะกดเสียงของเธอให้เบาลง แต่ทว่าคำตอบที่ได้กลับมาจากคนอื่น
[ เขาคือ ฮาโรลด์ สโตร์ก ฉายา “นักฆ่าอัศวิน”(Knight Killer) นักดาบที่แข็งแกร่งที่สุดในอาณาจักรแห่งนี้ แต่ก่อนเขาเคยถูกเรียกว่า “เด็กเวร ฮาโรลด์” (Bad Boy Harold) ] – ??
[ ฮืมมม .. แล้วนายคือ ? ] – ลีฟา
[ ฉันเป็นเพียงนักเดินทางทั่วๆไป ] – ??
ด้วยผมสีเทาแล้วดวงตาสีน้ำผึ้ง ใบหน้าเหมือนหนุ่มหน้าสวย เขากำลังสวมอยู่ในชุดเอี้ยมสีเหลืองพร้อมกับหมวกพองๆดูเตะตา ดูจากลักษณะของเขาอายุคงไม่แตกต่างจากลีฟาเท่าไหร่นัก แต่ก็ยากที่จะบอกว่าคนๆนี้เป็นผู้ชายหรือผู้หญิง
[ กลับเข้าเรื่อง ฮาโรลด์ สโตร์ก มีชื่อเสียงค่อนข้างแย่ เธอไม่รู้เลยหรอ? ] – ??
[ น่าเสียดาย ที่ชื่อเสียงแย่ๆของเขามาไม่ถึงหมู่บ้านที่ฉันอาศัยอยู่ ] – ลีฟา
พูดให้ถูกคือ ลีฟาเป็นคนค่อนข้างแปลกและโดดเดี่ยวในหมู่บ้านของเธอ ดังนั้นการได้รับข่าวสารต่างๆจากการบอกเล่าจึงแทบเป็นไปไม่ได้
เธอกระหายในสิ่งที่เธอสนใจเท่านั้น เรื่องอื่นๆเธอโยนทิ้งหมด
เพราะงั้น นี่จึงเป็นครั้งแรกที่เธอได้ยินคนที่มีฉายาดูอันตรายอย่าง “นักฆ่าอัศวิน” แบบนี้ครั้งแรก
แต่สำหรับลีฟา เรื่องพรรค์นั้นไม่สำคัญ สิ่งสำคัญจริงๆคือเรื่องต่อจากนี้
[ นายบอกว่าเขาเป็นนักดาบที่เก่งที่สุดในอาณาจักรนี้สินะ เขาแข็งแกร่งใช่มั้ย ? ] – ลีฟา
[ แน่นอน ว่ากันว่าต่อให้เอาอัศวินนับสิบมาลุม เขาก็สามารถเอาชนะได้โดยไม่บาดเจ็บอะไร ความแข็งแกร่งของเขากล่าวกันว่าใกล้เคียงกับผู้นำกองอัศวินคนปัจจุบัน “วินเซนต์” เลยล่ะ ] – ??
[ อีกนัยคือ เขาเป็น 1 ในมนุษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดสินะ ] – ลีฟา
ดวงตาของลีฟาเปร่งประกายลึกลับออกมา
นั้นเพราะหากเขาเก่งจริงอย่างที่ว่า แสดงว่าเขาคงได้รับอนุญาตให้ขึ้นไปบนเขากิแรนได้
[ เห้ยๆ คุณหนู อย่าบอกนะว่า … ] – เจ้าของร้าน
เจ้าของร้านที่มองเห็นความตั้งใจจริงๆของเธอจึงได้พยายามหยุด แต่เสียงของเขากับทะลุผ่านหูของเธอไป
เธอลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว และเดินไปหาฮาโรลด์ แล้วมาหยุดอยู่ที่ด้านหน้าของเขา
ด้วยส่วนสูงเพียง 140 cm ลีฟาต้องเงยหน้าขึ้นมองฮาโรลด์ ที่สูงถึง 180 cm อย่างไรก็ตาม ลีฟาเธอก็กล่าวออกมาโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย
[ ขอเวลาซักเดี่ยวสิ? ] – ลีฟา
[ … เธอเป็นใคร ..? ] – ฮาโรลด์
[ ฉันลีฟา นายคือ ฮาโรลด์ ใช่มั้ย ? ] – ลีฟา
[ …. ] – ฮาโรลด์
ฮาโรลด์ไม่ได้ยอมรับหรือปฎิเสธ เขาทำเพียงแค่เงียบ
อย่างไรก็ตามใบหน้าของเขาดูบิดเบี้ยวราวกับอมมะนาว อาจเพราะเรื่องก่อนหน้านี้ทำให้เขาเป็นที่โด่งดัง บางทีเขาอาจไม่อยากให้คนอื่นๆรู้จักเขามากนัก
แต่ลีฟายังคงสนทนาต่อโดยเก็บความสงสัยไว้ภายในใจ
[ ฉันมีคำขอร้องที่เหมาะสมกับความสามารถของนาย แน่นอนว่าจะจ่ายให้อย่างงาม ] – ลีฟา
[ คำขอ? ] – ฮาโรลด์
[ ถูกต้อง ฉันอยากจะให้นายพาฉันขึ้นไปบนภูเขากิแรนในฐานะคนคุ้มกัน! ] -ลีฟา
◊
ด้วยผมสีวอลนัทมัดเป็นเปีย ด้วยเสื้อสำหรับผู้หญิงทั่วๆมีโบสีแดงสดผู้อยู่ พร้อมกับกระโปรงสั้นลายตารางหมากรุก และถุงเท้ายาวถึงเข่าทำให้ชุดของเธอดูสมบูรณ์แบบ และที่สำคัญที่สุด เธอกำลังสวมอยู่ในเสื้อคลุมสีขาวยาวจนถึงเข่า
เธอคือ ลีฟา กู๊ดริดจ์
ฮาโรลด์ได้พบกับตัวละครจากภายในเกมส์ซึ่งรู้จักกันในชื่อ นักประดิษฐ์อัจฉริยะ และยังรู้จักกันในชื่อ หัวหน้าหน่วยโลลิแห่งปาร์ตี้ผู้กล้า ซึ่งจู่ๆเธอมามอบเควสให้เขาไปเป็นคนคุ้มกันของเธอ
( ผมแค่จะมาหาอะไรกินเท่านั้นเอง ไหงเป็นงี้ไปได้ .. ) – ฮาโรลด์
ลีฟาไม่ได้มาจากเมืองแอสติส แต่มาจากหมู่บ้านไวส์ ฮาโรลด์เองก็ไม่แน่ใจว่าทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ แต่เขาก็ไม่จำเป็นต้องรับคำของร้องของเธอ เพราะเขาเองก็อยู่ในระหว่างการทำงานเช่นกัน
ไม่สิ ที่แปลกคือจุดหมายของเขาและเธอคืออยู่ที่ภูเขากิแรนเช่นเดียวกัน
ถึงแม้อายุของพวกเขาทั้งคู่จะแตกต่างกันเพียง 3 ปี แต่ด้วยความสูงของฮาโรลด์ที่ก้มลงมองลีฟา ด้วยความสูงที่แตกต่างของพวกเขาทั้งสองทำให้เป็นภาพที่ดูราวกับผู้ใหญ่กำลังจ้องมองเด็ก
ด้วยความมั่นใจที่ไม่เข้ากับส่วนสูงของเธอ และเธอที่มองย้อนกลับไปยังดวงตาของฮาโรลด์ พร้อมกับเส้นผม 2 เส้นคล้ายหนวดที่ตั้งขึ้นบนศีรษะของเธออย่างภาคภูมใจ
[ เด็กกะโปโลอย่างเธออยากจะขึ้นไปบนภูเขา ? อย่ามาทำให้ชั้นขำ ] -ฮาโรลด์
[ ฉันอายุ 15 ปีแล้วนะ ! ] – ลีฟา
ผมรู้เรื่องนั้นดี หากเทียบส่วนสูงกับอายุของเธอ และอะไรหลายๆอย่างที่ไม่โตขึ้นเลย จึงทำให้ดูไม่เหมือนเด็กสาวที่อายุ 15 ปีเลยซักนิด
เหมือนกับที่ถูกตั้งค่าในเกมส์ไม่ผิดเพี้ยน
[ มีจุดประสงค์อะไร บนเขานั้นไม่มีของเล่นหรือสนามเด็กเล่นซักหน่อย ] – ฮาโรลด์
[ ฉันอยากจะได้ข้อมูลร่างกายของสัตว์ประหลาดไฮดร้า ถ้าเป็นไปได้อยากได้ตัวอย่างด้วย ] – ลีฟา
จากคำพูดของลีฟา ไม่เพียงแค่ฮาโรลด์เท่านั้น แต่คนอื่นๆในร้านต่างพูดไม่ออก
ไฮดร้าคือเจ้าแห่งภูเขาหิมะกิแรน หรือพูดให้ถูกคือบอสมอนเตอร์ ซึ่งทหารรับจ้างหรืออัศวินมีสาเหตุการตายส่วนใหญ่เป็นฝีมือเจ้านี่เกือบทั้งหมด
หากเป็นในเกมส์ ถ้าเลเวลของตัวละครในปาร์ตี้มีเลเวลซัก 20 พวกเขาก็จะสามารถเอาชนะได้ แต่นั้นสำหรับในกรณีที่ต่อสู้เป็นกลุ่มอะนะ ลำหรับลีฟาที่พยายามจะไปสู้กับมันด้วยตัวคนเดียวนี่เอาชีวิตไปทิ้งชัดๆ
อันดับแรก กว่าจะไปถึงที่ที่ไฮดร้าอยู่ด้วยตัวคนเดียวนั้นก็แทบจะเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว นั้นเพราะมีโอกาสสูงที่จะต้องเจอกับมอนเตอร์จำนวนมากที่อยู่บนเขากิแรนเสียก่อน เมื่อพิจารณาของข้อนี้ การที่ขอร้องให้ฮาโรลด์มาเป็นผู้คุ้มกันถือว่าเป็นตัวเลือกที่ถูกต้องแล้วล่ะ
[ แต่ชั้นไม่ได้มีหน้าที่ที่ต้องมาฟังคำขอร้องโง่ๆจากเธอซักหน่อย ? ] – ฮาโรลด์
[ ฉันไม่บังคับนายหรอกนะ ฉันไปถามๆคนอื่นต่อก็ได้ ] – ลีฟา
[ ชั้นคิดว่ามันไม่ง่ายหรอกนะที่จะหาคนที่อยากจะไปฆ่าตัวตายด้วยกันบนเขานั้น ] – ฮาโรลด์
[ …. จะเป็นวัน เป็นเดือน เป็นปี ฉันก็จะพยายามต่อไป เพราะฉันเองก็มีเหตุผลที่จะต้องทำเช่นกัน ] – ลีฟา
เขารู้สึกได้จากความตั้งใจอันแรงกล้าของเธอ หากฮาโรลด์ปฎิเสธเธอในตอนนี้ บางที เธออาจจะถามๆขอร้องคนอื่นๆเป็นเดือนๆอย่างที่เธอบอกมาแน่ๆ
แน่นั้นแหละที่เป็นปัญหา เพราะเหตุการณ์เหล่านี้ไม่ควรที่จะเกิดขึ้นก่อนเนื้อเรื่องของเกมส์จะเริ่มต้นขึ้น
ในเนื้อเรื่องของเกมส์ หากลีฟาไม่ได้อยู่ที่หมู่บ้านไวส์ ที่ซึ่งเธอและกลุ่มของไลเนอร์ได้พบกัน มีความเสี่ยงสูงที่สมาชิกในปาร์ตี้ของผู้กล้าจะแตกต่างจากเนื้อเรื่องของเกมส์ได้ ภายในเกมส์ หากเธอเข้าร่วมปาร์ตี้ คุณจะสามารถใช้คำสั่ง “สังเคราะห์” ได้
หากเป็นเช่นนั้นจริง กลุ่มปาร์ตี้ผู้กล้าอาจไม่สามารถสร้างไอเท็มหรืออาวุธได้ กรณีที่เลวร้ายที่สุด พวกเขาจะไม่สามารถยับยั้งสิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้นในดินแดนสุเมรากิได้และไม่สามารถหยุดแผนของยูสตัสได้
ความรู้ด้านเวทมนตร์และวิทยาศตร์ของเธอมีบทบาทสำคัญมากสำหรับเรื่องนี้
หรือก็คือ หากลีฟามัวแต่ติดอยู่ที่แอสติสแบบนี้มันคงเป็นสถานการณ์ที่ไม่ดีเท่าไหร่นัก เช่นนั้น มันคงจะดีว่าถ้าเขารับงานนี้ให้จบๆแล้วรีบส่งเธอกลับโดยไว
[ …. ก็ได้ หากเธอยอมรับเงื่อนไขของชั้น ชั้นจะให้เธอยืมพลัง ] – ฮาโรลด์
[ เอ๊ะ จริงหรอ!? ยะฮู้ว-! ] – ลีฟา
ลีฟายกมือขึ้นแสดงความดีใจออกมาโดยไม่ถามถึงเงื่อนไขเลยด้วยซ้ำ ขณะที่กำลังมองเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้า ฮาโรลด์ได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่ายพลางคิดว่า ทำไมปัญหาชอบวิ่งเข้ามาหาเขาจังนะ
และก่อนที่บทสนทนานี้จะจบลงก็มีใครบางคนเข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน
[ ช่างเป็นบทสนทนาที่น่าสนใจเสียจริง ] – ??
เสียงนั้น เป็นเสียงที่คุ้นเคยเหมือนดั่งในเกมส์เช่นเดียวกับเสียงของลีฟา เสียงๆนั้นเป็นเสียงของเด็กหนุ่ม?/สาว?ที่อยู่ในชุดเอี๊ยมสีเหลืองพร้อมกับหมวกทรงแปลกๆ ภายในชุดเอี๊ยมนั้นไม่ได้มีเสื้อใดๆถูกสวมอยู่นอกเสียจากผ้าสีขาวที่ถูกพันอยู่รอบหน้าอก และบนไหล่ของเขามีกระเป๋าสะพายใบใหญ่ที่เต็มไปด้วยสิ่งของ
ไม่แน่ใจว่าเป็นเด็กผู้ชายหรือผู้หญิง แต่อายุน่าจะราวๆ 15-16ปี จะว่าหล่อก็หล่อ จะว่าสวยก็สวยนั้นแหละ เขาเป็นหนุ่มหน้าสวยที่กำลังยืนอยู่ตรงนี้พร้อมกับรอยยิ้ม
[ ถ้าเป็นไปได้ ฉันอยากให้พวกเธอพาฉันไปด้วยคน ] – ??
ก่อนที่ฮาโรลด์จะรู้สึกตัว คนๆนี้ก็มียืนอยู่ข้างๆเขา นักค้าข้อมูล กิฟเฟลต์ เขากล่าวออกมาพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า
—————————-
แปะรูป ตัวละคร ยูสทัส / ฮาโรลด์ (หล่อแล้วโว้ย)/ กิฟเฟลต์(คนใส่หมวก) /ลีฟา
ผู้แปล : เผื่อใครงงตอนนี้เป็น time skip จากตอนก่อน 5 ปี และผมลองเปลี่ยนคำเรียกตัวเองของฮาโรลด์จาก ข้า > ชั้น และจะพยายามหยาบให้น้อยลง เน้นหนักไปทางเหน็บแหนม ดูถูก ถากถางให้มากขึ้น และตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป จะเพิ่มชื่อตัวละครที่พูดไว้ด้วยตรงหลังบทสนทนากันสับสน
ปล. ตัวละครกิฟเฟลต์ยังไม่ทราบว่าเป็นเพศอะไร? แต่ดูจากรูปแล้วผู้แปลขอแทงหมดน่าตักว่าเป็นสาวดุ้น! เพราะงั้นจะใช้คำเรียกเป็น เขา/นาย นะครับ สาวดุ้นสุดยอด
ปล1. แมวผู้แปลวุ่นวายมากช่วงนี้ หากเพื่อนช่วยอยากสนับสนุนแมวเลียให้แมวผู้แปลอ้วนท้วนล่ะก็
แมวผู้แปลอิ่ม = นอนบ่อย
แมวนอนบ่อย = มีเวลาเล่นเก- เอ๊ยเวลาแปลมากขึ้น ตอนใหม่มาไวขึ้นไงล่ะ ! กราบ