ตอนที่ 47 ขอบคุณที่ชี้แนะ!

สำหรับผู้ที่ฝึกฝนเรื่องกำลังภายในนั้น จะมีอยู่สองประเภท..
ประเภทแรกคือฝึกเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกาย และประเภทนี้มักจะเน้นฝึกเพื่อความเพลิดเพลิน
ส่วนอีกประเภทนั้นฝึกเพื่อใช้ในการต่อสู้ และใช้ในการสังหาร ฉะนั้นแล้วคนประเภทนี้จะไม่ลงมือหากไม่จำเป็น แต่หากลงมือแล้วอีกฝ่ายจะต้องได้รับบาดเจ็บสาหัส หรือไม่ก็ถึงขั้นเสียชีวิต
และเป้าหมายของผู้ฝึกกำลังภายในทั้งสองประเภท ย่อมแตกต่างกันด้วยเช่นกัน..
ผู้ฝึกกำลังภายในประเภทที่สองนั้น ส่วนใหญ่จะถูกเรียกขานว่า ‘นักสู้’ นั่นเพราะคนเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เกิดมาเพื่อเป็นนักต่อสู้ และจะถูกฝึกฝนอย่างเข้มข้น เพื่อจุดประสงค์ในการต่อสู้ และสังหารเท่านั้น!
เหล่า ‘นักสู้’ นี้จะถูกฝึกให้มีความแข็งแกร่งตั้งแต่กล้ามเนื้อ กระดูก และผิวหนัง ไปจนกระทั่งฝึกการหายใจ ให้สามารถหายใจได้ทั้งภายใน และภายนอก
แต่ถึงอย่างนั้น พลังปราณของชายหนุ่มผู้นี้ ก็แตกต่างจากพลังปราณภายในร่างกายของหลินหนาน
พลังปราณภายในร่างกายของหลินหนานนั้น ท่านอาจารย์ของเขาเคยบอกเล่าให้ฟังว่าคือเทียนชี่ ซึ่งเป็นชี่โดยกำเนิด หากมิได้ตกอยู่ภายใต้กฏธรรมชาติ ย่อมสามารถแปรเปลี่ยนเป็นพลังหยินและหยาง ซึ่งจะนำพาเขาไปเป็นทุกอย่างได้ดั่งใจต้องการ
ตลอดหลายปีมานี้ หลินหนานเองก็เชื่อมาเช่นนั้นโดยตลอด เขาสัมผัสได้ถึงพลังลี้ลับของเทียนชี่นี้ได้เป็นอย่างดี และรับรู้ได้ถึงพลังที่ล้ำลึกไม่มีหมดนี้
หลังจากที่หลินหนานสัมผัสได้ถึงพลังปราณที่พวยพุ่งออกมาจากร่างของอีกฝ่าย เขาก็มั่นใจได้ในทันทีว่า ชายหนุ่มผู้นี้เป็น ‘นักสู้’ อย่างแน่นอน!
และเวลานี้ พลังปราณจากจุดตันเถียนของหลินหนาน ก็ค่อยๆพวยพุ่งขึ้นมา และแล่นผ่านตามเส้นลมปราณต่างๆทั่วร่าง
ทั่วทั้งสรรพางค์กายของเขาพลันแข็งแกร่ง กำลังภายในพลันปรากฏให้เห็น จากนั้นหลินหนานก็กำฝ่ามือของเหยาไห่ไว้แน่น
“หืมม?!!”
เหยาไห่ถึงกับร้องอุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ นั่นเพราะเวลานี้ เขาสัมผัสได้ถึงพลังที่น่ากลัว และอันตรายอย่างมากที่กำลังคืบคลานเข้ามา
เหยาไห่เร่งถ่ายเทพลังปราณไปที่แขนของตน เพื่อที่จะต้านทานพลังที่แข็งแกร่งของอีกฝ่ายไว้ แต่..
พลังของอีกฝ่ายนั้นกลับรุนแรงอย่างน่ากลัวยิ่งนัก ประหนึ่งว่าเป็นภูเขาหิมะที่กำลังถล่มทะลาย หรือคลื่นซึนามิที่รุนแรง ยากนักที่ผู้ใดจะหยุดยั้งและต้านทานไว้ได้
จากนั้น ข้อมือของเหยาไห่ก็ค่อยๆถูกกดลงอย่างช้าๆ ก่อนจะฟาดลงกับโต๊ะอย่างรุนแรงในที่สุด!
ปัง!
และทั้งหมดนี้หลินหนานใช้เวลาไปเพียงแค่หนึ่งวินาทีเท่านั้น!
กำจัดคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งภายในเวลาเพียงแค่หนึ่งวินาที.. ทุกคนในห้องต่างก็พากันนิ่งเงียบ และเวลานี้ทุกคนต่างก็นั่งอ้าปากหวอแน่นิ่ง
พี่ไห่แพ้จริงๆเหรอนี่?!!
บรรดาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เห็นหยวนไห่เป็นดั่งเทพเจ้า ถึงกับนิ่งเงียบไป และได้แต่คิดใคร่ครวญอยู่ในใจว่า
พี่ไห่แพ้ได้ยังไง?!!
ในขณะที่หลิ่วต้าตู้ถึงกับดวงตาเบิกโพลงจนลูกตาแทบถลนออกจากเบ้า มันแทบไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ตาเห็น
เด็กหนุ่มคนนี้น่ากลัวกว่าที่มันคาดคิดไว้มากนัก!
สามารถล้มไห่หยวนได้ในเวลาเพียงแค่หนึ่งวินาทีเชียวเหรอ?
“ผมแพ้แล้ว!” เหยาไห่ประกาศยอมรับความพ่ายแพ้
นับเป็นการพ่ายแพ้ที่หมดท่า และสร้างความอับอายให้กับเขาอย่างมากทีเดียว!
และเมื่อหยวนไห่ลุกขึ้นยืน ร่างของเขายังถึงกับโอนเอนจนแทบทรุดลงไปกองกับพื้น และเวลานี้แขนข้างขวาของหยวนไห่ก็ห้อยต่องแต่งอย่างผิดรูปผิดองศา
แขนของเขาหัก!
“เดี๋ยวก่อน!”
หลินหนานร้องตะโกนเรียก พร้อมกับเอื้อมมือออกไปคว้าแขนข้างที่หักของหยวนไห่ไว้ทันที
“คุณต้องการอะไรอีก?” เหยาไห่ร้องตะโกนถามด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไป
บรรดาพนักงานรักษาความปลอดภัย ต่างก็พากันคว้ากระบองที่แขวนไว้ข้างตัว ขึ้นมาถือไว้พร้อมกันในทันที และสายตาของทุกคนต่างก็จับจ้องอยู่ที่ร่างของหลินหนาน
พวกเขาทุกคนต่างก็คิดเหมือนกันว่า หากหลินหนานทำร้ายร่างกายหยวนไห่เมื่อใด พวกเขาจะรีบกรูกันเข้าไปช่วยในทันทีเช่นกัน
“อย่าเคร่งเครียดไปเลยน่า ทำใจให้ผ่อนคลาย..”
หลินหนานเอ่ยตอบด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ก่อนจะยื่นฝ่ามือของตนออกไปด้านหน้าพร้อมกับดึงกลับมา จากนั้นนิ้วมือของเขาก็เคลื่อนที่ไปตามท่อนแขนนั้นอย่างรวดเร็ว
เหยาไห่พลันรับรู้ได้ทันทีว่าความเจ็บปวดที่แขนของเขาเมื่อครู่นั้นได้มลายหายไปในพริบตา และเมื่อเขารู้ตัวอีกทีก็พบว่า แขนข้างขวาของตนนั้นได้เคลื่อนกลับมาอยู่ในสภาพปกติแล้ว และไม่หลงเหลือแม้ความเจ็บปวดเพียงเล็กน้อย
นี่นับเป็นการรักษาอาการกระดูกหักได้อย่างน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก!
“ขอบคุณมาก!”
เหยาไห่ยกมือผสานมือไว้ข้างหน้าพร้อมกับโน้มศรีษะลงเล็กน้อย ในขณะที่เอ่ยขอบคุณหลินหนาน
“ไม่เป็นไรๆ” หลินหนานเอ่ยตอบพร้อมกับโบกมือไปมา
แม้การพ่ายแพ้ครั้งนี้จะทำให้เหยาไห่สูญเสียความเคารพในตนเอง และความภาคภูมิใจในตัวเองไปมาก แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ก็เป็นการเตือนใจเขาได้อย่างดีว่า โลกภายนอกนั้นยังมีคนที่เหนือกว่าตนเองอยู่อีกมากมาย
แทบไม่ต้องมองออกไปไกล เพราะเพียงแค่เจ้านายของเขาหลิวหยิงหยิง เขายังไม่สามารถเอาชนะได้เลย
ยอดฝีมือที่แท้จริงมักถ่อมตน!
หยวนไห่นึกชื่นชมหลินหนานไม่น้อย และได้แต่คิดในใจว่าหลินหนานคงจะต้องเป็นยอดฝีมือระดับปรมาจารย์เป็นแน่!
ครืน..
จู่ๆก็มีเสียงดังขึ้น เหยาไห่หันกลับไปมองตามเสียงในทันที และพบว่าโต๊ะที่พวกเขาทั้งคู่เพิ่งใช้ทำการงัดข้อนั้นได้หักครืนลง
และไม่รู้ว่ารอยแตกเล็กๆ เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เมื่อใด เพราะเวลานี้โต๊ะไม้ได้เกิดเป็นรอยแยกคล้ายกับใยแมงมุมขึ้น ก่อนจะหักครืนลงในทันที โต๊ะไม้ที่แข็งแกร่งได้แตกออกเป็นเสี่ยงๆต่อหน้าทุกคน
ทุกคนในห้องที่ได้เห็นโต๊ะไม้ที่แข็งแกร่ง กลับกลายเป็นเพียงแค่เศษไม้เช่นนี้ ต่างก็พากันตกอกตกใจไม่น้อย
จากนั้นทุกสายตาต่างก็เปลี่ยนไปจับจ้องอยู่ที่ร่างของหลินหนานแทน แม้ทุกคนจะเชื่อว่าหลินหนานแข็งแกร่งแล้ว แต่ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะแข็งแกร่ง และมีพลังมากมายถึงขั้นทำให้โต๊ะไม้ตัวนี้หักได้!
นี่มันปรมาจารย์ที่หลุดมาจากนิยายกำลังภายในหรือยังไง?
ครั้งนี้.. ใบหน้าของเหยาไห่ปรากฏร่องรอยของความชื่นชมออกมาอย่างเห็นได้ชัด!
“ขอบคุณคุณชายที่ปราณี!” เหยาไห่ยกมือขึ้นประสานกันพร้อมกับโน้มศรีษะลง และเอ่ยขอบคุณหลินหนานอีกครั้ง
เขายอมรับความพ่ายแพ้อย่างหมดข้อกังขา!
เหยาไห่รู้ได้ทันทีว่า หากหลินหนานไม่ได้ออมมือให้กับเขาแล้วล่ะก็ ป่านนี้สิ่งที่ต้องแตกละเอียดคงจะไม่ใช่โต๊ะไม้ แต่เป็นกระดูกแขนของเขาต่างหากเล่า..
“ด้วยความยินดี!” หลินหนานพยักหน้า
จากนั้นเหยาไห่ก็หยิบบัตรสมาชิกระดับแพลตตินั่มจากมือของหญิงสาวในชุดหูกระต่ายขึ้นมา พร้อมกับประคองด้วยสองมือในระหว่างที่มอบให้กับหลินหนาน
“คุณชาย.. บัตรนี้เหมาะสมที่จะต้องเป็นของคุณชายแล้ว!”
หลินหนานเอื้อมมือออกไปรับบัตรแพลตตินั่มทันที แต่ก็ไม่ลืมที่จะเอ่ยทวงถามว่า “แต่เมื่อครู่นายบอกว่า จะให้ฉันเข้ามาใช้บริการที่นี่ฟรีได้หนึ่งครั้ง นายยังจำได้ใช่มั๊ย?”
เหยาไห่ถึงกับทำหน้าประหลาดใจ และได้แต่แอบคิดว่า ‘คุณชายหลิน ท่านมีฝีมือเก่งกาจมากมายขนาดนี้ ยังต้องเป็นห่วงเรื่องเล็กๆน้อยๆเพียงแค่นี้อีกหรือ?’
เพราะต่อให้เหยาไห่ไม่ยื่นข้อเสนอนี้ให้ หากหลินหนานเข้ามาใช้บริการที่นี่อีก ยังจะมีใครกล้าห้ามเขาอีกงั้นหรือ?
แต่แน่นอนว่าเหยาไห่ไม่ตอบกลับไปเช่นนั้นแน่ เขาปั้นยิ้มเล็กน้อยพร้อมตอบกลับไปว่า “คุณชายหลิน เรื่องนั้นอย่าได้กังวลใจไปเลย ไม่เพียงแค่ครั้งต่อไปเท่านั้น ในวันข้างหน้า หากคุณชายหลินต้องการมาใช้บริการที่นี่ ทางคลับของเราย่อมต้องมีส่วนลดมากมายให้อย่างแน่นอน!”
“จริงเหรอ?!! งั้นฉันไม่เกรงใจแน่..” หลินหนานร้องตะโกนออกมาด้วยความดีอกดีใจ
แต่เมื่อเห็นรอยยิ้มที่ฝืนๆของเหยาไห่ หลินหนานก็อดไม่ได้ที่จะบอกออกไปว่า “นี่.. คราวหลังถ้าเจอฉัน นายไม่ต้องฝืนยิ้มอีกแล้วนะ ฉันว่ามันดูน่าเกลียดกว่าตอนนายร้องไห้ซะอีก!”
“เอ่อ..”
เหย่าไห่แทบร้องไห้ออกมาจริงๆ และได้แต่แอบคิดอยู่ในใจว่า ‘คุณชาย.. กรุณาไว้หน้าผมหน่อยจะได้มั๊ย?’
‘เพื่อเป็นการแสดงความเคารพต่อคุณชาย ผมอุตส่าห์ใช้รอยยิ้มที่ไม่เคยมีมาตลอดสิบปีเลยทีเดียว ไม่รู้บ้างเลยหรือยังไง?’
เหยาไห่รีบเปลี่ยนไปถามหลินหนานเรื่องอื่น ด้วยท่าทางเคารพนบนอบ “คุณชายหลิน.. ไม่ทราบว่าหลังจากนี้คุณจะกลับเลย หรือว่าจะ..”
“เอ่อ..”
หลินหนานไม่เอ่ยตอบไปตรงๆ แต่กลับหันมองไปรอบๆห้องแทน ซึ่งดูเหมือนเหยาไห่จะเข้าใจภาษากายของหลินหนานเช่นกัน เขาจึงเป็นฝ่ายบอกกับหลินหนานไปว่า
“ขอเชิญคุณชายหลินตามผมมา!”
หลินหนานเดินเอามือไขว้หลังตามเหยาไห่ไปทันที และทั้งคู่ก็เดินขึ้นไปที่ห้องรับรองชั้นสอง ซึ่งตกแต่งไว้อย่างหรูหราอลังการ
และเพื่อเป็นการแสดงถึงความสำคัญของหลินหนาน เหยาไห่ถึงกับนำชาใบไผ่ที่ใช้น้ำฝนบนยอดเขาต้ม มารินให้กับหลินหนานด้วยตัวเอง
หลังจากที่หลินหนานจิบชาไปสองถ้วย เหยาไห่จึงกระซิบถามเสียงเบา “คุณชายหลิน ไม่ทราบว่าชานี่รสชาดเป็นอย่างไรบ้าง?”
“ฉันเองก็ไม่มีความรู้เรื่องชานักหรอกนะ! แต่ถ้าจะให้ตอบตามตรง ฉันก็ขอบอกว่ารสชาดของมันแย่มาก! ไม่เหมือนรสชาดของชาเลยแม้แต่น้อย..” หลินหนานตอบเหยาไห่ไปตามที่ตนเองรู้สึก
เหยาไห่ถึงกับนิ่งอึ้งไปกับคำพูดประโยคนี้ของหลินหนาน และความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นในห้วงมโนของเขาทันที
ยอดฝีมือท่านนี้กำลังบอกกับเขาว่า ที่ผ่านมาเขาฝึกฝนกำลังภายในเพียงแค่ผิวเผิน จึงไม่สามารถเข้าใจและดื่มด่ำกับรสชาดที่แท้จริงของการฝึกวรุยทธสินะ!
ใช่แล้ว.. ต้องใช่แน่ๆ!
ทุกวันนี้ ฉันเองก็เอาแต่วุ่นวายอยู่กับภารกิจภายในโกลเดนพาเลซ ไม่ได้ศึกษา และฝึกฝนวรยุทธอย่างจริงจังมานาน ทำให้กำลังภายในเริ่มถดถอย..
ยอดฝีมือก็ยังคงเป็นยอดฝีมือ แม้แต่จะเอ่ยปากพูดสิ่งใด ก็ยังต้องใช้คำพูดที่แฝงไว้ด้วยปริศนา!
ชาจึงเป็นเสมือนคำเตือน.. ช่างน่าอัศจรรย์เสียยิ่งนัก!
เมื่อคิดได้เช่นนี้ เหยาไห่ก็รีบลุกขึ้นยืนพร้อมกับโน้มศรีษะ และโค้งกายต่อหน้าหลินหนานด้วยความเคารพนบนอบ
“ขอบคุณที่ชี้แนะ อาไห่จะจดจำไว้ไม่ลืม!”
ชาในปากของหลินหนานแทบพุ่งออกมา และได้แต่คิดในใจว่า ‘ฉันก็แค่บอกว่าชาไร้รสชาด ฉันไปชี้แนะอะไรนายกัน?!!’
หมอนี่คงอ่านนิยายกำลังภายในมากเกินไปแล้ว!