ตอนที่ 45 วัตถุต้องห้าม

นิยามแห่งราตรี (Night’s Nomenclature )

ตอนที่ 45 – วัตถุต้องห้าม

ตอนที่ชิ่งเฉินได้ฟังหลี่ซูถงบอกเล่าถึงการสืบทอดของอัศวิน สามารถจินตานาการได้ว่าเพื่อเบิกเส้นทางทางใหม่ เหล่าชนรุ่นก่อนของอัศวินเคยถางขวากหนามไปมากมายแค่ไหน

เพาะว่าสภาพแวดล้อมของมหาสมุทรไม่ยินยอมให้พวกเขาสำเร็จด่านเป็นตายทั้งแปด ดังนั้นพวกเขาจำเป็นต้องเสาะหาทางออกด้วยตนเอง

เขาถามว่า “งั้นวิชาหายใจกับเอ็นโดรฟินมีความเกี่ยวข้องอะไรกันครับ ทำไมใช้วิชาหายใจสนับสนุนแล้วจะสามารถเปิดยีนล็อคได้ล่วงหน้า”

“เพราะวิชาหายใจสามารถทำให้เธอหลังจากสัมผัสความเจ็บปวดแล้วหลั่งสารเอ็นโดรฟินในทันที โดยตัวมันเองนี่เป็นเทคนิคควบคุมร่างกายชนิดหนึ่ง ใช้วิชาหายใจออกกำลังกาย เธอใช้เวลาสามเดือนก็สามารถเดินบนเส้นทางที่คนอื่นเดินหลายปีกว่าจะสุดทางได้สำเร็จ” หลี่ซูถงตอบ “ดังนั้นตอนที่เธอใช้วิชาหายใจสำเร็จด่านเป็นตาย เอ็นโดรฟินในร่างกายจะสูงกว่าระดับปกติมาก ๆ”

“ยังมีบทบาทอื่นไหมครับ” ชิ่งเฉินถาม

“รอให้เธอสำเร็จด่านเป็นตายด่านแรกฉันค่อยบอกบทบาทที่เหลือของมัน ตอนนี้รู้ไปก็ไม่มีความหมายอะไรเลย” หลี่ซูถงกล่าว

“ไม่สามารถฉีดเอ็นโดรฟินเข้าร่างกายตรง ๆ เหรอครับ” ชิ่งเฉินถาม เขาเชื่อว่าด้วยระดับเทคโนโลยีของโลกภายใน เกรงว่าสามารถสกัดและฉีดเอ็นโดรฟินโดยไม่มีผลกระทบแล้วสินะ

หลี่ซูถงยิ้มกล่าวว่า “นี่เป็นยุคสมัยที่แม้แต่ความรักยังสามารถใช้ไมโครชิพฟินีไทลามีนมาปลอมได้ แต่เธอต้องเข้าใจนะว่าการกระทำทุกอย่างที่อาศัยปัจจัยภายนอกล้วนไม่มีประโยชน์ต่อพวกเรา มีคนรุ่นก่อนลองไม่ใช้วิชาหายใจแล้วฉีดเอ็นโดรฟินตรง ๆ แต่หลังจากเขาผ่านด่านเป็นตายกลับไม่ได้เปิดยีนล็อคเลย”

“พวกเราสามารถทำความเข้าใจหลักการของเอ็นโดรฟิน แต่ยังคงไม่อาจเข้าใจยีนล็อค จวบจนวันนี้ ความลับยังคงศักดิ์สิทธิ์และไม่อาจแตะต้องสำหรับอัศวิน”

“พวกเราได้แต่ใช้วิธีการที่โง่เขลาที่สุด ทำตามกฎเกณฑ์แต่โบราณ ดังนั้นฉันจึงพูดว่านี่เป็นเส้นทางนั้นที่ยาวไกลที่สุดในหมู่ทางลัดทั้งหมดบนโลกมนุษย์ และเส้นทางที่นำไปสู่บัลลังก์เทพมีเพียงเส้นเดียว จึงเป็นการฝึกตนที่ยากลำบาก”

“โอเค ผมจดไว้แล้ว” ชิ่งเฉินกล่าว “งั้นหลังจากผมใช้วิชาหายใจสนับสนุนจนสำเร็จด่านเป็นตายครบแปดด่านจะเป็นยังไงครับ”

“คำถามนี้ไม่มีความหมาย” หลี่ซูถงส่ายหน้า

“มีความหมายครับ” ชิ่งเฉินมองอีกฝ่ายกล่าวว่า “เพราะว่าในมหาสมุทรของโลกภายนอก……ไม่มีสถานที่ต้องห้าม”

เขาเห็นหลี่ซูถงปรากฏสีหน้าตกตะลึงเป็นครั้งแรก แต่ก่อนอีกฝ่ายมีท่าทางกุมมุกแห่งปัญญาเอาไว้เสมอ คล้ายกับว่าไม่ใส่ใจอะไรทั้งนั้น

แต่หลังจากอีกฝ่ายได้ยินคำพูดนี้ อารมณ์สั่นกระเพื่อมอย่างเห็นได้ชัด

“จริงด้วย พวกเธอที่นั่นไม่เคยมีผู้เหนือมนุษย์ จะมีสถานที่ต้องห้ามได้ยังไง” หลี่ซูถงเอ่ยอย่างงงัน “ดังนั้น เธอสามารถผ่านด่านเป็นตายทั้งหมดได้ที่โลกอีกแห่งหนึ่ง”

“สถานที่ต้องห้ามกับวัตถุต้องห้ามสรุปว่าคืออะไรครับ” ในที่สุดชิ่งเฉินถามคำถามนี้ออกมา

เยี่ยหว่านเห็นเจ้านายกำลังครุ่นคิดเรื่องราวจึงอธิบายแทนว่า “ต้นกำเนิดของวัตถุต้องห้ามกับสถานที่ต้องห้ามล้วนมาจากตัวตนชนิดเดียวกัน : ผู้เหนือมนุษย์”

“ผู้เหนือมนุษย์?” ชิ่งเฉินถาม

“ใช่” หลินเสี่ยวเสี้ยวกล่าว “หลังจากผู้เหนือมนุษย์ตายอย่างเหนือความคาดหมาย เลือดที่พิเศษและกล้าแข็งของเขาจะไหลลงสู่พื้นดิน บำรุงสิ่งมีชีวิตในที่แห่งนั้น มด ตะขาบ แมงป่อง แมลงที่คงอยู่ใด ๆ แล้วยังจะบำรุงพืชพรรณที่งอกงามอยู่ในที่แห่งนั้น แม้กระทั่งจุลินทรีย์ ดังนั้นเหล่าสิ่งมีชีวิตในสถานที่ตายพวกนั้นจะวิวัฒนาการ สถานที่ตายก็จะกลายเป็นสถานที่ต้องห้าม”

“สาเหตุที่มหาสมุทรของโลกภายในน่ากลัว ตามที่กลุ่มการเงินคาชิมะสืบสวนข้อสงสัย เคยมีวาฬที่วิวัฒน์จนกลายเป็นสายพันธุ์เหนือธรรมชาติตัวหนึ่งป่วยตายด้วยความแก่ชรา จากนั้นเลือดเนื้อและโครงกระดูกของมันได้บำรุงทั่วทั้งมหาสมุทร”

“พวกเขาสืบสวนพบได้ยังไง” ชิ่งเฉินถาม

“คาชิมะสร้างเรือดำน้ำไร้คนขับอยากจะสำรวจมหาสมุทร ดูว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเสาะพบทวีปใหม่หรือไหม่ ก่อนที่เรือดำน้ำไร้คนขับจะถูกสิ่งมีชีวิตของท้องทะเลทำลาย พวกเขาถ่ายรูปกระดูกวาฬขนาดยักษ์ได้ที่ก้นทะเล” หลินเสี่ยวเสี้ยวอธิบาย “นี่เดิมเป็นไฟล์ลับหลายร้อยปีก่อน หลายสิบปีก่อนจึงได้ปลดความลับออกมา”

ชิ่งเฉินเอ่ยอย่างอยากรู้ว่า “กระดูกวาฬนั่นใหญ่ขนาดไหน”

“เอิ่ม” หลินเสี่ยวเสี้ยวไร้คำบรรยาย “ใหญ่เป็นพิเศษจริง ๆ?”

“พูดภาษาคน” ชิ่งเฉินหน้าดำ

“เลนส์กว้างของเรือดำน้ำไร้คนขับถ่ายห่างจากมันสามร้อยกว่าเมตร แม้แต่กระโหลกของมันยังไม่สามารถเก็บเข้าเลนส์กล้องได้ทั้งหมด” หลินเสี่ยวเสี้ยวกล่าว

ชิ่งเฉินถอนทอดใจ “ใหญ่เป็นพิเศษจริง ๆ อะ”

นับแต่บัดนั้น มนุษย์บนบกก็ไม่คิดจะขยับตัวออกทะเลอีกเลย

“งั้นวัตถุต้องห้ามเป็นอะไรอีกล่ะ” ชิ่งเฉินถาม

“วัตถุต้องห้ามก็คือการกลายรูปเป็นสิ่งอื่นของสกิลเหนือมนุษย์ขณะที่ผู้เหนือมนุษย์มีชีวิตอยู่หลังจากตายไปแล้วในระยะเวลาสิบกว่าปีถึงร้อยปี” หลินเสี่ยวเสี้ยวอธิบาย

“สามารถยกตัวอย่างมาสักหน่อยได้ไหม” ชิ่งเฉินถาม

“วัตถุต้องห้ามบางอันเป็นสกิลขณะมีชีวิตของผู้เหนือมนุษย์กลายรูปเป็นอุปกรณ์ตรง ๆ เลย อย่างเช่นในป่าใกล้ ๆ เมืองหมายเลข 16 มีรถไฟไอน้ำสีดำ 6 โบกี้หนึ่งขบวนแล่นไปตามเส้นทางในป่าเสมอ มีคนน้อยมากรู้ว่ามันมุ่งหน้าไปที่ไหน มันจะหยุดเป็นครั้งคราว หากคุณโยนเหรียญทองหนึ่งเหรียญผ่านหน้าต่างเข้าไปในโบกี้หัวขบวน มันจะพาคุณไปยังสถานที่ใด ๆ ก็ได้ ก่อนจะถึงที่หมายจะไม่หยุดลง*”

“เหรียญทอง……”

“ใช่ ในโบกี้หัวขบวนของมันเต็มไปด้วยเหรียญทอง กลุ่มแก๊งมากมายชอบใช้มันมาลักลอบขนสินค้า ถึงการจะหามันเจอไม่ได้ง่ายเลย”

“ถ้าขโมยเหรียญทองของมันล่ะ” ชิ่งเฉินถาม

“มันจะปิดโบกี้ขังคุณอยู่ข้างใน จนกระทั่งคุณตายไป ดังนั้นโบกี้ท้ายสุดเต็มไปด้วยโครงกระดูก” หลินเสี่ยวเสี้ยวกล่าวอย่างร่าเริงว่า “ดังนั้น ถ้าคุณเจอมันเข้าสักวัน ห้ามขโมยเหรียญทองเด็ดขาด”

ชิ่งเฉินพยักหน้า

“แล้วก็มีวัตถุต้องห้ามบางอันไม่ได้เกี่ยวข้องกับสกิลของผู้เหนือมนุษย์เลย ถึงขนาดที่อาจจะเป็นสิ่งมีชีวิตเร้นลับที่ครอบครองชีวิตอย่างไร้ขีดจำกัด” หลินเสี่ยวเสี้ยวกล่าวต่อ “ถ้าคุณมีวิธีรองรับมัน งั้นมันอาจจะรับใช้คุณ”

“ถ้าไม่มีวิธีรองรับมันล่ะ”

“งั้นมันจะอันตรายสุด ๆ”

เวลานี้ หลี่ซูถงคล้ายจะคิดอะไรปรุโปร่งแล้ว ลุกขึ้นกล่าวว่า “เผชิญหน้ากับวัตถุต้องห้าม พวกเราก็เหมือนกับนักล่าในป่า ในมือมีกระบี่ยาวหนึ่งเล่ม แถมรู้ด้วยว่าในป่ามีสัตว์ร้าย และตระหนักว่าสัตว์ร้ายพวกนี้ไม่เหมือนกัน พวกเราเรียนรู้ที่จะแบ่งประเภทสัตว์ร้ายพวกนี้ แล้วก็มีประสบการณ์จัดการกับสัตว์ร้าย พวกเรารู้ว่าสัตว์ร้ายตัวไหนสามารถสู้ได้ สัตว์ร้ายตัวไหนต้องหลบเลี่ยง แต่ตอนนี้สัตว์ร้ายยิ่งมายิ่งมาก ดังนั้นจำเป็นต้องมีนักล่าโดยเฉพาะมาต่อกรพวกมัน จึงเป็นกลุ่มตุลาการต้องห้ามปรากฏออกมา พวกเขาไม่เพียงเป็นศัตรูกับสัตว์ร้าย ยังเป็นศัตรูกับคนที่จะฟูมฟักสัตว์ร้ายด้วย”

“พวกเขาไม่เพียงรองรับวัตถุต้องห้าม ยังรองรับผู้เหนือมนุษย์ที่อาจจะสร้างวัตถุต้องห้ามพวกนั้นด้วย เพราะว่าพวกเขาไม่หวังให้สัตว์ร้ายเพิ่มขึ้นจนมีวันหนึ่งเพียงพอที่จะทำลายมนุษยชาติ”

ชิ่งเฉินฟังคำพูดนี้แล้วมีสีหน้าครุ่นคิด

หลี่ซูถงมองดูเขาแล้วกล่าวว่า “เริ่มตั้งแต่วันนี้ให้เยี่ยหว่านสอนทักษะต่อสู้ให้เธอ ฝึกฝนสมรรถภาพทางกายของเธอ รวมทั้งทักษะที่เกี่ยวข้องกับการท้าทายทั้งแปดอย่าง ฉันอิจฉามากที่เธอเกิดที่โลกภายนอก แต่นี่ไม่สำคัญ สิ่งสำคัญคือบางทีเธออาจจะสามารถเปลี่ยนแปลงยุคสมัย เริ่มเถอะฉันรอเห็นวันนั้นไม่ไหวแล้ว”

พูดจบ หลี่ซูถงจากไป

เรือนจำหมายเลข 18 ในยามราตรีมืดอย่างน่ำกลัว แต่ชิ่งเฉินจู่ ๆ รู้สึกว่าเทียบกับแสงแดดสว่างไสวของโลกภายนอกแล้ว ตนเองชอบที่นี่มากกว่าจริง ๆ

ถึงตัวเขาจะอยู่ในเรือนจำ แต่สัมผัสได้ถึงความหวังและอิสรภาพ

……………………………………………….

*รถไฟคันนี้ชิ่งเฉินได้ขึ้นด้วยค่ะ ซึ่งคำอธิบายที่เขียนมานี้ไม่ตรงกับความจริงอยู่บ้าง คิดว่าคุณคนเขียนอาจจะเลือน ๆ ไปว่าตัวเองเคยเขียนอะไรไว้ 555

ตอนที่ 46 – เยี่ยมญาติ

ต่อไปนี้เป็นสปอยล์

ผู้ท้าชิงตำแหน่งนางเอกคนที่หนึ่งจะมาแล้วค่ะ มีทั้งหมด 3 คน เลือกเชียร์ได้ตามใจชอบ

นางสาวเอ คู่หมั้นการเมืองในโลกภายใน เป็นผู้ท่องเวลาที่ปิดตัวตนอยู่ ตอนที่ได้พบกับชิ่งเฉินจาก 600 กว่าตอนน่าจะไม่ถึง 20 ตอน….. ชิ่งเฉินเห็นเป็นคนผ่านทางไร้ความเกี่ยวข้องล้วน ๆ แต่สาวไล่ตามหาเขาอยู่นะ ตอนนี้หาเจอแล้ว บทก็น่าจะเยอะขึ้นมั้ง???

นางสาวบี นักท่องเวลาสาวอเวคสกิลสุดแกร่ง เรียกได้ว่าเป็น sidekick ที่เข้าขากันดีกับชิ่งเฉินมาก ๆ ในสามสาวบทเยอะสุดแล้ว ชิ่งเฉินเรียกนางไปช่วยสู้ตลอด ๆ แล้วชอบพูดบอกคนอื่นให้นึกว่าเป็นแฟนชิ่งเฉินแบบหยอก ๆ ไม่รู้เอาจริงรึเปล่า เพราะสมองนางเหมือนจะเพี้ยน ๆ อยู่หลายส่วน เคมีกับชิ่งเฉินเป็นศูนย์ มีบทเกินครึ่งเรื่องแต่เคมีสู้คนที่ออกมาไม่ถึงสิบตอนไม่ได้อะ คิดดู ไม่รู้จะเชียร์ยังไงจริง ๆ

นางสาวซี สาวชาวป่าโลกภายใน เจอชิ่งเฉิน 1 ครั้งถ้วน แต่หลงรักเข้าเต็มเปา บทในตอนอื่นที่มีมานาน ๆ ครั้งไม่ได้เจอชิ่งเฉินอีกเลย….. ค่อนข้างเด็กกว่าชิ่งเฉินพอสมควร ตอนนี้พี่ชิ่งเฉินลืมน้องไปแล้วมั้ง ไม่หรอก คงไม่ลืมด้วยพลังสุดยอดความทรงจำ แต่ไม่เคยคิดถึงน้องอีกเลย

ส่วนตัวเราค่อนข้างเชียร์เบอร์หนึ่งกับสาม ตอนแรกเบอร์สามเชียร์มากกว่า แต่บทน้องไม่มีเลย ไม่รู้จะต่อเรือยังไงดี…….