ตอนที่ 38 อีกฝ่ายเป็นใคร

I’M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ

รอจนเวลาผ่านไปหลายวินาที เสียงนิ่งเรียบของร้อยโทก็ดังมาจากปลายสายของอุปกรณ์สื่อสารว่า “คำแนะนำของนายได้รับอนุมัติ! ส่วนเรื่องรางวัลสำหรับคำแนะนำของนาย รอนายกลับมาที่กองทัพแล้วจะมอบรางวัลให้” เขากล่าวจบแล้วก็ตัดสายโดยที่ไม่รอผู้คุมสอบตอบกลับมา

ถึงแม้ว่าผู้คุมสอบจะถูกตัดการเชื่อมต่ออย่างไร้ความปรานี แต่เขาไม่ได้รู้สึกไม่พอใจเลยสักนิด อารมณ์บนใบหน้าของเขาคลายความตึงเครียดลงและเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย

เขาเช็ดคราบเหงื่อที่หน้าผาก ถอนหายใจเงียบๆ รู้สึกดีใจที่ตัวเองผ่านด่านหัวหน้าจอมปีศาจมาได้แล้ว แน่นอนว่าเขาก็ภาคภูมิใจกับสายตาแหลมคมของตัวเองเช่นกัน

เดิมทีเขาคิดว่าภารกิจมาที่สถาบันศูนย์กลางลูกเสือเพื่อรับหน้าที่ทดสอบเป็นแค่การย้ายไปปฏิบัติหน้าที่และถือโอกาสรับเบี้ยเลี้ยงนิดหน่อยเท่านั้น เขาไม่คาดคิดว่าจะโชคดีพบหน่ออ่อนของทหารที่โดดเด่นแบบนี้ ทำให้เขาได้รางวัลแนะนำเพิ่มเติม ควรทราบว่ารางวัลแนะนำมีความเกี่ยวโยงกับการเลื่อนขั้นในอนาคตของเขา….

อย่างไรก็ตาม เขารู้สึกงุนงงอยู่เล็กน้อยว่า ทำไมกระทั่งหัวหน้าจอมปีศาจของเขาก็มาที่การสอบคราวนี้ด้วย…นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย

ผู้คุมสอบห้อง 072 เป็นหนึ่งในสมาชิกหมายเลข 413 ของหน่วยรบเบลดสเปเชียลของกองทัพหุ่นรบพิเศษแห่งสหพันธรัฐ พวกเขากลับมาจากสนามรบในคราวนี้ยังไม่ได้รับโอกาสหยุดพักผ่อน ก็ได้รับคำสั่งของกองทัพให้พวกเขามาที่สถาบันศูนย์กลางลูกเสือเพื่อรับหน้าที่คัดเด็กปีนี้เข้าเรียน (สองหัวข้อสุดท้าย)

เขายังจำได้ว่าตอนนั้นพวกทหารกับผู้บังคับบัญชาทั้งหมดของพวกเขาต่างงุนงง…ควรรู้ไว้ว่าพวกเขาถูกคนเรียกว่าจอมกระหายเลือดในสนามรบ แล้วทำไมวินาทีถัดมาจากนักเชือดสังหารถึงได้กลายเป็นพี่เลี้ยงกล่อมเด็กไปแล้วล่ะ

แน่นอนว่าผู้บัญชาการปีศาจของพวกเขาที่ดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าหน่วยกองทัพหุ่นรบพิเศษ ซึ่งก็คือร้อยโทที่อยู่อีกฝั่งของอุปกรณ์สื่อสารเมื่อสักครู่นี้ (นี่เป็นแค่ยศทหารที่เปิดเผยต่อภายนอกของพวกเขาอยู่แล้ว ส่วนยศทหารที่แท้จริงมีเพียงคนภายในกองทัพเท่านั้นที่จะรู้ดี) เขาก็ได้ยื่นคำคัดค้านให้กับทางกองทัพแล้ว ทว่าเขาก็ไม่ได้รับคำตอบกลับมา หัวหน้าหน่วยจึงได้แต่เตะทหารหน่วยรบพิเศษออกมาด้วยความจนใจ ทำให้พวกเขาเป็นผู้คุมสอบในครั้งนี้ เพียงแต่พวกเขาไม่นึกไม่ฝันเลยว่าแม้กระทั่งหัวหน้าหน่วยก็มาด้วยตัวเอง…

………..

ร้อยโทที่เป็นหัวหน้าหน่วยรบพิเศษวางสายอุปกรณ์สื่อสาร จากนั้นเขาก็กล่าวกับจ่าสิบเอกผู้เป็นลูกน้องที่รับหน้าที่ควบคุมดูแลว่า “หมายเลข 137 ให้นายรับผิดชอบเรื่องนี้ จัดการให้พวกเขาสี่คนเข้าห้องพิเศษ ผลการสอบจะต้องไม่มากและไม่น้อยจนเกินไป”

หมายเลข 137 ตะลึงงัน “เอ่อ?”

ร้อยโทกวาดสายตาเย็นเยียบมองไป ถึงแม้ว่าหมายเลข 137 จะไม่ได้ส่งเสียงต่อ ทว่าดวงหน้าของเขากลับมีความสงสัยอยู่บ้าง คล้ายกับอยากจะทำความเข้าใจให้ชัดเจน

ร้อยโทเช็ดนวดหัวคิ้วของตัวเองด้วยความจนใจ ทำไมทหารใต้บังคับบัญชาของเขาถึงเป็นพวกอยากรู้อยากเห็นนะ ทั้ง 413 แล้วก็ 137 ด้วย

“ไม้เด่นเกินไพรลมพัดหักโค่น[1] ผลการสอบดีเกินไปจะไม่เป็นผลดีต่อพวกเขา” ร้อยโทได้แต่อธิบายด้วยความจนปัญญา 137 คนนี้เป็นแฮ็กเกอร์ ถ้าไม่พูดให้เข้าใจละก็ เขาจะต้องไปตรวจสอบด้วยตัวเองจนก่อเรื่องใหญ่ได้ง่ายๆ

หมายเลข 137 ได้รับคำตอบแล้วก็อารมณ์ดี เขากล่าวพลางหัวเราะหึๆ ว่า “รับทราบครับ ท่าน ทุกอย่างมอบให้ผมจัดการได้เลย”

เมื่อหายข้องใจแล้วก็ยอมเรียกเขาว่าท่าน? ร้อยโทจ้องมอง 137 ที่ไม่เอาถ่านมากๆ ด้วยความไม่พอใจก่อนจะออกห่างจากข้างกายเขาแล้วเดินตรวจการทำงานของลูกน้องคนอื่นๆ ต่อ

เอาเถอะ เขาแค่หยุดอยู่คุยกับ137 พักเดียว ก็มีจ่าสิบเอกที่ทำหน้าที่ควบคุมดูแลหลายคนภายในควบคุมอ้าปากหาว ถึงขนาดที่มีหลายคนฟุบหน้าลงไปนอนแล้ว…

เฮ้ๆ! เห็นหัวหน้าหน่วยอย่างเขาเป็นร้อยโทตัวเล็กๆ หรือไง ถึงได้กล้าทำเรื่องไม่สมควรอย่างโจ่งแจ้งต่อหน้าเขา…หัวหน้าหน่วยรบพิเศษยิ้มชั่วร้าย เขาไม่อนุญาตให้ทหารของตัวเองคลายความระมัดระวังง่ายๆ แบบนี้ แม้ว่าในสถาบันศูนย์กลางลูกเสือเล็กๆ แห่งนี้จะไม่มีอันตรายใดๆ จริงๆ

“แถวตรง!” เขาตวาดด้วยความฉุนเฉียว จากนั้นก็ได้ยินเสียงร้องโอดครวญเอะอะวุ่นวายอยู่ภายในห้องควบคุม หัวหน้าจอมปีศาจสั่งสอนทหารของเขาโดยที่ไม่ยอมใจอ่อนเพราะเปลี่ยนสถานที่เด็ดขาด

……….

ส่วนทางด้านหลิงหลาน ในที่สุดเธอก็ได้รวมตัวกับหลานลั่วเฟิ่งมารดาของเธอภายใต้การนำทางของหลิงฉิน หลานลั่วเฟิ่งเอ่ยถามด้วยสีหน้าเคร่งเครียดว่า “ลูกรัก ไม่มีปัญหาใช่ไหม” ถ้าไม่ใช่เพราะเธอกังวลเรื่องการอยู่โรงเรียนประจำจะทำให้สถานะเด็กหญิงของหลิงหลานถูกเปิดโปงขึ้นมาละก็ ความจริงแล้วหลานลั่วเฟิ่งไม่สนใจเลยสักนิดว่าลูกสาวของเธอจะได้คะแนนเท่าไร เดิมทีเธอก็ไม่อยากให้หลิงหลานเป็นทหารที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว

หลิงหลานกล่าวด้วยความลำพองใจว่า “แน่นอนอยู่แล้ว ไม่ดูเลยว่าผมเป็นใคร” ความมั่นใจในตัวเองบนใบหน้าของเธอทำให้หลานลั่วเฟิ่งคลายความกังวล และยิ้มขึ้นมา

หลิงหลานย่อมแสร้งทำตัวน่ารักเพื่อให้มารดาในโลกนี้มีความสุข อย่างไรก็ตาม ความพยายามของเธอก็ได้ผลมาก หลานลั่วเฟิ่งที่เดิมทีจมอยู่ในห้วงความทุกข์ทรมานเพราะการสละชีวิตของหลิงเซียวก็ค่อยๆ จดจ่ออยู่ที่ตัวหลิงหลาน ความรู้สึกที่เรียกว่าความหวังปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง และไม่ได้หม่นหมองเหมือนในตอนแรกแล้ว

ผลคะแนนสุดท้ายจะประกาศภายในครึ่งชั่วโมงหลังจากที่การสอบทั้งหมดสิ้นสุดลง หลิงหลานไม่รู้ว่าเด็กคนอื่นๆ ยังต้องใช้เวลาอีกนานเท่าไรถึงจะสอบเสร็จ จะรออยู่ที่นี่ไปก็ไม่ใช่ทางที่ดี เพราะฉะนั้นเธอก็เลยแนะนำหลานลั่วเฟิ่งให้กลับบ้านไปรอ ถึงอย่างไรผลคะแนนสุดท้ายของการสอบก็จะประกาศในเว็บไซต์หลักของสถาบันศูนย์กลางลูกเสือ เพื่อให้ทุกคนสามารถตรวจดูได้อย่างอิสระ

หลานลั่วเฟิ่งคิดแล้วก็เห็นด้วย ดังนั้นเธอเลยพาหลิงหลานกลับบ้าน

…………

เมื่อท้องฟ้ายามค่ำคืนมาถึง นักเรียนคนสุดท้ายของสถาบันศูนย์กลางลูกเสือก็สอบเสร็จในที่สุด จ่าสิบเอกที่รับหน้าที่ดูแลเพื่อให้คะแนนทุกคนต่างก็ร่วมกันกรอกคะแนนของตนเข้าไปในระบบหลักของสถาบันศูนย์กลางลูกเสือ หลังจากนั้นก็ให้ระบบคำนวนผลคะแนนรวมเอง และเรียงลำดับรายชื่อสุดท้ายตามความสูงต่ำของคะแนนอีกครั้ง

เวลานี้หมายเลข 137 หักข้อนิ้วของตัวเองเพื่อทำให้มันคล่องแคล่วขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น ต่อไปก็เป็นช่วงเวลาที่เขาจะแสดงความสามารถแล้ว ในฐานะที่เขาเป็นแฮ็กเกอร์หนึ่งในสิบอันดับแรกของโลกเสมือนจริง เขาจะต้องทำภารกิจที่ผู้บัญชาการมอบหมายลงมาให้สำเร็จโดยไม่มีข้อบกพร่องใดๆ ให้ได้

…………

ภายในบ้านของหลิงหลาน หลานลั่วเฟิ่งนั่งอยู่ด้านหน้าหน้าจอขนาดใหญ่และกดรีเฟรชหน้าเว็บไซต์หลักของสถาบันศูนย์กลางลูกเสือซ้ำแล้วซ้ำอีก รอคอยการประกาศผลคะแนน

ส่วนหลิงหลานก็นอนอยู่บนโซฟายาวที่อยู่ด้านหลังขณะที่กำลังพูดคุยเสี่ยวซื่อ

“เสี่ยวซื่อ นายออนไลน์จากตรงนี้ได้หรือเปล่า” หลิงหลานเอ่ยถามด้วยความกังวล เธอรู้ว่าเสี่ยวซื่อสามารถรับสัญญาณอินเทอร์เน็ตไร้สายในระยะที่กำหนดเพื่อเข้าไปตรวจค้นในอินเทอร์เน็ตได้

เสี่ยวซื่อทำหน้ามั่นใจในตัวเองราวกับว่าทุกอย่างอยู่ในการควบคุม “ไม่มีปัญหา ไกลกว่านี้อีกหน่อยก็ยังได้เลย”

“เสี่ยวซื่อ ฉันให้นายเข้าไปในระบบของสถาบันศูนย์กลางลูกเสือก็เพื่อให้แน่ใจว่าฉันสามารถเข้าห้องสเปเชียลเอได้ นายอย่าเล่นลวดลายอะไรใหญ่ๆ ล่ะ” หลิงหลานเอ่ยเตือนเสี่ยวซื่ออย่างไม่ไว้วางใจ

ถึงแม้ว่าหลิงหลานจะมั่นใจในตัวเองมาก แต่เธอยังคงตัดสินใจให้เสี่ยวซื่อจับตามองผลคะแนนของเธอเพื่อรับประกันความไม่แน่นอนว่า ไม่ให้คะแนนของเธอถูกคนอื่นโกง ต้องบอกว่าหลิงหลานระมัดระวังตัวมาก

137 สามารถเจาะเข้าไปในระบบหลักของสถาบันศูนย์กลางลูกเสือได้สำเร็จ อย่างไรก็ตาม การกระทำของเขาทำให้เสี่ยวซื่อที่เฝ้าป้องกันอยู่ด้านข้างค้นพบเข้าแล้ว “เอ๋? มีคนมาจริงๆ ด้วย…รนหาที่ตายจริงๆ” เสี่ยวซื่อโมโหแล้ว ในสายตาของเขา การกระทำแบบนี้เป็นการยั่วยุชัดๆ ต้องทราบว่าเขาเป็นเทพในอินเทอร์เน็ตนะ นึกไม่ถึงเลยว่าจะมีคนมากำเริบเสิบสานต่อหน้าเขาโดยที่ไม่กลัวตายด้วย

หลิงหลานสัมผัสได้ถึงความโกรธเกรี้ยวของเสี่ยวซื่อก็รีบเอ่ยถามไปว่า “เกิดอะไรขึ้น เสี่ยวซื่อ”

เสี่ยวซื่อทำหน้ามุ่ยพลางพูดด้วยความเดือดดาลว่า “มีคนแฮ็กเข้ามาแล้ว ดูเหมือนเขาอยากจะแก้ไขคะแนนของเธอ ฉันจะจัดการเขาเดี๋ยวนี้ล่ะ…” เสี่ยวซื่อเตรียมตัวลับมีดไปเชือดหมูเชือดแพะอย่างโหดเหี้ยมแล้ว

“อย่ารีบร้อน คอยดูสถานการณ์ก่อน ดูว่าฝ่ายตรงข้ามมีเจตนาอะไรกันแน่ แล้วนายสืบหาตำแหน่งของอีกฝ่ายได้หรือเปล่า” หลิงหลานเยือกเย็นมาก ทำลายการปฏิบัติการของอีกฝ่ายไม่ใช่วิธีที่ดีในการแก้ไขปัญหา ตรงกันข้ามมันจะทำให้อีกฝ่ายตื่นตัว ไม่สู้ดูสถานการณ์ไปก่อนและคลำหาเบาะแสของฝ่ายตรงข้าม หลิงหลานชอบควบคุมเรื่องราวไว้ในมือตัวเอง แน่นอนว่าถ้าหากอีกฝ่ายมุ่งร้ายกับเธอขึ้นมาจริงๆ เธอก็ย่อมไม่ใจอ่อนแน่นอนเช่นกัน

…………………………………………

[1] ไม้เด่นเกินไพร ลมพัดหักโค่น คนที่เก่งหรือโดดเด่นกว่าผู้อื่น ก็มักจะเป็นที่อิจฉาริษยาได้ง่ายเช่นกัน