บทที่ 34 ช่วยคนจากสถานีตำรวจ

คิงดราก้อน

บทที่ 34 ช่วยคนจากสถานีตำรวจ

เจียงเซิ่งหนานเหลือบมองเซียวหยางอย่างมีโทสะครั้งหนึ่ง “ดี ในเมื่อคุณมีท่าทางแบบนี้ อย่างนั้นก็อย่าโทษฉันแล้วกัน”

ทันใดนั้น ก็กำชับนายตำรวจที่อยู่ด้านข้างว่า “ไม่มีคำสั่งของฉัน ไม่อนุญาตให้ปล่อยพวกเขาออกไป เหอะ ฉันอยากจะดูสักหน่อยว่า คุณจะยโสโอหังไปได้ถึงเมื่อไร”

นายตำรวจรีบพยักหน้ารับคำ ส่วนเจียงเซิ่งหนานนั้นก็เปิดประตูเดินส่ายก้นออกไปด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความอวดดี

จูเจียนเฉียงเอ่ยด้วยใบหน้าโศกเศร้า “คราวนี้แย่แล้ว ยังนึกว่าอีกครู่หนึ่งก็จะสามารถออกไปได้ ถ้าหากว่าผมโดดงานอย่างไร้สาเหตุ บริษัทจะต้องไล่ผมออกอย่างแน่นอน นี่เป็นงานที่ทางบ้านผมอาศัยความสัมพันธ์ตั้งหลายฝ่ายถึงจะสามารถหางานได้นะ”

เจียงเซิ่งหนานเป็นผู้บัญชาการของทีมตำรวจอาญา ถ้าเธอคิดจะกำราบคนคนหนึ่งนั้นเป็นเรื่องง่ายดายมาก ดูจากสภาพที่เธอทะเลาะกับเซียวหยางก็รู้แล้วว่า การออกไปในคราวนี้นั้นยากแล้ว

“ดูท่าทางนายเข้าสิ เป็นครั้งแรกที่ถูกจับมาสถานีตำรวจหรือ” เซียวหยางเอ่ย

“ผมเป็นพลเมืองดีนะ ไม่มีเรื่องอะไร ใครจะมาสถานที่แบบนี้กัน จะว่าไป ครั้งนี้ถูกจับเข้ามาเพราะทำในสิ่งที่ถูกต้อง เป็นการกล่าวหาอย่างผิดๆแล้วจริงๆ พี่หยาง พี่ต้องคิดหาวิธีนะ ผมไม่สามารถทำงานนี้หลุดมือไปได้”

จูเจียนเฉียงกอดขาเซียวหยางเอ่ยขอร้อง

“พักให้สบายเถอะ อีกครู่หนึ่งพวกเราก็สามารถออกไปได้แล้ว ไม่ต้องกังวล”

เซียวหยางมองท่าทางตึงเครียดของจูเจียนเฉียง เขากลับมีใบหน้าสบายๆไร้ความกังวล

ผ่านไปครู่หนึ่ง เซียวหยางที่พักผ่อนพอแล้ว ก็ยืมโทรศัพท์มาจากนายตำรวจ และต่อสายออกไป

“ฮัลโหล ผมอยู่ในห้องคุมขังของทีมตำรวจอาญาเมืองหยินโจว ผมให้เวลาคุณ 5 นาที ให้คนของพวกคุณมารับผมออกไป เท่านี้แหละ”

เซียวหยางพูดสองสามประโยคก็วางสายไป

จูเจียนเฉียงเห็นถึงตรงนี้ ก็เผยรอยยิ้มสงสัยออกมา พี่หยางโทรศัพท์หาใครกันแน่ ฟังจากน้ำเสียงแล้ว ดูเหมือนพี่ใหญ่กำลังพูดคุยกับลูกน้องอย่างไรอย่างนั้น

ในเวลาเดียวกัน หน้าประตูสถานีตำรวจ หญิงสาวคนหนึ่งลงมาจากรถ และเดินเข้ามา

เธอสวมเสื้อคลุมลูกไม้สีดำ ที่เอวมีโบว์ผูกอยู่ ครึ่งล่างสวมกระโปรงทรงดินสอ ดูดีมีความสามารถ เป็นการแต่งกายของคนงามในเมืองหลวง

ผู้ที่มาไม่ใช่คนอื่น แต่คือเย่หยุนซู

เธอได้ยินมาว่าเซียวหยางถูกตำรวจจับไป หลังจากทำความเข้าใจกับสถานการณ์แล้ว ก็มาที่สถานีตำรวจ

“สวัสดีค่ะ ฉันคือเถ้าแก่ของบริษัทที่เซียวหยางทำงานอยู่ ฉันได้ยินมาว่าเซียวหยางทำในสิ่งที่ถูกต้อง แต่กลับถูกจับมาที่สถานีตำรวจ ฉันขอให้พวกคุณปล่อยคนเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นฉันจะร้องเรียนกับฝ่ายงานที่มีส่วนเกี่ยวข้อง”

เธอไม่เพียงแต่มาด้วยตัวเอง แต่ยังพาทนายความของบริษัทหยุนซูมาด้วย แม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเซียวหยางจะอยู่ในตำแหน่งที่ค่อนข้างกระอักกระอ่วนมาโดยตลอด แต่ไม่ว่าจะเป็นเพื่อส่วนรวมหรือส่วนตัว เธอก็จำเป็นต้องมาสักครั้ง

ในเรื่องส่วนตัวนั้น เซียวหยางเป็นสามีของเย่หยุนซู แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่ในนาม แต่ถ้าหากมีข่าวลือหลุดออกไปว่าสามีของเย่หยุนซูถูกควบคุมตัวเอาไว้ จะต้องส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของเธออย่างแน่นอน

ในเรื่องของส่วนรวม เซียวหยางเป็นพนักงานบริษัทเธอ เมื่อทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้วกลับถูกคุมขังอย่างไม่มีเหตุผล เธอต้องเรียกร้องความเป็นธรรม ไม่อย่างนั้นใครจะกล้าทำงานให้บริษัทหยุนซูอีก

เจียงเซิ่งหนานนึกว่าจะเป็นใคร คิดไม่ถึงเลยว่ากระทั่งประธานบริษัทบริษัทหยุนซูก็มาด้วย

เจ้าหมอนี่มีหน้ามีตาเสียจริง กระทั่งเย่หยุนซูก็มาด้วย หรือว่าสาเหตุเป็นเพราะเซียวหยางเป็นคนขับรถของเย่หยุนซูกัน

“ประธานเย่ เรื่องทำในสิ่งที่ถูกต้องนั้นฉันไม่ทราบว่าเป็นเรื่องจริงใช่หรือไม่ แต่เรื่องการยั่วยุทะเลาะวิวาทนั้นเป็นสิ่งที่แน่นอน ฉันจำเป็นต้องสืบสวนเขาสักหน่อย เชิญคุณกลับไปเถอะค่ะ”

“ยั่วยุทะเลาะวิวาทหรือคะ”

คิ้วได้รูปของเย่หยุนซูขมวด คราวที่แล้วเธอเห็นเจียงเซิ่งหนาน ติดเครื่องหมายบอกยศของตำรวจจราจร ตอนนี้ตำแหน่งเครื่องหมายที่บอกยศบนบ่าของเธอนั้นไม่ต่ำเลย

“เจ้าหน้าที่เจียง เถ้าแก่เนี้ยของร้านอาหารร้านนั้นเป็นบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์ เมื่อครู่ก็เป็นเธอที่แจ้งให้ฉันทราบ ถ้าหากว่าคุณมีข้อสงสัย สามารถเรียกเถ้าแก่เนี้ยผู้นั้นมาสอบถามเพื่อยืนยันคำตอบกันต่อหน้าได้”

“ยังมีอีก บุคคลที่อยู่ด้านหลังฉันท่านนี้คือทนายความหลิ่วธง เป็นทนายความที่มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งของเมืองหยินโจว ตอนนี้ฉันต้องการดำเนินการตามกฎหมาย ประกันตัวพนักงานของฉัน ถ้าหากว่าคุณไม่ยินยอม เกรงว่าฉันคงต้องร้องเรียนแล้ว”

ร้องเรียนหรือ

เจียงเซิ่งหนานหัวเราะเสียงเย็น เธอยังถูกร้องเรียนไม่พออีกหรือ เจ้าหมอนั่นเย่อหยิ่งเสียขนาดนั้น กล้าใช้กุญแจมือล็อกตัวเองเอาไว้ จะให้ปล่อยเขาไปง่ายๆแบบนี้นั้น ฝันไปเถอะ!

“ประธานเย่ คุณสามารถดำเนินการตามกฎหมายได้ค่ะ แต่เมื่อครู่ตอนที่อยู่ที่สถานีตำรวจ เซียวหยางทำร้ายตำรวจอย่างเปิดเผย ตอนนี้ฉันสงสัยมากว่า เขาเป็นผู้ก่อการร้ายที่หลบซ่อนตัวอยู่ในเมืองของฉัน ไม่ถึง 48 ชั่วโมง ใครก็ไม่สามารถไปได้”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้แล้ว เย่หยุนซูก็ตกตะลึง เซียวหยางทำร้ายตำรวจจริงๆหรือไม่นั้น เธอไม่รู้ แต่ท่าทีของเจียงเซิ่งหนาน กลับแสดงออกอย่างชัดเจนแล้วว่า เรื่องนี้ไม่สามารถจบลงด้วยดีได้

คนเลวคนนี้นี่ รู้จักแต่สร้างเรื่องวุ่นวายให้กับตัวเอง น่ารังเกียจเกินไปแล้ว!

ในเวลานี้เองที่ นายตำรวจคนหนึ่งวิ่งเข้ามา เอ่ยว่า “หัวหน้าทีมเจียง มีโทรศัพท์ถึงคุณครับ”

“ไม่รับ ไม่เห็นหรือว่าฉันกำลังยุ่งอยู่ ฉันยังต้องไปสอบปากคำผู้ก่อการร้ายนะ”

นายตำรวจเอ่ยอย่างลำบากใจ “หัวหน้าทีมเจียง คุณไปรับสายสักหน่อยเถอะครับ เป็นท่านอธิบดีโทรมาด้วยตัวเองครับ”

เจียงเซิ่งหนานประหลาดใจเล็กน้อย ท่านอธิบดีจะโทรศัพท์มาด้วยตัวเองได้อย่างไรกัน ไม่มีเรื่องใหญ่อะไร ผู้ชราท่านนี้นั้นจะไม่โทรศัพท์หาตัวเอง

เมื่อคิดถึงตรงนี้แล้ว เธอก็มีประกายพาดผ่าน หรือว่าจะเป็นคดีความใหญ่โตอะไรหรือไม่

เธอรีบเดินไปรับโทรศัพท์ “สวัสดีค่ะ ท่านอธิบดี ฉันคือเจียงเซิ่งหนานค่ะ”

“หัวหน้าทีมเจียง คุณจับคนคนหนึ่งที่ชื่อว่าเซียวหยางใช่หรือไม่ ผมขอสั่งคุณ ให้ปล่อยคนเดี๋ยวนี้!”

เสียงท่านอธิบดีในโทรศัพท์ดังมาก อีกทั้งยังแฝงไปด้วยโทสะ

เจียงเซิ่งหนานชะงักค้าง แปลก นี่มันเรื่องอะไรกันแน่ ปกติท่านอธิบดีจะไม่สอดมือเข้ามายุ่งเรื่องพวกนี้ อีกทั้งยังดูเหมือนว่ามีท่าทางร้อนรนเล็กน้อยด้วย

“ท่านอธิบดีคะ เซียวหยางไม่สามารถถูกปล่อยตัวไปได้ ฉันสงสัยว่าเขา……..”

ยังไม่รอให้เจียงเซิ่งหนานเอ่ยจนจบ ท่านอธิบดีก็ตัดบทเธอเสียแล้ว

“น้องเจียง คุณต้องให้ผมพูดกี่รอบ ผมไม่สนใจว่าเขาจะทำผิดกฎหมายอะไร ตอนนี้รีบปล่อยคนเดี๋ยวนี้ นี่คือคำสั่ง!”

เอ่ยจบแล้ว ก็กระแทกหูโทรศัพท์วางสาย

ไม่โทษที่เขามีโทสะ เมื่อครู่ตอนที่เขารับโทรศัพท์ ฝั่งนั้นก็ด่าเขาอย่างรุนแรง แม้ว่าเบื้องบนจะไม่ได้บอกว่าเซียวหยางมีสถานะอะไร แต่กลับพูดอย่างกลัวว่าความลับจะรั่วไหลว่า คนคนนี้มีอิทธิพลมากในต่างประเทศ ยิ่งเป็นแขกของหน่วยงานลับระดับประเทศ ไม่สามารถล่วงเกินได้อย่างเด็ดขาด

ท่านอธิบดีแทบจะอดทนไม่ไหว วิ่งไปหาเจียงเซิ่งหนาน ด่าว่าเด็กสาวคนนี้อย่างรุนแรงสักรอบในทันที ถึงกลับไม่รู้ตัวว่า จับบุคคลผู้ยิ่งใหญ่กลับมาเสียได้ ถ้าหากว่าเรื่องนี้ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเหมาะสม ตำแหน่งอธิบดีของเขาก็คงถึงวันสิ้นสุดแล้ว

เจียงเซิ่งหนานรู้สึกหมดคำพูดขึ้นมาเล็กน้อย เธอเป็นตำรวจมาตั้งหลายปี นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นท่านอธิบดีมีโทสะรุนแรงขนาดนี้

ทำไมท่านอธิบดีต้องมีโทสะเพื่อคนขับรถตัวเล็กๆ อันธพาลคนหนึ่งด้วย ดูท่าแล้วเจ้าหมอนี่จะต้องมีความเป็นมาที่ยิ่งใหญ่แน่นอน

หลังจากนั้นสองนาที

จูเจียนเฉียงเดินวางมาดเต๊ะท่านำทางอยู่ด้านหน้า เซียวหยางมือสองข้างล้วงอยู่ในกระเป๋า เดินตามอยู่ด้านหลังด้วยสีหน้าไม่แยแส

นี่มันอะไรกัน ถูกปล่อยออกมาแล้วหรือ

คนที่ตะลึงไม่ได้มีเพียงแค่นายตำรวจสองคนนั้น แต่ยังมีเย่หยุนซูด้วย

เมื่อครู่ท่าทีของเจียงเซิ่งหนานยังคงแสดงออกอย่างแข็งกร้าวว่าไม่ยอมปล่อยตัว ทำไมพริบตาเดียวถึงได้ปล่อยเซียวหยางออกมากัน

เจียงเซิ่งหนานย่นจมูก ท่าทางเต็มไปด้วยความไม่ยินยอม คิดว่าเธอเป็นถึงสาวงามที่สวยที่สุดในสถานีตำรวจ วันนี้กลับเอาชนะคนขับรถตัวเล็กๆไม่ได้ ช่างน่าขายเสียจริง

“คนสวยเจียง พวกเราได้พบหน้ากันอีกแล้ว ดูท่าจะมีชะตาต้องกันมากนะ วันไหนว่างจะนัดออกมาทานข้าวดีไหมครับ” เซียวหยางเอ่ยด้วยใบหน้าที่ประดับรอยยิ้มน้อยๆ

ดูท่าเขาในตอนนี้ เซียวหยางยิ่งเป็นแบบนี้ ก็ยิ่งแสดงถึงการมีตัวตนอย่างเห็นได้ชัด นี่เป็นการเหยียบจมูกตัวเองชัดๆ

เจียงเซิ่งหนานจัดเซียวหยางเอาไว้ในบัญชีดำของตัวเอง ไม่ว่าจะต้องจ่ายค่าตอบแทนอะไร จะต้องตรวจสอบเบื้องหลังของเซียวหยางออกมาให้ได้

“เซียวหยาง คุณอย่าได้ใจ เส้นทางของพวกเรายังอีกยาวไกล!”

เซียวหยางมองดวงตาที่เต็มไปด้วยโทสะและความเกลียดชังของเจียงเซิ่งหนาน ก็รู้สึกว่าน่าขบขัน “ได้ อย่างนั้นพบกันในโอกาสหน้าครับ”

ตอนนี้จูเจียนเฉียงเป็นบอดี้การ์ดตัวน้อยข้างกายเซียวหยาง จ้องมองความเคลื่อนไหวรอบด้านตลอดเวลา และในเวลานั้นเอง เขาก็เหลือบเห็นเย่หยุนซู กลีบดอกเบญจมาศก็หดตัวแน่น เก็บท่าทางโอ้อวดแสนยานุภาพกลับมา

“แหะๆ พี่หยาง ผมไปก่อนนะ ผมจะรอคุณอยู่ที่บริษัทครับ”

จูเจียนเฉียงจากไปในทันที เหลือเพียงแค่เซียวหยางคนเดียว

ตอนที่เซียวหยางเพิ่งจะออกมานั้นก็เห็นเย่หยุนซูแล้ว เห็นว่าด้านหลังยังมีชายวัยกลางคน สีหน้าเข้มงวด สวมชุดสูทคนหนึ่ง นั่นก็คือที่ปรึกษาทนายความของบริษัท

เซียวหยางรู้สึกอบอุ่นในใจ ดูท่าหยุนซูยังเป็นห่วงตัวเอง รู้ว่าตัวเองถูกพาเข้ามาที่สถานีตำรวจ สิ่งแรกที่ทำก็คือหาทนายความมาประกันตัวเอง

“หยุนซู เป็นห่วงผมมากใช่หรือไม่ วางใจเถอะ ผมไม่เป็นอะไร นี่ก็ออกมาแล้วไม่ใช่หรือ”

เย่หยุนซูหน้าตึง มองท่าทางยิ้มตาหยีของเซียวหยางแล้วก็เกิดโทสะขึ้นมา

“คุณนี่มีความสามารถจริงนะ ออกไปกินข้าวก็ยังมากินถึงในสถานีตำรวจ เมื่อครู่ยังนึกว่าคุณจะมีอนาคตอยู่บ้าง แต่คุณกลับเซอร์ไพรส์ฉันเรื่องหนึ่ง”

“เซียวหยาง คุณจะระวังตัวหน่อยได้ไหม คุณคิดว่าฉันว่างมากหรือไง”